เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven - บทที่ 829 นายน้อยเจียงอี้ล่ะ
สี่เดือนนั้นเป็นไปด้วยดีจริงๆ ซึ่งทำให้เฉียนว่านก้วนเป็นกังวลเล็กน้อย เขายังรู้สึกว่ามันไหลลื่นเกินไป
สมาคมการค้ามังกรโผบินกำลังดำเนินต่อไปได้ด้วยดี และได้รับผู้แปรพักตร์เข้ามาหลายสิบคน แม้ว่าเก้าตระกูลจักรพรรดิจะตื่นตระหนก แต่มันก็ไม่สามารถลบล้างพวกเขาทั้งหมดไปได้ สมาคมการค้าของตระกูลซือถูได้ครอบครองเผ่าเทพประทานทั้งหมดแล้ว แม้ว่าเฉียนว่านก้วนจะไปจากที่นี่ แต่ตระกูลซือถูก็จะยังแข็งแกร่งขึ้นอยู่ดี ส่วนซือถูอีเสี้ยวก็ทำได้ดีมาก หลังจากที่เรียนรู้จากเฉียนว่านก้วน เขาก็สามารถครอบครองธุรกิจการค้าของสมาคมการค้ามังกรโผบินและของตระกูลซือถูได้อย่างง่ายดาย
ในทางกลับกัน ตระกูลเหลย ตระกูลหนานกงและตระกูลลู่กลับเงียบสงัดมาก เพื่อต่อต้านพลังของตระกูลซือถู พวกเขาก็ร่วมมือเป็นพันธมิตรกันและตั้งสมาคมการค้าขึ้นด้วย แต่น่าเสียดายที่พวกเขาไม่มีผู้เชี่ยวชาญการค้าที่มีพรสวรรค์ มันจึงไม่มีการพัฒนามากนัก
ส่วนเรื่องซื้อคนของตระกูลหนานกงก็เป็นไปด้วยดีเช่นกัน หัวหน้าหน่วยลาดตระเวน, ผู้บัญชาการทหารและผู้ดูแลลานบ้านของหนานกงฉี่หลิงต่างก็ปฏิบัติตามคำสั่งของเฉียนว่านก้วนในตอนนี้ ผู้ดูแลบ้านนั้นติดหนี้ในสนามประลองก้อนโตและกลายเป็นทาสวิญญาณของมังกรวารีสีทอง ฉะนั้น เมื่อเฉียนว่านก้วนออกคำสั่ง พวกเขาจะนำแม่ของเจ๊ใหญ่กระพรวนกังวานออกมา
เฉียนว่านก้วนได้เลือกสถานที่จัดงานแต่งเป็นจัตุรัสเมืองเทพประทาน และยังมีอีกหนึ่งงานคืองานเลี้ยงรอบกองไฟที่ยอดเขานทีสวรรค์ ยอดเขานทีสวรรค์อยู่ทางเหนือของเมืองไปห้าสิบกิโลเมตรซึ่งเป็นที่ที่จักรพรรดิหนานกงขึ้นสู่ฟากฟ้า นายน้อยและคุณหนูหลายคนเลือกที่จะจัดงานที่นั่นเพื่อสวดขอความคุ้มครองจากจักรพรรดิหนานกง ซึ่งมันเป็นเรื่องปกติมาก
ทุกอย่างเป็นไปตามแผน คนทั้งสิบคนที่เฉียนว่านก้วนเกณฑ์มาจากทวีปจักรพรรดิบูรพาเองก็แอบเข้ามาในเมืองเทพประทานได้อย่างง่ายดาย เมื่อเฉียนว่านก้วนสั่งลงมา พวกเขาจะสร้างความโกลาหลในเมืองเพื่อที่พวกเขาจะได้ไปจากที่นี่ด้วยวิชาหลีกสวรรค์ได้อย่างง่ายดาย
เฟิ่งหลวนและเฉียนว่านก้วนตัดสินใจเลือกไปทางตะวันตกก่อนเพื่อหลอกล่อสิบสามตระกูลให้คิดว่าพวกเขาไปยังทวีปจักรพรรดิบูรพา หลังจากนั้น เจียงอี้ก็จะวกกลับมาและไปทางตะวันตกของเกาะแห่งบาปและไปถึงเกาะร้างในทะเลลึกไร้สิ้นสุด
