เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven - บทที่ 799 เรื่องที่เหนือความคาดหมาย
- Home
- เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven
- บทที่ 799 เรื่องที่เหนือความคาดหมาย
อ๊าก อ๊ากก!
เหลยฉีเหยียนทุกข์ทรมานอย่างมากเพราะเสียงที่น่าสะอิดสะเอียนนั้น สิ่งที่ทำให้เขาหดหู่นั่นเป็นเพราะมันไม่มีการโจมตีดวงจิตใดๆ เพราะเขามีผนึกอัสนีระดับสูงสุดอยู่ที่หว่างคิ้วของเขา แต่มันจะป้องกันดวงจิตของเขาได้อย่างไรหากว่าไม่มีพลังงานเข้าสู่ทะเลแห่งดวงจิตของเขา?
เหอ?
ทันใดนั้นเอง เขาก็สัมผัสได้ถึงอันตรายร้ายแรง ดวงจิตของเขาตกตะลึงและจิตใจของเขาก็สว่างขึ้นเมื่อกำลังอยู่ในช่วงความเป็นความตาย เขาเหลือบมองไปรอบๆและเหล่ไปทางลำแสงสีแดงที่เปล่งออกมาจากมังกรเพลิงเล็กๆนับหมื่น เขารู้สึกถึงความเย็นเยียบราวกับว่าเขาเปียกโชกไปด้วยน้ำเย็น
ผนึกอัสนี! เขารู้เป็นอย่างดีว่าลู่หลินถูกลำแสงสีแดงมากมายสังหาร และแน่นอนว่าเขาไม่กล้าทำอะไรอย่างประมาท ผนึกอัสนีของเขาส่องสว่างขึ้นมาและเริ่มหมุนเวียนรอบหัวของเขาและบังคับให้ตัวเองลืมเสียงอันน่าสะพรึงนั้นไปก่อน ในตอนนี้ หัวเขามีเพียงความคิดเดียวเท่านั้นคือต้องป้องกันแสงสีแดงเหล่านั้น ไม่เช่นนั้นสิ่งที่เกิดกับลู่หลินจะต้องเกิดขึ้นกับเขาด้วยเช่นกัน
ฮึ่ม!
เจียงอี้พ่นลมออกมาอย่างเย็นชาและแกว่งดาบมังกรเพลิงให้รุนแรงยิ่งขึ้น เสียงแหลมๆดังก้องไปทั่ว และนายน้อยและคุณหนูจำนวนมากก็ไม่สามารถทนฟังได้อีกต่อไปและพากันจับหัวของพวกเขาเองและหนีกลับไป
ผู้เชี่ยวชาญการต่อสู้หลายคนตกตะลึงมาก ชื่อเสียงอันโด่งดังของเจียงอี้นั้นเป็นเรื่องจริง เจียงอี้สามารถเอาชนะนายน้อยและคุณหนูเก้าตระกูลจักรพรรดิได้ในราชวังลี้ลับและทำให้การไล่ล่าของเสียเฟยและเจี้ยนอู๋อิงไร้ค่า เขาไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแท้จริง พลังของเขาสะท้อนออกมาจากเปลวเพลิงนี่และวิชาเสียงสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์แล้ว
อ๊ากก!
เหลยฉีเหยียนกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด แต่เขาก็ยังพยายามควบคุมผนึกอัสนีอย่างเต็มที่เพื่อคอยป้องกันการโจมตีจากดาบวิญญาณอยู่ที่หัวอย่างบ้าคลั่ง ในเวลาเดียวกัน เขาก็ปล่อยดาบเหล็กปฐมกาลอีกครั้ง ภูเขานั้นใหญ่กว่าลูกก่อนหน้าผนึกรวมกันอย่างรวดเร็วและมันสามารถปะทะเจียงอี้ให้ตายได้ เพราะตอนนี้เจียงอี้ไม่มีโล่ศักดิ์สิทธิ์เปลวเพลิงอัสนีคลุมร่างเอาไว้แล้ว
ตายซะ!
