เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven - บทที่ 891 สังหารไอ้แก่นั่นซะ!
- Home
- เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven
- บทที่ 891 สังหารไอ้แก่นั่นซะ!
“คำสาบานเลือดจักรพรรดิลี้ลับ!”
เกิดความโกลาหลครั้งใหญ่ นี่เป็นคำปฏิญาณที่ทรงเกียรติที่สุดในทวีปจักรพรรดิบูรพาและมีประสิทธิภาพมาก มีข่าวลือว่าหากผู้ใดฝ่าฝืนคำสาบานเลือดจักรพรรดิลี้ลับนี้ ผลที่ตามมาจะสาหัสมาก
เมื่อสามปีก่อน หนึ่งในผู้อาวุโสเก้าตระกูลจักรพรรดิได้ให้คำสาบานเลือดจักรพรรดิลี้ลับไว้ และเมื่อเขาละเมิดคำสาบาน จู่ๆเขาก็ตกตายไปอย่างไม่ทราบสาเหตุ เรื่องนี้จึงทำให้เกิดความยิ่งใหญ่ขึ้นในทวีปและโดยปกติแล้วจะไม่มีผู้ใดสาบานอย่างเลินเล่อ จักรพรรดิลี้ลับนั้นมีตัวตนราวกับเทพ
“เจ้า…”
ถานไถหยาชะงักไป ผู้ใดที่กระทำผิดย่อมเกรงกลัว ผู้ที่ไม่มีความมั่นใจย่อมขี้ขลาดเป็นธรรมดา และผู้ที่ไม่มีคุณธรรมย่อมกลัวตายเป็นที่สุด เมื่อถานไถอู๋ตี๋เห็นเสียงขู่จากรอบๆ ใบหน้าของเขาก็ไม่สามารถสงบนิ่งได้อีกต่อไป เขาพูดอย่างเย็นชา “ถานไถหยา รีบปฏิญาณตนเสีย เมื่อเจ้าให้สัตย์สาบานแล้ว ข้าจะสนับสนุนเจ้าอยู่แล้ว ชื่อเสียงของตระกูลถานไถนั้นจะต้องไม่มัวหมอง”
“ข้า ข้า….”
ถานไถหยาลังเลและไม่สามารถพูดออกมาได้แม้แต่คำเดียวขณะที่เขามองไปที่ปู่ของตัวเองด้วยท่าทีอ้อนวอน ประมุขหัวเองก็รู้ดีว่าหลานชายของเขาเป็นเช่นไรขณะที่เขากัดฟันพูดกับเจียงอี้ว่า “นายน้อยผู้นี้เอาแต่ใจนัก! ข้าอยากทราบว่าเจ้ามาจากตระกูลใดกัน เจ้ากล้าเอ่ยชื่อตระกูลของเจ้าหรือไม่? ให้ตาแก่เยี่ยงข้าได้สัมผัสมันด้วยเถอะ”
“คนอย่างเจ้า? คู่ควรด้วยหรือ?”
เจียงอี้เย้ยหยัน “ในเมื่อถานไถหยาไม่กล้าสาบาน เช่นนั้นสิ่งที่เขาทำก็เป็นเรื่องจริง ถานไถหยาใส่ร้ายข้า เจ้าจะประหารเขาหรือจะให้ข้าลงมือเอง?” “น่าขันนัก! ข้าอยากสัมผัสฝีมืออันยอดเยี่ยมของเจ้าแล้วล่ะ!”
ประมุขหัวเดือดดาล ร่างของเขาพุ่งพล่านไปด้วยกลิ่นอายและแสงกระบี่ของเขาก็สาดส่อง เขากำลังเตรียมตัวลงมือ เขาไม่มีทางอื่นเลยจริงๆ และหากพวกเขายังคงพูดคุยกันต่อไป ชื่อเสียงของถานไถหยาก็จะยิ่งมัวหมองไปหมด ดูจากสถานการณ์แล้ว เจียงอี้เองก็คงไม่ผ่อนปรนเว้นเสียแต่ว่าถานไถหยาจะถูกสังหาร ในฐานะที่เขาเป็นปู่ เขาจึงต้องเข้ามายุ่งอยู่แล้ว
จี๊! จี๊!