เฉียนว่านก้วนขอให้คนของเขาสร้างเขตลวงตาที่ทรงพลังบนเกาะนั้น มันเป็นอาณาเขตของปีศาจทะเลในทะเลลึกไร้สิ้นสุดซึ่งเก้าตระกูลจักรพรรดิไม่กล้าโจมตีและยอดฝีมือของเกาะแห่งบาปเองก็ไม่เคยไปยังทะเลลึกไร้สิ้นสุดเช่นกัน ยังไงเสีย มันก็เป็นพันธมิตรของพวกเขา ดังนั้นเผ่าปีศาจจะไม่โจมตีมนุษย์โดยไม่เลือกปฏิบัติ
พวกเขาจะซ่อนตัวอยู่ในทะเลลึกไร้สิ้นสุดและค่อยๆวางแผน เฉียนว่านก้วนเองก็กำลังจะก่อตั้งสมาคมการค้าแบบลับๆเช่นกัน เขาต้องการสร้างกองกำลังที่ทรงพลังซึ่งมันจะค่อยๆล้มล้างผู้ปกครองทวีปจักรพรรดิบูรพา, หาทางทำลายล้างตระกูลเหลยและกลายเป็นเจ้าแห่งเกาะแห่งบาป!
แผนการทั้งหมดของพวกเขาถือว่าใช้ได้!
แต่ปัญหาเดียวคือเจียงอี้ไม่เคยปรากฏตัวอีกเลยหลังจากที่เขาเข้าสู่สันโดษ ไม่มีผู้ใดรู้ว่ากำลังการต่อสู้ของเขาพัฒนาขึ้นมากหรือไม่ และเมื่อพวกเขาต้องหนี เจียงอี้ก็จะเป็นเพียงผู้ที่กุมชะตาของพวกเขาไว้ หากความแข็งแกร่งของเจียงอี้ไม่ได้เพิ่มขึ้นนักและหากเขาถูกผู้อื่นสังหารตายระหว่างทาง ทุกๆคนก็จะตาย
เวลาค่อยๆผ่านไปช้าๆ สามเดือนผ่านไปเร็วมาก และเทศกาลเทพประทานก็กำลังใกล้เข้ามาแล้ว งานแต่งของเฉียนว่านก้วนก็จะจัดขึ้นหลังเทศกาลเทพประทานหนึ่งวัน แต่เจียงอี้ก็ยังไม่ออกจากสันโดษเลย และคนอื่นๆก็ไม่สามารถไปขัดเขาได้ด้วย
ทางด้านตระกูลซือถูเองก็กำลังวุ่นวายอยู่ พวกเขาวางแผนที่จะจัดงานแต่งงานที่ยิ่งใหญ่และเริ่มสร้างปราสาทใหม่ซึ่งใหญ่กว่าปราสาทของซือถูอีเสี้ยว เห็นได้ชัดว่าซือถูอ้าวให้ความสำคัญกับเฉียนว่านก้วนมากๆ
ตระกูลซือถูยังส่งผู้อาวุโสสิบคนไปคอยดูแลความปลอดภัยในงานยอดเขานทีสวรรค์และเพื่อปกป้องนายน้อยและคุณหนูในวันนั้นด้วย ยอดเขานทีสวรรค์อยู่ไม่ไกลจากเมืองเทพประทานนัก และสี่ตระกูลใหญ่เองก็ได้รับความคุ้มครองจากองครักษ์และจะจัดพิธีรำลึกในวันที่จักรพรรดิหนานกงขึ้นสู่ฟากฟ้าด้วย ซึ่งปกติแล้วจะไม่มีโจรที่ไหนกล้าเข้าใกล้ แต่อย่างไรก็ตาม นายน้อยและคุณหนูทั้งหมดที่อายุมากกว่าสิบแปดปีขึ้นไปจะปรากฏตัวในวันนั้น พวกเขาจึงต้องคอยระวัง ยิ่งตระกูลซือถูทุ่มเทในงานแต่งมากเท่าใด