เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven - บทที่ 745 หินจันทร์มายา
จี๊! จี๊!
เจียงอี้เผยให้พวกเขาเห็นอย่างรวดเร็วว่าเขาไม่ได้โง่เง่า ราชวังจักรพรรดิส่องประกายในมือของเขาขณะที่เฟิ่งหลวนปรากฏตัวขึ้นทันทีและปล่อยรูปแบบเต๋าราตรีของนางออกมาล้อมรอบบริเวณใกล้ๆทั้งหมด ในเวลาเดียวกัน ดาบวิญญาณทั้งสามสิบหกเล่มก็ปรากฏขึ้นจากหว่างคิ้วของเจียงอี้และพุ่งออกไปราวกับใบมีดแห่งความตายทั้งสามสิบหกเล่ม แอม
ใครจะไปรู้ว่ามียอดฝีมือท้าทายสวรรค์ซ่อนตัวอยู่ใกล้ๆหรือเปล่า? เจียงอี้ไม่กล้าปล่อยเปลวเพลิงอัสนีออกมาซึ่งมันอาจเปิดเผยตัวตนของเขาได้ทันที ยิ่งไปกว่านั้น….เขาไม่ได้อยู่ในเกาะอัสนีฟ้ากระจ่างอีกต่อไป เขาจึงควรใช้เปลวเพลิงอัสนีให้น้อยที่สุดที่จะทำได้ เว้นแต่ว่าจะสำคัญจริงๆ
ปึง! ปัง! ปึง! ปัง!
กลุ่มโจรภูเขานี้เป็นกลุ่มโจรที่ขนาดเล็กที่สุดซึ่งมีขอบเขตเทียนจุนเพียงคนเดียว พวกเขาจะต้านทานดาบวิญญาณของเจียงอี้ได้อย่างไร? เมื่อแสงทั้งสามสิบหกสายพุ่งมา นอกจากผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนระดับต่ำแล้ว คนอื่นๆที่เหลือก็ตกตายกันหมดขณะที่ดวงจิตวิญญาณของพวกเขาสลายไปและตกลงไป
ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนผู้นั้นต้องการจะโจมตี แต่เขาก็รู้สึกได้ถึงแสงสีแดงที่วูบผ่านไปต่อหน้าต่อตาและฝังเขาไปในหว่างคิ้ว จากนั้นพวกมันก็เข้าไปลอยอยู่ในทะเลแห่งดวงจิตและไม่ได้โจมตีอะไร
ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนระดับต่ำผู้นั้นคุกเข่าและร้องคร่ำครวญทันที “นายท่าน ข้ายอมแล้ว!ได้โปรดอย่าสังหารข้าเลย!”
เจียงอี้ไม่ได้ต้องการทาสวิญญาณใดๆและเขาไม่จำเป็นต้องมีผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนระดับนี้ ที่เจียงอี้ไม่สังหารเขาเพราะเจียงอี้ต้องการถามบางอย่าง เขาถามด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “ที่นี่คือที่ไหน? มีเกาะใหญ่อยู่ใกล้ๆแถวนี้หรือไม่?” ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนตอบกลับอย่างรวดเร็วว่า “นายท่าน ที่นี่คือหมู่เกาะมังกรฟ้าและลงใต้ไปอีกล้านกิโลเมตรก็จะเป็นเกาะมังกรฟ้าขอรับ”
“เกาะมังกรฟ้า?”
เจียงอี้พยักหน้าเงียบๆ เฉียนว่านก้วนมีแผนที่เผ่าเทพประทานและเขาค่อนข้างรอบรู้ในเรื่องสภาพแวดล้อมใกล้ๆ เกาะมังกรขาวถือเป็นเกาะใหญ่ในหมู่เกาะนี้ ในทางทฤษฎีแล้วมันน่าจะมีสมาคมการค้าเหมือนสมาคมการค้าทิวาอรุณซึ่งเขาจะสามารถนั่งเรือลิขิตสวรรค์เพื่อมุ่งหน้าไปยังเกาะเทพประทานได้
เจียงอี้นิ่งงันไปครู่หนึ่งแล้วถามอีกว่า “มีสมาคมการค้าใหญ่ๆในเกาะมังกรฟ้าหรือเปล่า? แล้วมีเรือลิขิตสวรรค์ที่ข้าสามารถใช้เดินทางข้ามหมู่เกาะมังกรฟ้าไปได้อย่างปลอดภัยหรือเปล่า?”
