เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven - บทที่ 860 แดนลึกลับอีกาทองคำ

　　จักรพรรดิเงากลับมาภายในเวลาไม่ถึงชั่วโมงและมีข้อมูลมากมาย หลังจากที่เขาส่งข้อมูลให้เจียงอี้ เขาก็ยืนอยู่ที่นั่นเงียบๆขณะที่เจียงอี้เปิดดูข้อมูลด้วยความตะลึงงัน

　　ข้อมูลนี้หนามากและมีอีเพียวเพียวและหยูเวินที่ถูกระบุไว้ในนี้นับไม่ถ้วน มีข้อมูลบางอย่างที่มีรายละเอียดเยอะมาก ซึ่งประกอบด้วยตระกูล, อายุ, ความแข็งแกร่ง และแม้กระทั่งต้นตระกูลของพวกเขา มีอีเพียวเพียวและหยูเวินอยู่อย่างน้อยหลายหมื่นรายการในข้อมูลปึกนี้ หน่วยสอดแนมของเผ่าพันธุ์อสูรนี่ช่างน่าเหลือเชื่อจริงๆ

　　เจียงอี้อดทนอ่านข้อมูลทั้งหมดและไม่ได้สนใจคนที่ไม่เกี่ยวข้อง อย่างอีเพียวเพียวที่บางคนอายุมากกว่าเจ็ดสิบถึงแปดสิบปีแล้ว ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้เลย

　　เอ๋าหลูไม่ได้มีความกังวลใดๆขณะที่จักรพรรดิเงายืนอยู่ข้างๆราวกับท่อนไม้ เจียงอี้อ่านทุกรายละเอียดและใช้เวลากว่าสองชั่วโมงเพื่อค้นหาผู้ที่มีนามว่าอีเพียวเพียวนับหมื่น จนในที่สุดเขาก็แยกออกมาเหลือเพียงร้อยกว่าคนเท่านั้น

　　ส่วนหยูเวินนั้น มันท้าทายยิ่งกว่าเดิมเพราะเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาคือผู้ชายหรือผู้หญิง เขาอายุเท่าไหร่ และเขามีความแข็งแกร่งเช่นไร? เจียงอี้จึงทำได้เพียงแค่คัดข้อมูลคนที่ชื่อหยูเวินที่ไม่ได้ต่างกันมากเกินไปออกมาได้ราวๆสามร้อยคน

　　 ท่านจักรพรรดิแห่งเงา ข้ารบกวนท่านช่วยสืบหาคนหลายร้อยคนเหล่านี้ได้หรือไม่ว่าพวกเขาอยู่ที่ทวีปจักรพรรดิบูรพาหรือเปล่า โอ้ใช่แล้ว… 

　　เจียงอี้ส่งข้อมูลให้จักรพรรดิเงาและนึกบางอย่างได้และพูดว่า  เมื่อหกหรือเจ็ดปีก่อน อีเพียวเพียวมาที่เผ่าเทพประทานและพายอดฝีมือกึ่งเทพมาด้วย จากนั้นพวกเขาก็สู้กับตระกูลลู่ครั้งใหญ่ ข้าสามารถวาดภาพสองคนนั้นได้  　　 ดี! 

　　จักรพรรดิแห่งเงาพยักหน้าเงียบๆขณะที่เจียงอี้หยิบกระดาษออกมาและวาดภาพอย่างรวดเร็ว หลังจากที่ร่างภาพของอีเพียวเพียวและภาพของผู้เชี่ยวชาญกึ่งเทพเสร็จแล้ว เขาก็ส่งให้จักรพรรดิเงาและจักรพรรดิเงาก็พยักหน้า  นายน้อย ไม่ต้องกังวลไป ข้าจะทำให้ดีที่สุดและข้าจะตามหาคนที่ท่านกำลังหาตัวอยู่พบแน่นอน 

　　 จักรพรรดิเงา 

　　เอ๋าหลูก็พูดออกมาเช่นกัน  น้องสาวของเจียงอี้มาจากเผ่าพันธุ์ขนนกสีหมึกและนางแปลงกายได้ ตอนนี้นางไปถึงศาสตร์ศักดิ์สิทธิ์ขนนกสีหมึกระดับสองขั้นสูงสุดแล้ว และหลังจากที่นางแปลงกาย นางจะไปถึงขอบเขตเทียนจุนขั้นสูงสุด มีเผ่าพันธุ์ประหลาดเช่นนี้อยู่ในทวีปจักรพรรดิบูรพาหรือไม่? 

