เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven - บทที่ 804 อัจฉริยะเหนือคน
ประธานสมาคมการค้าวิหคมรกต เฟิงปู้ชีรีบมายังตำหนักซือถูอย่างเร็วที่สุด แต่เขาใช้ทางลับมา แน่นอนว่าหากผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้คือตระกูลเหลย พวกเขาก็อาจจะค้นพบว่าตัวเขาอยู่ที่ไหน เพราะสี่ตระกูลใหญ่นั้นมีอิทธิพลมากในเมืองนี้
ซือถูอ้าว, เฟิงปู้ชี, เจียงอี้, เฉียนว่านก้วน, ซือถูอีเสี้ยวและหวงฝูเทาเทียนพูดคุยกันเป็นเวลาสี่ชั่วโมงและแก้ไขแผนจนสมบูรณ์แบบ หลังจากที่คุยกันแล้ว เฟิงปู้ชีก็กลับไปแบบเงียบๆขณะที่เจียงอี้กลับไปยังปราสาทและบอกให้ทุกคนทราบ ส่วนเจียงเสี่ยวนู๋ยังเข้าสู่สันโดษอยู่และเจียงอี้ไม่ได้ปลุกนางขึ้นมา หลังจากที่เตรียมการทั้งหมดแล้ว เขากับหวงฝูเทาเทียนก็ออกไปและมุ่งหน้าไปยังประตูเมืองตะวันตก
“เอ๊ะ? นั่นเจียงอี้ไม่ใช่หรือ?”
“นั่นเขาแหละ และเขาอยู่กับนายน้อยหวงฝูเทาเทียน ทั้งสองคนดูรีบร้อน หรือพวกเขากำลังจะออกจากเมือง?”
“ออกจากเมือง? เจียงอี้ไม่กลัวถูกสังหารหรือ?”
ผู้คนที่เดินถนนอยู่และเจ้าหน้าที่หลายคนที่เห็นเจียงอี้ต่างตะลึงงัน โดยเฉพาะคนที่ประตูเมืองทางตะวันตกที่งุนงงยิ่งขึ้นไปอีก หากไม่พูดถึงตระกูลเหลยและตระกูลลู่ที่เจียงอี้ขุ่นเคืองด้วยแล้ว สายลับของทวีปจักรพรรดิบูรพาจะไม่ละเว้นชีวิตของเจียงอี้อย่างแน่นอน และเมื่อเขาออกจากเมือง เขาจะต้องทนทุกข์ทรมานจากการถูกไล่ล่าอย่างไม่รู้จบ
กร่อบ! กร่อบ! กร่อบ!
ในเวลาเดียวกัน ที่ประตูหลังของสมาคมการค้าวิหคมรกตก็เปิดออกมา รถม้าหรูหราหลายร้อยคันวิ่งตรงไปยังประตูเมืองตะวันตก หลายคนจึงตื่นตระหนกและรีบตามไปที่ประตูเมืองทางตะวันตกเพราะอยากรู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น
ฟรึ่บ! ฟรึ่บ! ฟรึ่บ! เมื่อรถม้าไปถึงประตูเมือง พวกมันก็แยกออกเป็นแถวขณะที่จอมยุทธนับไม่ถ้วนบินออกจากรถม้าไปยังเรือลิขิตสวรรค์ขนาดยักษ์ ส่วนเจียงอี้และหวงฝูเทาเทียนได้ขึ้นเรือลิขิตสวรรค์ไปนานแล้ว ฝูงชนที่กำลังมองไปต่างก็เริ่มอยู่ในความโกลาหล เพราะสมาคมการค้าวิหคมรกตระดมขอบเขตเทียนจุนนับหมื่นคนและขอบเขตเทียนจุนขั้นสูงสุดร้อยคนมา ยอดฝีมือเกือบทั้งหมดจากสมาคมการค้านั้นออกมากันอย่างเต็มกำลัง
และไม่นานก็มีข่าวลือแพร่ออกมาว่าเรือลิขิตสวรรค์ของสมาคมการค้าวิหคมรกตถูกกองทัพจอมมารสกัดกั้นและผู้คุมทั้งหมดก็ตกตายไปในการต่อสู้ ลูกค้าหลายพันคนถูกลักพาตัวไปและกองทัพจอมมารก็ขอค่าไถ่เป็นศิลาสวรรค์แสนล้านก้อน หากพวกเขาไม่มอบศิลาสวรรค์ให้ภายในหนึ่งเดือน ตัวประกันทั้งหมดจะต้องถูกสังหาร