เฉียนว่านก้วนก็รู้สึกผิดมากขึ้นเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ในใจของเขา เจียงอี้เป็นคนที่สำคัญที่สุด หากเขาไม่สามารถต่อสู้เคียงข้างเจียงอี้ได้ เขาก็รู้สึกว่ามันไม่มีประโยชน์ที่จะทำอะไร เขาตัดสินใจที่จะติดตามเจียงอี้ในช่วงชีวิตของเขาและคิดว่าตัวเขาจะประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ได้ก็ต่อเมื่อเขาติดตามเจียงอี้ ถึงแม้ว่าเขาจะยังไม่รู้ว่าตัวเองคิดถูกหรือไม่ก็ตาม
เพื่อให้งานแต่งครั้งนี้น่าประทับใจและมีชีวิตชีวามากขึ้น ตระกูลซือถูได้นำสมบัติล้ำค่าของพวกเขาออกมามากมาย รวมถึงอีกเก้าตระกูลก็ทำเช่นเดียวกันตามคำเสนอของซือถูอ้าว พวกเขาจะจัดการประมูลรอบพิเศษขึ้นมา
ในเวลาเดียวกัน หน่วยสอดแนมของตระกูลซือถูทั้งหมดก็ออกไปขจัดสายลับของทวีปจักรพรรดิบูรพาเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่เกิดอะไรขึ้นในวันงานแต่ง ไม่เช่นนั้น หากงานแต่งถูกขัดขวางโดยหน่วยสอดแนมจากทวีปจักรพรรดิบูรพาแล้วล่ะก็ มันคงจะเสียบรรยากาศหมด
เมื่อเทศกาลเทพประทานใกล้เข้ามา เมืองเทพประทานก็ยุ่งวุ่นวายมากขึ้น เหล่านายน้อยและคุณหนูจากสิบสามตระกูลมาถึงเมืองเทพประทานแต่เนิ่นๆเพื่อรอเทศกาลเทพประทานและงานแต่งของเฉียนว่านก้วน
…
“เหลืออีกเพียงสองวันก็จะเป็นวันเทศกาลเทพประทานแล้ว ลูกพี่ ทำไมเจ้ายังไม่ออกมาอีกนะ?”
ภายในปราสาทเจียง เฉียนว่านก้วนกำลังเดินวนไปวนมาอยู่ในนั้นอย่างเป็นกังวล เฟิ่งหลวนและชิงหยีเองก็เป็นกังวลเช่นกัน หากไม่มีเจียงอี้ แผนการก็ไม่สามารถดำเนินไปได้ ไม่มีผู้ใดออกจากเมืองได้โดยไม่มีวิชาหลีกสวรรค์
ชิงหยีนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนที่จะพูดอย่างร้อนรน “ต้องการให้ข้าไปปลุกนายน้อยไหม?หากข้าโจมตีอาคมยับยั้ง เขาจะสัมผัสถึงมันได้”
“ไม่ได้!”
เฉียนว่านก้วนส่ายหัวและพูดว่า “แล้วถ้านายน้อยอยู่ในช่วงสำคัญที่กำลังหยั่งรู้ล่ะ? รอไปก่อนแล้วกัน ข้าบอกวันเวลากับลูกพี่ไปแล้ว เขารู้ดีว่าควรจะออกมาตอนไหน”
“เช่นนั้นก็ได้!”
เฟิ่งหลวนและชิงหยีพยักหน้า พวกเขาทั้งหมดรู้ว่าเจียงอี้ขาดรูปแบบเต๋าอีกเพียงรูปแบบเดียวก่อนที่จะหลอมรวมรูปแบบเต๋าระดับสูง พวกเขาแน่ใจว่าที่เขายังเข้าสู่สันโดษนั้นเป็นเหตุผลที่ดี หากเขาตระหนักถึงรูปแบบเต๋าไม่ได้ เขาก็คงจะออกจากสันโดษมาแล้ว
อย่างไรก็ตามแต่!
