เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven - บทที่ 767 ห้า-ห้า-ห้า
โรงประมูลนี้ใหญ่มากและแผ่ออกไปยาวสามกิโลเมตร มันถูกแบ่งเป็นสามชั้น ชั้นแรกเป็นที่นั่งธรรมดาซึ่งมีที่นั่งเจ็ดถึงแปดหมื่นที่ ส่วนชั้นที่สองเป็นศาลาขนาดเล็กและมีไม่กี่พันหลัง แต่ละศาลาสามารถนั่งได้ประมาณสิบคน ส่วนชั้นบนสุดเป็นศาลาขนาดใหญ่และมีเพียงร้อยหลังเท่านั้น ดูเหมือนว่าพวกเขาจะสงวนไว้สำหรับทั้งสิบสามตระกูลและผู้มีอิทธิพลอื่นๆ
เจียงอี้และคนอื่นๆเดินผ่านตรอกยาวและมาถึงศาลาหมายเลขห้าห้าห้าของชั้นสอง และเมื่อพวกเขาเข้าไปข้างใน เจ้าหน้าที่ก็อธิบายว่า “แขกผู้มีเกียรติ อาคมยับยั้งของศาลานี้เป็นระดับสูงและแม้แต่ขอบเขตเทียนจุนขั้นสูงสุดก็ไม่สามารถตรวจสอบข้อมูลของท่านได้ เราจะเก็บข้อมูลของท่านเป็นความลับอย่างเคร่งครัดขอรับ”
“ท่านสามารถถ่ายเทแก่นแท้พลังลงไปในลูกแก้วเพื่อตะโกนออกมาในช่วงประมูลได้ และเสียงที่ถูกส่งออกไปจะเปลี่ยนไปตามอาคมและจะไม่มีผู้ใดจำเสียงของท่านได้! แต่แน่นอนว่าหากท่านไม่ต้องการเปลี่ยนเสียง ท่านสามารถตะโกนได้ด้วยการเสริมแก่นแท้พลังก็ได้ ทุกสิ่งที่ท่านประมูลจะต้องจ่ายตามราคาศิลาสวรรค์ที่ตกลงกันได้ หากท่านไม่ชำระเงิน จะถือว่าท่านได้ทำการประมูลหลอก และไม่เพียงแต่สินค้าที่ท่านประมูลจะถูกริบแล้ว ท่านยังต้องจ่ายศิลาสวรรค์หนึ่งร้อยล้านก้อนด้วย นี่เป็นกฎของการประมูลและข้าขอให้ท่านโปรดเข้าใจด้วย”
เจียงอี้นั่งอยู่ในศาลาและเห็นว่าศาลาถูกผนึกอย่างสมบูรณ์ มีไข่มุกเรืองแสงอยู่ที่มุมผนังซึ่งมันทำให้สว่างมาก ในนั้นมีลูกแก้วอยู่ข้างในซึ่งสามารถเห็นการประมูลทั้งหมดได้อย่างชัดเจนทำให้สะดวกยิ่งขึ้น เฉียนว่านก้วนพยักหน้าและให้บริกรจัดแจงอาหารว่างก่อนที่จะเปิดใช้อาคมยับยั้ง
“ข้อจำกัดของห้องนี้ทรงพลังจริงๆ สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของข้าไม่สามารถขยายออกไปได้เลย”
เจียงอี้ใช้สัมผัสศักดิ์สิทธิ์กวาดสถานที่และพยักหน้าเบาๆ เขาปลดปล่อยญาณศักดิ์สิทธิ์ออกมาก็ยังไม่สามารถสำรวจด้านนอกได้ เขาจึงลองเข้าสู่สภาวะมนุษย์ประสานสวรรค์และคราวนี้เขาก็รับรู้ถึงสภาพแวดล้อมภายนอกได้อย่างสมบูรณ์
