เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven - บทที่ 801
ยามราตรีมืดลงและเมืองก็กลับมาสงบสุขอีกครั้ง แต่ทุกคนก็นอนไม่หลับ มีเหตุการณ์เกิดขึ้นมากเกินไปในค่ำคืนนี้ ลู่หลินตกตายไป ตัวตนของเจียงอี้ถูกเปิดเผย เหลยฉีเหยียนพ่ายแพ้ และมือสังหารจากทวีปจักรพรรดิบูรพาก็พยายามลอบสังหาร…ยอดฝีมือที่แข็งแกร่งที่สุดในเผ่าเทพประทานยังต้องลงมือเอง
โดยเฉพาะนิ้วของปรมาจารย์ตระกูลเหลยที่ทำให้ใจของทุกคนปั่นป่วน หลายคนเคยได้ยินถึงรูปแบบเต๋าเจ็ดดาวนี้ แต่ไม่มีผู้ใดได้เห็นมันมาก่อน รูปแบบเต๋าที่ลึกซึ้งเช่นนี้ มนุษย์นั้นสามารถเข้าถึงมันได้จริงๆหรือ?
เจียงอี้และหวงฝูเทาเทียนเดินตามซือถูอีเสี้ยวและคนอื่นๆกลับไปที่ลานตำหนักซือถู พวกเขาพำนักอยู่ปราสาทข้างๆเรือนรับรองเล็กซือถูในขณะที่อีกด้านหนึ่งเป็นปราสาทที่ซือถูอีเสี้ยวอาศัยอยู่ ตระกูลซือถูยังมอบป้ายชื่อปราสาทให้กับเจียงอี้ด้วย ซึ่งมันคือปราสาทเจียง!
ปราสาทเจียงนี้ตั้งอยู่ที่ลานด้านในตระกูลซือถูและบุคคลทั่วไปไม่สามารถเข้ามาได้ แล้วหากพวกเขาแฝงตัวเข้ามาได้ล่ะ? ลานตำหนักนั้นเต็มไปด้วยยอดฝีมือตระกูลซือถูและยังมีผู้อาวุโสเก่าแก่ของตระกูลซือถูคอยดูแลสถานที่แห่งนี้ด้วย อย่าว่าแต่สายลับทั่วไปเลย หากแม้แต่ผู้ที่อุทิศตัวให้กับเก้าตระกูลจักรพรรดิมา พวกนั้นก็คงไม่สามารถทำอันตรายเจียงอี้ได้เลยด้วยซ้ำ
เหลยถิงเวยได้ประกาศกร้าวต่อสาธารณะแล้วว่าตระกูลเหลยจะไม่มีเรื่องกับเจียงอี้ในขณะที่อำนาจตระกูลลู่นั้นด้อยกว่าสี่ตระกูลใหญ่มาก
ปราสาทเจียงนี้มีขนาดใหญ่มากและมันใหญ่กว่าที่พักเดิมมากนัก มันมีทั้งลานด้านในและด้านนอกด้วย หวงฝูเทาเทียนให้ทหารสิบคนคอยอยู่ในลานด้านนอกและผลัดกันเฝ้าระวัง หากปราศจากการอนุมัติของเขาและเจียงอี้แล้ว ก็ไม่มีผู้ใดเข้ามาได้แม้แต่ซือถูอ้าวก็ตาม
เจียงอี้ปล่อยทุกคนออกมาจากราชวังจักรพรรดิและไม่ได้อธิบายอะไรมากมายนัก เขาเพียงบอกว่าเขาได้เจรจากับตระกูลซือถูและพวกเขาสามารถอยู่ที่นี่ได้อย่างสงบสุขและไม่มีอันตรายใดๆอีกต่อไป
ในเวลาเดียวกัน เจียงอี้ก็ขอให้หวงฝูเทาเทียนหาทางพาจ้านอู๋ซวงและหยุนเฟยมาที่นี่ ก่อนหน้านี้มันอันตรายมากที่จะตามเจียงอี้มาด้วย แต่ในตอนนี้ มันปลอดภัยเป็นอย่างยิ่งและที่นี่ก็สามารถฝึกฝนได้เร็วขึ้นสิบเท่า เขาจึงไม่ต้องการให้พวกเขาทั้งสองอยู่กันลำพังอีกต่อไป
การพาพวกเขาทั้งสองมานั้นเป็นเรื่องเล็กน้อยมากและด้วยความสามารถของหวงฝูเทาเทียน แค่คำสั่งง่ายๆจากเขามันก็เพียงพอที่จะพาพวกเขาทั้งสองมาได้โดยไม่มีปัญหาใดๆแล้ว เจียงอี้ก็ไม่ได้คิดอะไรมากอีกต่อไปและขอให้ทุกคนพักผ่อนให้สบายขณะที่เขาเข้าไปพักฟื้นอาการบาดเจ็บของเขา
ในวันที่สอง ช่วงเช้าสายๆ เจียงอี้ก็ถูกปลุกจากข้อความเสียงว่า น้องเจียงตื่นเร็ว ซือถูอ้าวมาเยือนเราด้วยตัวเอง
ซือถูอ้าว?
