เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven - บทที่ 843 ชัยสุดท้าย
ปัง!
ในปราสาทหวู่ของเมืองจักรพรรดิอุดร…มีเสียงดังก้องอยู่ที่โถงแห่งบาป หวู่นี่กระแทกโต๊ะด้วยความเดือดดาล ทำให้โต๊ะหยกหลายเป็นฝุ่นผงไป ผู้บัญชาการข้างๆทุกคนมีสีหน้าเปลี่ยนไปขณะที่พวกเขาคุกเข่าลงและรู้สึกหวาดกลัว “นายน้อยนี่ ได้โปรดใจเย็นก่อนขอรับ เราผิดไปแล้วขอรับ อภัยให้เราด้วยขอรับ”
“พวกโง่!”
หวู่นี่หันไปมองคนเหล่านั้นก่อนที่จะมองไปทางจีทิงยวี่ที่นั่งอยู่ที่เดิมอย่างสงบ เขาจ้องไปที่ผู้บัญชาการและพูดว่า “เจ้าไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไมข้าถึงโกรธ แล้วเจ้าจะมาขอให้ข้าอภัย? ตระกูลหวู่เลี้ยงคนไร้ประโยชน์หมด พวกเจ้ามันไร้ค่าสิ้นดี”
“ทุกคนลุกขึ้น!” จีทิงยวี่พูดอย่างเฉยเมย “นายน้อยไม่ได้เจตนาตำหนิพวกเจ้าทุกคน เขาโกรธเพราะโชคของเจียงอี้นั้นดีเกินไปในครั้งนี้ เอาล่ะ พวกเจ้าออกไปก่อนเถอะ..”
ผู้บัญชาการรีบออกไปก่อนที่หวู่นี่จะทำร้ายพวกเขา การควบคุมอารมณ์ของนายน้อยนี่อาจจะดีขึ้นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา แต่เมื่อก่อน ทุกคนมักถูกเขาทำร้ายอยู่บ่อยครั้ง
“ใช่แล้ว!”
หลังจากที่ทุกคนออกไป หวู่นี่ก็หันกลับมาและถอนหายใจก่อนจะพูดว่า “โชคของเด็กนี่ช่างท้าทายสวรรค์นัก ทิงยวี่ เจ้าพยายามคิดแผนการที่แยบยลนี้ขึ้นมา แต่มันถูกจักรพรรดิทะเลลึกไร้สิ้นสุดทำลายลงในวินาทีสุดท้าย! จักรพรรดิผู้นี้หนีออกมาจากราชวังจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ลี้ลับได้เพราะเจียงอี้? ระหว่างการล่าสมบัติตอนนั้น ตาแก่นั่นต้องโกงให้เจียงอี้แน่เลยใช่ไหม? ครั้งนี้เราล้มเหลวไม่เป้นท่าเลยและเราจะไม่มีโอกาสสังหารเจียงอี้อีกแล้ว ทั้งสิบสามตระกูลไม่กล้าจัดการกับเจียงอี้และพวกเขาจะหาทางทุกวิถีทางเพื่อปกป้องเจียงอี้เพราะกลัวว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับเขา เฮ้อ…แผนการของเทพเจ้ามาทดแทนแผนเราไปแล้ว”
ใช่แล้ว!