　　จักรพรรดิเงาตกใจอยู่ครู่หนึ่งและเขาก็ตอบอย่างหนักแน่นว่า  ไม่มีขอรับ!  　　เจียงอี้ขมวดคิ้วและถามอย่างสงสัย  ท่านจักรพรรดิแห่งเงา ท่านไม่จำเป็นต้องตรวจสอบเลยหรือ? 

　　 ไม่ต้องหรอก 

　　จักรพรรดิเงาตอบอย่างหนักแน่นว่า  ข้ารู้จักเผ่าพันธุ์พิเศษทั้งหมดในแดนเทียนชิงและไม่มีเผ่าพันธุ์ดังกล่าวเลย นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าได้ยินชื่อเผ่าพันธุ์ขนนกสีหมึก 

　　 แปลกจัง… 

　　เจียงอี้กระพริบตาอย่างสงสัยและครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วโบกมือ  เช่นนั้นก็สืบหาอีเพียวเพียวและหยูเวินก่อน 

　　หลังจากที่เจออีเพียวเพียว ปริศนาภูมิหลังของเสี่ยวนู๋ก็จะคลี่คลายได้เอง และเจียงอี้ก็คัดคนออกไปมากมายแล้ว มันน่าจะง่ายที่จะตรวจสอบใช่ไหม?

　　 เอาล่ะ เจ้าหนู 

　　เอ๋าหลูโบกมือให้จักรพรรดิเงาจากไปก่อนที่เขาจะพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า  สิ่งที่เจ้าต้องการนั้นได้จัดเตรียมไว้ให้เจ้าแล้ว สมาชิกของเผ่าเราจะรายงานให้เจ้ารู้ทันทีที่มีข้อมูลใดๆ แล้วเจ้าจะไปยังแดนลึกลับของเผ่าอีกาทองคำและเข้าถึงวิชาเทพพลางตาเมื่อใดกัน? ราชวังจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ลี้ลับจะเปิดในห้าปี และเชียนเชียนจะอยู่รอดอีกสิบปีเท่านั้น ยิ่งเจ้าไปเร็วเท่าไหร่ โอกาสที่เชียนเชียนจะรอดก็ยิ่งสูงขึ้น 

　　เอ๋าหลูเองก็จนปัญญาแล้ว หุ่นเชิดมนุษย์ที่เผ่าปีศาจควบคุมอยู่ก็ไม่ได้ทรงพลังและถึงแม้จะเป็นยอดฝีมือก็ยังยากที่จะแทรกซึมเข้าไปในซากปรักหักพังสลายบาปได้ เจียงอี้อาจไม่ได้แข็งแกร่งมากนัก แต่เขาก็สามารถมองจักรพรรดิลี้ลับได้ทะลุปรุโปร่ง เอ๋าหลูยกย่องเขาเป็นอย่างมากและเชื่อว่าเจียงอี้จะนำกล้วยไม้เขี้ยวเพลิงกลับมาได้อย่างแน่นอน

　　 ข้าจะแจ้งเสี่ยวนู๋และไปทันที! 

　　เจียงอี้อยากจะบินไปยังทวีปจักรพรรดิบูรพาโดยเร็วที่สุดเช่นกัน ยิ่งเขาไปถึงทวีปจักรพรรดิบูรพาเร็วเท่าไหร่ ซูรั่วเสวี่ยก็จะทนทุกข์น้อยลงเท่านั้น เอ๋าหลูพยักหน้าและพูดว่า  เชียนเชียน พาเจ้าหนูนั่นมาที่นี่ 

　　จากนั้นไม่นาน เชียนเชียนก็เข้ามาพร้อมกับเจียงเสี่ยวนู๋ เจียงอี้อธิบายสถานการณ์ให้เสี่ยวนู๋ฟังอย่างละเอียดและทันทีที่เจียงอี้อธิบายเสร็จ นางก็ตอบว่า  นายน้อย ข้าจะตามท่านไปทวีปจักรพรรดิบูรพา 

　　 ไม่มีทาง! 

