เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven - บทที่ 797 มาสู้กับข้า!
ฟรึ่บ! ฟรั่บ!
ผู้ชายหลายคนพุ่งออกมาจากรถม้าและยืนอย่างมั่นคง หวงฝูเทาเทียนเองก็บินออกมาจากรถม้าและยืนอยู่บนรถม้าเช่นกัน กระบี่อัสนีของเขาปรากฏขึ้นในมือและโล่ศักดิ์สิทธิ์ก็ส่องประกายไปทั่วร่าง เขาจ้องไปที่เหลยฉีเหยียนอย่างเย็นชาและมันดูเหมือนว่าเขาพร้อมที่จะสู้ตลอดเวลา
ซือถูอีเสี้ยวและซือถูอีเนี่ยนเองก็ออกมาจากรถม้าด้วย ดวงตาตื่นตระหนกปรากฏขึ้นในดวงตาของพวกเขา เหตุใดตระกูลเหลยจึงแทรกแซงแม้ว่าตระกูลซือถูจะแสดงจุดยืนอย่างชัดเจน? พวกนั้นกำลังจะทำให้สถานการณ์ย่ำแย่จริงๆหรือ? แต่พวกเขาก็ไม่กล้าพูดอะไรออกมาอย่างประมาทในสถานการณ์เช่นนี้ เพราะมันมีผลต่อความสงบสุขระหว่างสองตระกูลเป็นอย่างมาก
สิบสามตระกูลนั้นร่วมมือกันเป็นปึกแผ่นหากศัตรูเข้ามา พวกเขาจะเป็นหนึ่งเดียวกัน แต่แน่นอนว่าพวกเขาไม่ได้แน่นแฟ้นกันขนาดนั้น เพราะพวกเขามีการแข่งขันกันทั้งในที่สาธารณะและในที่ลับในทุกๆวัน ไม่เช่นนั้น อีกเก้าตระกูลที่เหลือคงไม่มีวันถูกไล่ให้ไปอยู่หมู่เกาะทั้งเก้าได้
แม้แต่สี่ตระกูลใหญ่เองก็ยังไม่ได้เป็นมิตรกันเสมอไป อย่างเช่นตระกูลเหลยและตระกูลหวงฝูที่มีความแค้นต่อกัน หวงฝูฉีและตาเฒ่าเหลยเองต่างก็เคยสู้กันเพื่อแย่งชิงผู้หญิงนางเดียวกัน หวงฝูฉีเคยเกือบถูกอีกฝ่ายสังหารในสนามประลองแล้ว ตั้งแต่นั้นมาหวงฝูฉีก็เก็บความขุ่นเคืองเอาไว้ลึกๆและไม่เคยก้าวไปยังตำหนักตระกูลเหลยอีกเลย
แต่แน่นอนว่าภายนอก ทั้งสิบสามตระกูลดูปรองดองกันมากและไม่เคยทิ้งเรื่องการไว้หน้าในที่สาธารณะเลย แต่วันนี้ เหลยฉีเหยียนกลับนำผู้คนมากมายมากับเขาและแน่นอนว่ามันถูกอนุมัติโดยตาเฒ่าเหลยเพื่อกู้ศักดิ์ศรีตระกูลเหลยคืนมา ในฐานะตระกูลอันดับหนึ่งพวกเขาจะต้องนำสมบัติล้ำค่าอย่างดาบเหล็กปฐมกาลและเกราะพระแม่ธรณีกลับคืนไปอย่างแน่นอน
เราต้องปกป้องเจียงอี้!
ซือถูอีเสี้ยวได้ยินเสียงที่ส่งมา มันเป็นเสียงของซือถูอ้าว! ซือถูอีเสี้ยวชะงักเล็กน้อยและเริ่มเปิดปากพูดว่า พี่ฉีเหยียน หากเป็นแต่ก่อน อีเสี้ยวจะไม่เข้ามายุ่งเลย แต่น้องเจียงตกลงที่จะมาเป็นผู้อาวุโสกิตติมศักดิ์ของตระกูลเราแล้ว การพาเขาไปยังตำหนักซือถูเป็นคำสั่งของพ่อข้า พี่ฉีเหยียน ท่านพูดเองนี่ว่าไม่ต้องการให้เรื่องนี้ทำลายมิตรภาพของเรา และในความจริงแล้ว นั่นก็เป็นสิ่งที่ข้าต้องการเช่นเดียวกัน
ฮ่าฮ่าฮ่า!