แผนการทั้งหมดนี้ถูกวางโดยจีทิงยวี่ขณะที่หวู่นี่ก็คอยช่วยอย่างเต็มที่ เขาเชื่อมั่นในปัญญาของจีทิงยวี่อย่างลึกซึ้งและคาดว่าครั้งนี้เจียงอี้ต้องพินาศไปอย่างแน่นอน แต่เขาไม่ได้คาดว่าจะล้มเหลวในวินาทีสุดท้าย
จีทิงยวี่เป็นคนให้คนไปบอกข้อมูลแก่เหลยฉีเหยียนเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างเจ๊ใหญ่กระพรวนกังวานกับเจียงอี้ ข้อมูลของเจียงอี้ที่ลักลอบขนหินอัสนีเองก็มาจากนางเช่นกัน พ่อค้าของทวีปจักรพรรดิบูรพาที่เจรจากับเฉียนว่านก้วนนั้น แท้จริงแล้วเป็นหมากของตระกูลเจี้ยน ทุกสิ่งที่เจียงอี้ทำนั้นถูกเก้าตระกูลจักรพรรดิติดตามอย่างใกล้ชิด
แท้จริงแล้วประธานหลิวเองก็เป็นสมาชิกตระกูลหวู่ พื้นเพของประธานหลิวนั้นถูกข่มเหงโดยตระกูลเย่ แต่ที่กลุ่มสมาชิกตระกูลพวกเขาถูกตระกูลเย่สังหารนั้นล้วนแต่ปลอมแปลงทั้งสิ้น วัตถุประสงค์ที่แท้จริงของพวกเขาคือการได้รับความไว้วางใจจากเฉียนว่านก้วน
ด้วยการมีจีทิงยวี่ช่วยเหลือ ประธานหลิวได้มีส่วนร่วมอย่างมากและสร้างความสัมพันธ์ที่เปิดเผยและซ่อนเร้นมากมาย และเฉียนว่านก้วนก็ค่อยๆยกย่องเขาและให้เขาได้ตำแหน่งสูงๆ เฉียนว่านก้วนพยายามทดสอบประธานหลิวอยู่ไม่กี่ครั้ง แต่ด้วยความช่วยเหลือจากจีทิงยวี่ ทุกอย่างก็ถูกปกปิดไปหมด เก้าตระกูลจักรพรรดินั้นทรงพลังเกินไปและเฉียนว่านก้วนจะเอาชนะจีทิงยวี่ได้อย่างไรในเมื่อเขาไม่มีรากฐานใดๆอยู่ที่ทวีปจักรพรรดิบูรพาเลย?
และในตอนที่คนที่เป็นเฉียนว่านก้วนคนที่สองคือตัวหมากที่ซ่อนอยู่ของจีทิงยวี่ ทุกอย่างก็ง่ายขึ้น จากนั้นจีทิงยวี่ก็จัดสายลับขั้นต่ำหลายพันคนเพื่อแทรกซึมเข้าไปอย่างง่ายดาย มันง่ายเกินไปที่จะคิดว่าเฉียนว่านก้วนและเจียงอี้คิดจะทำอะไรตราบใดที่พวกเขาตรวจทาสวิญญาณสิบคนที่เฉียนว่านก้วนเลือกมา
ใช้คนอื่นทำเรื่องสกปรก!
วิธีการที่จีทิงยวี่ใช้นั้นง่ายมาก ยิ่งเฉียนว่านก้วนทำได้ดีในตระกูลซือถู สามตระกูลก็ยิ่งกังวลมากขึ้นซึ่งทำให้เจียงอี้และเฉียนว่านก้วนเป็นอันตรายมากขึ้น
หากทั้งสามตระกูลไม่อยากให้ตระกูลซือถูขยายตัวอีก พวกเขาต้องหาทางสังหารเฉียนว่านก้วนและเจียงอี้ ความจริงที่เจียงอี้ลักลอบขนหินอัสนีและสมรู้ร่วมคิดกับศัตรูนั้นเป็นข้อแก้ตัวที่ยอดเยี่ยมสำหรับทั้งสามตระกูล ทั้งสามตระกูลไม่ได้สนใจว่าเหตุการณ์นั้นจะเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ในวันแต่งงานของว่านก้วน เมื่อเขาส่งคนไปที่ตระกูลหนานกง ทั้งสามตระกูลจึงตัดสินใจที่จะลงมือ
ผลที่ได้คือหวู่นี่และจีทิงยวี่พอใจมาก การเติบโตของเจียงอี้นั้นทำให้สองคนประหลาดใจเช่นกัน แต่ก็น่าเสียดายที่เอ๋าหลูปรากฏตัวขึ้นมาและทำลายแผนการอันไร้ที่ติของพวกเขาไปหมด
นั่นเป็นเหตุที่หวู่นี่โกรธมากเมื่อเขาได้รับรายงานการต่อสู้โดยละเอียด แผนการที่พวกเขาลำบากคิดกันมาและกำลังจะสำเร็จซึ่งมันจะทำให้ชื่อของหวู่นี่เลื่องลือขึ้นในเก้าตระกูลจักรพรรดิกลับต้องเปลี่ยนเป็นความล้มเหลวในนาทีสุดท้าย
“นายน้อยอย่าโกรธไป!”