แต่เขาก็ไม่กล้าสำรวจไปทั่วได้อย่างประมาทเนื่องจากมีผู้มีอิทธิพลมากเกินไปในการประมูลวันนี้
ลูกแก้วนั้นลึกลับมากและมันสามารถเห็นภาพด้านนอกในโรงประมูลทั้งหมดได้ แม้แต่เสียงด้านนอกยังถูกส่งผ่านลูกแก้วมาได้อย่างชัดเจน ซึ่งทำให้ทุกคนตื่นเต้นมากเมื่อมองไปที่ลูกแก้วนั้น
“เจ๊ใหญ่กระพรวนกังวานน่าจะอยู่ศาลาชั้นบนใช่ไหมนะ? ข้าสงสัยจริงๆว่านางอยู่ศาลาไหน”
เจียงอี้ขมวดคิ้ว มันไม่สามารถตรวจสอบข้างในได้และเขามองเห็นแต่ตัวเลขด้านนอกเท่านั้น ไม่มีผู้ใดรู้ว่าศาลาตระกูลหนานกงอยู่ที่ศาลาใด และถึงแม้ว่าเจียงอี้จะรู้….แต่เขาก็ไม่กล้าตามหานางอย่างประมาทอยู่ดี
“หวงฝูเทาเทียนนั่งอยู่ด้านล่างจริงๆหรือ?”
เจียงอี้มองเข้าไปในลูกแก้วและพบว่าด้านเวทีประมูลแถวแรก ผมสีเขียวของหวงฝูเทาเทียนนั้นโดดเด่นมากและเจียงอี้ก็อดสงสัยไม่ได้ หากไม่พูดถึงสถานะของหวงฝูเทาเทียน แม้ว่าเขาจะไม่มีสถานะใดๆก็ตาม แต่เขาก็มีศิลาสวรรค์มากมายและน่าจะเช่าศาลาได้ไม่ใช่หรือ?
“ลูกพี่!”
เฉียนว่านก้วนเองก็ยังมองไปที่หวงฝูเทาเทียนและถามด้วยความสงสัยว่า “หวงฝูฉีและคนอื่นๆของตระกูลหวงฝูมีผมดำใช่ไหม? แต่ทำไมหวงฝูเทาเทียนถึงมีผมสีเขียวกันล่ะ?”
“ข้าจะไปรู้ได้อย่างไรกันล่ะ?”
เจียงอี้ส่ายหัวแล้วพูดว่า “บางทีเขาอาจจะฝึกฝนวิชาพิเศษบางอย่างหรือไม่บางทีแม่ของเขาอาจมีเชื้อเผ่าพิเศษบางอย่างก็ได้”
เมื่อพวกเขาพูดคุยกันอยู่ ผู้คนนับไม่ถ้วนก็เข้ามาในห้องโถงและที่นั่งเกือบครึ่งหนึ่งของแปดหมื่นที่นั่งก็เต็มแล้ว ด้านล่างส่งเสียงจอแจขณะที่ทุกคนกำลังตัดสินใจว่าพวกเขาจะซื้อสมบัติแบบใดบ้าง ตระกูลซือถูได้ประกาศแล้วว่าการประมูลครั้งนี้จะเป็นงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบหลายทศวรรษ หลายตระกูลที่ไม่ได้มั่งคั่งมากนักก็ยังจ่ายศิลาสวรรค์ห้าพันก้อนเพื่อเข้ามาชมการประมูลนี้ให้ได้
หนึ่งชั่วโมงต่อมา ที่นั่งด้านล่างก็เกือบเต็มแล้วและการประมูลก็ได้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ มีเสียงชายชราดังขึ้น “ทุกท่านโปรดเงียบก่อน การประมูลกำลังจะเริ่มแล้ว ช่วยเชิญแม่นางอีเนี่ยนของตระกูลเราขึ้นมาที่เวทีเพื่อเป็นเจ้าภาพการประมูลครั้งนี้ที”
“เอ่อ….”