เมื่อเหลยฉีเหยียนพาคนมาด้วยเช่นนี้ แน่นอนว่าเขาคงไม่ปล่อยให้มันผ่านไปง่ายๆ ดวงตาที่มืดมนของเขาเป็นประกายขึ้นมาและพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นว่า วันนี้จะพูดอะไรออกมาก็ไม่มีประโยชน์หรอก ข้าจะไม่ปล่อยเรื่องนี้ไปหากเจียงอี้ไม่ส่งดาบเหล็กปฐมกาลและเกราะพระแม่ธรณีพร้อมคุกเข่าขอโทษข้า หากตระกูลซือถูของเจ้าจะปกป้องมัน เช่นนั้นเราคงต้องสู้กันแล้วล่ะ
เช้ง เช้ง!
ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนกว่าสี่ร้อยคนของตระกูลเหลยต่างก็แผ่โล่ศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาและชักอาวุธออกมา สมาชิกตระกูลเหลยพร้อมโจมตีแล้ว!
เช้ง เช้ง!
องครักษ์และผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนของตระกูลซือถูเองก็เปิดโล่ศักดิ์สิทธิ์และชักอาวุธของพวกเขาออกมาด้วย ไม่ว่าการต่อสู้จะปะทุขึ้นหรือไม่ก็ตาม พวกเขาก็ไม่อาจอ่อนแอได้ และในตอนนี้สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของผู้เชี่ยวชาญจากทุกตระกูลต่างก็จับจ้องมาที่นี่
ใบหน้าของซือถูอีเสี้ยวค่อยๆมืดมนลง เขาโบกมือไปยังซือถูอีเนี่ยนที่อยู่ข้างๆเขาและพูดว่า อีเนี่ยน เจ้ากลับไปก่อนเถอะ หากพี่ฉีเหยียนอยากจะเล่น ข้าก็จะต้องเล่นกับเขาจนถึงที่สุด
ซือถูอีเนี่ยนพยักหน้าและรีบบินกลับไปยังตำหนักซือถู ความแข็งแกร่งของนางไม่ได้สูงมากนัก หากมันเกิดการต่อสู้ขึ้น ตระกูลซือถูจะต้องคอยส่งคนมาคุ้มกันนาง
จี๊! จี๊!
ดาบอ่อนปรากฏขึ้นในมือซือถูอีเสี้ยวและเขาก็ปลดปล่อยความเย็นชาออกมา เขาร่างดาบและยิ้มให้เหลยฉีเหยียน พี่ฉีเหยียน เราขึ้นไปเล่นกันสักรอบก่อนดีไหม? หากท่านเอาชนะข้าได้ ตระกูลซือถูของเราจะถอยทันที
ฟรึ่บ! ฟรั่บ! ฟรึ่บ!
สมาชิกตระกูลเหลยทั้งหมดมีสีหน้าเปลี่ยนไป แม้ว่าเหลยฉีเหยียนจะค่อนข้างเก่งและเป็นขอบเขตเทียนจุนระดับกลางเช่นเดียวกับซือถูอีเสี้ยว แต่สมบัติที่เชื่อมดวงจิตของเขาถูกเจียงอี้ขโมยไปแล้ว หากเขาตกลงที่จะสู้ เขาจะแพ้อย่างไม่ต้องสงสัยเลย ฮึ่ม!
หวงฝูเทาเทียนที่ยืนอยู่บนรถม้าก็พูดขึ้นมาอย่างเย็นชาว่า เหลยฉีเหยียน เรามาเล่นด้วยกันด้วยไหมล่ะ? ข้าจะไม่ใช้สิ่งประดิษฐ์ที่เชื่อมดวงจิตเพื่อที่คนอื่นจะได้ไม่บอกว่าข้ารังแกเจ้า หากเจ้าเอาชนะข้าได้ ข้าก็จะหลีกทางให้เหมือนกัน
ฮ่าฮ่าฮ่า!
เสียงหัวเราะดังขึ้นมาจากในรถม้าหรูหราที่อยู่ตรงกลาง จากนั้นเจียงอี้ก็พุ่งออกมาและไปยืนข้างหวงฝูเทาเทียนและพูดด้วยรอยยิ้มว่า เหลยฉีเหยียน แล้วถ้าหากเราสู้กันล่ะ? หากเจ้าสังหารข้าได้ เจ้าไม่เพียงแต่จะได้ดาบเหล็กปฐมกาลและเกราะพระแม่ธรณีคืน แต่ยังได้สมบัติทั้งหมดที่ข้ามีด้วย ว่ายังไงล่ะ?