เจียงอี้ตะโกนออกมาและควบคุมดาบวิญญาณที่เหลืออีกสี่สิบเล่มพุ่งไปหาเหลยฉีเหยียนอย่างรุนแรง ผนึกอัสนีนั้นเคลื่อนตัวเร็วมากและทำลายดาบวิญญาณกว่าสิบเล่มไปในทันที แต่มันยังมีดาบวิญญาณกว่ายี่สิบเล่มที่เข้าไปในทะเลแห่งดวงจิตของเหลยฉีเหยียนได้
อ๊ากก ไม่นะ!
ร่างของเหลยฉีเหยียนสั่นสะท้านก่อนที่เขาจะรู้สึกเจ็บปวดที่ดวงจิตวิญญาณ มันทำให้เขาตะโกนออกมาด้วยความหวาดกลัว ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง เขาลืมแม้กระทั่งการควมคุมผนึกอัสนีให้เข้าไปทำลายดาบวิญญาณแล้ว ขณะที่เขาเองก็รู้ดีว่าถึงแม้เขาจะสร้างความเสียหายให้ดาบวิญญาณได้ แต่ดวงจิตของเขาก็ยังคงพังทลายอยู่ดี
จี๊! จี๊!
ภูเขารูปแบบเต๋าธรณีที่ก่อตัวขึ้นมาก็พังทลายลงไปเช่นกัน และเมื่อดวงจิตของเขาถูกโจมตี เขาจะปลดปล่อยรูปแบบเต๋าได้อย่างไร?
เจียงอี้ โปรดไว้ชีวิตลูกชายข้า คำสัญญาของข้ายังคงเป็นเรื่องจริง และความคับข้องใจในอดีตของเราหมดสิ้นลงแล้ว เมื่อเจียงอี้กำลังจะจบชีวิตเหลยฉีเหยียน เขาก็ได้ยินเสียงที่ส่งมาอย่างเลือนลาง หลังจากนั้นเจียงอี้ก็พบกลิ่นอายที่คลุมเครือมาจากทุ่งป่าที่อยู่ด้านล่างเขา ดูเหมือนว่าเหลยถิงเวยจะซ่อนตัวอยู่ที่นั่นด้วยวิชาเวทย์บางอย่าง
เขาหันกลับไปและหยุดดาบวิญญาณเอาไว้และแผ่สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ออกมา จากนั้นเขาก็พบร่างนั้นและส่งเสียงกลับไปว่า ประมุขเหลย ท่านเพิ่งสัญญาว่าจะไม่เข้ามาแทรกแซง? แต่ตอนนี้ท่านผิดคำพูดแล้วข้าจะเชื่อท่านได้อย่างไรว่าภายภาคหน้า ท่านจะไม่ผิดคำพูดอีก?
ฮึ่ม!
ไม่นานนักเจียงอี้ก็ได้ยินเสียงเหลยถิงเวย เจ้าหนู อย่าผลักไสโชคของเจ้าไปในขณะที่เจ้ายังมีทางเลือก เจ้าเชื่อหรือไม่ว่าข้าจะฟาดฝ่ามือใส่เจ้าให้ตายได้ คำพูดของข้ามีน้ำหนักมากและหากข้าบอกว่าจะปล่อยเรื่องนี้ไป มันแปลว่าข้าจะปล่อยมันไปจริงๆ! ฮ่าฮ่าฮ่า!
เจียงอี้หัวเราะด้วยความโกรธสุดขีดและส่งเสียงกลับไปด้วยความโกรธ เช่นนั้นก็ฟาดฝ่ามือใส่ข้าซะ แม้ว่าข้าจะต้องเป็นเช่นนั้น ข้าก็จะลากลูกท่านไปด้วย!
หลังจากพูดจบ เจียงอี้ก็ควบคุมดาบวิญญาณเพื่อโจมตีอย่างรุนแรง เหลยฉีเหยียนที่เพิ่งจะหายใจได้ก็เริ่มกลับไปแดดิ้นอีกครั้ง เขาร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดและกล้ามเนื้อที่ใบหน้าของเขาก็บิดเบี้ยวไปหมด ตอนนี้เขาคงจะตายไปแล้วหากดวงจิตของเขาอ่อนแอเหมือนลู่หลิน
ก็ได้หนุ่มน้อย! เจ้าชนะแล้ว!