เมื่อมีข่าวออกมา คนทั้งเมืองก็ตกตะลึง
หากเรือลิขิตสวรรค์ของสมาคมการค้าวิหคมรกตไม่ปลอดภัยแล้วจะมีเรือลิขิตสวรรค์ของที่ใดปลอดภัยอีก? กองทัพจอมมารก็ได้รับค่าผ่านทางมากมายในทุกๆเดือนไม่ใช่หรือ? ทำไมพวกเขาถึงทำเช่นนี้? หากพวกเขามายั่วยุสมาคมการค้าวิหคมรกต ทั้งสองฝ่ายจะไม่เดือดร้อนหรือ? ทุกคนรู้ดีว่าสมาคมการค้าวิหคมรกตทรงพลังมากและเห็นได้ชัดจากที่พวกเขารวบรวมผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนมาได้นับหมื่นคน
หลายคนตื่นเต้นมากและเลือดก็พุ่งพล่าน พวกเขาอยากจะตามสมาคมการค้าวิหคมรกตไปดูการต่อสู้ที่เกาะจอมมาร เพราะนี่ไม่ใช่การต่อสู้เล็กๆกับกองโจรเล็กๆ เมื่อมีผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนมากกว่าหมื่นคนในตอนที่พวกเขาเริ่มต่อสู้กัน มันคงจะเป็นภาพที่น่าเกรงขามและยิ่งใหญ่แน่นอนใช่ไหม?
บางคนก็พูดกันเงียบๆว่าหากเจียงอี้และหวงฝูเทาเทียนตามสมาคมการค้าวิหคมรกตไปเช่นนี้ สหายของเจียงอี้หรือไม่ก็หวงฝูเทาเทียนอาจเป็นหนึ่งในตัวประกัน ไม่เช่นนั้นพวกเขาทั้งสองคงไม่เสี่ยงที่จะออกจากเมือง
ตระกูลต่างๆนับไม่ถ้วนในเมืองได้ระดมหน่วยสอดแนมเพื่อค้นหาข้อมูล พวกเขาต้องได้รับข้อมูลล่าสุดในการสู้ครั้งยิ่งใหญ่นี้และเตรียมหลีกเลี่ยงเหตุฉุกเฉินที่อาจมาอย่างไม่ทันตั้งตัว แน่นอนว่า หากสถานการณ์เป็นใจ พวกเขาก็จะเข้าไปมีส่วนร่วมและแบ่งเอาผลประโยชน์กลับมา
แต่สิ่งที่ทุกคนไม่รู้ก็คือ….
ตระกูลซือถูเองก็แอบรวบรวมยอดฝีมือด้วย แต่ยอดฝีมือเหล่านี้ไม่ได้เดินออกจากตำหนักซือถู พวกเขาเข้าไปในห้องโถงใหญ่ที่ลานตำหนักด้านในของตระกูลซือถูอย่างเป็นระเบียบ จากนั้นผู้คนหลายร้อยก็ถูกเคลื่อนย้ายออกไป มันมีอาคมที่ทรงพลังซึ่งภายนอกนั้นไม่สามารถตรวจสอบการสั่นสะเทือนของห้วงมิติในระหว่างการเคลื่อนย้ายได้ และมีเพียงสี่ตระกูลใหญ่เท่านั้นที่มีค่ายกลเคลื่อนย้ายเช่นนี้ และยิ่งกว่านั้นคือมันไม่มีทางรู้เลยว่าพวกเขาถูกเคลื่อนย้ายไปที่ใด
คราวนี้ซือถูอ้าวไม่ได้เข้าร่วมเองและให้ซือถูอีเสี้ยวเป็นหัวหน้าผู้บัญชาการแทนขณะที่เฉียนว่านก้วนเป็นผู้สนับสนุน ซือถูอ้าวกล้าแกร่งมากในครั้งนี้เพราะพวกเขาระดมยอดฝีมือส่วนใหญ่ของตระกูลมาและให้คนอายุยี่สิบห้าปีสั่งการพวกเขา? หากพวกเขาพ่ายแพ้ ตระกูลซือถูจะต้องสูญเสียครั้งใหญ่อย่างแน่นอน และพวกเขาอาจจะจมลงไปสู่ก้นบึ้งของสี่ตระกูลใหญ่
ในเวลาเดียวกัน ซือถูอ้าวก็ยังได้รวบรวมยอดฝีมือที่ซ่อนอยู่ในเก้าหมู่เกาะด้วย พวกเขาทั้งหมดถูกมอบให้กับซือถูอีเสี้ยวเพื่อคอยสั่งการ ซือถูอ้าวนั้นตัดวิธีล่าถอยทั้งหมดออกไปและหากซือถูอีเสี้ยวไม่ได้เป็นไปตามที่เขาคาดหวัง ซือถูอ้าวก็จะต้องยอมรับชะตากรรมในครั้งนี้ ไอลีนโนเวล
