เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven - บทที่ 855 คลื่นมังกรทมิฬสยบโลกา
- Home
- เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven
- บทที่ 855 คลื่นมังกรทมิฬสยบโลกา
เชียนเชียนยิ้มและอธิบายว่า เจ้าไม่ต้องแปลกใจนักหรอก ผู้อาวุโสทั้งสิบของเผ่าเจ้าก็ยืนอยู่ข้างๆเจ้าเหมือนกัน ข้าสัญญากับเจ้าได้เลยว่าเจ้าจะไม่ถูกทารุณในเผ่าอีกต่อไป ยิ่งไปกว่านั้น ศัตรูของเจ้าที่มาทำลายล้างเผ่าของเจ้าก็ถูกจับแล้วและกำลังรอเจ้ากลับไปแก้แค้นด้วยตัวเอง
ผู้อาวุโสทั้งสิบ?
จักรพรรดินีสัตว์อสูรเคยเห็นแต่ภาพวาดของทั่วป๋าฉิน ซึ่งจิ้งจอกขาวทุกตนเคยเห็นมันมาก่อนและจิ้งจอกขาวมากมายก็นำภาพมาบูชา แต่นางไม่เคยเห็นผู้อาวุโสทั้งสิบมาก่อนเลย และตอนนี้เมื่อนางรู้ว่าพวกเขาคือผู้อาวุโสทั้งสิบที่อยู่รอบๆนางและมีหนึ่งในนั้นช่วยเปลี่ยนเสื้อผ้าและช่วยรักษานาง นางก็ตกใจมากจนไม่รู้ว่าจะต้องทำอะไรอยู่ครู่หนึ่ง ในเผ่าจิ้งจอกขาวนั้น นางเป็นเพียงผู้ที่อยู่ก้นหลุม สำหรับนางแล้ว แม้แต่หัวหน้าเผ่าเล็กๆก็ถือเป็นบุคคลสำคัญอย่างยิ่ง อย่าว่าแต่พวกเขาทั้งสิบนี้เลย
ทั่วป๋าหนิงคารวะผู้อาวุโสทั้งสิบเจ้าค่ะ!
มือของนางสั่นเล็กน้อย นางพยายามคุกเข่าลงไปหาผู้อาวุโสทั้งสิบทั้งที่ขาของนางที่ยังไม่ดีนักซึ่งทำให้พวกเขาตกใจกับการกระทำของนางและพยุงนางอย่างรวดเร็ว ผู้อาวุโสหญิงผู้หนึ่งพูดด้วยความอับอายว่า ทั่วป๋าหนิง อย่าทำเช่นนี้เลย เจ้าเป็นสหายกับใต้เท้าเหล่านี้และจะเป็นน้องสาวของเราด้วย บางที….จักรพรรดินี
พรุ่บ!
จักรพรรดินีสัตว์อสูรอ่อนยวบลงไปและแทบจะเป็นลม
ผู้อาวุโสอีกคนหนึ่งเข้าไปใกล้ๆนางมากขึ้นและชี้ไปยังการต่อสู้บนฟ้าและพูดว่า ทั่วป๋าหนิง เจ้ารู้จักชายที่สู้กับท่านใต้เท้าเทวาทมิฬหรือไม่? เขาคือจักรพรรดิของเผ่าจิ้งจอกทมิฬ ท่านใต้เท้าเทวาทมิฬต่อสู้กับเผ่าจิ้งจอกทมิฬเพื่อช่วยเจ้า เจ้าต้องขอบคุณใต้เท้าเหล่านี้
โฮกก!
ขณะที่พวกเขาพูดคุยกัน เทวาทมิฬก็ส่งเสียงออกมาอีกครั้งก่อนจะพ่นคลื่นพลังสีดำออกมาเป็นชุด เขาพุ่งไปในคลื่นนั้นและกลายเป็นเมฆครึ้มพร้อมกับพุ่งไปข้างหน้า แม้ว่าเขาจะอยู่ห่างไปหลายสิบกิโลเมตร แต่ทุกคนก็รับรู้ได้ถึงกลิ่นอายที่น่าสะพรึงและจิตวิญญาณพวกเขาสั่นสะเทือน จักรพรรดินีพากันสิ้นสติไปเนื่องจากแรงกระแทกเหล่านั้น
ไม่นะ…
เฮยหูตะโกนออกมาอย่างเดือดดาลก่อนจะถูกปกคลุมด้วยเมฆครึ้ม แม้ว่าจักรพรรดินีอีกตนจะเริ่มหนีไปสักพักแล้วแต่เมฆครึ้มก็เคลื่อนไปเร็วมากและปกคลุมทั้งสองในทันที จากนั้น กลิ่นอายของพวกเขาก็ค่อยๆหายไปพร้อมกับเมฆครึ้ม และร่างของเทวาทมิฬก็อยู่ที่ด้านหน้า
ฮึ่ม มีเจ้าอสูรเพียงไม่กี่ตนในทะเลลึกไร้สิ้นสุดที่ต้านคลื่นมังกรทมิฬสยบโลกาของท่านลุงได้ แล้วสองคนนี้ยังคิดจะหนีอยู่อีกเรอะ?!