แต่ใครจะไปรู้ว่าเจียงอี้มีปฏิกิริยาที่รวดเร็วกว่าขณะที่ดาบเหล็กทมิฬของเขาส่องแสงออกมาและแก่นแท้พลังก็กลายเป็นแสงดาบขนาดยักษ์ก่อนจะพุ่งออกไป ในเวลาเดียวกัน เจียงอี้ก็ตะโกนออกมาว่า “ลงมือเลย สังหารถานไถหยาซะ”
บึฟ!
ในเวลาเดียวกัน เมื่อเจียงอี้ออกคำสั่งค่ายกลเคลื่อนย้ายภายในจัตุรัสก็สว่างขึ้นและยอดฝีมือหลายร้อยคนก็ถูกส่งตัวมา พวกเขาอาจมีเพียงไม่กี่ร้อยคน แต่ทุกคนที่อยู่ในนั้นต่างพากันตกตะลึง คนหลายร้อยคนเหล่านี้เป็นขอบเขตเทียนจุนระดับสูงและยังมีขอบเขตเทียนจุนขั้นสูงสุดถึงสิบห้าคน
จี๊! จี๊!
ผู้คนหลายร้อยคนเหล่านี้บินมาและจู่โจมที่ประตูตำหนักเจ้าเมืองทันที และเกิดประกายระยิบระยับขณะที่ห้วงอากาศสั่นไหว กลิ่นอายที่น่าสยดสยองนั้นเหมือนกำลังจะดับโลกและทำให้ผู้คนนับล้านในเมืองรู้สึกถึงมัน
“หนี…”
“หยุดนะ!”
“ช่างกล้านัก เจ้ากล้าโจมตีเมืองจริงๆ? ประมุขอาณาเขตไม่ปล่อยพวกเจ้าทั้งหมดไว้แน่ๆ”
จอมยุทธของตระกูลถานไถตกอยู่ในความโกลาหลทันที มีจอมยุทธมากมายนับไม่ถ้วนได้บินขึ้นไปบนฟ้าและหนีไปซึ่งรวมถึงถานไถอู๋ตี๋และขอบเขตเทียนจุนขั้นสูงสุดที่เหลือด้วย ส่วนถานไถหยาก็ถูกประมุขหัวอุ้มไปและทั้งคู่ก็หนีไปด้วยกัน
ตูม! ตูม! ตูม!
มีเสียงระเบิดสะท้อนไปทั่วทั้งตำหนักเจ้าเมือง บ้านและปราสาทในตำหนักเจ้าเมืองหลายหลังได้พังทลายลงและขอบเขตเทียนจุนนับหมื่นที่ยืนอยู่ที่หน้าตำหนักเจ้าเมืองก็ถูกสังหารไปในทันที
ยอดฝีมือที่ไม่คุ้นเคยกลุ่มนี้ปรากฏตัวขึ้นกะทันหันเกินไปและพวกเขาก็โจมตีทันทีที่ปรากฏ คนส่วนใหญ่นั้นไม่สามารถตอบสนองได้ทันเวลา และถึงแม้ว่าพวกเขาจะตอบโต้ได้ แต่พวกเขาก็ไม่สามารถหลบหนีได้เนื่องจากการโจมตีของขอบเขตเทียนจุนระดับสูงและขั้นสูงสุดเหล่านี้เร็วเกินไป
“…”
ทุกคนต่างตกตะลึง ซ่งจงเองก็ตกตะลึงมากจนตาแทบหลุดออกมา ส่วนถานไถชี่นั่งอยู่ในรถม้าศึก ตอนที่ถานไถหยาและเจียงอี้พูดคุยกันถึงเรื่องการล่วงประเวณี นางอับอายมากจนไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมา แต่ตอนนี้นางลืมความอับอายเหล่านั้นไปหมดและดวงตาของนางก็เต็มไปด้วยความตกใจ
“ไม่นะ ท่านใต้เท้าเสวี่ย อย่าสังหารอย่างประมาท เสี่ยวเทียนและเสี่ยวหยียังอยู่ในลานในตระกูลถานไถเจ้าค่ะ” ถานไถชี่นึกบางอย่างขึ้นได้และรีบส่งข้อความเสียงด้วยความหวาดกลัว
“จะตกใจอะไรนัก? ข้าเตรียมให้คนพาพวกเขาออกมาแล้ว!”