จีทิงยวี่เผยรอยยิ้มที่ไม่แยแสขณะที่สีหน้าของนางยังคงสงบแม้หลังจากอ่านรายงานการต่อสู้ ดูเหมือนนางจะไม่เคยโกรธเลย
นางยืนขึ้นและรินชาให้หวู่นี่และพูดอย่างนุ่มนวลว่า “เราอาจจะล้มเหลวในครั้งนี้ แต่ตระกูลจะสังเกตเห็นท่านอย่างแน่นอน ท้ายที่สุดแล้วมันก็ยังเกิดความโกลาหลครั้งใหญ่ขึ้น และยอดฝีมือกึ่งเทพของสี่ตระกูลเองก็ถูกบังคับให้ออกหน้าขณะที่ทะเลลึกไร้สิ้นสุดเองก็นำเจ้าอสูรมามากมาย ทั้งสามตระกูลกับตระกูลซือถูก็ได้สร้างระยะห่างต่อกันขณะที่ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนกว่าพันคนจากสามตระกูลถูกสังหารไป อย่างน้อยก็มีผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนขั้นสูงสุดตกตายไปใช่ไหม?”
“นอกจากนี้ จักรพรรดิอสูรแห่งทะเลลึกไร้สิ้นสุดเองก็เอาแต่ใจมาด ซึ่งมันจะทำให้จิตใจของคนจากเผ่าเทพประทานแตกแยกออกไป ทั้งหมดนี้เป็นผลงานชิ้นใหญ่ ท่านเพียงแค่รอ โถงผู้อาวุโสจะเรียกหาท่านในไม่ช้า ต่อไปท่านต้องระวังการแสดงออกของตัวเอง ท่านไม่ได้กำลังพยายามจัดการกับเจียงอี้แต่ก่อความขัดแย้งในเกาะแห่งบาปขึ้น คราวนี้มันไม่มีสงครามและเราใช้ทรพยากรเพียงเล็กน้อยเพื่อทำให้เกิดความวุ่นวายครั้งใหญ่ นายน้อยจะต้องอยู่ในสายตาของเหล่าผู้อาวุโสแน่นอนเจ้าค่ะ”
“เอ่อ…”
หวู่นี่ไม่ได้คิดอย่างลึกซึ้ง แต่เขาก็ถูกจีทิงยวี่เตือนมาซึ่งมันทำให้ตาของเขาเป็นประกาย หลังจากที่ไตร่ตรองอย่างรอบคอบแล้ว เรื่องนี้ก็ดูดีไม่น้อยใช่ไหม?
คราวนี้เขาไม่ได้ใช้ทรัพยากรของตระกูลมากนักและยังปลูกหมากใหม่เข้าไปแทนได้ด้วย นอกจากนั้น เขายังทำลายสิบสามตระกูลจนเกือบจะเกิดความขัดแย้งกันเองได้ด้วย ตระกูลซือถูและทั้งสามตระกูลนั้นไม่ได้เป็นพันธมิตรกันขณะที่พันธมิตรระหว่างทะเลลึกไร้สิ้นสุดกับเผ่าเทพประทานก็เริ่มร้าวฉาน ทั้งหมดนี้เป็นเพราะผลงานของเขา!
“ไม่ นี่มันไม่ถูก!”