เชียนเชียนหัวเราะเบาๆและในทางกลับกัน ผู้อาวุโสทั้งสิบและเจียงอี้ต่างรู้สึกท่วมท้นไปด้วยความคิดและมีอารมณ์หลากหลาย ทุกคนได้กลิ่นอายของความตายในเมฆครึ้มที่ตกลงมาราวกับดาวหาง หากพวกเขาถูกเมฆนั่น พวกเขาคงไม่เหลือซากเลย
พลังของเทวาทมิฬช่างไร้เทียมทาน ทั่วป๋าฉินเลื่อมใสนัก!
ทั่วป๋าฉินเริ่มสั่นสะท้านไปด้วยความตื่นเต้น เฮยหูตายแล้ว พร้อมกับจักรพรรดินีอีกตน แม้ว่าอีกตนจะหลบหนีผ่านใต้ดินไปได้ แต่เขาก็อ่อนแอที่สุด แม้แต่ทั่วป๋าฉินเองก็ยังสังหารเขาได้อย่างง่ายดาย
เผ่าจิ้งจอกทมิฬนั้นทรงพลังที่สุดและเป็นผู้ปกครองอาณาเขตที่ใหญ่ที่สุด ตอนนี้ดินแดนอันกว้างใหญ่นี้เป็นของพวกเขา หากเทวาทมิฬและกลุ่มของเขาไม่ได้มาที่นี่ พวกเขาคงจะโชคดีมากแล้วที่ไม่ถูกทำลายล้างไปอย่าว่าแต่ยึดอาณาเขตของเผ่าจิ้งจอกทมิฬเลย
พลังของใต้เท้าเทวาทมิฬไร้เทียมทาน! เราเลื่อมใสนัก!
ผู้อาวุโสทั้งสิบต่างตะโกนออกมาและคุกเข่าลง พวกเขาเชื่อมั่นในพลังที่ยิ่งใหญ่และรู้สึกซาบซึ้งกับใต้เท้าเทวาทมิฬที่สังหารยอดฝีมือรวมถึงเฮยหูด้วย
เทวาทมิฬโบกมือและพูดว่า เอาล่ะ เลิกพูดไร้สาระเถอะ กลับไปยังเมืองของเจ้าและจัดการทุกอย่างให้เร็วที่สุด ข้าต้องรีบกลับไปยังทะเลลึกไร้สิ้นสุด!
ไปกันเถอะ
เจียงอี้โบกมือและทุกคนก็บินขึ้นไปบนฟ้า ผู้อาวุโสคนหนึ่งแบกจักรพรรดินีสัตว์อสูรเอาไว้บนหลังของนาง พวกเขาไม่สนใจจิ้งจอกและทาสคนอื่นๆในเหมืองเลย ตอนนี้เรื่องของเจียงอี้เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด พวกเขาสามารถค่อยๆโจมตีจิ้งจอกฟ้าได้อย่างช้าๆ เนื่องจากเฮยหูตายไปแล้วก็ไม่มีใครหยุดทั่วป๋าฉินได้ในตอนนี้
คนกลุ่มหนึ่งบินไปที่เมืองหลวงของเผ่าจิ้งจอกขาว พวกเขาเผชิญกับจิ้งจอกทมิฬขอบเขตเทียนจุนจำนวนมากที่บินมาหาพวกเขา แต่ครั้งนี้เทวาทมิฬไม่จำเป็นต้องลงมือเพราะทั่วป๋าฉินสังหารพวกนั้นได้อย่างง่ายดาย
พวกเขาใช้เวลาสิบหกชั่วโมงเพื่อกลับไปยังเมืองหลวง ทั่วป๋าฉินเข้ามากับพวกเขาด้วยตัวเอง ผู้อาวุโสผู้หนึ่งเองก็ยังคงรักษาจักรพรรดินีสัตว์อสูรต่อไป นางยังหยิบยาต้านอายุมามอบให้จักรพรรดินีสัตว์อสูรอีกด้วย แกนอสูรของจักรพรรดินีสัตว์อสูรถูกทำลายไปแล้ว ดังนั้นมันจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะรักษารูปลักษณ์ที่งดงามและอ่อนเยาว์เหมือนก่อนได้ นางทำได้เพียงแค่ใช้ยาเหล่านี้เพื่อคอยรักษาความเยาว์วัยของนางเอาไว้ได้เท่านั้น
เจียงอี้รอครู่หนึ่งและเมื่อเขาเห็นว่าจักรพรรดินีสัตว์อสูรเกือบจะหายดีแล้วโดยรอยบนหน้านางน้อยลงมาก รูปลักษณ์ของนางเองก็ฟื้นฟูขึ้นมาบ้างแล้ว แม้ว่านางจะไม่ได้มีเสน่ห์เหมือนก่อน แต่ตอนนี้นางก็ดูดีขึ้นแล้ว ราชวังจักรพรรดิของเจียงอี้ส่องประกายขึ้นมาก่อนที่เจียงเสี่ยวนู๋จะอุ้มเสี่ยวเฟยออกมาปรากฏตัวอยู่ด้านในพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์
เมื่อเสี่ยวเฟยออกมา นางก็มองไปรอบๆและถามเจียงอี้อย่างรีบร้อนว่า พี่ใหญ่ ท่านพบแม่ของข้าหรือไม่?