เจียงอี้รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยขณะที่เขาคิดอยู่เงียบๆว่าประมุขซือถูผู้นี้เป็นคนที่ปฏิบัติตัวได้ยอดเยี่ยมจริงๆ เจียงอี้จัดเสื้อผ้าของเขาและรีบเดินออกไปพร้อมกับหวงฝูเทาเทียนเพื่อต้อนรับซือถูอ้าวทันที
ซือถูอ้าวน่าจะอายุมากกว่าห้าสิบปีแล้ว แต่เขาดูเหมือนคนอายุราวๆสี่สิบปี ผิวของเขาสง่ามากและไม่มีเครา เขามีรอยยิ้มที่มีเสน่ห์เหมือนกับซือถูอีเสี้ยวซึ่งทำให้ผู้คนประทับใจเขา ข้างๆเขาเป็นสองพี่น้องซือถูอีเสี้ยวและซือถูอีเนี่ยน
ซือถูอ้าวเหลือบมองเจียงอี้เล็กน้อยและพยักหน้าพร้อมกับพูดว่า วีรบุรุษกำเนิดแต่วัยเยาว์ ผู้เฒ่าคนนี้เคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของหลานเจียงเมื่อสองปีก่อน และได้พบเจ้าในวันนี้ เจ้าไม่ทำให้ข้าผิดหวังจริงๆ ภายหน้าเจ้าก็จงเรียนรู้จากหลานเจียงซะ หากเจ้ามีความสามารถได้ครึ่งหนึ่งของเขา ข้าก็ไม่กังวลที่จะมอบตระกูลซือถูให้แก่เจ้าแล้ว!
ซือถูอีเสี้ยวป้องกำปั้นยิ้มแล้วตอบว่า ข้าน้อยด้อยกว่าน้องเจียงมากจริงๆ ข้าจะทำตามคำชี้แนะของท่านพ่อขอรับ
ซือถูอ้าวหันไปมองหวงฝูเทาเทียนแล้วพูดว่า เทาเทียน ลุงไม่ได้จะโทษเจ้านะ แต่ครอบครัวไม่ควรทะเลาะกันเกินข้ามคืน มีพ่อแม่คนใดบ้างไม่รักลูกตัวเองกัน? มันเป็นความจริงที่ไม่อาจเปลี่ยนได้ว่าร่างกายของเจ้าไหลเวียนด้วยเลือดตระกูลหวงฝู หากเจ้าไม่พอใจเขา เจ้าก็กลับไปแล้วโยนเขาออกจากตำแหน่งประมุขแล้วยึดตระกูลหวงฝูไปเลย แน่นอนว่า…เจ้าสามารถอยู่กับลุงได้อย่างสงบสุขและลุงก็เต็มใจให้เจ้าอยู่ไปตลอดชีวิตเลย
ฮ่าฮ่า ทำไมข้าจะต้องการตระกูลหวงฝูที่มีเพียงกลุ่มตาเฒ่าหัวแข็งด้วยเล่า ข้าจะก่อตั้งตระกูลของตัวเองในภายหลัง เทาเทียนซาบซึ้งในความตั้งใจของท่านลุงมากขอรับ
หวงฝูเทาเทียนนั้นมีคติที่ค่อนข้างดีขณะที่เขาและเจียงอี้ก็เชื่อมั่นในความสามารถของซือถูอ้าวอย่างแท้จริง ในอดีตนั้น ตระกูลซือถูมักจะอยู่ล่างสุดในสี่ตระกูลเสมอ แต่หลังจากที่ซือถูอ้าวก้าวเข้ามาและก่อตั้งโรงประมูล เขาก็ได้รับผู้คนที่มีความสามารถมากมายและเพิ่มอิทธิพลของตระกูลซือถู ความทุ่มเทของซือถูอ้าวนั้นไม่เสียเปล่าเพราะในตอนนี้ตระกูลซือถูของเขามีศักยภาพเหนือกว่าตระกูลหวงฝูและตระกูลหนานกงซึ่งเป็นตระกูลใหญ่อันดับสอง