ทุกคนตกตะลึงขณะที่ดวงตาของนายน้อยเป็นประกายขณะที่พวกเขาปรบมืออย่างสิ้นหวัง ซือถูอีเนี่ยนเป็นสตรีอันดับหนึ่งของตระกูลซือถูและนางเป็นเจ้าภาพการประมูลครั้งนี้จริงๆ? แม้ว่าพวกเขาจะไม่มีเงินซื้อสมบัติใดๆ แต่มันก็คุ้มค่าแล้วที่จะได้เชยชมสตรีอันดับหนึ่งของตระกูลซือถู
ตึก ตึก ตึก!
หญิงสาวในชุดสีแดงเดินขึ้นไปบนเวทีจากด้านหลัง นางอายุเพียงสิบหกปีแต่มีเรือนร่างอันบอบบางและสมบูรณ์แบบ นางสวมชุดสีแดงเพลิงและผมของนางถูกมัดเป็นแบบหลิงหยุน [เป็นทรงผมแบบจีนโบราณ Lingyun Style] และประดับประดาด้วยเพชรพลอย ติ่งหูของนางถูกห้อยด้วยอัญมณีสีแดงสองเม็ดขณะที่คอของนางมีสร้อยไข่มุกสีชมพู นางดูเปล่งประกายและงดงามมาก
ส่วนที่งดงามที่สุดในซือถูอีเนี่ยนคือขาเรียวๆและบั้นท้ายของนาง ตามอายุของนางแล้ว นางน่าจะยังเป็นสาวพรหมจรรย์อยู่ซึ่งบั้นท้ายของนางไม่น่าอวบอิ่มได้ถึงเพียงนี้ แต่บั้นท้ายของนางกลับดูดีเป็นพิเศษและเมื่อบั้นท้ายของนางสั่นในขณะที่นางเดินมันก็ทำให้ดวงตาของผู้ชายมากมายแทบจะถลนออกมาแล้ว
ซือถูอีเนี่ยนยังเด็กแต่นางกลับมีกลิ่นอายที่ไม่ธรรมดา เมื่อนางเดินไปที่กลางเวที นางก็นำแขนไปพาดไว้ที่ท้องแล้วคำนับ จากนั้นนางก็ยิ้มจางๆก่อนที่จะพูดว่า “ข้ามีนามว่าซือถูอีเนี่ยนและข้าโชคดีนักที่ได้เป็นเจ้าภาพการประมูลในวันนี้ ข้ารู้สึกเป็นเกียรติยิ่งนักที่ได้มาอยู่ร่วมกับผู้อาวุโสและวีรบุรุษของเผ่าเทพประทานในที่แห่งนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าจัดการประมูล และหากข้าทำผิดพลาดประการใด ข้าขออภัยทุกท่านด้วย”
ซือถูอีเนี่ยนมีเสียงที่ไพเราะมาก และเมื่อมันเสริมกับรอยยิ้มของนาง มันก็ทำให้ชายหนุ่มมากมายหลงอยู่ในภวังค์
“เอาล่ะ เราขอเริ่มเปิดการประมูลอย่างเป็นทางการ!” Aileen-novel
ซือถูอีเนี่ยนอายุเพียงสิบหกปีก็จริง แต่นางไม่มีอาการตื่นตระหนกเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้คนบนเวทีเลย และเมื่อนางโบกมือ หญิงสาวสองคนที่สวมชุดเปิดเผยก็นำง้าวจันทร์เสี้ยวขนาดยักษ์ออกมา มันเป็นสีทองเข้มและเปล่งประกายกลิ่นอายเรียบๆ ไม่มีเครื่องตกแต่งอะไรมากมายแต่มีกลิ่นอายของมันมากอยู่ มีลวดลายลึกลับอยู่บนง้าวนั้น และแม้แต่คนโง่เขลายังรู้ว่านี่เป็นสมบัติล้ำค่า
ฮู่ว ฮู่…
ผู้คนที่รอบรู้ต่างสูดหายใจเข้าลึกๆ แม้แต่เจียงอี้ที่อยู่ในศาลาก็ยังหดตาลง การประมูลครั้งนี้ยิ่งใหญ่จริงๆ และแค่รายการแรกก็เป็นสิ่งประดิษฐ์ศักดิ์สิทธิ์แฝงแล้ว?