“มี มีขอรับ!” ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนหยักหน้าและตอบว่า “ที่ชายทะเลทางตอนเหนือสุดของเกาะมังกรฟ้ามียอดเข้าขนาดใหญ่อยู่และมีตลาดมืดที่ถูกเรียกขานว่าปราการพิณ นายท่านสามารถขึ้นเรือลิขิตสวรรค์จากที่นั่นได้ ซึ่งมันเป็นที่มั่นของสมาคมการค้าจันทราคู่พิณ”
“อืม เอาล่ะ ตอนนี้เจ้าตายได้แล้ว!”
เจียงอี้พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาและควบคุมดาบวิญญาณของเขาพุ่งเข้าใส่ดวงจิตวิญญาณของผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนผู้นั้น คนผู้นี้อ่อนแอมากและไม่มีการตอบโต้ในการโจมตีดวงจิตวิญญาณเลย ดวงจิตวิญญาณของเขาพังทลายลงไปด้วยการโจมตีเพียงไม่กี่สิบครั้ง จากนั้นร่างของเขาก็ร่วงลงไปอย่างไร้เรี่ยวแรงและตกลงไปในทะเล
บรึฟ!
ขณะที่เมฆสีดำค่อยๆจางไป เฟิ่งหลวนและเจียงอี้ก็ลอยอยู่กลางอากาศ จากนั้นเจียงอี้ก็บินลงไปเก็บแหวนแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์โบราณทั้งหมดแล้วโยนมันให้เฟิ่งหลวนก่อนที่ทั้งคู่จะบินไปทางใต้ต่อ
พวกเขาคาดว่าเกาะมังกรฟ้าน่าจะอยู่ใกล้ๆแล้วและทั้งคู่ก็ไม่พบโจรภูเขาระหว่างทางอีกเลย หลังจากที่บินไปได้หนึ่งชั่วโมง พวกเขาก็เจอเกาะใหญ่ข้างหน้า มันใหญ่กว่าเกาะพยัคฆ์ขาวเล็กน้อยและทั้งสองก็มองเห็นยอดเขาได้แต่ไกล
บรึฟ!
ราชวังจักรพรรดิเปล่งประกายขึ้นมา เจียงอี้นำเฉียนว่านก้วนและมังกรวารีสีทองออกมาด้วย เขามองไปยังเฉียนว่านก้วนและถามว่า “ว่านก้วน เจ้ารู้จักสมาคมการค้าจันทราคู่พิณหรือเปล่า?”
“แน่นอน ข้ารู้จัก!”
เฉียนว่านก้วนพยักหน้าและกล่าวว่า “สมาคมการค้านั้นใหญ่กว่าสมาคมการค้าทิวาอรุณมาก สมาคมการค้าจันทราคู่พิณถือว่ามีชื่อเสียงในเผ่าเทพประทานมาก ลูกพี่ ทำไมจึงถามเรื่องนี้ล่ะ?”
เจียงอี้ชี้ไปทางยอดเขาด้านหน้าและพูดว่า “ยอดเขาที่อยู่ข้างหน้านั้นอาจเป็นปราการที่มั่นสมาคมการค้าจันทราคู่พิณ เราจะไปสำรวจที่นั่นกันภายหลัง”
“ดีล่ะ!”
ดวงตาของเฉียนว่านก้วนเป็นประกาย หากเป็นสมาคมการค้าจันทราคู่พิณจริงๆ มันจะปลอดภัยกว่ามากในการเดินทางไปยังเกาะเทพประทาน
ฟรึ่บ! ฟรั่บ!
ร่างสี่ร่างพุ่งผ่านท้องฟ้าไปขณะที่เจียงอี้ใช้สัมผัสศักดิ์สิทธิ์กวาดยอดเขายักษ์ด้านหน้า แต่เขาก็ไม่เห็นอะไรเลยและเห็นได้ชัดว่ามันมีเขตลวงตาที่ทรงพลังอยู่
เจียงอี้หลับตาลงและเข้าสู่สภาวะมนุษย์ประสานสวรรค์ ตามที่คาดไว้ เขาพบคลื่นห้วงมิติเล็กน้อย จากนั้นเขาก็ลืมตาขึ้นมาและตะโกนว่า “ไปกันเถอะ!”
ทั้งสามคนตามเจียงอี้และบินขึ้นไปบนยอดเขานั้น ยอดเขานี้สูงมากกว่าสามกิโลเมตรและมีด้านที่อยู่ริมทะเล เมื่อคลื่นซัดเข้าหน้าผา มันก็จะส่งเสียงคลื่นออกมา
ฟรึ่บ! ฟรั่บ! ฟรึ่บ!