เจียงอี้มองถานไถชี่และหันไปมองถานไถหยาบนฟ้าทันที เขาตะโกนออกมาอย่างเย็นชาอีกครั้ง “โจมตีต่อไป หากถานไถหยาไม่ตาย เช่นนั้นก็ฆ่าให้หมดทั้งเมือง!”
“ขอรับ!”
ยอดฝีมือมากกว่าห้าร้อยคนปล่อยการโจมตีอีกครั้งและทุกคนเพ่งเล็งไปที่ถานไถหยาและประมุขตระกูลหัวบนฟ้า ประมุขหัวตกใจมากเมื่อเขาได้ยินคำสั่งของเจียงอี้ขณะที่ร่างของเขาสั่นเทาก่อนที่เขาจะโยนถานไหยาไปอย่างรวดเร็วขณะที่เขาบินไปทางซ้ายแทน
ขอบเขตเทียนจุนระดับสูงกว่าห้าร้อยคนและขอบเขตเทียนจุนขั้นสูงสุดอีกมากกว่าสิบคน ยอดฝีมือจำนวนเท่านี้ก็พอที่จะสังหารหมู่เมืองเพลิงสวรรค์ทั้งหมดได้แล้ว ถานไถหยาเป็นหลานของประมุขตระกูลหัวอย่างแท้จริง แต่หากเขายังคงปกป้องถานไถหยาต่อ ไม่เพียงแต่เขาต้องตายเท่านั้น แต่ตระกูลหัวทั้งตระกูลของเขาก็จะถูกทำลายด้วย
“ท่านปู่ ช่วยข้าด้วย! ไม่นะ……”
ถานไถหยาเห็นประมุขตระกูลหัวเหวี่ยงเขาไปอีกข้างและหลบหนีไป จากนั้นเมื่อเขาเห็นการโจมตีนับร้อยสายที่กำลังมุ่งมา ถานไถหยาก็ร้องโหยหวนด้วยความสิ้นหวังในทันที ก่อนที่เสียงโอดครวญของเขาจะดังขึ้น มันก็ถูกการโจมตีขัดจังหวะไปและร่างของเขาก็กลายเป็นชิ้นๆทันที ตูม!
ขณะที่การโจมตีหลายร้อยสายโหมกระหน่ำ แม้แต่ม่านพลังบนฟ้าก็พังทลายทันที ทั้งเมืองเพลิงสวรรค์นี้กำลังสั่นสะเทือนและผู้คนธรรมดานับไม่ถ้วนต่างพากันนอนแนบพื้นและคิดว่าพวกเขาคงไม่มีชีวิตอยู่เพื่อจะได้เห็นวันพรุ่งนี้แล้ว
“หยุด หยุดฆ่าได้แล้ว ถานไถหยาตายแล้ว!”
ถานไถอู๋ตี๋และคนอื่นๆเป็นขอบเขตเทียนจุนขั้นสูงสุด แต่พวกเขาก็ยังไม่กล้าเคลื่อนไหวในตอนนี้ ความแข็งแกร่งของพวกเขารวมกันนั้นยังไม่เท่าห้าร้อยคนเหล่านี้เลย แม้ว่าพวกเขาจะสังหารยอดฝีมือไปได้บ้าง แต่มันก็จะทำให้พวกนี้โกรธแค้นมากขึ้นเท่านั้นและเมืองเพลิงสวรรค์ก็จะสูญสลายไปจริงๆ
ผู้คนจำนวนห้าร้อยคนล้วนสวมชุดเกราะสีดำแบบเดียวกันและพวกเขาทั้งหมดมีดวงตาที่เย็นยะเยือกเหมือนกัน หลังจากโจมตีไประลอกหนึ่งแล้ว พวกเขาก็หยุดโจมตีและมองไปที่เจียงอี้เหมือนกำลังรอคำสั่งของเขาอยู่
เจียงอี้ยักไหล่และมองถานไถชี่ “เจ้าไม่พอใจใครบ้าง? ข้าจะช่วยเจ้ากำจัดพวกมัน!”
ฟรึ่บ! ฟรั่บ! ฟรึ่บ!