เพี๊ยะ! เพี๊ยะ! เพี๊ยะ!
มันเหมือนเป็นเสียงตบหน้าที่มองไม่เห็นดังก้องอยู่กลางอากาศ ซือถูอีเสี้ยว, หวงฝูเทาเทียนและเจียงอี้ตบหน้าเหลยฉีเหยียนต่อหน้าคนทั้งเมือง พวกเขาตบเหลยฉีเหยียนดังมากแต่เหลยฉีเหยียนก็ไม่กล้าพูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว
หากไม่มีดาบเหล็กปฐมกาลและเกราะพระแม่ธรณีแล้ว เขาก็เป็นเพียงขอบเขตเทียนจุนธรรมดาเท่านั้น ซือถูอีเสี้ยวมีสมบัติเชื่อมดวงจิตสองชิ้น ส่วนหวงฝูเทาเทียนก็สามารถสังหารเขาได้ด้วยกระบวนท่าเดียว ส่วนเจียงอี้….หากเขาไม่ได้เห็นการต่อสู้ระหว่างเจียงอี้กับลู่หลิน บางทีเขาก็อาจจะสู้กับเจียงอี้อย่างไม่ลังเล แต่ขนาดลู่หลินสวมเกราะพระแม่ธรณีของเขา ลู่หลินก็ยังถูกสังหารอยู่ดี แล้วจะให้เขาเสี่ยงออกมาสู้ได้อย่างไร? ไอรีนโนเวล
ฮึ่ม!
เหลยฉีเหยียนพ่นลมออกมาอย่างเย็นชาและพูดว่า เจียงอี้ เจ้ากล้าหาญนัก แล้วถ้าคืนดาบเหล็กปฐมกาลกับเกราะพระแม่ธรณีมาให้ข้าล่ะ? แล้วจากนั้นเราค่อยไปประลองกัน
เจ้าแน่ใจ?
เจียงอี้พูดออกมาอย่างภาคภูมิและไร้ความกลัวว่า หากประมุขตระกูลเจ้าสัญญากับข้าว่าตระกูลพวกเจ้าจะไม่มาหาเรื่องข้าหลังจบการต่อสู้ในวันนี้และจะไม่มีผู้ใดเข้ามาแทรกแซง ไม่ว่าผู้ใดจะอยู่หรือตาย เช่นนั้น ข้าก็ให้เจ้ายืมดาบเหล็กปฐมกาลและเกราะพระแม่ธรณีได้ เพราะสมบัติสองชิ้นนี้ไม่ใช่ของเจ้า เจ้าต้องเข้าใจมันให้ชัดเจนนะ พวกมันเป็นสมบัติที่ข้าริบมาจากการต่อสู้กับลู่หลิน เจ้าเคยกล่าวต่อหน้านายน้อยและคุณหนูทั้งสิบสามตระกูลนี่ว่าเจ้าขายดาบเหล็กปฐมกาลและเกราะพระแม่ธรณีให้กับลู่หลิน หรือว่าคำพูดเจ้ามันไม่มีความหมายอะไร?
ฮือฮา!
เจียงอี้เทแก่นแท้พลังเข้าไปในคำพูดของเขา ดังนั้นมันจึงทำให้ผู้คนมากมายในเมืองได้ยิน เขาไม่เหลือทางเลือกให้เหลยฉีเหยียนและบังคับให้เขาต้องประลอง
เจียงอี้มีโอกาสครึ่งต่อครึ่งที่จะรอดในการประลอง เพราะหากมีการต่อสู้ระหว่างตระกลูลซือถูและตระกูลเหลยเกิดขึ้น มันแน่ชัดมากว่าเขาจะต้องตาย ด้วยผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนขั้นสูงสุดมากมายถึงเพียงนี้ มันง่ายมากที่จะสังหารเขา เว้นแต่ว่าปรมาจารย์ที่แท้จริงของตระกูลซือถูจะออกมาปกป้องเขา แต่ว่า….มันจะเป็นไปได้หรือ?
….