เกาะจอมมารอยู่ทางทิศตะวันตกของใจกลางทะเลเทพประทาน มันจะต้องใช้เวลาอย่างน้อยสองสัปดาห์จากเมืองเพื่อไปที่นั่นเจียงอี้และหวงฝูเทาเทียนขึ้นเรือไปและไม่เคยออกมาเลย ในเรือลำนี้มีผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนนับหมื่นคนและมีขั้นสูงสุดร้อยคน มันจึงปลอดภัยอย่างแน่นอน และถึงแม้กองทัพที่แข็งแกร่งจะโจมตีเขา แต่เจียงอี้ก็สามารถหลบหนีได้ในทันที
หลังจากที่เข้าไปในระวางเรือแล้ว เจียงอี้ก็ปล่อยญาณศักดิ์สิทธิ์ออกมาเพื่อสำรวจพื้นที่รอบๆในระยะสิบล้านกิโลเมตร หากตระกูลเหลยเริ่มบ้าคลั่งและระดมกองทหารอันทรงพลังของพวกเขาออกมา เขาก็ต้องการป้องกันไม่ให้เรือของพวกเขาถูกสกัดกั้นด้วย พลังญาณศักดิ์สิทธิ์ของเจียงอี้นั้นได้ถูกแสดงออกมาอย่างยอดเยี่ยมขณะที่เจียงอี้สามารถสัมผัสได้ถึงการเคลื่อนไหวใดๆในระยะสิบล้านกิโลเมตร และด้วยรัศมีที่กว้างถึงเพียงนี้ มันจะเป็นไปไม่ได้ที่กองทัพใหญ่จะเข้ามาใกล้พวกเขาได้
“ประธานเฟิง มีเรือลิขิตสวรรค์กำลังใกล้เข้ามาจากทางซ้าย เบี่ยงเรือไปทางขวา!” ในวันที่สาม เจียงอี้ลืมตาขึ้นมาและขอให้หวงฝูเทาเทียนเปิดม่านพลัง เขาเพ่งไปที่เฟิงปู้ชีที่ระวางเรือแรกและส่งข้อความไป ฝ่ายหลังจึงรีบออกคำสั่งอย่างรวดเร็วให้เลือลิขิตสวรรค์เปลี่ยนทิศทางขณะที่ให้คนตรวจสอบว่าเจียงอี้นั้นมีความสามารถที่เขากล่าวเอาไว้หรือไม่
และมันเป็นไปอย่างที่คาด!
หลังจากที่เรือลิขิตสวรรค์เปลี่ยนเส้นทาง หน่วยสอดแนมก็ส่งข้อความกลับมาในอีกสามสิบนาทีต่อมาว่ามีเรือลิขิตสวรรค์เข้ามาใกล้จริงๆจากที่อยู่ห่างไกลออกไปหลายพันกิโลเมตร แต่มันก็เป็นเพียงแค่เรือลิขิตสวรรค์ของสมาคมการค้าเท่านั้น
”อัจฉริยะเหนือคนนัก!”
ใบหน้าอันชราเฒ่าของเฟิงปู้ชีเต็มไปด้วยความตะลึงขณะที่เขารู้สึกท่วมท้นและมั่นใจมากขึ้นในการเดินทางไปยังเกาะจอมมารในครั้งนี้ ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เจียงอี้ก็ไม่ได้ทำให้เฟิงปู้ชีผิดหวังขณะที่เขาตรวจพบเรือลิขิตสวรรค์สามลำและกลุ่มโจรห้ากลุ่มล่วงหน้า เฟิงปู้ชีไม่ได้กลัวกองโจร แต่การระมัดระวังนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด พวกเขาจึงเปลี่ยนเส้นทางในทันที
วันที่ห้า…!
เจียงอี้ไม่ได้ส่งข้อความใดๆออกมาในครั้งนี้ เขากับหวงฝูเทาเทียนแอบย่องออกจากระวางเรือและเข้าไปในห้องของเฟิงปู้ชี เฟิงปู้ชีเองก็ตรวจพบแล้วว่าพวกเขาทั้งสองคนมาและเปิดใช้อาคมยับยั้งเมื่อทั้งคู่เข้ามา เขาถามด้วยร่างที่แข็งทื่อ “นายน้อยเจียง สถานการณ์เป็นเช่นไรบ้าง?”