สองวันต่อมา เมื่อถึงวันงานเทศกาลเทพประทาน เจียงอี้ก็ยังเข้าสู่สันโดษ แม้แต่หวงฝูเทาเทียนเองก็ยังออกจากสันโดษแล้ว ส่วนซือถูอีเสี้ยวและซือถูอ้าวก็มาเยี่ยมเขา แต่เจียงอี้ยังคงอยู่ในราชวังจักรพรรดิ
เมื่อซือถูอีเสี้ยวและซือถูอ้าวรู้ว่าเขากำลังอยู่ในช่วงสำคัญของการฝึกฝน พวกเขาทั้งหมดก็แสดงความเข้าใจและไม่โทษเขาหากเขาไม่ไปงานแต่งในวันพรุ่งนี้ ท้ายที่สุดแล้ว การบ่มเพาะพลังก็เป็นสิ่งสำคัญที่สุด หากเขาถูกขัดจังหวะ มันจะเป็นเรื่องยากมากสำหรับเขาที่จะฝึกฝนมันในอนาคต
ยามราตรีกำลังใกล้เข้ามาและเฉียนว่านก้วนเห็นว่ามันยังไม่มีวี่แววว่าเจียงอี้จะออกมา เขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากไปที่จัตุรัสเมืองเทพประทานเพื่อถวายบรรณาการกับซือถูอ้าวและคนอื่นๆ
“ย๊าห์!”
เมื่อพวกเขาบินออกมาจากตำหนักซือถู เฉียนว่านก้วนก็เห็นความโกลาหลที่จัตุรัสของเมือง เขาเหลือบมองฝูงชนและบังเอิญเห็นมังกรทมิฬขนาดยักษ์ และหญิงงามผมสีเขียวกำลังขี่มังกรอยู่ องค์หญิงเชียนเชียนแห่งเผ่าพันธุ์ปีศาจมาอีกแล้ว?! ทำไมนางถึงไม่อยู่ในทะเลลึก? เหตุใดนางถึงมาในเวลาที่สำคัญเช่นนี้? หวังว่าคงจะไม่มีสิ่งใดผิดพลาดเพราะนาง!
เฉียนว่านก้วนระมัดระวังอยู่เงียบๆ แต่คำพูดขององค์หญิงเชียนเชียนก็ทำให้เขาสบายใจในทันที “เชียนเชียนเป็นตัวแทนของเผ่าปีศาจในทะเลลึกไร้สิ้นสุดเพื่อมากราบไหว้จักรพรรดิหนานกง และเชียนเชียนเองก็มาแสดงความยินดีกับพี่สาวอีเนี่ยนในงานแต่งของนางด้วย”
ครั้งก่อน ระหว่างที่องค์หญิงเชียนเชียนอยู่ที่เมืองเทพประทานหนึ่งเดือน นางใช้เวลาทั้งหมดของนางอยู่ในเรือนรับรองเล็กซือถูและมีสัมพันธ์ที่ดีกับซือถูอีเนี่ยน มันจึงเป็นเรื่องปกติที่นางจะจงใจมางานแต่งของซือถูอีเนี่ยน
เฉียนว่านก้วนโล่งใจและมาต้อนรับนางพร้อมกับซือถูอ้าวและคนอื่นๆ องค์หญิงเชียนเชียนทักทายทุกคนกลับ และเมื่อนางเห็นเฉียนว่านก้วน นางก็พูดขึ้นมาทันทีว่า “นายน้อยเฉียน เหตุใดนายน้อยเจียงถึงไม่อยู่ที่นี่กัน?”
เฉียนว่านก้วนตกตะลึง ซือถูอ้าว, เหลยถิงเวยและคนอื่นๆก็รู้สึกประหลาดใจเช่นกัน เหตุใดนางจึงเจาะจงถามเรื่องนี้? นางมีความรู้สึกบางอย่างต่อเจียงอี้และต้องการจะพาเขาไปเป็นสามีของนางที่ทะเลลึกไร้สิ้นสุดหรือ?
เฉียนว่านก้วนจึงตอบอย่างตรงไปตรงมาว่า “ลูกพี่ยังเข้าสู่สันโดษอยู่เลย”
“โอ้!”
องค์หญิงเชียนเชียนพยักหน้าเล็กน้อยขณะที่ยิ้มและพูดว่า “คราวก่อน ข้าได้ซื้อภาพวาดสวรรค์ไปซึ่งข้าชื่นชอบภาพนั้นมาก ข้าจึงอยากจะพบกับผู้วาด แต่เมื่อเขาเข้าสู่สันโดษอยู่ เอาไว้คราวหลังก็ได้”
ทั้งกลุ่มรู้สึกโล่งใจและบินลงไปพร้อมกับองค์หญิงเชียนเชียน และพิธีก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ รวมถึงงานเลี้ยงด้วย!