　　เจียงอี้ปฏิเสธทันทีและพูดว่า  เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องมาคุยกัน หลังจากที่ข้าเข้าถึงวิชาเทพพลางตาแล้ว ข้าจะพาเจ้ากลับไปยังเมืองเทพประทาน คราวนี้จะไม่มีใครไปกับข้า มันจะอันตรายกว่าเดิมหากข้าพาพวกเจ้าไปด้วย 

　　เจียงเสี่ยวนู๋มองไปที่เจียงอี้ราวกับลูกสิงโตและกัดปากตอบว่า  หากนายน้อยไม่พาข้าไปด้วย ข้าก็จะไปเอง เว้นแต่ว่านายน้อยจะมัดข้าไว้หรือไม่ก็ฆ่าข้าซะ 

　　 เจ้า….  　　เจียงอี้ตัวสั่นด้วยความโกรธและเอ๋าหลูเองก็หมดความอดทนเล็กน้อยหลังจากที่ฟังเรื่องนี้ ดวงตาของเขาสั่นไหวขณะที่ส่งข้อความเสียงว่า  เจ้าหนู ไปยังแดนลึกลับของเผ่าอีกาทองคำก่อน หลังจากนั้น ข้าจะฝึกเจ้าหนูนี่และทำให้นางแข็งแกร่งขึ้น ไม่ต้องกังวล…เมื่อข้าอยู่นี่ จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับนางแน่นอน 

　　 ก็ได้! 

　　เจียงอี้พยักหน้าเงียบๆ หากเจียงเสี่ยวนู๋ถูกพากลับไปยังเมืองเทพประทาน เฉียนว่านก้วนและคนอื่นๆจะไม่สามารถรั้งนางได้ การอยู่ที่นี่นั้นไม่เพียงแต่นางจะเพิ่มความแข็งแกร่งได้เท่านั้น แต่เอ๋าหลูจะไม่ยอมให้นางหนีไปได้เช่นกัน เมื่อมีเชียนเชียนอยู่ใกล้ๆ เสี่ยวนู๋ก็จะได้ไม่เหงาด้วย เขาไม่ได้โต้เถียงกับเสี่ยวนู๋อีกต่อไปและหลังจากที่พูดคุยกันสองประโยค เอ๋าหลูก็พาเทวาทมิฬมาเพื่อนำเจียงอี้ไปยังแดนลึกลับของเผ่าพันธุ์อีกาทองคำ　　เจียงเสี่ยวนู๋กลัวว่าเจียงอี้อาจทิ้งนางไว้และยืนกรานที่จะไปด้วย ซึ่งเจียงอี้ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากพานางไปด้วยขณะที่เชียนเชียนเองก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากฝืนยิ้มและตามมา

　　….

　　เดิมทีอีกาทองคำนั้นเป็นนกที่มีพลังและดุร้าย หลังจากที่เผ่าปีศาจและอสูรถูกบังคับให้ถอยมาอยู่ทะเลลึกไร้สิ้นสุด เผ่าอีกาทองคำจึงไม่มีทางอื่นนอกจากตามเข้ามาอยู่ในทะเล และเนื่องจากพวกมันไม่สามารถปรับตัวกับการมีชีวิตใต้น้ำได้ เผ่าอีกาทองคำจึงได้รับผลกระทบอย่างหนักและเกือบสูญพันธุ์ไป

　　มันถือเป็นโชคดีที่เผ่าอีกาทองคำเกิดไปเจอแดนลึกลับและเข้าถึงความสามารถศักดิ์สิทธิ์นี้เข้า ซึ่งทำให้พวกมันเปลี่ยนรูปร่างและกลิ่นอายวิญญาณได้ เมื่อใดที่ศัตรูบุกเข้ามา พวกมันจะเปลี่ยนเป็นเผ่าที่ทรงพลังที่สุดในทะเลลึกไร้สิ้นสุดเพื่อข่มขู่และขับไล่ศัตรู ทำให้เผ่าอีกาทองคำดิ้นรนมาได้และหลังจากที่พวกมันค่อยๆปรับตัวกับการใช้ชีวิตใต้น้ำได้ เผ่าพันธุ์ของพวกมันก็ค่อยๆแข็งแกร่งขึ้น

