เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven - บทที่ 854 กำลังเสริม
จักรพรรดินีสัตว์อสูรมีชีวิตที่น่าสังเวชนัก ย้อนไปในตอนนั้น นางหนีจากปากทางมรณะที่ทวีปเทียนชิงเพื่อกลับมายังทวีปจิ้งจอกสวรรค์ เป็นเพราะนางมาจากเผ่าพันธุ์อสูรและไม่ถูกปีศาจหรืออสูรที่ทรงพลังโจมตี และนางก็ทะลวงสู่ขั้นจักรพรรดิสัตว์อสูรระดับกลางในทะเลราตรีสีเลือดด้วย ไม่เช่นนั้น นางคงตกตายไประหว่างทางแล้ว
หลังจากที่นางกลับมายังทวีปจิ้งจอกสวรรค์ นางก็เริ่มวางแผนแก้แค้นทันที อย่างไรก็ตาม นางไม่คาดคิดว่าเผ่าที่ทำลายสายเลือดนางได้หล่อเลี้ยงอัจริยะมากมายในช่วงสองพันปีที่ผ่านมาและเติบโตขึ้นมากกว่าสิบเท่า คู่ต่อสู้ของนางมีขอบเขตจักรพรรดิอสูรมากกว่าสิบตนและระดับกลางอีกสามตน นางเพิ่งจะกลายเป็นจักรพรรดิอสูรระดับกลางได้ไม่นาน นางจึงแพ้สงครามและหนีไปหลังจากที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส นางถูกไล่ล่ามาตลอดทาง หากไม่ใช่เพราะวิกฤติกาลอสูรซึ่งทำให้นางได้สมบัติและเพิ่มความเร็วของนางได้อย่างมาก นางคงไม่มีทางหนีได้
นางรีบหนีออกมาและหลงเข้าไปในเขตแดนของจิ้งจอกทมิฬ ซึ่งจุดจบของนางคงไม่จำเป็นต้องพูด นางถูกจับทั้งเป็นและถูกส่งมาเป็นทาสที่สายแร่ศักดิ์สิทธิ์นี้
มันเป็นเรื่องน่าเศร้าที่เป็นทาสอยู่ที่นี่ นางถูกทุบตีทุกวัน และที่สำคัญที่สุดคือ แกนอสูรของนางถูกทำลายไปพร้อมกับการฝึกฝนทั้งหมดที่นางฝึกปรือมา ซึ่งมันทำให้นางสิ้นหวังมาก หากไม่ใช่เพราะความกังวลที่คิดถึงเสี่ยวเฟย นางคงฆ่าตัวตายไปนานแล้ว
ห้าปี!
กว่าพันแปดร้อยวันและคืน นางใช้ชีวิตราวกับคนตายเหมือนทาสคนอื่นๆ ไม่มีใครหนีรอดหรือหวังว่าจะมีคนมาช่วยพวกเขาได้เนื่องจากเผ่าพันธุ์จิ้งจอกทมิฬนั้นแข็งแกร่งที่สุด หากจิ้งจอกขาวและจิ้งจอกฟ้าไม่ร่วมมือกัน พวกเขาคงถูกทำลายล้างไปแล้ว
แม้กระทั่งตอนที่ค่ายกลใหญ่แตกสลายและเมื่อทาสได้ยินเสียงจากภายนอก ก็ไม่มีใครหวังว่าจะได้ออกไป พวกเขาทั้งหมดนอนอยู่ในเหมืองอย่างเฉยเมย จนกระทั่งเจียงอี้ตะโกนออกมาและพูดว่า จักรพรรดินีสัตว์อสูร นางถึงได้ตื่นขึ้นมา
ฟรึ่บ!
เจียงอี้เจาะทะลวงท้องฟ้าและบินลงมา ซึ่งมีทหารอยู่ไม่กี่คนใต้สายแร่ซึ่งล้วนเป็นขอบเขตเทียนจุนระดับต่ำ เมื่อพวกเขาเห็นเจียงอี้และกลุ่มคนพุ่งมา พวกเขาก็รีบออกมาอย่างบ้าคลั่ง
ตายซะ!