สมาคมการค้ามังกรโผบินกำลังดำเนินต่อไปได้ด้วยดี และได้รับผู้แปรพักตร์เข้ามาหลายสิบคน แม้ว่าเก้าตระกูลจักรพรรดิจะตื่นตระหนก แต่มันก็ไม่สามารถลบล้างพวกเขาทั้งหมดไปได้ สมาคมการค้าของตระกูลซือถูได้ครอบครองเผ่าเทพประทานทั้งหมดแล้ว แม้ว่าเฉียนว่านก้วนจะไปจากที่นี่ แต่ตระกูลซือถูก็จะยังแข็งแกร่งขึ้นอยู่ดี ส่วนซือถูอีเสี้ยวก็ทำได้ดีมาก หลังจากที่เรียนรู้จากเฉียนว่านก้วน เขาก็สามารถครอบครองธุรกิจการค้าของสมาคมการค้ามังกรโผบินและของตระกูลซือถูได้อย่างง่ายดาย
ในทางกลับกัน ตระกูลเหลย ตระกูลหนานกงและตระกูลลู่กลับเงียบสงัดมาก เพื่อต่อต้านพลังของตระกูลซือถู พวกเขาก็ร่วมมือเป็นพันธมิตรกันและตั้งสมาคมการค้าขึ้นด้วย แต่น่าเสียดายที่พวกเขาไม่มีผู้เชี่ยวชาญการค้าที่มีพรสวรรค์ มันจึงไม่มีการพัฒนามากนัก
ส่วนเรื่องซื้อคนของตระกูลหนานกงก็เป็นไปด้วยดีเช่นกัน หัวหน้าหน่วยลาดตระเวน, ผู้บัญชาการทหารและผู้ดูแลลานบ้านของหนานกงฉี่หลิงต่างก็ปฏิบัติตามคำสั่งของเฉียนว่านก้วนในตอนนี้ ผู้ดูแลบ้านนั้นติดหนี้ในสนามประลองก้อนโตและกลายเป็นทาสวิญญาณของมังกรวารีสีทอง ฉะนั้น เมื่อเฉียนว่านก้วนออกคำสั่ง พวกเขาจะนำแม่ของเจ๊ใหญ่กระพรวนกังวานออกมา
เฉียนว่านก้วนได้เลือกสถานที่จัดงานแต่งเป็นจัตุรัสเมืองเทพประทาน และยังมีอีกหนึ่งงานคืองานเลี้ยงรอบกองไฟที่ยอดเขานทีสวรรค์ ยอดเขานทีสวรรค์อยู่ทางเหนือของเมืองไปห้าสิบกิโลเมตรซึ่งเป็นที่ที่จักรพรรดิหนานกงขึ้นสู่ฟากฟ้า นายน้อยและคุณหนูหลายคนเลือกที่จะจัดงานที่นั่นเพื่อสวดขอความคุ้มครองจากจักรพรรดิหนานกง ซึ่งมันเป็นเรื่องปกติมาก
ทุกอย่างเป็นไปตามแผน คนทั้งสิบคนที่เฉียนว่านก้วนเกณฑ์มาจากทวีปจักรพรรดิบูรพาเองก็แอบเข้ามาในเมืองเทพประทานได้อย่างง่ายดาย เมื่อเฉียนว่านก้วนสั่งลงมา พวกเขาจะสร้างความโกลาหลในเมืองเพื่อที่พวกเขาจะได้ไปจากที่นี่ด้วยวิชาหลีกสวรรค์ได้อย่างง่ายดาย
เฟิ่งหลวนและเฉียนว่านก้วนตัดสินใจเลือกไปทางตะวันตกก่อนเพื่อหลอกล่อสิบสามตระกูลให้คิดว่าพวกเขาไปยังทวีปจักรพรรดิบูรพา หลังจากนั้น เจียงอี้ก็จะวกกลับมาและไปทางตะวันตกของเกาะแห่งบาปและไปถึงเกาะร้างในทะเลลึกไร้สิ้นสุด
เฉียนว่านก้วนขอให้คนของเขาสร้างเขตลวงตาที่ทรงพลังบนเกาะนั้น มันเป็นอาณาเขตของปีศาจทะเลในทะเลลึกไร้สิ้นสุดซึ่งเก้าตระกูลจักรพรรดิไม่กล้าโจมตีและยอดฝีมือของเกาะแห่งบาปเองก็ไม่เคยไปยังทะเลลึกไร้สิ้นสุดเช่นกัน ยังไงเสีย มันก็เป็นพันธมิตรของพวกเขา ดังนั้นเผ่าปีศาจจะไม่โจมตีมนุษย์โดยไม่เลือกปฏิบัติ
พวกเขาจะซ่อนตัวอยู่ในทะเลลึกไร้สิ้นสุดและค่อยๆวางแผน เฉียนว่านก้วนเองก็กำลังจะก่อตั้งสมาคมการค้าแบบลับๆเช่นกัน เขาต้องการสร้างกองกำลังที่ทรงพลังซึ่งมันจะค่อยๆล้มล้างผู้ปกครองทวีปจักรพรรดิบูรพา, หาทางทำลายล้างตระกูลเหลยและกลายเป็นเจ้าแห่งเกาะแห่งบาป!