ซือถูอ้าวนำทุกคนเข้าไปข้างในและเมื่อซือถูอีเสี้ยวโบกมือ ก็มีบริวารหญิงสิบคนมาแต่ไกล พวกนางทั้งหมดค่อนข้างดูดี และหลังจากที่เข้าไปในปราสาทเจียงแล้ว ซือถูอ้าวก็นั่งบนที่นั่งเจ้าภาพอย่างเป็นธรรมชาติและชี้ไปยังสาวใช้ทั้งสิบขณะที่พูดว่า หลานเจียง หลานเทาเทียน ทั้งสิบคนนี้เป็นทาสวิญญาณทั้งหมด พวกเจ้าสามารถเก็บผนึกแห่งดวงจิตของพวกนางและให้พวกนางรับใช้พวกเจ้าได้เลย เพียงแค่อาศัยและฝึกปรือพลังอยู่ที่นี่อย่างสงบสุขเสีย หากมีสิ่งใดที่ต้องการ พวกเจ้าก็ถามอีเสี้ยวได้เลย
ขอบคุณท่านประมุขซือถู!
เจียงอี้กล่าวขอบคุณและกวาดตาไปที่เฉียนว่านก้วนซึ่งยืนอยู่ด้านหลัง คนหลังเข้าใจถึงเจตนาดีและยิ้มอย่างขมขื่นขณะที่คำนับซือถูอ้าวและพี่น้องทั้งสอง ท่านประมุขซือถู พี่อีเสี้ยว แม่นางอีเนี่ยน ว่านก้วนไม่ได้ต้องการปลอมเป็นอาจารย์อีเพียวเพียวและถูกลูกพี่ของข้าบังคับ ข้าหวังว่าทุกท่านจะยกโทษให้ข้าหลังจากที่หลอกลวงพวกท่านมานาน
ฮ่าฮ่าฮ่า!
ซือถูอ้าวส่ายมือแล้วหัวเราะ ว่านก้วน เจ้าเองก็มีความสามารถนะ หากเจ้าสามารถหลอกตาเฒ่าอย่างข้าได้ มันก็ถือเป็นความสามารถแล้ว! เจียงอี้เห็นว่าดวงตาของเฉียนว่านก้วนหรี่ลงเล็กน้อยและไม่กล้าแม้แต่จะมองซือถูอีเนี่ยนเลย เจียงอี้ก็ถอนหายใจอยู่ในหัวใจของเขาขณะที่ดวงตาของเขาสั่นไหวและคิดบางอย่างขึ้นได้ ประมุขซือถู อันที่จริงว่านก้วนนั้นมีความสามารถมากจริงๆ ตอนอายุสิบสาม เขาก็ได้ควบคุมสมาคมการค้าตระกูลของเขาในทวีปเทียนชิงและมีชื่อเสียงในฐานะอัจฉริยะแห่งโลกการค้ามาก ก่อนหน้านี้ในเมืองอัสนีฟ้ากระจ่างที่ข้าควบคุมเหล่าทาสทั้งหมด ว่านก้วนก็เป็นคนจัดการเช่นกัน หากท่านประมุขซือถูไม่ขัดข้องอันใด ท่านให้ว่านก้วนช่วยตระกูลซือถูในเรื่องต่างๆได้เลย ข้าไม่กล้าพูดเรื่องอื่น แต่หากเป็นเรื่องนี้ ว่านก้วนนั้นมีความสามารถในด้านการค้าจริงๆขอรับ…
โอ้?