“มีพวกหน่วยสอดแนมสิบกว่าคนที่ติดตามเรามา และพวกเขาเป็นพวกชั้นยอดอันดับหนึ่ง พวกเขาแยกตัวออกมามากกว่าสิบกลุ่มและในที่สุด ข้าก็ยืนยันแล้วหลังจากที่คอยตรวจสอบพวกเขามาหลายวัน” เจียงอี้พูดออกมา ดวงตาของเขาเป็นประกายด้วยความเย็นเยียบขณะที่เขาถามว่า “เจ้าจะจับพวกเขาทั้งหมดหรือสังหารพวกนั้นทั้งหมด?” “นี่…”
เฟิงปู้ชีลังเลเพราะหน่วยสอดแนมเหล่าน่าจะมาจากเมืองเทพประทานและพวกเขาอาจเป็นคนตระกูลเหลย, หวงฝู, หนานกงหรือตระกูลลู่และตระกูลอื่นๆก็อาจจะส่งมาด้วย หากเขาจะส่งคนไปสังหารพวกนั้น แล้วพวกเขาจะอยู่ในเมืองเทพประทานต่อไปได้อย่างไร?
หวงฝูเทาเทียนแผ่ความเย็นชาออกมาและพูดว่า “ประธานเฟิงไม่กล้าลงมือหรือ? เช่นนั้นก็ให้ข้าลงมือเถอะ”
ความแข็งแกร่งของหน่วยสอดแนมไม่ได้ทรงพลังมากนักและแม้แต่หน่วยสอดแนมชั้นยอดเองก็ยังมีเพียงทักษะการหลบหลีกที่น่าเหลือเชื่อเท่านั้น โดยปกติแล้ว พวกเขาจะใช้รูปแบบเต๋าวายุและแค่เร็วเท่านั้น ท้ายที่สุดแล้ว หน่วยสอดแนมเหล่านี้ต่างก็ทำงานลำพังและอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายเช่นกันซึ่งสามารถถูกกองโจรสังหารได้
เฟิงปู้ชีพึมพำอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะหยิบป้ายพิเศษออกมา เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นว่า “โปรดรอสักครู่ได้หรือไม่? ข้าจะส่องข้อความถึงนายน้อยอีเสี้ยวก่อนเพราะเขาเป็นหัวหน้าผู้บัญชาการในครั้งนี้น่ะขอรับ”
“เอาสิ!”
เจียงอี้และหวงฝูเทาเทียนพยักหน้า ซือถูอ้าวมอบอำนาจทั้งหมดให้กับซือถูอีเสี้ยวและหากพวกเขาไม่รายงานเรื่องนี้ มันคงจะไม่ดี มือของเฟิงปู้ชีหมุนไปด้วยแก่นแท้พลังขณะที่เกิดแสงสีดำขึ้นบนป้ายนั้น รูปแบบอักขระไหลเวียนออกมาซึ่งมันเหมือนสมบัติเชื่อมดวงจิตนัก
เมื่อหวงฝูเทาเทียนเห็นว่าเจียงอี้อยากรู้มาก เขาก็เริ่มอธิบาย “นี่คือป้ายส่งข้อความชั้นยอด มันมีราคามากแต่ไม่มีทางซื้อมาได้ มีเพียงตระกูลถังของทวีปจักรพรรดิบูรพาเท่านั้นที่ผลิตมันได้ ซึ่งจะทำให้ส่งข้อความได้ในรัศมีกว่าล้านล้านกิโลเมตร!”
“ยอดเยี่ยมนัก!”
เจียงอี้พยักหน้าเงียบๆขณะที่ดวงตาของเฟิงปู้ชีเปิดขึ้นอย่างรวดเร็วและพยักหน้า “นายน้อยหวงฝู นายน้อยเจียง นายน้อยอีเสี้ยวกล่าวว่าท่านสามารถลงมือได้โดยไม่ต้องกลัวเลย ข้าจะส่งผู้อาวุโสขอบเขตเทียนจุนขั้นสูงสุดสามสิบคนให้ท่าน โปรดระวังตัวด้วย”
“เหอะเหอะ!”