เจียงอี้แกว่งดาบอ่อนในมือของเขาและคลื่นเสียงอันน่าสะพรึงก็ได้แผ่ออกเป็นสองฝั่งก่อนที่เขาจะฟาดดาบมังกรเพลิงและสายฟ้ามากมายออกมาในทันใด ทำให้ขอบเขตเทียนจุนที่บินมาจากทั้งสองฝั่งกลายเป็นเถ้าถ่านไป ฟรึ่บ!
เชียนเชียนและผู้อาวุโสจิ้งจอกขาวทั้งสิบเองก็บินลงมาเช่นกัน เจียงอี้เหลือบมองไปยังทหารที่อยู่ไม่ไกล ดวงตาของเขาหรี่ลงและเขาตะโกนออกมาว่า สังหารทหารจิ้งจอกทมิฬให้หมด อย่าไว้ชีวิตใคร!
เอ่อ…
จักรพรรดินีสัตว์อสูรสั่นเทาอีกครั้ง ทาสที่เหมืองเองก็หวาดกลัวยิ่งขึ้นไปอีกและมองเจียงอี้และผู้อาวุโสด้วยความกลัว นางมองไปที่ชายหนุ่มที่กำลังเข้ามาใกล้ด้วยความงุนงงและริมฝีปากของนางก็สั่นเทาอยู่ครู่หนึ่งอีกครั้ง จากนั้นนางก็กระพริบตาและถามอีกครั้งว่า เจ้า…เจ้าคือเจียงอี้ เจียงอี้จากทวีปเทียนชิงหรือ?
เมื่อมองไปที่จักรพรรดินีสัตว์อสูรที่มีผมสีเหลือและใบหน้าที่แก่ชรา ดวงตาของเจียงอี้ก็แดงก่ำกว่าเดิม เขาพยักหน้าอย่างหนักและพูดว่า ใช่ ข้าคือเจียงอี้จากทวีปเทียนชิง จักรพรรดินีสัตว์อสูร ข้ามาช้าเกินไป เจ้ามีชีวิตที่ยากลำบากแล้ว อ้อ ข้าพาเสี่ยวเฟยมาด้วย นางแปลงกายเป็นมนุษย์แล้วนะ!
เจียงอี้นำราชวังจักรพรรดิออกมาและพูดว่า เห็นมั้ย นี่คือราชวังจักรพรรดิที่เจ้าเคยให้ข้า เสี่ยวเฟยอยู่ในนี้แหละ
เสี่ยวเฟย?
น้ำตาของจักรพรรดินีสัตว์อสูรไหลรินลงมาดั่งสายน้ำ นางสั่นสะท้านและส่ายหัวอย่างแรง เจียงอี้ อย่าพาเสี่ยวเฟยออกมา ข้าไม่อยากให้นางเห็นข้าในสภาพนี้
เช่นนั้นก็ได้
ใจของเจียงอี้เจ็บมากขึ้นเมื่อเห็นความตื่นตระหนกของนาง และเมื่อเห็นว่าผู้อาวุโสหญิงจิ้งจอกขาวที่ยืนอยู่ข้างหลังเขาและไม่ทำอะไรเลย เจียงอี้ก็โกรธมากและตะโกนทันทีว่า พวกเจ้าไร้สมองกันหรอ? ทำไมไม่รักษาบาดแผลให้จักรพรรดินีสัตว์อสูร?