หวู่นี่หันไปมองจีทิงยวี่ทันทีและพูดว่า “นี่ไม่ใช่ผลงานของข้า ข้าไม่ได้ทำอะไรเลยเพราะเจ้าวางแผนทั้งหมด ทิงยวี่ หากตระกูลเรียกข้า เจ้าก็ควรจะไปกับข้าใช่ไหมล่ะ?”
“ไม่เจ้าค่ะ!”
จีทิงยวี่หัวเราะและส่ายหัว “หากไม่ได้รับการสนับสนุนจากนายน้อย ทิงยวี่ก็คงทำอะไรไม่ได้ ทุกอย่างต้องเป็นการพิจารณาจากนายน้อย หากพวกเจ้าพิจารณาทิงยวี่ มันจะมีประโยชน์อันใด? อย่างมากข้าก็จะเป็นผู้อาวุโสของตระกูล แต่นายน้อยนั้นต่างออกไป นายน้อยสามารถมีส่วนร่วมต่อและกลายเป็นประมุขน้อย, กลายเป็นประมุขจักรพรรดิอุดรได้! นายน้อยต้องจำเอาไว้นะเจ้าคะ…ยิ่งท่านได้อำนาจมากเท่าไหร่ ทิงยวี่ก็ช่วยได้มากเท่านั้น เป้าหมายสูงสุดของทิงยวี่คือการช่วยให้นายน้อยกลายเป็นจักรพรรดิลี้ลับรุ่นต่อไปและพิชิตแดนเทียนชิงให้ได้”
“ก็ได้!”
หวู่นี่ฮึกเหิมขึ้นมาหลังจากที่ได้ฟังจีทิงยวี่ เขามองนางด้วยดวงตาที่เร่าร้อนและพูดว่า “ข้าทำอะไรเพื่อเจ้าไม่ได้เลยหรือ ทิงยวี่? ทิงยวี่ ในวันที่ข้าได้เป็นประมุขน้อย ข้าจะแต่งกับเจ้าในฐานะภรรยาคนแรกของข้า”
จีทิงยวี่ยิ้มราวกับดอกไม้บาน นางพยักหน้าเบาๆและพูดว่า “ทิงยวี่จะตั้งตารอเจ้าค่ะ”
อึก!
หวู่นี่หยิบชาบนโต๊ะขึ้นมาดื่มก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงชั่วร้าย “เจียงอี้ ครั้งนี้เจ้าโชคดีไป ข้าหวังว่าเจ้าจะไม่ก้าวออกมาจากเผ่าเทพประทานตลอดชีวิตนี้ ไม่เช่นนั้น ข้าจะฆ่าเจ้าอย่างแน่นอน”
ตึก ตึก ตึก!
เสียงฝีเท้าดังขึ้นจากด้านนอก ขณะที่เสียงของชายคนหนึ่งดังขึ้นมาทันที “นายน้อย โถงผู้อาวุโสเรียกตัวท่านขอรับ!”
“มาแล้ว!”
หวู่นี่และจีทิงยวี่มองหน้ากันขณะที่เขาเผยรอยยิ้มก่อนที่เขาจะจัดผ้าผ่อนและเดินออกไป
จีทิงยวี่ยืนขึ้นเพื่อส่งเขา และหลังจากที่หวู่นี่ออกไป นางก็นั่งลงอย่างสบายๆและพลิกดูข้อมูลก่อนจะพึมพำด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ไม่ออกมาจากเผ่าเทพประทานชั่วชีวิต? เหอะเหอะ อีกไม่นานเจียงอี้คงจะแอบมายังทวีปจักรพรรดิบูรพาใช่ไหม? ซูรั่วเสวี่ยเป็นหญิงที่เจ้ารักที่สุดไม่ใช่หรือ? เจียงอี้ การเผชิญหน้าของเรามันแค่เริ่มต้นเท่านั้น ผู้กุมชัยสุดท้ายจะถูกกำหนดโดยผู้ที่มีวิธีการที่เหนือกว่า…”
ในปราสาทหวู่ของเมืองจักรพรรดิอุดร…มีเสียงดังก้องอยู่ที่โถงแห่งบาป หวู่นี่กระแทกโต๊ะด้วยความเดือดดาล ทำให้โต๊ะหยกหลายเป็นฝุ่นผงไป ผู้บัญชาการข้างๆทุกคนมีสีหน้าเปลี่ยนไปขณะที่พวกเขาคุกเข่าลงและรู้สึกหวาดกลัว “นายน้อยนี่ ได้โปรดใจเย็นก่อนขอรับ เราผิดไปแล้วขอรับ อภัยให้เราด้วยขอรับ”
“พวกโง่!”