เหลยถิงเวยรีบส่งข้อความเสียงออกมาทันที หยุดก่อน แล้วเจ้าเสนอข้อตกลงมา!
เจียงอี้กลอกตาและหยุดการโจมตีพร้อมกับส่งเสียงไป ท่านจะต้องสัญญาว่าจะไม่มาหาเรื่องข้าต่อหน้าคนทั้งเมือง นอกจากนี้….ดาบเหล็กปฐมกาลและเกราะพระแม่ธรณีนั้นเป็นของที่ข้าเก็บมาได้และมันจะต้องกลับมาเป็นของข้า!
ตก…ตกลง!
เสียงของเหลยถิงเวยถูกพูดออกมาในระหว่างที่เขากัดฟันแน่น น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ และเจียงอี้ก็มีเหตุผลที่ดีที่จะเชื่อว่า หากคนทั้งเมืองไม่ได้จับตาดูเขาอยู่ เหลยถิงเวยคงฟาดเขาจนตายไปแล้ว Aileen-novel
เอ่อ…
บรรดาผู้ที่ดูการต่อสู้นั้นต่างก็เห็นว่าดาบวิญญาณหลายสิบเล่มบินออกมาจากหัวของเหลยฉีเหยียนและกลับมายังหว่างคิ้วของเจียงอี้ ยิ่งไปกว่านั้น เจียงอี้หยุดการโจมตีและนำหม้อเวหาสลาตันกลับมาด้วย ซึ่งทุกคนต่างตกตะลึงว่าเจียงอี้อ่อนข้อให้ในวินาทีสุดท้ายหรือ?
มีบางอย่างแปลกๆ
เหลยฉีเหยียนหายใจออกมาเล็กน้อยก่อนที่เขาจะลบรอยประทับดวงจิตและโยนดาบเหล็กปฐมกาลและเกราะพระแม่ธรณีให้เจียงอี้ก่อนที่จะถอยกลับเข้าไปในเมือง
การต่อสู้จบแล้วหรือ?
หลายคนต่างกระพริบตา แต่ไม่นานพวกเขาก็เข้าใจ เห็นได้ชัดว่าตระกูลเหลยและเจียงอี้ทำข้อตกลงบางอย่างกัน การต่อสู้นั้นจบลงแล้ว และเจียงอี้ชนะและได้ดาบเหล็กปฐมกาลและเกราะพระแม่ธรณีคืนมา
เหลยฉีเหยียนแพ้การต่อสู้ในครั้งนี้และเจียงอี้ได้เจรจากับข้า แน่นอนว่าข้าจะรักษาคำพูดของข้า เรื่องราวที่ขุ่นเคืองทั้งหมดระหว่างเจียงอี้และตระกูลเหลยจะถูกปัดออกไปจนสิ้น ตระกูลเหลยทุกคนจงฟัง พวกเจ้าไม่ได้รับอนุญาตให้สร้างปัญหากับเจียงอี้อีกต่อไป!
เสียงนั้นดังมาจากท้องฟ้า เหลยถิงเวยได้ประกาศต่อสาธารณะแล้ว และเจียงอี้ก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆ เมื่อเขากำลังจะบินกลับเมือง มันก็มีความรู้สึกบางอย่างพุ่งออกมาจากใจของเขา ทันใดนั้น ดาบมังกรเพลิงและเปลวเพลิงอัสนีก็พุ่งพล่านออกมาและกลายเป็นโล่ศักดิ์สิทธิ์เปลวเพลิงอัสนีทันที ในเวลาเดียวกัน เกราะเมฆาอัคคีก็สว่างไสวด้วยแสงสีแดงขึ้น
เจียงอี้ ไอ้สารเลว เจ้ากล้าดียังไงมาสังหารนายน้อยลู่หลิน ตายซะเถอะ!
สังหารเจียงอี้ซะ แก้แค้นให้นายน้อยหลิน!
เจียงอี้ ลู่จวินอยู่นี่แล้ว เตรียมตัวตายเสียเถอะ!