หวงฝูเทาเทียนหัวเราะออกมาอย่างเยือกเย็น ขอบเขตเทียนจุนขั้นสูงสุดสามสิบคน? ไม่ว่าทักษะการหลบเลี่ยงของหน่วยสอดแนมเหล่านี้จะน่าทึ่งเพียงใด แต่พวกเขาก็คงไม่สามารถหนีไปไหนได้แม้ว่าพวกเขาจะมีปีกก็ตาม
…
ซือถูอ้าว, เฟิงปู้ชี, เจียงอี้, เฉียนว่านก้วน, ซือถูอีเสี้ยวและหวงฝูเทาเทียนพูดคุยกันเป็นเวลาสี่ชั่วโมงและแก้ไขแผนจนสมบูรณ์แบบ หลังจากที่คุยกันแล้ว เฟิงปู้ชีก็กลับไปแบบเงียบๆขณะที่เจียงอี้กลับไปยังปราสาทและบอกให้ทุกคนทราบ ส่วนเจียงเสี่ยวนู๋ยังเข้าสู่สันโดษอยู่และเจียงอี้ไม่ได้ปลุกนางขึ้นมา หลังจากที่เตรียมการทั้งหมดแล้ว เขากับหวงฝูเทาเทียนก็ออกไปและมุ่งหน้าไปยังประตูเมืองตะวันตก
“เอ๊ะ? นั่นเจียงอี้ไม่ใช่หรือ?”
“นั่นเขาแหละ และเขาอยู่กับนายน้อยหวงฝูเทาเทียน ทั้งสองคนดูรีบร้อน หรือพวกเขากำลังจะออกจากเมือง?”
“ออกจากเมือง? เจียงอี้ไม่กลัวถูกสังหารหรือ?”
ผู้คนที่เดินถนนอยู่และเจ้าหน้าที่หลายคนที่เห็นเจียงอี้ต่างตะลึงงัน โดยเฉพาะคนที่ประตูเมืองทางตะวันตกที่งุนงงยิ่งขึ้นไปอีก หากไม่พูดถึงตระกูลเหลยและตระกูลลู่ที่เจียงอี้ขุ่นเคืองด้วยแล้ว สายลับของทวีปจักรพรรดิบูรพาจะไม่ละเว้นชีวิตของเจียงอี้อย่างแน่นอน และเมื่อเขาออกจากเมือง เขาจะต้องทนทุกข์ทรมานจากการถูกไล่ล่าอย่างไม่รู้จบ
กร่อบ! กร่อบ! กร่อบ!
ในเวลาเดียวกัน ที่ประตูหลังของสมาคมการค้าวิหคมรกตก็เปิดออกมา รถม้าหรูหราหลายร้อยคันวิ่งตรงไปยังประตูเมืองตะวันตก หลายคนจึงตื่นตระหนกและรีบตามไปที่ประตูเมืองทางตะวันตกเพราะอยากรู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น
ฟรึ่บ! ฟรึ่บ! ฟรึ่บ! เมื่อรถม้าไปถึงประตูเมือง พวกมันก็แยกออกเป็นแถวขณะที่จอมยุทธนับไม่ถ้วนบินออกจากรถม้าไปยังเรือลิขิตสวรรค์ขนาดยักษ์ ส่วนเจียงอี้และหวงฝูเทาเทียนได้ขึ้นเรือลิขิตสวรรค์ไปนานแล้ว ฝูงชนที่กำลังมองไปต่างก็เริ่มอยู่ในความโกลาหล เพราะสมาคมการค้าวิหคมรกตระดมขอบเขตเทียนจุนนับหมื่นคนและขอบเขตเทียนจุนขั้นสูงสุดร้อยคนมา ยอดฝีมือเกือบทั้งหมดจากสมาคมการค้านั้นออกมากันอย่างเต็มกำลัง
และไม่นานก็มีข่าวลือแพร่ออกมาว่าเรือลิขิตสวรรค์ของสมาคมการค้าวิหคมรกตถูกกองทัพจอมมารสกัดกั้นและผู้คุมทั้งหมดก็ตกตายไปในการต่อสู้ ลูกค้าหลายพันคนถูกลักพาตัวไปและกองทัพจอมมารก็ขอค่าไถ่เป็นศิลาสวรรค์แสนล้านก้อน หากพวกเขาไม่มอบศิลาสวรรค์ให้ภายในหนึ่งเดือน ตัวประกันทั้งหมดจะต้องถูกสังหาร
เมื่อมีข่าวออกมา คนทั้งเมืองก็ตกตะลึง
หากเรือลิขิตสวรรค์ของสมาคมการค้าวิหคมรกตไม่ปลอดภัยแล้วจะมีเรือลิขิตสวรรค์ของที่ใดปลอดภัยอีก? กองทัพจอมมารก็ได้รับค่าผ่านทางมากมายในทุกๆเดือนไม่ใช่หรือ? ทำไมพวกเขาถึงทำเช่นนี้? หากพวกเขามายั่วยุสมาคมการค้าวิหคมรกต ทั้งสองฝ่ายจะไม่เดือดร้อนหรือ? ทุกคนรู้ดีว่าสมาคมการค้าวิหคมรกตทรงพลังมากและเห็นได้ชัดจากที่พวกเขารวบรวมผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนมาได้นับหมื่นคน
หลายคนตื่นเต้นมากและเลือดก็พุ่งพล่าน พวกเขาอยากจะตามสมาคมการค้าวิหคมรกตไปดูการต่อสู้ที่เกาะจอมมาร เพราะนี่ไม่ใช่การต่อสู้เล็กๆกับกองโจรเล็กๆ เมื่อมีผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนมากกว่าหมื่นคนในตอนที่พวกเขาเริ่มต่อสู้กัน มันคงจะเป็นภาพที่น่าเกรงขามและยิ่งใหญ่แน่นอนใช่ไหม?
