เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven - บทที่ 856 เมืองซวนหวู่
คำตอบที่ผู้อาวุโสได้รับกลับมานั้นเป็นไปตามที่เจียงอี้คาดไว้ เสี่ยวเฟยต้องการไปกับเจียงอี้แต่จักรพรรดินีสัตว์อสูรต้องการจะอยู่ต่อ เจียงอี้นั่งพักครู่หนึ่งก่อนจะพาเจียงเสี่ยวนู๋เข้าไปข้างใน เขาโบกมือให้ผู้อาวุโสและสาวใช้เพื่อขอให้พวกเขาอยู่กันตามลำพัง จากนั้นเขาก็มองจักรพรรดินีสัตว์อสูรและพูดว่า จักรพรรดินีสัตว์อสูร ร่างกายของเจ้าฟื้นตัวแล้วหรือยัง?
ตอนนี้ข้าดีขึ้นมากแล้วล่ะ!
จักรพรรดินีสัตว์อสูรใจเย็นมากขึ้นแล้ว บางที นางอาจจะประหม่าน้อยลงเมื่อเห็นเจียงอี้น้อยที่เติบโตมาภายใต้การดูแลของนาง นางจ้องเขาอย่างว่างเปล่าราวกับว่านางกลับมาอยู่ที่ทวีปเทียนชิงและย้อนไปในวันที่นางพบเขาครั้งแรก
มันคือด้านนอกหุบเขาสำนักจิตอสูร นางกำลังจะสังหารเจียงอี้แต่เสี่ยวเฟยหยุดนางเอาไว้ หลังจากนั้น เสี่ยวเฟยและเจียงอี้ก็กลายเป็นสหายที่ดีต่อกันและนางก็ได้เห็นเจียงอี้ค่อยๆเติบโตขึ้นทีละก้าว
ไม่กี่ปีผ่านมา เด็กหนุ่มที่อ่อนโยนได้กลายเป็นชายหนุ่มรูปงาม ที่สำคัญที่สุดคือความเร็วในการเติบโตของเขานั้นเหนือจินตนาการมาก เจียงอี้สมควรได้รับการขนานนามจากทั่วป๋าฉินและคนอื่นๆว่านายน้อยแล้ว ยิ่งกว่านั้น จักรพรรดินีสัตว์อสูรตะลึงในความแข็งแกร่งของเขานัก
เจียงอี้….เจ้าฝึกฝนได้อย่างไร? เจ้าพบหญ้ามังกรยาจกหรือ? และในที่สุดจักรพรรดินีสัตว์อสูรก็อดถามไม่ได้
ใช่แล้ว ข้าเจอมัน
เจียงอี้นั่งบนเตียงและบอกนางสั้นๆว่าเกิดอะไรขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่เขาข้ามส่วนที่เกี่ยวกับแม่ของเขาไปและเล่าเรื่องราวอื่นๆอย่างคร่าวๆ จักรพรรดินีสัตว์อสูรและเสี่ยวเฟยอดไม่ได้ที่จะมีอารมณ์ร่วม จักรพรรดินีสัตว์อสูรเห็นความยากลำบากมากมายที่เจียงอี้ผ่านพ้นมาได้ด้วยคำพูดไม่กี่ประโยคของเขา และนางก็มองอย่างพอใจหลังจากที่ได้ฟังเจียงอี้
นางไม่ได้พูดหรือแสดงความขอบคุณอะไรออกมาเลย นางเพียงแค่จ้องไปที่เจียงอี้อย่างว่างเปล่าและไม่สามารถอัดอั้นความภูมิใจที่นางมีต่อเจียงอี้ได้ นางคิดเสมอว่าเจียงอี้มีพรสวรรค์ก่อนที่เขาจะพิการ และนางเชื่อว่ามีอนาคตที่สดใสรอเขาอยู่ อย่างไรก็ตาม นางไม่เคยคิดว่าเจียงอี้จะขึ้นมาสูงได้ถึงเพียงนี้ในเวลาสั้นๆ
จักรพรรดินีสัตว์อสูร!
แม้ว่าเจียงอี้จะอยากใช้เวลากับจักรพรรดินีสัตว์อสูรมากกว่านี้ แต่เขาก็ต้องพูดเรื่องนี้เมื่อคิดถึงเทวาทมิฬและเชียนเชียนที่ยังรอเขาอยู่ด้านนอก ข้ากำลังจะพาเจ้าและเสี่ยวเฟยกลับไปที่เกาะเทพประทาน แต่เจ้าคงตระหนักถึงสถานการณ์ของเสี่ยวเฟยในตอนนี้ เจ้าตัดสินใจได้ว่าจะอยู่ที่นี่หรือไปกับเรา เจ้าน่าจะปลอดภัยเมื่ออยู่ที่นี่และเสี่ยวเฟยจะเติบโตได้อย่างรวดเร็ว หลังจากข้าเสร็จธุระแล้ว ข้าจะกลับมาเยี่ยมเจ้า แต่หากเจ้าอยากจะไป ข้าก็พาเจ้าไปได้ทุกเมื่อ
ไม่ เสี่ยวเฟยไม่อยากได้!