ผู้อาวุโสหญิงนางนั้นรีบบินมา หากเจียงอี้หงุดหงิด นางอาจจะถูกสายฟ้าฟาดและกลายเป็นขี้เถ้าไปด้วย แสงสีขาวส่องสว่างขึ้นบนมือของนางและนางก็มอบยาพักฟื้นให้จักรพรรดินีสัตว์อสูร
เจียงอี้ออกไปก่อน ข้าจะเปลี่ยนเสื้อผ้าจักรพรรดินีสัตว์อสูรและช่วยรักษานาง
เชียนเชียนเดินมาหลังจากที่สังหารทหารไปบ้างแล้ว ด้านเจียงอี้ก็พยักหน้าและเดินออกไป เมื่อเขาเห็นเหล่าขอบเขตเทียนจุนระดับต่ำจำนวนมากที่พร้อมจะหนีไป เขาก็หงุดหงิดมากทันที ร่างของเขาส่องแสงและหม้อเวหาสลาตันก็ปรากฏขึ้นมาซึ่งกระแทกลงไปที่ทหารจิ้งจอกทมิฬอย่างไม่เลือกหน้า
ตูม! ตูม!
ตอนนี้ผลของการต่อสู้บนฟ้าก็ชัดเจน เทวาทมิฬดุร้ายเกินไป เขาไม่เพียงแต่จะโจมตีได้ดีแต่ยังป้องกันได้ดีและยังเร็วมากด้วย ซึ่งทำให้จักรพรรดิจิ้งจอกทมิฬจนปัญญา ด้วยการช่วยเหลือจากทั่วป๋าฉินที่มีกำลังการต่อสู้ค่อนข้างใช้ได้ เฮยหูก็แทบจะต้านทั้งสองไม่ได้เลย จักรพรรดินีอีกตนก็โชคไม่ดีเท่าไหร่นัก นางเกือบจะไม่รอดจากการโจมตีของเทวาทมิฬและรู้สึกอนาถมาก
ทั่วป๋าฉินและใต้เท้าท่านนี้ เหตุใดถึงโจมตีเผ่าพันธุ์จิ้งจอกทมิฬของเราโดยไร้เหตุผล? หากพวกเจ้าออกไปตอนนี้ ข้าจะลืมเรื่องนี้ไปซะ!
เฮยหูหันมาเริ่มพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา อย่างไรก็ตาม เทวาทมิฬและทั่วป๋าฉินไม่ได้สนใจคำพูดของเขาและยังคงโจมตีต่อ เฮยหูเองก็ตระหนักได้ว่าเขาจะต้องถึงจุดจบหากมันยังเป็นเช่นนี้ เขารีบปลอ่ยการโจมตีที่ทรงพลังและตะโกนด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า มันยังไม่สายเกินไปหากพวกเจ้าหนีไปตอนนี้ ข้าเรียกกำลังเสริมมาแล้ว และเมื่อพวกเขามาถึง พวกเจ้าจะไม่มีทางหนีพ้น
ทั่วป๋าฉินหัวเราะออกมาและพูดอย่างเย็นชาว่า เฮยหู กำลังเสริมของเจ้าคือใครกัน? ทำไมเจ้าไม่บอกเราหน่อยล่ะและเราอาจจะยั้งมือก็ได้
ฮึ่ม! เฮยหูเย้ยและพูดว่า ข้าส่งข้อความถึงท่านใต้เท้าเอ๋าหลูแห่งทะเลลึกไร้สิ้นสุดแล้ว เขาได้ปลดปล่อยศาสตร์เคลื่อนย้ายมิติแล้วและจะมาปรากฏที่นี่เมื่อใดก็ได้ ฮึ่ม! ทั่วป๋าฉิน เจ้าไม่ได้มีประวัติที่ดีกับใต้เท้าเอ๋าหลูนักนี่ หนีไปซะตอนที่เจ้ายังทำได้!
ฮ่าฮ่าฮ่า!