บางคนก็พูดกันเงียบๆว่าหากเจียงอี้และหวงฝูเทาเทียนตามสมาคมการค้าวิหคมรกตไปเช่นนี้ สหายของเจียงอี้หรือไม่ก็หวงฝูเทาเทียนอาจเป็นหนึ่งในตัวประกัน ไม่เช่นนั้นพวกเขาทั้งสองคงไม่เสี่ยงที่จะออกจากเมือง
ตระกูลต่างๆนับไม่ถ้วนในเมืองได้ระดมหน่วยสอดแนมเพื่อค้นหาข้อมูล พวกเขาต้องได้รับข้อมูลล่าสุดในการสู้ครั้งยิ่งใหญ่นี้และเตรียมหลีกเลี่ยงเหตุฉุกเฉินที่อาจมาอย่างไม่ทันตั้งตัว แน่นอนว่า หากสถานการณ์เป็นใจ พวกเขาก็จะเข้าไปมีส่วนร่วมและแบ่งเอาผลประโยชน์กลับมา
แต่สิ่งที่ทุกคนไม่รู้ก็คือ….
ตระกูลซือถูเองก็แอบรวบรวมยอดฝีมือด้วย แต่ยอดฝีมือเหล่านี้ไม่ได้เดินออกจากตำหนักซือถู พวกเขาเข้าไปในห้องโถงใหญ่ที่ลานตำหนักด้านในของตระกูลซือถูอย่างเป็นระเบียบ จากนั้นผู้คนหลายร้อยก็ถูกเคลื่อนย้ายออกไป มันมีอาคมที่ทรงพลังซึ่งภายนอกนั้นไม่สามารถตรวจสอบการสั่นสะเทือนของห้วงมิติในระหว่างการเคลื่อนย้ายได้ และมีเพียงสี่ตระกูลใหญ่เท่านั้นที่มีค่ายกลเคลื่อนย้ายเช่นนี้ และยิ่งกว่านั้นคือมันไม่มีทางรู้เลยว่าพวกเขาถูกเคลื่อนย้ายไปที่ใด
คราวนี้ซือถูอ้าวไม่ได้เข้าร่วมเองและให้ซือถูอีเสี้ยวเป็นหัวหน้าผู้บัญชาการแทนขณะที่เฉียนว่านก้วนเป็นผู้สนับสนุน ซือถูอ้าวกล้าแกร่งมากในครั้งนี้เพราะพวกเขาระดมยอดฝีมือส่วนใหญ่ของตระกูลมาและให้คนอายุยี่สิบห้าปีสั่งการพวกเขา? หากพวกเขาพ่ายแพ้ ตระกูลซือถูจะต้องสูญเสียครั้งใหญ่อย่างแน่นอน และพวกเขาอาจจะจมลงไปสู่ก้นบึ้งของสี่ตระกูลใหญ่
ในเวลาเดียวกัน ซือถูอ้าวก็ยังได้รวบรวมยอดฝีมือที่ซ่อนอยู่ในเก้าหมู่เกาะด้วย พวกเขาทั้งหมดถูกมอบให้กับซือถูอีเสี้ยวเพื่อคอยสั่งการ ซือถูอ้าวนั้นตัดวิธีล่าถอยทั้งหมดออกไปและหากซือถูอีเสี้ยวไม่ได้เป็นไปตามที่เขาคาดหวัง ซือถูอ้าวก็จะต้องยอมรับชะตากรรมในครั้งนี้ ไอลีนโนเวล
เกาะจอมมารอยู่ทางทิศตะวันตกของใจกลางทะเลเทพประทาน มันจะต้องใช้เวลาอย่างน้อยสองสัปดาห์จากเมืองเพื่อไปที่นั่นเจียงอี้และหวงฝูเทาเทียนขึ้นเรือไปและไม่เคยออกมาเลย ในเรือลำนี้มีผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนนับหมื่นคนและมีขั้นสูงสุดร้อยคน มันจึงปลอดภัยอย่างแน่นอน และถึงแม้กองทัพที่แข็งแกร่งจะโจมตีเขา แต่เจียงอี้ก็สามารถหลบหนีได้ในทันที