เมื่อเจียงอี้และกลุ่มของเขาเข้าใกล้ยอดเขา ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนหลายสิบคนก็บินออกมาหลังจากที่มีแสงสีขาวส่องสว่าง หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนระดับกลางตะโกนว่า “หยุดนะ ที่นี่คือป้อมปราการสมาคมการค้าจันทราคู่พิณ เราไม่อนุญาตให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปข้างใน”
เจียงอี้และคนอื่นๆยืนนิ่งอยู่กลางอากาศขณะที่เฉียนว่านก้วนยิ้มและบินไปคุยกับผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนระดับกลางผู้นั้น ครู่ต่อมาเฉียนว่านก้วนก็โบกมือให้เจียงอี้และคนอื่นๆขณะที่พูดว่า “ลูกพี่ เราเข้าไปข้างในได้แล้ว”
“ไปกันเถอะ!” Aileen-novel
ขณะที่ทุกคนบินไปข้างหน้าก็มีแสงสีขาววูบผ่านพวกเขาและตามมาด้วยฉากที่เปลี่ยนไปมาก ยอดเขานั้นเต็มไปด้วยปราสาทขนาดเล็กที่เรียงกันเป็นระเบียบซึ่งล้อมรอบด้วยทิวทัศน์ที่งดงามราวกับสวนบนดาดฟ้า
“ลูกพี่ ทางนี้!”
เฉียนว่านก้วนเป็นผู้นำทางทุกคนเข้าไปในปราสาทเล็กๆ เมื่อเขาเข้าไปแล้ว เขาก็พูดอย่างตื่นเต้นว่า “ลูกพี่ สมาคมการค้าจันทราคู่พิณมีเรือลิขิตสวรรค์ที่พาเราไปยังเกาะเทพประทานได้โดยตรง แต่ราคาของมันแพงกว่าเล็กน้อยและมันจะถึงในหนึ่งวันข้างหน้า”
“ไม่ เราจะไม่ไปที่เกาะเทพประทานกัน”
เจียงอี้ส่ายหัวและกล่าวว่า “เราจะไปหมู่เกาะมังกรทมิฬก่อนแล้วค่อยอ้อมไปเกาะเทพประทาน ข้าว่าลู่หลินและคนอื่นๆจะขัดขวางเราอยู่นอกเกาะเทพประทาน หากเขานำคนไปที่นั่น สมาคมการค้าจันทราคู่พิณจะไม่ไว้หน้าเราเลย เพราะเขาเป็นถึงนายน้อยในสิบสามตระกูลใหญ่”
“ความคิดของลูกพี่ก็มีเหตุผลอยู่!”
เฉียนว่านก้วนคิดอยู่ครู่หนึ่งและตกลง “เช่นนั้นเราจะนั่งเรือลิขิตสวรรค์เดินทางไปรอบๆเผ่าเทพประทานและหาเมืองเล็กๆอยู่ประมาณปีหนึ่ง คนของลู่หลินคงไม่สามารถรออยู่นอกเกาะเทพประทานได้ตลอดหรอกใช่ไหม? นอกจากนี้ หากเราต้องเปลี่ยนเรือลิขิตสวรรค์อยู่เรื่อยๆ ลู่หลินและคนของเขาจะหาเราไม่เจอ อืม…ลูกพี่และคนอื่นๆพักผ่อนก่อนเถอะ ข้าจะไปหาข้อมูลก่อนที่จะตัดสินใจเรื่องเส้นทางการเดินทาง”
“ก็ได้!”
เจียงอี้พยักหน้า จากนั้นเขาก็ปล่อยให้เจียงเสี่ยวนู๋และชิงหยีออกมาเพื่อคลายความกังวลของพวกนาง คนอื่นพากันพักผ่อนอยู่ในห้องโถงใหญ่ก่อนที่เฉียนว่านก้วนจะกลับมาหลังจากที่ผ่านไปครึ่งวัน เมื่อเฉียนว่านก้วนกลับมาเขาก็ยิ้มและหัวเราะ “ลูกพี่ ข้าได้ของแจ่มๆบางอย่างมา”
“อะไรน่ะ?”
เจียงอี้เลิกคิ้วขณะที่ร่างของเฉียนว่านก้วนส่องแสงสีขาวขณะที่เขาเปลี่ยนร่างเป็นสาวงามที่งดงามมาก เมื่อเจียงอี้และคนอื่นๆเห็นเฉียนว่านก้วน พวกเขาต่างก็ขนลุกซู่
“ไม่….นี่เป็นเพียงแค่การเบี่ยงเบนความสนใจ!”
เจียงอี้แผ่สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเขาและสังเกตเห็นบางสิ่งที่คลุมอยู่ที่ร่างของเฉียนว่านก้วน เจ้าอ้วนเฉียนน่าจะพึ่งพาสมบัติบางอย่างเพื่อเปลี่ยนรูปลักษณ์ภายนอกของเขา บรึฟ!