เหลยฉีเหยียนนิ่งเงียบไป แต่ดวงตาของเขายังคงกระพริบและใบหน้านั้นมืดมนลง วิธีที่เจียงอี้พูดกล่าวออกมานั้นผลักเขาไปสู่ทางตัน หากเขาปฏิเสธการท้าทาย แล้วในภายภาคหน้า เขาจะอยู่ในเมืองอย่างมีศักดิ์ศรีได้อย่างไร? นายน้อยอันดับหนึ่งของตระกูลเหลยหวาดกลัวคนนอกที่อายุเพียงยี่สิบปีเนี่ยนะ?!
ก็ได้!
ในเวลานั้นเอง มีเสียงตะโกนดังขึ้นมา เสียงนั้นฟังดูน่าเกรงขามและน่ากลัวก้องกังวานไปทั่วเมืองราวกับสายฟ้าฟาดลงมาจากสวรรค์เก้าชั้นฟ้า เจียงอี้ เจ้ากล้านัก! ข้าเลื่อมใสชายหนุ่มที่มีความกล้าในการปลิดชีวิตเช่นเจ้า หนุ่มน้อย ข้าให้คำมั่นสัญญาต่อหน้าผู้คนทั้งเมืองว่าหลังจากการต่อสู้กับฉีเหยียนในวันนี้ ตระกูลเหลยจะปล่อยให้อดีตผ่านพ้นไปและจะเป็นสหายกับเจ้าในอนาคต!
เหลยถิงเวย!
ทุกคนตัวสั่นเทา เหลยถิงเวยยอมรับการต่อสู้แทนเหลยฉีเหยียนหรือ? ไม่มีผู้ใดรู้ว่าเขามั่นใจในบุตรของตนเองจริงๆหรือต้องการกู้ศักดิ์ศรีให้ตระกูลเหลยคืน
ก็ได้!
เหลยฉีเหยียนเองก็พร้อมที่จะเสี่ยงทุกอย่างเช่นกัน เขาตะโกนว่า ทุกคน ปล่อยเราไว้ ข้าจะประลองกับเจียงอี้ในวันนี้
น้องเจียง!
ซือถูอีเสี้ยวหันไปหาเจียงอี้และส่งข้อความเสียงอย่างเคร่งขรึม ความแข็งแกร่งของเหลยฉีเหยียนค่อนข้างดี เขาเป็นขอบเขตเทียนจุนระดับกลางและมียาโลหิตเก้าโคจร ท่านแน่ใจหรือไม่ว่าจะชนะ? หากท่านสู้เขาไม่ได้….แค่ใช้วิชาหลีกสวรรค์หนีไปนะ
จากนั้นหวงฝูเทาเทียนก็ส่งข้อความมาว่า หากสถานการณ์ไม่เอื้ออำนวย เจ้าใช้วิชาหลีกสวรรค์หนีไปซะและออกจากเกาะเทพประทานไปเลย ข้าจะออกไปพบเจ้าในภายหลัง
เจียงอี้รู้สึกประทับใจมาก ตระกูลซือถูขุ่นเคืองกับตระกูลเหลยอย่างสมบูรณ์ในวันนี้และต้องจ่ายอย่างหนัก แต่ซือถูอีเสี้ยวก็ยังคงเตือนเขาให้หนีไปด้วยวิชาหลีกสวรรค์ มันไม่ใช่เพียงการผูกมัดเขาไว้เท่านั้น แต่ซือถูอีเสี้ยวดูแลเขาอย่างสหายแท้ ส่วนหวงฝูเทาเทียนนั้นไม่เพียงแต่บอกให้เขาหนีไปแต่ยังจะตามเขาต่อไปด้วย
ฮ่าฮ่าฮ่า!
เจียงอี้ปล่อยเสียงหัวเราะออกมาและรู้สึกว่าเลือดพุ่งพล่านไปทั่วร่าง มันเต็มไปด้วยจิตวิญญาณที่กล้าหาญและความกระตือรือร้น ความปรารถนาที่จะสู้นั้นขึ้นไปสู่จุดสูงสุด และดาบมังกรเพลิงก็ปรากฏขึ้นในมือของเขา เจียงอี้กระทืบรถม้าและพุ่งขึ้นไปบนฟ้าพร้อมกับตะโกนว่า เหลยฉีเหยียน ขึ้นมาสู้กับข้าสิ เสียเฟยและเจี้ยนอู๋อิงยังสังหารข้าไม่ได้ เจ้าเองก็ไม่ต่างกัน!
…