หลังจากที่เข้าไปในระวางเรือแล้ว เจียงอี้ก็ปล่อยญาณศักดิ์สิทธิ์ออกมาเพื่อสำรวจพื้นที่รอบๆในระยะสิบล้านกิโลเมตร หากตระกูลเหลยเริ่มบ้าคลั่งและระดมกองทหารอันทรงพลังของพวกเขาออกมา เขาก็ต้องการป้องกันไม่ให้เรือของพวกเขาถูกสกัดกั้นด้วย พลังญาณศักดิ์สิทธิ์ของเจียงอี้นั้นได้ถูกแสดงออกมาอย่างยอดเยี่ยมขณะที่เจียงอี้สามารถสัมผัสได้ถึงการเคลื่อนไหวใดๆในระยะสิบล้านกิโลเมตร และด้วยรัศมีที่กว้างถึงเพียงนี้ มันจะเป็นไปไม่ได้ที่กองทัพใหญ่จะเข้ามาใกล้พวกเขาได้
“ประธานเฟิง มีเรือลิขิตสวรรค์กำลังใกล้เข้ามาจากทางซ้าย เบี่ยงเรือไปทางขวา!” ในวันที่สาม เจียงอี้ลืมตาขึ้นมาและขอให้หวงฝูเทาเทียนเปิดม่านพลัง เขาเพ่งไปที่เฟิงปู้ชีที่ระวางเรือแรกและส่งข้อความไป ฝ่ายหลังจึงรีบออกคำสั่งอย่างรวดเร็วให้เลือลิขิตสวรรค์เปลี่ยนทิศทางขณะที่ให้คนตรวจสอบว่าเจียงอี้นั้นมีความสามารถที่เขากล่าวเอาไว้หรือไม่
และมันเป็นไปอย่างที่คาด!
หลังจากที่เรือลิขิตสวรรค์เปลี่ยนเส้นทาง หน่วยสอดแนมก็ส่งข้อความกลับมาในอีกสามสิบนาทีต่อมาว่ามีเรือลิขิตสวรรค์เข้ามาใกล้จริงๆจากที่อยู่ห่างไกลออกไปหลายพันกิโลเมตร แต่มันก็เป็นเพียงแค่เรือลิขิตสวรรค์ของสมาคมการค้าเท่านั้น
”อัจฉริยะเหนือคนนัก!”
ใบหน้าอันชราเฒ่าของเฟิงปู้ชีเต็มไปด้วยความตะลึงขณะที่เขารู้สึกท่วมท้นและมั่นใจมากขึ้นในการเดินทางไปยังเกาะจอมมารในครั้งนี้ ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เจียงอี้ก็ไม่ได้ทำให้เฟิงปู้ชีผิดหวังขณะที่เขาตรวจพบเรือลิขิตสวรรค์สามลำและกลุ่มโจรห้ากลุ่มล่วงหน้า เฟิงปู้ชีไม่ได้กลัวกองโจร แต่การระมัดระวังนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด พวกเขาจึงเปลี่ยนเส้นทางในทันที
วันที่ห้า…!
เจียงอี้ไม่ได้ส่งข้อความใดๆออกมาในครั้งนี้ เขากับหวงฝูเทาเทียนแอบย่องออกจากระวางเรือและเข้าไปในห้องของเฟิงปู้ชี เฟิงปู้ชีเองก็ตรวจพบแล้วว่าพวกเขาทั้งสองคนมาและเปิดใช้อาคมยับยั้งเมื่อทั้งคู่เข้ามา เขาถามด้วยร่างที่แข็งทื่อ “นายน้อยเจียง สถานการณ์เป็นเช่นไรบ้าง?”