“ข้าคิดว่าทุกท่านที่นี่คงเห็นว่าง้าวจันทร์เสี้ยวนี้วิเศษเพียงใด ใช่แล้ว มันคือสิ่งประดิษฐ์ศักดิ์สิทธิ์แฝง!”
ซือถูอีเนี่ยนยิ้มเบาๆขณะที่ดวงตาอันงดงามของนางจะกระพริบก่อนพูดว่า “ง้าวจันทร์เสี้ยวนี้เรียกว่าง้าวสยบโลกา เราจะเริ่มการประมูลที่ศิลาสวรรค์หนึ่งร้อยล้านก้อน ทุกๆการประมูลจะต้องไม่ต่ำกว่าศิลาสวรรค์ห้าสิบล้านก้อนเจ้าค่ะ”
ง้าวสยบโลกา!
สิ่งประดิษฐ์ศักดิ์สิทธิ์แฝงนั้นไม่ได้มีให้เห็นทั่วไปและมันจะเพิ่มความแข็งแกร่งในการต่อสู้โดยรวมอย่างแน่นอน ขอบเขตเทียนจุนหลายคนมีดวงตาที่ลุกโชนและราคานั้นก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่น่าแปลกที่ไม่มีคนจากชั้นสองและชั้นสามเสนอราคาเลย
“ห้าร้อยล้าน!”
“หกร้อยล้าน!”
“…”
“หนึ่งพันห้าร้อยล้าน!”
หลังจากที่ผู้อาวุโสคนหนึ่งที่ชั้นหนึ่งเรียกราคาสูงถึงหนึ่งพันห้าร้อยล้านก้อน ทุกคนที่ชั้นหนึ่งก็เงียบสนิท ศิลาสวรรค์พันห้าร้อยล้านก้อนเป็นราคาที่สูงเสียดฟ้าสำหรับผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนทั่วไป และไม่มีผู้ใดสามารถจ่ายศิลาสวรรค์จำนวนมากขนาดนั้นได้ เว้นแต่เขาจะเป็นหัวหน้าของกองโจรภูเขา
“สามพันล้าน!”
มีเสียงผู้เยาว์ดังขึ้นจากศาลาที่เจ็ดของชั้นสาม เสียงนี้ไม่ได้ถูกเปลี่ยนแปลงไปและทุกคนจำเสียงนี้ได้และเห็นได้ชัดว่ามันคือเสียงของนายน้อยตระกูลลู่ ลู่หลิน!
ซือถูอีเนี่ยนยิ้มออกมาและเหลือบมองไปยังศาลาชั้นสามและหัวเราะเบาๆ “นายน้อยหลินใจกว้างจริงๆ มีผู้ใดอยากประมูลอีกหรือไม่ หากไม่มีแล้ว ง้าวสยบโลกานี้จะเป็นของนายน้อยหลิน”
“สามพันหนึ่งร้อยล้าน!”
ในตอนนั้นเอง ก็มีเสียงเฉื่อยๆดังขึ้นมาจากศาลาชั้นสอง เห็นได้ชัดว่าเสียงนี้ถูกเปลี่ยนไปด้วยอาคมยับยั้ง และเมื่อดวงตานับไม่ถ้วนหันไปมองที่เสียงนั้นโดยสัญชาตญาณ พวกเขาก็เห็นเพียงศาลาที่ปิดสนิทและมองเห็นเลขเพียงสามตัวเท่านั้น
ห้าห้าห้า!