　　เมื่อมีเทวาทมิฬปูทางให้ การเดินทางก็สงบสุขเป็นอย่างยิ่งเนื่องจากเผ่าอื่นๆจะหลีกเลี่ยงพวกเขาก่อนที่พวกเขาจะไปถึง เจียงอี้สนทนากับเชียนเชียนโดยใช้การส่งข้อความเสียงกันและเขาก็ได้รู้ถึงสถานะของเทวาทมิฬในทะเลลึกไร้สิ้นสุด

　　ทะเลลึกไร้สิ้นสุดใหญ่กว่าทะเลราตรีสีเลือดนับร้อยเท่า ย้อนไปในตอนที่สมาชิกเผ่าปีศาจและอสูรถูกขับไล่มายังทะเล มันทำให้ทะเลลึกไร้สิ้นสุดมีเผ่าพันธุ์อสูรและปีศาจนับหมื่นสายพันธุ์ และมีเจ้าอสูรอย่างน้อยร้อยเผ่าพันธุ์ หรือกล่าวอีกนัยคือ..ทะเลลึกไร้สิ้นสุดมีเจ้าอสูรอย่างน้อยหลายร้อยตน

　　ก่อนที่เอ๋าหลูจะกลับมา ทะเลลึกไร้สิ้นสุดอยู่ในการต่อสู้ที่วุ่นวายเนื่องจากแต่ละเผ่าพันธุ์ที่มีอำนาจก็พากันยึดอาณาเขตของตนด้วยการใช้กำลัง ซึ่งมันทำให้เกิดการต่อสู้กันบ่อยครั้ง หลังจากที่เอ๋าหลูกลับมา เขาก็ได้ทำลายเผ่าพันธุ์ที่ทรงพลังห้าเผ่าด้วยตัวเองและกำจัดเจ้าอสูรไปมากกว่าสิบตนทำให้ทะเลลึกไร้สิ้นสุดทั้งหมดสั่นคลอนในพลังการต่อสู้ของเขา เหล่าเจ้าอสูรทั้งสามสิบหกตนที่แข็งแกร่งที่สุดก็ได้รับตำแหน่งโดยเอ๋าหลู อย่างเช่นเทวาทมิฬและจักรพรรดิเงา มีเจ้าอสูรมากมายที่ไม่มีคุณสมบัติมากพอที่จะเข้ามายังตำหนักซวนหวู่ด้วย

　　เจ้าอสูรของเผ่าอีกาทองคำเองก็ไม่มีคุณสมบัติที่จะได้ตำแหน่งนั้นเช่นกัน

　　ในก้นทะเล เทวาทมิฬและเจียงอี้มาถึงแดนของเผ่าอีกาทองคำ เผ่าอีกาทองคำได้สร้างค่ายกลยักษ์ไว้ทั่วทั้งหุบเหวทั้งหมดที่ก้นทะเลลึก ซึ่งมันแบ่งแยกน้ำทะเลไว้ มีปราสาทมากมายตั้งตระหง่านอยู่สองข้างของหุบเขา และเมื่อหัวหน้าเผ่าอีกาทองคำสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของเทวาทมิฬ เขาก็รีบนำยอดฝีมือออกไปต้อนรับพวกเขา

　　 คารวะองค์หญิงเชียนเชียนและท่านใต้เท้าเทวาทมิฬ!  　　เจียงอี้และเสี่ยวนู๋เผยความประหลาดใจออกมาเมื่อเห็นเหล่าจอมยุทธชุดดำที่ทักทายเชียนเชียนและเทวาทมิฬ สมาชิกของเผ่าอีกาทองคำมีสามขาจริงๆและโชคดีนักที่ทั้งคู่ได้เห็นเผ่าพันธุ์แปลกๆมากมายในทะเลลึกไร้สิ้นสุด

　　เทวาทมิฬโบกมือและพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นว่า  เปิดแดนลึกลับและให้เจียงอี้เข้าไปทำความเข้าใจมัน! 

　　 นี่… 

　　หัวหน้าเผ่าอีกาทองคำเผยความประหลาดใจออกมาและส่ายหัวพร้อมตอบกลับด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า  ต้องขออภัยด้วย ใต้เท้าเทวาทมิฬ นอกจากสมาชิกของเผ่าอีกาทองคำแล้ว เราไม่ให้เผ่าอื่นเข้าไปในแดนลึกลับ อย่าพูดถึงมนุษย์เลย! 

　　….