ร่างของเฉียนว่านก้วนเปล่งแสงสีขาวอีกครั้งขณะที่เขากลายเป็นชายวัยกลางคน เจ้าอ้วนเฉียนยิ้มและพูดว่า “ลูกพี่ ข้าได้หินจันทร์มายามาไม่กี่ก้อน มันสามารถสร้างเขตลวงตาเล็กๆไว้รอบร่างกายได้ ตราบใดที่ฝ่ายตรงข้ามไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญที่มีดวงจิตวิญญาณที่แข็งแกร่งหรือขอบเขตเทียนจุนระดับสูง ก็จะไม่มีใครสามารถมองเห็นรูปลักษณ์ที่แท้จริงของเราได้”
“นี่มันเป็นของยอดเยี่ยมจริงๆ!”
เจียงอี้พยักหน้าเห็นด้วยเงียบๆ โลกนี้มีสิ่งอัศจรรย์มากมายจริงๆ เจียงอี้ได้หินสีดำจากเฉียนว่านก้วนมาหนึ่งก้อนและขัดเกลามันด้วยการเทแก่นแท้พลังไปรอบๆ ด้วยความคิดในจิตใจ ร่างของเจียงอี้ค่อยๆเปล่งแสงสีขาว ร่างของเขาไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ แต่เฟิ่งหลวนและคนอื่นๆเห็นว่าเจียงอี้เป็นชายชราผมหงอก
“มันแพงเล็กน้อยและข้าซื้อมาเพียงสามก้อนเอง พี่ใหญ่เฟิ่งเองก็ควรขัดเกลามันด้วย ในภายภาคหน้าเมื่อเราออกไปข้างนอก เสี่ยวนู๋, พี่สาวชิงและมังกรวารีสีทองก็เข้าไปอยู่ในราชวังจักรพรรดิกันได้”
เจียงอี้มอบหินก้อนหนึ่งให้เฟิ่งหลวนและเฉียนว่านก้วนก็เริ่มอธิบาย “ลูกพี่ ข้าตัดสินใจเรื่องเส้นทางแล้ว พรุ่งนี้เราจะนั่งเรือลิขิตสวรรค์และเปลี่ยนไปขึ้นเรืออีกลำที่เกาะผืนฟ้าซึ่งมุ่งหน้าไปยังหมู่เกาะมังกรทมิฬ มันจะพาเราตรงไปยังเมืองมังกรทมิฬในที่ที่เราสามารถใช้ค่ายกลเคลื่อนย้ายได้ เมื่อเราไปถึงเมืองทิวาทมิฬที่อยู่ทางใต้ของหมู่เกาะมังกรทมิฬแล้ว สุดท้ายเราจะไปอยู่กันที่เมืองหยกอินทนิลในหมู่เกาะมังกรอินทนิลครึ่งปี…”
“เอาล่ะ เอาล่ะ เจ้าไปเตรียมการกับเฟิ่งหลวนเลย”
เจียงอี้รู้สึกวิงเวียนจากการฟังเรื่องทั้งหมดนี้ เฉียนว่านก้วนและเฟิ่งหลวนมีความรู้เกี่ยวกับเผ่าเทพประทานมากกว่าเขา มันจะไม่มีปัญหาใดๆแน่นอนหากพวกเขาเป็นคนจัดการเรื่องนี้
“เรายังมีศิลาสวรรค์ไม่พอ ดูเหมือนว่าเราต้องหาทางล่าโจรภูเขาเมื่อไปถึงหมู่เกาะมังกรอินทนิลแล้วล่ะ”
จิตใจของเจียงอี้กำลังคิดถึงเรื่องอื่นอยู่ พวกเขามีศิลาสวรรค์ไม่พอและก่อนที่พวกเขาจะออกมา เจียงอี้ยังมอบศิลาสวรรค์ให้หยางตงและคนอื่นๆอีกร้อยล้านก้อน ในขณะที่ค่าใช้จ่ายในการเดินทางเองก็แพงมากด้วย เมื่อพวกเขาตั้งรกรากอยู่ในเมืองเล็กๆ เขาก็จะต้องหาทางหาศิลาสวรรค์ให้ได้ ไม่เช่นนั้นพวกเขาจะไม่มีวันได้เข้าไปอยู่ในเมืองเทพประทานได้
“เมืองเทพประทาน!”
เมื่อนึกถึงเมืองเทพประทานแล้ว หัวใจของเจียงอี้ก็ทั้งวิตกและตื่นเต้น เขาสงสัยว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีกหลังจากที่เขาไปยังเมืองเทพประทานแล้ว