เมื่อเสี่ยวเฟยได้ยิน นางก็กังวลและส่ายหัวอย่างแรง ดวงตากลมโตของนางเต็มไปด้วยความอ้อนวอน นางพูดว่า ท่านแม่ ข้าไม่อยากแยกจากพี่ใหญ่และพี่เสี่ยวนู๋เลย เราไปกับพวกเขาได้ไหมเจ้าคะ?
ไม่มีทาง!
ดูเหมือนว่าจักรพรรดินีสัตว์อสูรจะตัดสินใจไปแล้ว นางพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า เสี่ยวเฟย เจียงอี้ยังมีอีกหลายอย่างที่ยังไม่ได้ทำ ตอนนี้เจ้าก็อ่อนแอมากและจะเป็นเพียงภาระเท่านั้น แกนอสูรของแม่ถูกทำลายไปและคงมีชีวิตอยู่ต่อได้อีกไม่ถึงร้อยปี ข้าหวังว่าเจ้าจะอยู่ในเผ่าต่อไป และเมื่อเจ้าแข็งแกร่งขึ้น เจ้าก็ไปหาเจียงอี้ก็ได้ และข้าจะไม่ห้ามเจ้าเลย
เจียงอี้พยักหน้าและพูดว่า เสี่ยวเฟยเมื่อเจ้าแข็งแกร่งขึ้นแล้ว มาหาข้าเถอะ ข้าสัญญาว่าจะมาเยี่ยมทุกครั้งที่ข้าทำได้
ตึก ตึก ตึก!
ในขณะนั้นเอง พวกเขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าจากด้านนอก เชียนเชียนและทั่วป๋าฉินเดินเข้ามา เชียนเชียนพูดด้วยรอยยิ้มว่า จักรพรรดินีสัตว์อสูร ข้ามีป้ายคำสั่งอยู่ เจ้าสามารถส่งเสียงถึงข้าได้ทุกเมื่อ หลังจากที่ข้ากลับไปยังทะเลลึกไร้สิ้นสุดแล้ว ข้าจะส่งกองกำลังมาช่วยเผ่าจิ้งจอกขาวของเจ้ารวมทวีปจิ้งจอกสวรรค์ ดังนั้นเจ้าไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยหรอก จักรพรรดินีฉิน หากเกิดอะไรขึ้นกับจักรพรรดินีสัตว์อสูรและเสี่ยวเฟย ข้าจะให้เจ้าเป็นคนรับผิดชอบ!
ทั่วป๋าฉินตัวสั่นเทาและผู้อาวุโสทั้งสิบที่อยู่ข้างหลังนางก็ตื่นเต้นมาก ทั่วป๋าฉินคำนับพร้อมกับกลุ่มของนางและพูดว่า ขอบคุณองค์หญิงเชียนเชียน วางใจได้เลยเจ้าค่ะ หากมีสิ่งใดไม่ดีเกิดขึ้นกับจักรพรรดินีสัตว์อสูรและเสี่ยวเฟย ข้าจะขอรับโทษด้วยชีวิตของข้า!
เจียงอี้รู้สึกขอบคุณเชียนเชียนและโล่งอก เขายืนขึ้นและจับหัวเสี่ยวเฟยพร้อมพูดว่า ไม่มีเวลาแล้ว ไปทะเลลึกไร้สิ้นสุดกัน แล้วข้าจะกลับมาหาเจ้าหลังจากข้าเสร็จธุระของข้าแล้ว
ดวงตาของเสี่ยวนู๋ก็แดงเช่นกัน นางอุ้มเสี่ยวเฟยไว้ในอ้อมแขน แล้วจูบนางพร้อมกับพูดว่า เสี่ยวเฟย ข้ากำลังจะไปแล้วนะ เจ้าต้องเชื่อฟังแม่ของเจ้านะรู้มั้ย
เสี่ยวเฟยรู้ว่าเรื่องนี้ถูกตัดสินใจไปแล้ว และนางไม่มีทางอื่นนอกจากร้องไห้ออกมาและกอดเจียงอี้และเจียงเสี่ยวนู๋ไว้ด้วยกำลังทั้งหมดของนาง เจียงอี้จึงกัดฟันอุ้มนางไปไว้ในอ้อมแขนจักรพรรดินีสัตว์อสูร จากนั้นเขาก็เดินออกไปพร้อมกับเสี่ยวนู๋และขึ้นไปบนฟ้าพร้อมกับเชียนเชียนและเทวาทมิฬ เสี่ยวเฟยไล่ตามพวกเขามาพร้อมน้ำตาและตะโกนว่า พี่ใหญ่ เสี่ยวนู๋, ต้องกลับมาเยี่ยมข้ากันนะ!