แผนการทั้งหมดของพวกเขาถือว่าใช้ได้!
แต่ปัญหาเดียวคือเจียงอี้ไม่เคยปรากฏตัวอีกเลยหลังจากที่เขาเข้าสู่สันโดษ ไม่มีผู้ใดรู้ว่ากำลังการต่อสู้ของเขาพัฒนาขึ้นมากหรือไม่ และเมื่อพวกเขาต้องหนี เจียงอี้ก็จะเป็นเพียงผู้ที่กุมชะตาของพวกเขาไว้ หากความแข็งแกร่งของเจียงอี้ไม่ได้เพิ่มขึ้นนักและหากเขาถูกผู้อื่นสังหารตายระหว่างทาง ทุกๆคนก็จะตาย
เวลาค่อยๆผ่านไปช้าๆ สามเดือนผ่านไปเร็วมาก และเทศกาลเทพประทานก็กำลังใกล้เข้ามาแล้ว งานแต่งของเฉียนว่านก้วนก็จะจัดขึ้นหลังเทศกาลเทพประทานหนึ่งวัน แต่เจียงอี้ก็ยังไม่ออกจากสันโดษเลย และคนอื่นๆก็ไม่สามารถไปขัดเขาได้ด้วย
ทางด้านตระกูลซือถูเองก็กำลังวุ่นวายอยู่ พวกเขาวางแผนที่จะจัดงานแต่งงานที่ยิ่งใหญ่และเริ่มสร้างปราสาทใหม่ซึ่งใหญ่กว่าปราสาทของซือถูอีเสี้ยว เห็นได้ชัดว่าซือถูอ้าวให้ความสำคัญกับเฉียนว่านก้วนมากๆ
ตระกูลซือถูยังส่งผู้อาวุโสสิบคนไปคอยดูแลความปลอดภัยในงานยอดเขานทีสวรรค์และเพื่อปกป้องนายน้อยและคุณหนูในวันนั้นด้วย ยอดเขานทีสวรรค์อยู่ไม่ไกลจากเมืองเทพประทานนัก และสี่ตระกูลใหญ่เองก็ได้รับความคุ้มครองจากองครักษ์และจะจัดพิธีรำลึกในวันที่จักรพรรดิหนานกงขึ้นสู่ฟากฟ้าด้วย ซึ่งปกติแล้วจะไม่มีโจรที่ไหนกล้าเข้าใกล้ แต่อย่างไรก็ตาม นายน้อยและคุณหนูทั้งหมดที่อายุมากกว่าสิบแปดปีขึ้นไปจะปรากฏตัวในวันนั้น พวกเขาจึงต้องคอยระวัง ยิ่งตระกูลซือถูทุ่มเทในงานแต่งมากเท่าใด เฉียนว่านก้วนก็รู้สึกผิดมากขึ้นเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ในใจของเขา เจียงอี้เป็นคนที่สำคัญที่สุด หากเขาไม่สามารถต่อสู้เคียงข้างเจียงอี้ได้ เขาก็รู้สึกว่ามันไม่มีประโยชน์ที่จะทำอะไร เขาตัดสินใจที่จะติดตามเจียงอี้ในช่วงชีวิตของเขาและคิดว่าตัวเขาจะประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ได้ก็ต่อเมื่อเขาติดตามเจียงอี้ ถึงแม้ว่าเขาจะยังไม่รู้ว่าตัวเองคิดถูกหรือไม่ก็ตาม