ยอดฝีมือขอบเขตเทียนจุนของตระกูลถานไถนับพันอยู่บนอากาศขณะที่มองถานไถชี่ด้วยความกลัวและตื่นตระหนก ในตอนนี้ ดูเหมือนว่าถานไถชี่จะเป็นผู้ชี้ชะตาของทุกคน
“ข้า…”
ร่างอันบอบบางของถานไถชี่สั่นเทาขณะที่ใบหน้าของนางแดงก่ำและดวงตาของนางเต็มไปด้วยความยินดี นี่เป็นความสุขที่นางไม่เคยมีมาก่อน นางมองบุคคลสามคนและพูดอย่างกล้าหาญ “ผู้อาวุโสทั้งสามเคยต้องการจะดูหมิ่นข้า”
“ฆ่า!”
ด้วยการโบกมือของเจียงอี้ ทหารเกราะดำหลายร้อยคนเพ่งเล็งไปที่ทั้งสามคนนั้น เหล่าขอบเขตเทียนจุนระดับกลางทั้งสามนั้นต่างมีสีหน้าซีดเผือดขณะที่จอมยุทธที่อยู่ใกล้ๆพวกเขามองพวกเขาราวกับเป็นโรคระบาดและพากันบินหนีไปอย่างร้อนรน
จี๊! จี๊!
การโจมตีนับร้อยสายแผ่กระจายไปทั่วและทั้งสามคนไม่มีโอกาสแม้แต่จะหลบหนี พวกเขาถูกการโจมตีหลายร้อยครั้งและระเบิดออกเป็นหมอกโลหิตจากฟากฟ้า
เจียงอี้พยักหน้าและถามอีกครั้ง “มีใครอีก?”
ไม่มีสิ่งใดนอกจากความเงียบงันจนแทบจะได้ยินเสียงเข็มหมุดที่ร่วงหล่น ร่างของถานไถชี่สั่นเทาอย่างรุนแรงขณะที่นางชี้ไปที่อีกสองคนที่อยู่อีกฟากและพูดว่า “และสองคนนั้น”
“ฆ่า”
เสียงที่เลือดเย็นและไร้หัวใจของเจียงอี้ดังก้องขึ้นอีกครั้ง นิสัยของเขาเป็นเช่นนี้เสมอ เมื่อเขากำลังจะสังหาร เขาจะสังหารจนกว่าจะพอใจ หากตระกูลถานไถไม่มากวนใจเขา เขาก็คงจะไม่ยุ่งกับตระกูลถานไถ แต่เมื่อพวกนั้นมากวนใจเขา พวกเขาก็จะต้องเตรียมรับผลที่ตามมาด้วย
ตูม! ตูม! ตูม!
คนอีกสองคนถูกสังหารไป เจียงอี้มองถานไถชี่อีกครั้งขณะที่ดวงตาที่งดงามของนางมองไปรอบๆและท้ายที่สุดก็หยุดลงที่ถานไถอู๋ตี๋ วันนี้นางปล่อยวางทุกสิ่งแล้วและนางก็ตะโกนออกมาอย่างนุ่มนวลว่า “และตาเฒ่านั่นด้วย คนผู้นี้ขอให้คนมาส่งข้อความให้ข้าเมื่อสองวันก่อนและบอกว่าขอให้ข้าอยู่กับเขาหนึ่งเดือน และเขาจะรับประกันว่าข้าจะไม่ต้องกังวลสิ่งใดอีกตลอดชีวิต”
“ข้าถูกกล่าวหา!”
ถานไถอู๋ตี๋คุกเข่าอยู่กลางอากาศและตะโกนว่า “ตาเฒ่าอย่างข้าก็จวนจะเจ็ดสิบปีแล้ว ข้าจะกล้ามีเจตนาอย่างนั้นได้อย่างไร? ถึงแม้ว่าข้าจะมีเจตนา แต่ข้าก็ไม่มีกำลังจะทำเรื่องแบบนี้ มันต้องเป็นถานไถหยาแน่ๆ ไอ้สารเลวนั่นพยายามใส่ร้ายข้า นายน้อยโปรดเมตตาข้าด้วย….”
บรึฟ!
ในขณะนั้นเอง ค่ายกลเคลื่อนย้ายขนาดยักษ์ในจัตุรัสก็สว่างขึ้นและสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของทุกคนก็สอดส่องไปที่นั่น เมื่อถานไถอู๋ตี๋กวาดตามอง เขาก็รีบลุกขึ้นยืนทันทีพร้อมพูดด้วยความปิติยินดี “ท่านประมุข ผู้อาวุโสหลัวปิง ช่วยข้าด้วยและสังหารพวกกบฏพวกนี้….”