เสี่ยวเฟย!
เมื่อจักรพรรดินีสัตว์อสูรที่นั่งอยู่บนเตียงได้ยินเสียงของเสี่ยวเฟยและรู้สึกถึงกลิ่นที่คุ้นเคยของนาง นางก็ร้องไห้ออกมาทันทีและตะโกนออกมา ส่วนเสี่ยวเฟยก็แข็งทื่อ และรีบหันไปอย่างรวดเร็วและเห็นจักรพรรดินีสัตว์อสูรที่อยู่บนเตียง ร่างเล็กๆของนางสั่นเล็กน้อยก่อนที่จะโผเข้าไปยังอ้อมแขนของจักรพรรดินีสัตว์อสูรและร้องไห้ออกมา
ด้านเจียงอี้และเจียงเสี่ยวนู๋ต่างมองหน้ากันและออกจากห้องศักดิ์สิทธิ์มา ที่ด้านนอก เทวาทมิฬนั่งอยู่อย่างเย็นชาและเชียนเชียนกับทั่วป๋าฉินก็กำลังพูดคุยกันอยู่ เมื่อพวกเขาเห็นเจียงอี้เดินออกมา ทั่วป๋าฉินก็ลุกขึ้นและพูดอย่างจริงจังว่า นายน้อยเจียง ข้าหวังว่าท่านจะปล่อยให้เสี่ยวเฟยและทั่วป๋าหนิงอยู่ในเผ่า ข้าสัญญาว่าจะปฏิบัติต่อทั่วป๋าหนิงเหมือนน้องสาวของข้า และเสี่ยวเฟยเหมือนลูกของข้าเอง ข้าจะเลี้ยงดูนางและช่วยให้นางเติบโตขึ้นเช่นกัน เสี่ยวเฟยน่าจะเป็นจิ้งจอกศักดิ์สิทธิ์ หากนางอยู่ในเผ่าของนาง อัตราการเติบโตของนางจะเร็วมาก เฮยหูถูกสังหารไปแล้ว แม้ว่าข้าจะสัญญากับท่านไม่ได้ว่าจะรวมทวีปจิ้งจอกสวรรค์เข้าด้วยกันได้ไหม แต่ข้าก็รับประกันได้เลยว่าจะทำให้พวกเขาปลอดภัยได้
นี่….
เจียงอี้ลังเล เขาเชื่อว่าทั่วป๋าฉินจะดูแลจักรพรรดินีสัตว์อสูรและเสี่ยวเฟยได้เป็นอย่างดี ด้วยความสัมพันธ์ของเขากับเทวาทมิฬและเชียนเชียน นางจึงไม่กล้าสร้างปัญหา ก่อนหน้านี้เขาคิดจะพาทั้งสองไปยังเมืองเทพประทาน แต่เมื่อทั่วป๋าฉินพูดถึงการพัฒนาของเสี่ยวเฟยแล้ว เขาก็ค่อนข้างกังวลขึ้นมา
เสี่ยวเฟยได้เมล็ดวิญญาณมาบางส่วนและข้ามไปยังขอบเขตเทียนจุนพร้อมกับแปลงกายเป็นมนุษย์ในทันใดได้ เมื่ออยู่ที่นี่ เสี่ยวเฟยจะมีศักยภาพที่ไร้ขีดจำกัด เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า ข้าเห็นด้วยกับแผนนี้ตราบใดที่จักรพรรดินีสัตว์อสูรและเสี่ยวเฟยเห็นด้วย
ก็ได้!
ทั่วป๋าฉินพยักหน้าขอบคุณและโบกมือให้ผู้อาวุโสพร้อมพูดว่า อธิบายสถานการณ์ให้ทั่วป๋าหนิงฟัง อย่าบังคับนาง เพียงแค่บอกความจริงกับนางไป ทั่วป๋าหนิงจะอยู่หรือไม่ก็แล้วแต่นาง
ทั่วป๋าฉินไม่มีหวังที่จะรั้งจักรพรรดินีสัตว์อสูรและเสี่ยวเฟยได้ ไม่ใช่เพราะว่าเสี่ยวเฟยอาจเป็นจิ้งจอกศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น แต่เป็นเพราะว่าจะไม่มีผู้ใดกล้าแตะต้องเผ่าจิ้งจอกขาวหากพวกเขาอยู่ที่นี่ด้วย จากนั้นนางก็จะมีโอกาสรวมทวีปได้มากขึ้นและฟื้นฟูความสงบสุขในทวีปนี้ที่วุ่นวายมาหลายแสนปีและทำให้ทวีปจิ้งจอกสวรรค์ยิ่งใหญ่ขึ้นได้