หวู่นี่หันไปมองคนเหล่านั้นก่อนที่จะมองไปทางจีทิงยวี่ที่นั่งอยู่ที่เดิมอย่างสงบ เขาจ้องไปที่ผู้บัญชาการและพูดว่า “เจ้าไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไมข้าถึงโกรธ แล้วเจ้าจะมาขอให้ข้าอภัย? ตระกูลหวู่เลี้ยงคนไร้ประโยชน์หมด พวกเจ้ามันไร้ค่าสิ้นดี”
“ทุกคนลุกขึ้น!” จีทิงยวี่พูดอย่างเฉยเมย “นายน้อยไม่ได้เจตนาตำหนิพวกเจ้าทุกคน เขาโกรธเพราะโชคของเจียงอี้นั้นดีเกินไปในครั้งนี้ เอาล่ะ พวกเจ้าออกไปก่อนเถอะ..”
ผู้บัญชาการรีบออกไปก่อนที่หวู่นี่จะทำร้ายพวกเขา การควบคุมอารมณ์ของนายน้อยนี่อาจจะดีขึ้นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา แต่เมื่อก่อน ทุกคนมักถูกเขาทำร้ายอยู่บ่อยครั้ง
“ใช่แล้ว!”
หลังจากที่ทุกคนออกไป หวู่นี่ก็หันกลับมาและถอนหายใจก่อนจะพูดว่า “โชคของเด็กนี่ช่างท้าทายสวรรค์นัก ทิงยวี่ เจ้าพยายามคิดแผนการที่แยบยลนี้ขึ้นมา แต่มันถูกจักรพรรดิทะเลลึกไร้สิ้นสุดทำลายลงในวินาทีสุดท้าย! จักรพรรดิผู้นี้หนีออกมาจากราชวังจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ลี้ลับได้เพราะเจียงอี้? ระหว่างการล่าสมบัติตอนนั้น ตาแก่นั่นต้องโกงให้เจียงอี้แน่เลยใช่ไหม? ครั้งนี้เราล้มเหลวไม่เป้นท่าเลยและเราจะไม่มีโอกาสสังหารเจียงอี้อีกแล้ว ทั้งสิบสามตระกูลไม่กล้าจัดการกับเจียงอี้และพวกเขาจะหาทางทุกวิถีทางเพื่อปกป้องเจียงอี้เพราะกลัวว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับเขา เฮ้อ…แผนการของเทพเจ้ามาทดแทนแผนเราไปแล้ว”
ใช่แล้ว!