มันคงดีกว่านี้หากถานไถอู๋ตี๋ไม่ตะโกนออกมา เพราะเมื่อเขาตะโกนออกมา เขาก็ทำให้เจียงอี้เดือดดาลทันทีขณะที่เจียงอี้ตะโกนออกมาว่า “สังหารไอ้แก่นั่นซะ!”
เกิดความโกลาหลครั้งใหญ่ นี่เป็นคำปฏิญาณที่ทรงเกียรติที่สุดในทวีปจักรพรรดิบูรพาและมีประสิทธิภาพมาก มีข่าวลือว่าหากผู้ใดฝ่าฝืนคำสาบานเลือดจักรพรรดิลี้ลับนี้ ผลที่ตามมาจะสาหัสมาก
เมื่อสามปีก่อน หนึ่งในผู้อาวุโสเก้าตระกูลจักรพรรดิได้ให้คำสาบานเลือดจักรพรรดิลี้ลับไว้ และเมื่อเขาละเมิดคำสาบาน จู่ๆเขาก็ตกตายไปอย่างไม่ทราบสาเหตุ เรื่องนี้จึงทำให้เกิดความยิ่งใหญ่ขึ้นในทวีปและโดยปกติแล้วจะไม่มีผู้ใดสาบานอย่างเลินเล่อ จักรพรรดิลี้ลับนั้นมีตัวตนราวกับเทพ
“เจ้า…”
ถานไถหยาชะงักไป ผู้ใดที่กระทำผิดย่อมเกรงกลัว ผู้ที่ไม่มีความมั่นใจย่อมขี้ขลาดเป็นธรรมดา และผู้ที่ไม่มีคุณธรรมย่อมกลัวตายเป็นที่สุด เมื่อถานไถอู๋ตี๋เห็นเสียงขู่จากรอบๆ ใบหน้าของเขาก็ไม่สามารถสงบนิ่งได้อีกต่อไป เขาพูดอย่างเย็นชา “ถานไถหยา รีบปฏิญาณตนเสีย เมื่อเจ้าให้สัตย์สาบานแล้ว ข้าจะสนับสนุนเจ้าอยู่แล้ว ชื่อเสียงของตระกูลถานไถนั้นจะต้องไม่มัวหมอง”
“ข้า ข้า….”
ถานไถหยาลังเลและไม่สามารถพูดออกมาได้แม้แต่คำเดียวขณะที่เขามองไปที่ปู่ของตัวเองด้วยท่าทีอ้อนวอน ประมุขหัวเองก็รู้ดีว่าหลานชายของเขาเป็นเช่นไรขณะที่เขากัดฟันพูดกับเจียงอี้ว่า “นายน้อยผู้นี้เอาแต่ใจนัก! ข้าอยากทราบว่าเจ้ามาจากตระกูลใดกัน เจ้ากล้าเอ่ยชื่อตระกูลของเจ้าหรือไม่? ให้ตาแก่เยี่ยงข้าได้สัมผัสมันด้วยเถอะ”
“คนอย่างเจ้า? คู่ควรด้วยหรือ?”
เจียงอี้เย้ยหยัน “ในเมื่อถานไถหยาไม่กล้าสาบาน เช่นนั้นสิ่งที่เขาทำก็เป็นเรื่องจริง ถานไถหยาใส่ร้ายข้า เจ้าจะประหารเขาหรือจะให้ข้าลงมือเอง?” “น่าขันนัก! ข้าอยากสัมผัสฝีมืออันยอดเยี่ยมของเจ้าแล้วล่ะ!”
ประมุขหัวเดือดดาล ร่างของเขาพุ่งพล่านไปด้วยกลิ่นอายและแสงกระบี่ของเขาก็สาดส่อง เขากำลังเตรียมตัวลงมือ เขาไม่มีทางอื่นเลยจริงๆ และหากพวกเขายังคงพูดคุยกันต่อไป ชื่อเสียงของถานไถหยาก็จะยิ่งมัวหมองไปหมด ดูจากสถานการณ์แล้ว เจียงอี้เองก็คงไม่ผ่อนปรนเว้นเสียแต่ว่าถานไถหยาจะถูกสังหาร ในฐานะที่เขาเป็นปู่ เขาจึงต้องเข้ามายุ่งอยู่แล้ว
จี๊! จี๊!