ทั้งเทวาทมิฬและทั่วป๋าฉินหัวเราะออกมา เจียงอี้และเชียนเชียนที่อยู่แต่ไกลยังเย้ยหยันเมื่อได้ยินเรื่องนี้ ทั่วป๋าฉินเย้ยหยันและพูดว่า เฮยหู เจ้าตาบอดหรือ? เจ้ารู้หรือไม่ว่าคู่ต่อสู้ของเจ้าคือใคร? เขาคือท่านใต้เท้าเทวาทมิฬผู้อยู่อันดับหกในเหล่าสามสิบหกจักรพรรดิในทะเลลึกไร้สิ้นสุด แล้วเจ้ารู้หรือไม่ว่าสตรีที่งดงามผมเขียวนั่นคือผู้ใด? นางคือหลานสาวที่ใต้เท้าเอ๋าหลูโปรดปราน องค์หญิงเชียนเชียน คราวก่อนที่ใต้เท้าเอ๋าหลูกลับมา ข้าให้เจ้าไปเยี่ยมท่านพร้อมกับข้า แล้วเจ้าตอบข้าว่าอย่างไรนะ? เจ้าบอกว่าใต้เท้าเอ๋าหลูก็แค่แก่กว่าแต่เขากลับอ่อนแอกว่าเจ้า?! ฮึ่ม….ข้าจะไม่พูดคำอื่นที่ตามมาด้วยแล้วกัน!
อ๊ะ?
เฮยหูตะลึงไปทันใด ใบหน้าของเทวาทมิฬเต็มไปด้วยความเดือดดาล เขาตะโกนออกมาอย่างโกรธเคือง เจ้ากล้าดียังไงมาดูหมิ่นจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่! เจ้าจะได้ตายวันนี้แหละ!
ใต้เท้าเทวาทมิฬ?
เมื่อเฮยหูเห็นแสงสีดำที่แผ่ออกมาจากเทวาทมิฬซึ่งเห็นได้ชัดว่ากำลังจะปล่อยการโจมตีที่ทรงพลังออกมา เขาก็รีบถอยกลับและกรีดร้องอย่างกังวล ท่านใต้เท้า มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดทั้งหมด หากข้ารู้ว่าเป็นท่าน ข้าจะไม่กล้าสู้กับท่านเลย ท่านใต้เท้า โปรดอย่าไปฟังนังแพศยานี่ ข้าไม่มีสิ่งใดนอกจากความเคารพต่อท่านใต้เท้าเอ๋าหลู คราวก่อนที่ท่านใต้เท้าเอ๋าหลูกลับมา หากข้าไม่…หากข้าไม่ได้ติดเรื่องสำคัญอยู่ ข้าจะต้องไปเยื่อมเยือนเขาพร้อมเครื่องบรรณาการอยู่แล้ว ท่านใต้เท้า โปรดหยุดสู้กันเถอะ พันธมิตของเราจะเสียหายได้นะขอรับ!
เสียหายกับผีน่ะสิ!
เทวาทมิฬพุ่งพล่านด้วยกลิ่นอายสังหาร แสงสีดำสว่างขึ้นและเขาเปลี่ยนไปยังร่างเดิม จากนั้นเสียงของมังกรก็ดังทะลุท้องฟ้ามา ซึ่งมันเกือบจะรบกวนแก่นแท้พลังของเจียงอี้ทั้งหมดและทำให้เขาตกลงไปที่พื้น เชียนเชียนและกลุ่มของนางที่เพิ่งจะออกมาจากเหมืองกับจักรพรรดินีสัตว์อสูรเองก็รู้สึกว่าเท้าของพวกเขาสั่นเทาและล้มลง ด้านจักรพรรดินีสัตว์อสูรเองก็หน้าซีดด้วยความตกใจเมื่อเห็นมังกรยักษ์ที่ยาวกว่าสองร้อยเมตร
นางหันกลับมาและเห็นทั่วป๋าฉินถอยหนีอย่างรวดเร็วเพราะกลัวได้รับบาดเจ็บจากเทวาทมิฬ นางก็ยิ่งตกใจมากขึ้นไปอีกขณะที่ชี้ไปที่ทั่วป๋าฉินและพูดด้วยความตื่นเต้นว่า นั่นคือ…จักพรรดินีของเผ่าจิ้งจอกขาวของเราใช่ไหม? ทำไม…นางจึงอยู่ที่นี่กัน?