แผนการทั้งหมดนี้ถูกวางโดยจีทิงยวี่ขณะที่หวู่นี่ก็คอยช่วยอย่างเต็มที่ เขาเชื่อมั่นในปัญญาของจีทิงยวี่อย่างลึกซึ้งและคาดว่าครั้งนี้เจียงอี้ต้องพินาศไปอย่างแน่นอน แต่เขาไม่ได้คาดว่าจะล้มเหลวในวินาทีสุดท้าย
จีทิงยวี่เป็นคนให้คนไปบอกข้อมูลแก่เหลยฉีเหยียนเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างเจ๊ใหญ่กระพรวนกังวานกับเจียงอี้ ข้อมูลของเจียงอี้ที่ลักลอบขนหินอัสนีเองก็มาจากนางเช่นกัน พ่อค้าของทวีปจักรพรรดิบูรพาที่เจรจากับเฉียนว่านก้วนนั้น แท้จริงแล้วเป็นหมากของตระกูลเจี้ยน ทุกสิ่งที่เจียงอี้ทำนั้นถูกเก้าตระกูลจักรพรรดิติดตามอย่างใกล้ชิด
แท้จริงแล้วประธานหลิวเองก็เป็นสมาชิกตระกูลหวู่ พื้นเพของประธานหลิวนั้นถูกข่มเหงโดยตระกูลเย่ แต่ที่กลุ่มสมาชิกตระกูลพวกเขาถูกตระกูลเย่สังหารนั้นล้วนแต่ปลอมแปลงทั้งสิ้น วัตถุประสงค์ที่แท้จริงของพวกเขาคือการได้รับความไว้วางใจจากเฉียนว่านก้วน
ด้วยการมีจีทิงยวี่ช่วยเหลือ ประธานหลิวได้มีส่วนร่วมอย่างมากและสร้างความสัมพันธ์ที่เปิดเผยและซ่อนเร้นมากมาย และเฉียนว่านก้วนก็ค่อยๆยกย่องเขาและให้เขาได้ตำแหน่งสูงๆ เฉียนว่านก้วนพยายามทดสอบประธานหลิวอยู่ไม่กี่ครั้ง แต่ด้วยความช่วยเหลือจากจีทิงยวี่ ทุกอย่างก็ถูกปกปิดไปหมด เก้าตระกูลจักรพรรดินั้นทรงพลังเกินไปและเฉียนว่านก้วนจะเอาชนะจีทิงยวี่ได้อย่างไรในเมื่อเขาไม่มีรากฐานใดๆอยู่ที่ทวีปจักรพรรดิบูรพาเลย?
และในตอนที่คนที่เป็นเฉียนว่านก้วนคนที่สองคือตัวหมากที่ซ่อนอยู่ของจีทิงยวี่ ทุกอย่างก็ง่ายขึ้น จากนั้นจีทิงยวี่ก็จัดสายลับขั้นต่ำหลายพันคนเพื่อแทรกซึมเข้าไปอย่างง่ายดาย มันง่ายเกินไปที่จะคิดว่าเฉียนว่านก้วนและเจียงอี้คิดจะทำอะไรตราบใดที่พวกเขาตรวจทาสวิญญาณสิบคนที่เฉียนว่านก้วนเลือกมา
ใช้คนอื่นทำเรื่องสกปรก!
วิธีการที่จีทิงยวี่ใช้นั้นง่ายมาก ยิ่งเฉียนว่านก้วนทำได้ดีในตระกูลซือถู สามตระกูลก็ยิ่งกังวลมากขึ้นซึ่งทำให้เจียงอี้และเฉียนว่านก้วนเป็นอันตรายมากขึ้น
หากทั้งสามตระกูลไม่อยากให้ตระกูลซือถูขยายตัวอีก พวกเขาต้องหาทางสังหารเฉียนว่านก้วนและเจียงอี้ ความจริงที่เจียงอี้ลักลอบขนหินอัสนีและสมรู้ร่วมคิดกับศัตรูนั้นเป็นข้อแก้ตัวที่ยอดเยี่ยมสำหรับทั้งสามตระกูล ทั้งสามตระกูลไม่ได้สนใจว่าเหตุการณ์นั้นจะเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ในวันแต่งงานของว่านก้วน เมื่อเขาส่งคนไปที่ตระกูลหนานกง ทั้งสามตระกูลจึงตัดสินใจที่จะลงมือ
ผลที่ได้คือหวู่นี่และจีทิงยวี่พอใจมาก การเติบโตของเจียงอี้นั้นทำให้สองคนประหลาดใจเช่นกัน แต่ก็น่าเสียดายที่เอ๋าหลูปรากฏตัวขึ้นมาและทำลายแผนการอันไร้ที่ติของพวกเขาไปหมด
นั่นเป็นเหตุที่หวู่นี่โกรธมากเมื่อเขาได้รับรายงานการต่อสู้โดยละเอียด แผนการที่พวกเขาลำบากคิดกันมาและกำลังจะสำเร็จซึ่งมันจะทำให้ชื่อของหวู่นี่เลื่องลือขึ้นในเก้าตระกูลจักรพรรดิกลับต้องเปลี่ยนเป็นความล้มเหลวในนาทีสุดท้าย
“นายน้อยอย่าโกรธไป!”