แต่ใครจะไปรู้ว่าเจียงอี้มีปฏิกิริยาที่รวดเร็วกว่าขณะที่ดาบเหล็กทมิฬของเขาส่องแสงออกมาและแก่นแท้พลังก็กลายเป็นแสงดาบขนาดยักษ์ก่อนจะพุ่งออกไป ในเวลาเดียวกัน เจียงอี้ก็ตะโกนออกมาว่า “ลงมือเลย สังหารถานไถหยาซะ”
บึฟ!
ในเวลาเดียวกัน เมื่อเจียงอี้ออกคำสั่งค่ายกลเคลื่อนย้ายภายในจัตุรัสก็สว่างขึ้นและยอดฝีมือหลายร้อยคนก็ถูกส่งตัวมา พวกเขาอาจมีเพียงไม่กี่ร้อยคน แต่ทุกคนที่อยู่ในนั้นต่างพากันตกตะลึง คนหลายร้อยคนเหล่านี้เป็นขอบเขตเทียนจุนระดับสูงและยังมีขอบเขตเทียนจุนขั้นสูงสุดถึงสิบห้าคน
จี๊! จี๊!
ผู้คนหลายร้อยคนเหล่านี้บินมาและจู่โจมที่ประตูตำหนักเจ้าเมืองทันที และเกิดประกายระยิบระยับขณะที่ห้วงอากาศสั่นไหว กลิ่นอายที่น่าสยดสยองนั้นเหมือนกำลังจะดับโลกและทำให้ผู้คนนับล้านในเมืองรู้สึกถึงมัน
“หนี…”
“หยุดนะ!”
“ช่างกล้านัก เจ้ากล้าโจมตีเมืองจริงๆ? ประมุขอาณาเขตไม่ปล่อยพวกเจ้าทั้งหมดไว้แน่ๆ”
จอมยุทธของตระกูลถานไถตกอยู่ในความโกลาหลทันที มีจอมยุทธมากมายนับไม่ถ้วนได้บินขึ้นไปบนฟ้าและหนีไปซึ่งรวมถึงถานไถอู๋ตี๋และขอบเขตเทียนจุนขั้นสูงสุดที่เหลือด้วย ส่วนถานไถหยาก็ถูกประมุขหัวอุ้มไปและทั้งคู่ก็หนีไปด้วยกัน
ตูม! ตูม! ตูม!
มีเสียงระเบิดสะท้อนไปทั่วทั้งตำหนักเจ้าเมือง บ้านและปราสาทในตำหนักเจ้าเมืองหลายหลังได้พังทลายลงและขอบเขตเทียนจุนนับหมื่นที่ยืนอยู่ที่หน้าตำหนักเจ้าเมืองก็ถูกสังหารไปในทันที
ยอดฝีมือที่ไม่คุ้นเคยกลุ่มนี้ปรากฏตัวขึ้นกะทันหันเกินไปและพวกเขาก็โจมตีทันทีที่ปรากฏ คนส่วนใหญ่นั้นไม่สามารถตอบสนองได้ทันเวลา และถึงแม้ว่าพวกเขาจะตอบโต้ได้ แต่พวกเขาก็ไม่สามารถหลบหนีได้เนื่องจากการโจมตีของขอบเขตเทียนจุนระดับสูงและขั้นสูงสุดเหล่านี้เร็วเกินไป
“…”
ทุกคนต่างตกตะลึง ซ่งจงเองก็ตกตะลึงมากจนตาแทบหลุดออกมา ส่วนถานไถชี่นั่งอยู่ในรถม้าศึก ตอนที่ถานไถหยาและเจียงอี้พูดคุยกันถึงเรื่องการล่วงประเวณี นางอับอายมากจนไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมา แต่ตอนนี้นางลืมความอับอายเหล่านั้นไปหมดและดวงตาของนางก็เต็มไปด้วยความตกใจ
“ไม่นะ ท่านใต้เท้าเสวี่ย อย่าสังหารอย่างประมาท เสี่ยวเทียนและเสี่ยวหยียังอยู่ในลานในตระกูลถานไถเจ้าค่ะ” ถานไถชี่นึกบางอย่างขึ้นได้และรีบส่งข้อความเสียงด้วยความหวาดกลัว
“จะตกใจอะไรนัก? ข้าเตรียมให้คนพาพวกเขาออกมาแล้ว!”