“มีพวกหน่วยสอดแนมสิบกว่าคนที่ติดตามเรามา และพวกเขาเป็นพวกชั้นยอดอันดับหนึ่ง พวกเขาแยกตัวออกมามากกว่าสิบกลุ่มและในที่สุด ข้าก็ยืนยันแล้วหลังจากที่คอยตรวจสอบพวกเขามาหลายวัน” เจียงอี้พูดออกมา ดวงตาของเขาเป็นประกายด้วยความเย็นเยียบขณะที่เขาถามว่า “เจ้าจะจับพวกเขาทั้งหมดหรือสังหารพวกนั้นทั้งหมด?” “นี่…”
เฟิงปู้ชีลังเลเพราะหน่วยสอดแนมเหล่าน่าจะมาจากเมืองเทพประทานและพวกเขาอาจเป็นคนตระกูลเหลย, หวงฝู, หนานกงหรือตระกูลลู่และตระกูลอื่นๆก็อาจจะส่งมาด้วย หากเขาจะส่งคนไปสังหารพวกนั้น แล้วพวกเขาจะอยู่ในเมืองเทพประทานต่อไปได้อย่างไร?
หวงฝูเทาเทียนแผ่ความเย็นชาออกมาและพูดว่า “ประธานเฟิงไม่กล้าลงมือหรือ? เช่นนั้นก็ให้ข้าลงมือเถอะ”
ความแข็งแกร่งของหน่วยสอดแนมไม่ได้ทรงพลังมากนักและแม้แต่หน่วยสอดแนมชั้นยอดเองก็ยังมีเพียงทักษะการหลบหลีกที่น่าเหลือเชื่อเท่านั้น โดยปกติแล้ว พวกเขาจะใช้รูปแบบเต๋าวายุและแค่เร็วเท่านั้น ท้ายที่สุดแล้ว หน่วยสอดแนมเหล่านี้ต่างก็ทำงานลำพังและอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายเช่นกันซึ่งสามารถถูกกองโจรสังหารได้
เฟิงปู้ชีพึมพำอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะหยิบป้ายพิเศษออกมา เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นว่า “โปรดรอสักครู่ได้หรือไม่? ข้าจะส่องข้อความถึงนายน้อยอีเสี้ยวก่อนเพราะเขาเป็นหัวหน้าผู้บัญชาการในครั้งนี้น่ะขอรับ”
“เอาสิ!”
เจียงอี้และหวงฝูเทาเทียนพยักหน้า ซือถูอ้าวมอบอำนาจทั้งหมดให้กับซือถูอีเสี้ยวและหากพวกเขาไม่รายงานเรื่องนี้ มันคงจะไม่ดี มือของเฟิงปู้ชีหมุนไปด้วยแก่นแท้พลังขณะที่เกิดแสงสีดำขึ้นบนป้ายนั้น รูปแบบอักขระไหลเวียนออกมาซึ่งมันเหมือนสมบัติเชื่อมดวงจิตนัก
เมื่อหวงฝูเทาเทียนเห็นว่าเจียงอี้อยากรู้มาก เขาก็เริ่มอธิบาย “นี่คือป้ายส่งข้อความชั้นยอด มันมีราคามากแต่ไม่มีทางซื้อมาได้ มีเพียงตระกูลถังของทวีปจักรพรรดิบูรพาเท่านั้นที่ผลิตมันได้ ซึ่งจะทำให้ส่งข้อความได้ในรัศมีกว่าล้านล้านกิโลเมตร!”
“ยอดเยี่ยมนัก!”
เจียงอี้พยักหน้าเงียบๆขณะที่ดวงตาของเฟิงปู้ชีเปิดขึ้นอย่างรวดเร็วและพยักหน้า “นายน้อยหวงฝู นายน้อยเจียง นายน้อยอีเสี้ยวกล่าวว่าท่านสามารถลงมือได้โดยไม่ต้องกลัวเลย ข้าจะส่งผู้อาวุโสขอบเขตเทียนจุนขั้นสูงสุดสามสิบคนให้ท่าน โปรดระวังตัวด้วย”
“เหอะเหอะ!”
หวงฝูเทาเทียนหัวเราะออกมาอย่างเยือกเย็น ขอบเขตเทียนจุนขั้นสูงสุดสามสิบคน? ไม่ว่าทักษะการหลบเลี่ยงของหน่วยสอดแนมเหล่านี้จะน่าทึ่งเพียงใด แต่พวกเขาก็คงไม่สามารถหนีไปไหนได้แม้ว่าพวกเขาจะมีปีกก็ตาม
…