เพื่อให้งานแต่งครั้งนี้น่าประทับใจและมีชีวิตชีวามากขึ้น ตระกูลซือถูได้นำสมบัติล้ำค่าของพวกเขาออกมามากมาย รวมถึงอีกเก้าตระกูลก็ทำเช่นเดียวกันตามคำเสนอของซือถูอ้าว พวกเขาจะจัดการประมูลรอบพิเศษขึ้นมา
ในเวลาเดียวกัน หน่วยสอดแนมของตระกูลซือถูทั้งหมดก็ออกไปขจัดสายลับของทวีปจักรพรรดิบูรพาเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่เกิดอะไรขึ้นในวันงานแต่ง ไม่เช่นนั้น หากงานแต่งถูกขัดขวางโดยหน่วยสอดแนมจากทวีปจักรพรรดิบูรพาแล้วล่ะก็ มันคงจะเสียบรรยากาศหมด
เมื่อเทศกาลเทพประทานใกล้เข้ามา เมืองเทพประทานก็ยุ่งวุ่นวายมากขึ้น เหล่านายน้อยและคุณหนูจากสิบสามตระกูลมาถึงเมืองเทพประทานแต่เนิ่นๆเพื่อรอเทศกาลเทพประทานและงานแต่งของเฉียนว่านก้วน
…
“เหลืออีกเพียงสองวันก็จะเป็นวันเทศกาลเทพประทานแล้ว ลูกพี่ ทำไมเจ้ายังไม่ออกมาอีกนะ?”
ภายในปราสาทเจียง เฉียนว่านก้วนกำลังเดินวนไปวนมาอยู่ในนั้นอย่างเป็นกังวล เฟิ่งหลวนและชิงหยีเองก็เป็นกังวลเช่นกัน หากไม่มีเจียงอี้ แผนการก็ไม่สามารถดำเนินไปได้ ไม่มีผู้ใดออกจากเมืองได้โดยไม่มีวิชาหลีกสวรรค์
ชิงหยีนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนที่จะพูดอย่างร้อนรน “ต้องการให้ข้าไปปลุกนายน้อยไหม?หากข้าโจมตีอาคมยับยั้ง เขาจะสัมผัสถึงมันได้”
“ไม่ได้!”
เฉียนว่านก้วนส่ายหัวและพูดว่า “แล้วถ้านายน้อยอยู่ในช่วงสำคัญที่กำลังหยั่งรู้ล่ะ? รอไปก่อนแล้วกัน ข้าบอกวันเวลากับลูกพี่ไปแล้ว เขารู้ดีว่าควรจะออกมาตอนไหน”
“เช่นนั้นก็ได้!”
เฟิ่งหลวนและชิงหยีพยักหน้า พวกเขาทั้งหมดรู้ว่าเจียงอี้ขาดรูปแบบเต๋าอีกเพียงรูปแบบเดียวก่อนที่จะหลอมรวมรูปแบบเต๋าระดับสูง พวกเขาแน่ใจว่าที่เขายังเข้าสู่สันโดษนั้นเป็นเหตุผลที่ดี หากเขาตระหนักถึงรูปแบบเต๋าไม่ได้ เขาก็คงจะออกจากสันโดษมาแล้ว
อย่างไรก็ตามแต่!