ทั้งสามคนตะโกนออกมาพร้อมกันและพุ่งออกมาจากทางด้านผู้ชม พวกเขาเร็วราวกับสายฟ้า และจู่ๆหนึ่งในนั้นก็ฟาดฝ่ามือขนาดยักษ์ออกมาซึ่งมีความยาวถึงสามร้อยกิโลเมตร พลังแห่งการทำลายล้างส่องสว่างและห้วงอากาศก็ผันผวนยิ่งกว่าการระเบิดก่อนหน้านี้
หน้าไม้ปรากฏขึ้นในมือของชายอีกคนและเขาก็ยิงหน้าไม้สีดำมายังเจียงอี้ราวกับสายฟ้าจากเก้าสวรรค์ ส่วนการโจมตีของชายคนที่สามนั้นน่ากลัวยิ่งกว่า วงล้อสีทองปรากฏขึ้นในมือของเขาและอักขระโบราณก็เปล่งประกาย มันเป็นสมบัติเชื่อมดวงจิต?! วงล้อนั้นหมุนอยู่บนฟ้าอย่างบ้าคลั่ง มันมีขอบที่คมและศีรษะของคนผู้หนึ่งอาจกลายเป็นเลือดเหลวๆได้เลยหากว่าคมล้อนี้หมุนล้อมคอพวกเขา
ขอบเขตเทียนจุนระดับสูงสามคน และอีกคนหนึ่งยังมีสมบัติเชื่อมดวงจิตด้วย?!
ผู้ชมตกอยู่ในความงุนงง พวกเขามองไปยังพื้นที่ที่ถูกฉีกออก และทุกคนก็รู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมากและแอบประหลาดใจกับความกล้าหาญของตระกูลลู่ พวกเขาไม่กลัวตระกูลซือถูหรือ?
น้องเจียง ใช้วิชาหลีกสวรรค์หนีไปซะ!
หวงฝูเทาเทียนรีบพุ่งไปบนฟ้าและตะโกน จากนั้นกระบี่อัสนีของเขาก็ส่องแสงด้วยเงาสายฟ้า เขาปลดปล่อยการโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดอย่างรูปแบบเต๋าเงาอัสนีโดยไม่มีการลังเลใดๆทั้งสิ้น
ผู้อาวุโสทั้งสิบ ทำอะไรสักอย่างเดี๋ยวนี้!
ซือถูอีเสี้ยวตะโกนออกมาอย่างโกรธเกรี้ยว แต่ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนขั้นสูงสุดทั้งสิบคนต่างก็ลังเล เมื่อพวกเขาได้ยินเสียงตะโกนจากคนทั้งสาม พวกเขาจึงไม่เสี่ยงทำอะไรตามสัญชาตญาณ ท้ายที่สุดแล้วพวกนั้นก็คือตระกูลลู่ หากไม่ได้รับคำสั่งจากซือถูอ้าว พวกเขาจะสังหารผู้อาวุโสจากตระกูลลู่ทั้งสามคนได้อย่างไร?
วิชาหลีกสวรรค์หรือ?
เจียงอี้ยิ้มอย่างขมขื่น เห็นได้ชัดว่าฝ่ามือจากคนแรกนั้นเป็นรูปแบบเต๋าห้วงมิติที่ทรงพลัง มันเป็นไปได้สูงว่าจะเป็นรูปแบบเต๋าระดับสูง ห้วงอากาศนั้นผันผวนมากจนเขาไม่สามารถควบคุมร่างกายได้ อย่าว่าแต่วิชาหลีกสวรรค์เลย
เป็นไปไม่ได้ ข้าไม่รู้จักพวกเขา!
ในขณะนั้นเอง ลู่หยี่ก็ร้องออกมา พวกเขาไม่เหมือนคนของตระกูลลู่ของเรา…. ฟรึ่บ! ฟรั่บ! ฟรึ่บ!
สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปทันที หากพวกนี้ไม่ได้มาจากตระกูลลู่แล้วเหตุใดพวกเขาจึงแสร้งทำเป็นว่ามาจากตระกูลลู่และจะแก้แค้นให้ลู่หลินกัน? มันมีเพียงคำอธิบายเดียวเท่านั้น…นั่นคือพวกเขาเป็นสายลับจากทวีปจักรพรรดิบูรพาอย่างแน่นอน!