จีทิงยวี่เผยรอยยิ้มที่ไม่แยแสขณะที่สีหน้าของนางยังคงสงบแม้หลังจากอ่านรายงานการต่อสู้ ดูเหมือนนางจะไม่เคยโกรธเลย
นางยืนขึ้นและรินชาให้หวู่นี่และพูดอย่างนุ่มนวลว่า “เราอาจจะล้มเหลวในครั้งนี้ แต่ตระกูลจะสังเกตเห็นท่านอย่างแน่นอน ท้ายที่สุดแล้วมันก็ยังเกิดความโกลาหลครั้งใหญ่ขึ้น และยอดฝีมือกึ่งเทพของสี่ตระกูลเองก็ถูกบังคับให้ออกหน้าขณะที่ทะเลลึกไร้สิ้นสุดเองก็นำเจ้าอสูรมามากมาย ทั้งสามตระกูลกับตระกูลซือถูก็ได้สร้างระยะห่างต่อกันขณะที่ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนกว่าพันคนจากสามตระกูลถูกสังหารไป อย่างน้อยก็มีผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนขั้นสูงสุดตกตายไปใช่ไหม?”
“นอกจากนี้ จักรพรรดิอสูรแห่งทะเลลึกไร้สิ้นสุดเองก็เอาแต่ใจมาด ซึ่งมันจะทำให้จิตใจของคนจากเผ่าเทพประทานแตกแยกออกไป ทั้งหมดนี้เป็นผลงานชิ้นใหญ่ ท่านเพียงแค่รอ โถงผู้อาวุโสจะเรียกหาท่านในไม่ช้า ต่อไปท่านต้องระวังการแสดงออกของตัวเอง ท่านไม่ได้กำลังพยายามจัดการกับเจียงอี้แต่ก่อความขัดแย้งในเกาะแห่งบาปขึ้น คราวนี้มันไม่มีสงครามและเราใช้ทรพยากรเพียงเล็กน้อยเพื่อทำให้เกิดความวุ่นวายครั้งใหญ่ นายน้อยจะต้องอยู่ในสายตาของเหล่าผู้อาวุโสแน่นอนเจ้าค่ะ”
“เอ่อ…”
หวู่นี่ไม่ได้คิดอย่างลึกซึ้ง แต่เขาก็ถูกจีทิงยวี่เตือนมาซึ่งมันทำให้ตาของเขาเป็นประกาย หลังจากที่ไตร่ตรองอย่างรอบคอบแล้ว เรื่องนี้ก็ดูดีไม่น้อยใช่ไหม?
คราวนี้เขาไม่ได้ใช้ทรัพยากรของตระกูลมากนักและยังปลูกหมากใหม่เข้าไปแทนได้ด้วย นอกจากนั้น เขายังทำลายสิบสามตระกูลจนเกือบจะเกิดความขัดแย้งกันเองได้ด้วย ตระกูลซือถูและทั้งสามตระกูลนั้นไม่ได้เป็นพันธมิตรกันขณะที่พันธมิตรระหว่างทะเลลึกไร้สิ้นสุดกับเผ่าเทพประทานก็เริ่มร้าวฉาน ทั้งหมดนี้เป็นเพราะผลงานของเขา!
“ไม่ นี่มันไม่ถูก!”