ดวงตาของซือถูอ้าวเป็นประกายขณะที่ตัวเขาเองก็เป็นคนเชี่ยวชาญการค้าและเขาก็ไม่ได้ถือว่าแข็งแกร่งมากนัก แต่อย่างไรก็ตามมันเป็นเพราะการจัดการด้านการค้าที่ยอดเยี่ยมของเขาที่ทำให้ตระกูลซือถูมีอิทธิพลมากขึ้นในขณะที่เขาเป็นคนควบคุมอยู่ได้
เขาชอบที่จะค้นหาอัจฉริยะทางการค้ารุ่นเยาว์มาโดยตลอดและว่าจ้างพวกเขาในขณะที่มีข้อยกเว้น แต่เฉียนว่านก้วนเป็นพี่น้องของเจียงอี้ซึ่งมันทำให้สถานะของเขาพิเศษยิ่งขึ้น จากนั้นซือถูอ้าวก็ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า เมื่อว่านก้วนมีความสามารถมาก ตาเฒ่าผู้นี้ก็คงไม่พลาดโอกาสเช่นนี้อยู่แล้ว หากว่านก้วนเต็มใจที่จะช่วย ข้าเองก็กล้าทิ้งอำนาจของตัวเองแน่นอน ตราบใดที่เจ้ามีความสามารถเพียงพอ มันก็จะไม่เป็นปัญหาที่เจ้าจะคอยจัดการการค้าทั้งหมดของตระกูลซือถู!
เอ่อ…
ร่างของเจียงอี้, เฉียนว่านก้วนและหวงฝูเทาเทียนสั่นเทาพร้อมกันขณะที่เฟิ่งหลวนและชิงหยีต่างก็ประหลาดใจ ซือถูอ้าวผู้นี้กล้ามากจริงๆ ตระกูลซือถูมีการค้ากี่แห่งกัน?นอกจากการค้าอื่นๆแล้ว โถงประมูลจะได้ศิลาสวรรค์กี่ก้อนในวันเดียว? แล้วซือถูอ้าวกล้าให้คนนอกจัดการทุกอย่างจริงๆหรือ?
ร่างอ้วนๆของเฉียนว่านก้วนสั่นเทาขณะที่ดวงตาเล็กๆของเขาสั่นไหว เขาไม่ได้สนใจการฝึกฝนมากนักและความหลงใหลเพียงสิ่งเดียวของเขาคือการค้า หากแท่นตระกูลซือถูมีไว้เพื่อให้เขาแสดงทักษะนี้ เขาจะใช้ทักษะทั้งหมดที่เขาเรียนรู้มาทั้งช่วงชีวิตนี้ออกมาทำให้เกิดประโยชน์
ที่สำคัญที่สุดคือ…หากเขากลายเป็นระดับบนของตระกูลซือถูได้ เขาก็จะแต่งงานกับซือถูอีเนี่ยนได้ และหากเขาต้องจัดการการค้าทั้งหมดของตระกูลซือถูและช่วยให้ตระกูลซือถูได้ศิลาสวรรค์มากมายได้ ซือถูอ้าวอาจรับเขาเป็นบุตรเขยก็ได้ ไอลีนโนเวล
เมื่อคิดว่าเขาสามารถเป็นผู้นำตระกูลซือถูและได้แต่งงานกับหญิงที่สมบูรณ์แบบเช่นซือถูอีเนี่ยนและเดินไปสู่จุดสูงสุดของชีวิตได้ เฉียนว่านก้วนก็รู้สึกตื่นเต้นมากจนแทบจะกลั้นปัสสาวะไม่อยู่
เจ้าอ้วนเฉียนโค้งคำนับและพูดด้วยน้ำเสียงสั่นๆพร้อมกับพูดอย่างหนักแน่นว่า ขอบคุณท่านลุงซือถูมาก ว่านก้วนขอเอาชีวิตของตัวเองมารับประกันได้เลย
ฮ่าฮ่าฮ่า!
ซือถูอ้าวเดินไปช่วยเฉียนว่านก้วนด้วยตัวเองและตบบ่าของเขา ดีมาก ว่านก้วน หากเจ้ามีปัญหาอันใดก็แจ้งข้าโดยตรงได้เลย หากผู้ใดไม่มั่นใจในตัวเจ้าในตระกูลนี้และกล้าขัดคำสั่งข้า ข้าจะไปหักขาพวกนั้นซะ
หวงฝูเทาเทียนมองไปยังการแสดงออกที่จริงใจของซือถูอ้าวและยกนิ้วโป้งให้เขาเงียบๆ การดึงเฉียนว่านก้วนเข้ามาให้ค่ายตระกูลซือถูนั้นเหมือนกับการผูกเจียงอี้ไว้บนรถม้าศึกของพวกเขาเช่นกัน เจียงอี้นั้นเป็นคนอารมณ์อ่อนไหวและแม้ว่าพวกเขาจะไม่ยอมอยู่ใต้บัญชาตระกูลซือถู แต่พวกเขาก็ยังคงมีสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดดั่งครอบครัวได้