สองวันต่อมา เมื่อถึงวันงานเทศกาลเทพประทาน เจียงอี้ก็ยังเข้าสู่สันโดษ แม้แต่หวงฝูเทาเทียนเองก็ยังออกจากสันโดษแล้ว ส่วนซือถูอีเสี้ยวและซือถูอ้าวก็มาเยี่ยมเขา แต่เจียงอี้ยังคงอยู่ในราชวังจักรพรรดิ
เมื่อซือถูอีเสี้ยวและซือถูอ้าวรู้ว่าเขากำลังอยู่ในช่วงสำคัญของการฝึกฝน พวกเขาทั้งหมดก็แสดงความเข้าใจและไม่โทษเขาหากเขาไม่ไปงานแต่งในวันพรุ่งนี้ ท้ายที่สุดแล้ว การบ่มเพาะพลังก็เป็นสิ่งสำคัญที่สุด หากเขาถูกขัดจังหวะ มันจะเป็นเรื่องยากมากสำหรับเขาที่จะฝึกฝนมันในอนาคต
ยามราตรีกำลังใกล้เข้ามาและเฉียนว่านก้วนเห็นว่ามันยังไม่มีวี่แววว่าเจียงอี้จะออกมา เขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากไปที่จัตุรัสเมืองเทพประทานเพื่อถวายบรรณาการกับซือถูอ้าวและคนอื่นๆ
“ย๊าห์!”
เมื่อพวกเขาบินออกมาจากตำหนักซือถู เฉียนว่านก้วนก็เห็นความโกลาหลที่จัตุรัสของเมือง เขาเหลือบมองฝูงชนและบังเอิญเห็นมังกรทมิฬขนาดยักษ์ และหญิงงามผมสีเขียวกำลังขี่มังกรอยู่ องค์หญิงเชียนเชียนแห่งเผ่าพันธุ์ปีศาจมาอีกแล้ว?! ทำไมนางถึงไม่อยู่ในทะเลลึก? เหตุใดนางถึงมาในเวลาที่สำคัญเช่นนี้? หวังว่าคงจะไม่มีสิ่งใดผิดพลาดเพราะนาง!
เฉียนว่านก้วนระมัดระวังอยู่เงียบๆ แต่คำพูดขององค์หญิงเชียนเชียนก็ทำให้เขาสบายใจในทันที “เชียนเชียนเป็นตัวแทนของเผ่าปีศาจในทะเลลึกไร้สิ้นสุดเพื่อมากราบไหว้จักรพรรดิหนานกง และเชียนเชียนเองก็มาแสดงความยินดีกับพี่สาวอีเนี่ยนในงานแต่งของนางด้วย”
ครั้งก่อน ระหว่างที่องค์หญิงเชียนเชียนอยู่ที่เมืองเทพประทานหนึ่งเดือน นางใช้เวลาทั้งหมดของนางอยู่ในเรือนรับรองเล็กซือถูและมีสัมพันธ์ที่ดีกับซือถูอีเนี่ยน มันจึงเป็นเรื่องปกติที่นางจะจงใจมางานแต่งของซือถูอีเนี่ยน
เฉียนว่านก้วนโล่งใจและมาต้อนรับนางพร้อมกับซือถูอ้าวและคนอื่นๆ องค์หญิงเชียนเชียนทักทายทุกคนกลับ และเมื่อนางเห็นเฉียนว่านก้วน นางก็พูดขึ้นมาทันทีว่า “นายน้อยเฉียน เหตุใดนายน้อยเจียงถึงไม่อยู่ที่นี่กัน?”
เฉียนว่านก้วนตกตะลึง ซือถูอ้าว, เหลยถิงเวยและคนอื่นๆก็รู้สึกประหลาดใจเช่นกัน เหตุใดนางจึงเจาะจงถามเรื่องนี้? นางมีความรู้สึกบางอย่างต่อเจียงอี้และต้องการจะพาเขาไปเป็นสามีของนางที่ทะเลลึกไร้สิ้นสุดหรือ?
เฉียนว่านก้วนจึงตอบอย่างตรงไปตรงมาว่า “ลูกพี่ยังเข้าสู่สันโดษอยู่เลย”
“โอ้!”
องค์หญิงเชียนเชียนพยักหน้าเล็กน้อยขณะที่ยิ้มและพูดว่า “คราวก่อน ข้าได้ซื้อภาพวาดสวรรค์ไปซึ่งข้าชื่นชอบภาพนั้นมาก ข้าจึงอยากจะพบกับผู้วาด แต่เมื่อเขาเข้าสู่สันโดษอยู่ เอาไว้คราวหลังก็ได้”
ทั้งกลุ่มรู้สึกโล่งใจและบินลงไปพร้อมกับองค์หญิงเชียนเชียน และพิธีก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ รวมถึงงานเลี้ยงด้วย!