หวู่นี่หันไปมองจีทิงยวี่ทันทีและพูดว่า “นี่ไม่ใช่ผลงานของข้า ข้าไม่ได้ทำอะไรเลยเพราะเจ้าวางแผนทั้งหมด ทิงยวี่ หากตระกูลเรียกข้า เจ้าก็ควรจะไปกับข้าใช่ไหมล่ะ?”
“ไม่เจ้าค่ะ!”
จีทิงยวี่หัวเราะและส่ายหัว “หากไม่ได้รับการสนับสนุนจากนายน้อย ทิงยวี่ก็คงทำอะไรไม่ได้ ทุกอย่างต้องเป็นการพิจารณาจากนายน้อย หากพวกเจ้าพิจารณาทิงยวี่ มันจะมีประโยชน์อันใด? อย่างมากข้าก็จะเป็นผู้อาวุโสของตระกูล แต่นายน้อยนั้นต่างออกไป นายน้อยสามารถมีส่วนร่วมต่อและกลายเป็นประมุขน้อย, กลายเป็นประมุขจักรพรรดิอุดรได้! นายน้อยต้องจำเอาไว้นะเจ้าคะ…ยิ่งท่านได้อำนาจมากเท่าไหร่ ทิงยวี่ก็ช่วยได้มากเท่านั้น เป้าหมายสูงสุดของทิงยวี่คือการช่วยให้นายน้อยกลายเป็นจักรพรรดิลี้ลับรุ่นต่อไปและพิชิตแดนเทียนชิงให้ได้”
“ก็ได้!”
หวู่นี่ฮึกเหิมขึ้นมาหลังจากที่ได้ฟังจีทิงยวี่ เขามองนางด้วยดวงตาที่เร่าร้อนและพูดว่า “ข้าทำอะไรเพื่อเจ้าไม่ได้เลยหรือ ทิงยวี่? ทิงยวี่ ในวันที่ข้าได้เป็นประมุขน้อย ข้าจะแต่งกับเจ้าในฐานะภรรยาคนแรกของข้า”
จีทิงยวี่ยิ้มราวกับดอกไม้บาน นางพยักหน้าเบาๆและพูดว่า “ทิงยวี่จะตั้งตารอเจ้าค่ะ”
อึก!
หวู่นี่หยิบชาบนโต๊ะขึ้นมาดื่มก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงชั่วร้าย “เจียงอี้ ครั้งนี้เจ้าโชคดีไป ข้าหวังว่าเจ้าจะไม่ก้าวออกมาจากเผ่าเทพประทานตลอดชีวิตนี้ ไม่เช่นนั้น ข้าจะฆ่าเจ้าอย่างแน่นอน”
ตึก ตึก ตึก!
เสียงฝีเท้าดังขึ้นจากด้านนอก ขณะที่เสียงของชายคนหนึ่งดังขึ้นมาทันที “นายน้อย โถงผู้อาวุโสเรียกตัวท่านขอรับ!”
“มาแล้ว!”
หวู่นี่และจีทิงยวี่มองหน้ากันขณะที่เขาเผยรอยยิ้มก่อนที่เขาจะจัดผ้าผ่อนและเดินออกไป
จีทิงยวี่ยืนขึ้นเพื่อส่งเขา และหลังจากที่หวู่นี่ออกไป นางก็นั่งลงอย่างสบายๆและพลิกดูข้อมูลก่อนจะพึมพำด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ไม่ออกมาจากเผ่าเทพประทานชั่วชีวิต? เหอะเหอะ อีกไม่นานเจียงอี้คงจะแอบมายังทวีปจักรพรรดิบูรพาใช่ไหม? ซูรั่วเสวี่ยเป็นหญิงที่เจ้ารักที่สุดไม่ใช่หรือ? เจียงอี้ การเผชิญหน้าของเรามันแค่เริ่มต้นเท่านั้น ผู้กุมชัยสุดท้ายจะถูกกำหนดโดยผู้ที่มีวิธีการที่เหนือกว่า…”