… เหนือทะเลลึกไร้สิ้นสุด มังกรทมิฬขนาดยักษ์ส่งเสียงไปทั่วทั้งฟ้า มันเร็วมาก กว่าสัตว์อสูรที่เพิ่งตื่นขึ้นมาจะโผล่พ้นจากแผ่นน้ำแข็งเบื้องล่าง มันก็หายไปไกลแล้ว
มีปีศาจทะเลมากมายในทะเลลึกไร้สิ้นสุด
ในความมืดมิดของราตรี เจียงอี้แอบถอนใจเมื่อเห็นปีศาจทะเลนับไม่ถ้วน เชียนเชียนและเสี่ยวนู๋กระซิบกระซาบกันเกี่ยวกับเรื่องเล่าแปลกๆในทะเลลึกไร้สิ้นสุด และมันเป็นวันที่เจ็ดแล้วที่พวกเขาอยู่ในทะเลลึกไร้สิ้นสุด พวกเขาใกล้จะถึงใจกลางทะเลลึกแล้ว ด้านเจียงอี้ก็หยุดบ่มเพาะพลังและยืนบนหัวมังกรและมองปีศาจทะเลที่ดูอยากรู้อยากเห็นมากมายที่ด้านล่าง
โฮกก!
หลังจากบินต่อไปอีกสี่ชั่วโมง ก่อนจะรุ่งสาง มังกรทมิฬก็คำรามออกมาซึ่งปลุกปีศาจทะเลทั้งหมดที่กลายเป็นรูปปั้นเหนือแผ่นน้ำแข็ง จากนั้นมังกรทมิฬก็บินลงมาอย่างรวดเร็วทำให้ปีศาจทะเลเหล่านั้นพากันหนีไปทั่วทุกสารทิศ
ปัง!
รูขนาดยักษ์แตกออก น้ำทะเลกระเพื่อมและสาดคลื่นนับพัน มังกรทมิฬพุ่งลงไปในทะเลจึงทำให้วิสัยทัศน์ของเจียงอี้และเจียงเสี่ยวนู๋มืดสนิท
ตามที่คาดไว้ มีเกราะโปร่งแสงอยู่รอบมังกรทมิฬ เขาพุ่งลงไปยังก้นบึ้งทะเลด้วยความเร็วสูง น้ำทะเลแยกออกจากกันโดยอัตโนมัติ ทำให้ไม่มีน้ำทะเลรอบๆมังกรเลย
ฟรึ่บ! ฟรั่บ!
กลิ่นอายของมังกรทมิฬที่แผ่ออกมาทำให้ปีศาจทะเลทั้งหมดพากันหนีไปด้วยความสยดสยอง ด้านมังกรทมิฬก็ยังคงพุ่งลงไปที่ก้นทะเล ส่วนเจียงอี้ก็มองไม่เห็นอะไรนอกจากความมืดและเขาก็ไม่กล้าแผ่สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ด้วย เขาเอื้อมมือไปจับเสี่ยวนู๋ไว้เพื่อรอให้พวกเขาไปถึงจุดหมายปลายทางของพวกเขา นั่นก็คือตำหนักซวนหวู่ ห้ากิโลเมตร, ห้าร้อยกิโลเมตร, ห้าหมื่นกิโลเมตร, ห้าแสนกิโลเมตร!
เจียงอี้คำนวณระยะทางในใจและแอบประหลาดใจ ด้วยความเร็วของเทวาทมิฬนั้น พวกเขาเดินทางมาห้านาทีและยังไม่ถึงด้านล่างเลย ทะเลลึกไร้สิ้นสุดนี้สมชื่อของมันจริงๆ มันลึกมากจริงๆ
มีแสงอยู่นั่น!
หลังจากดำลงไปได้สามนาที เจียงอี้ก็ชี้ไปด้านหน้าและอุทานออกมา เชียนเชียนเองก็ยิ้มและไม่ได้พูดอะไร ส่วนเจียงอี้ก็ยังคงมองแสงตรงนั้นอย่างระมัดระวัง
แสงนั้นค่อยๆใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เจียงอี้และเสี่ยวนู๋เดาได้คร่าวๆว่าน่าจะมีม่านพลังอยู่ด้านล่าง แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขาตกใจคือหลังจากที่มังกรทมิฬเดินทางต่อไปอีกหลายกิโลเมตร พวกเขาก็ยังมองไม่เห็นฉากใต้ม่านพลังได้อย่างชัดเจน และตอนนี้ม่านพลังก็มีความกว้างอย่างน้อยหลายหมื่นเมตร
เมื่อพวกเขาเข้าไปใกล้ ม่านพลังนั้นก็ใหญ่ขึ้นเรื่อนๆ สามสิบกิโลเมตร…สามร้อยกิโลเมตร ในที่สุด มันใหญ่มากจนสุดลูกหูลูกตาพวกเขา และพอจะมองเห็นเบื้องล่างได้ลางๆแล้ว
เหอ…
เจียงเสี่ยวนู๋ปิดปากของนางและเจียงอี้เองก็ประหลาดใจมากเช่นกัน มีเมืองใต้น้ำขนาดยักษ์อยู่ภายในม่านพลังนี้ซึ่งมันใหญ่กว่าเมืองเทพประทานถึงสิบเท่า ยิ่งไปกว่านั้น ทิวทัศน์ของมันงดงามมากราวกับเมืองสวรรค์ก็ไม่ปาน
เชียนเชียนยิ้มและพูดเบาๆว่า ยินดีต้อนรับสู่ฐานของเผ่าเรา เมืองซวนหวู่!