เจียงอี้มองถานไถชี่และหันไปมองถานไถหยาบนฟ้าทันที เขาตะโกนออกมาอย่างเย็นชาอีกครั้ง “โจมตีต่อไป หากถานไถหยาไม่ตาย เช่นนั้นก็ฆ่าให้หมดทั้งเมือง!”
“ขอรับ!”
ยอดฝีมือมากกว่าห้าร้อยคนปล่อยการโจมตีอีกครั้งและทุกคนเพ่งเล็งไปที่ถานไถหยาและประมุขตระกูลหัวบนฟ้า ประมุขหัวตกใจมากเมื่อเขาได้ยินคำสั่งของเจียงอี้ขณะที่ร่างของเขาสั่นเทาก่อนที่เขาจะโยนถานไหยาไปอย่างรวดเร็วขณะที่เขาบินไปทางซ้ายแทน
ขอบเขตเทียนจุนระดับสูงกว่าห้าร้อยคนและขอบเขตเทียนจุนขั้นสูงสุดอีกมากกว่าสิบคน ยอดฝีมือจำนวนเท่านี้ก็พอที่จะสังหารหมู่เมืองเพลิงสวรรค์ทั้งหมดได้แล้ว ถานไถหยาเป็นหลานของประมุขตระกูลหัวอย่างแท้จริง แต่หากเขายังคงปกป้องถานไถหยาต่อ ไม่เพียงแต่เขาต้องตายเท่านั้น แต่ตระกูลหัวทั้งตระกูลของเขาก็จะถูกทำลายด้วย
“ท่านปู่ ช่วยข้าด้วย! ไม่นะ……”
ถานไถหยาเห็นประมุขตระกูลหัวเหวี่ยงเขาไปอีกข้างและหลบหนีไป จากนั้นเมื่อเขาเห็นการโจมตีนับร้อยสายที่กำลังมุ่งมา ถานไถหยาก็ร้องโหยหวนด้วยความสิ้นหวังในทันที ก่อนที่เสียงโอดครวญของเขาจะดังขึ้น มันก็ถูกการโจมตีขัดจังหวะไปและร่างของเขาก็กลายเป็นชิ้นๆทันที ตูม!
ขณะที่การโจมตีหลายร้อยสายโหมกระหน่ำ แม้แต่ม่านพลังบนฟ้าก็พังทลายทันที ทั้งเมืองเพลิงสวรรค์นี้กำลังสั่นสะเทือนและผู้คนธรรมดานับไม่ถ้วนต่างพากันนอนแนบพื้นและคิดว่าพวกเขาคงไม่มีชีวิตอยู่เพื่อจะได้เห็นวันพรุ่งนี้แล้ว
“หยุด หยุดฆ่าได้แล้ว ถานไถหยาตายแล้ว!”
ถานไถอู๋ตี๋และคนอื่นๆเป็นขอบเขตเทียนจุนขั้นสูงสุด แต่พวกเขาก็ยังไม่กล้าเคลื่อนไหวในตอนนี้ ความแข็งแกร่งของพวกเขารวมกันนั้นยังไม่เท่าห้าร้อยคนเหล่านี้เลย แม้ว่าพวกเขาจะสังหารยอดฝีมือไปได้บ้าง แต่มันก็จะทำให้พวกนี้โกรธแค้นมากขึ้นเท่านั้นและเมืองเพลิงสวรรค์ก็จะสูญสลายไปจริงๆ
ผู้คนจำนวนห้าร้อยคนล้วนสวมชุดเกราะสีดำแบบเดียวกันและพวกเขาทั้งหมดมีดวงตาที่เย็นยะเยือกเหมือนกัน หลังจากโจมตีไประลอกหนึ่งแล้ว พวกเขาก็หยุดโจมตีและมองไปที่เจียงอี้เหมือนกำลังรอคำสั่งของเขาอยู่
เจียงอี้ยักไหล่และมองถานไถชี่ “เจ้าไม่พอใจใครบ้าง? ข้าจะช่วยเจ้ากำจัดพวกมัน!”
ฟรึ่บ! ฟรั่บ! ฟรึ่บ!
ยอดฝีมือขอบเขตเทียนจุนของตระกูลถานไถนับพันอยู่บนอากาศขณะที่มองถานไถชี่ด้วยความกลัวและตื่นตระหนก ในตอนนี้ ดูเหมือนว่าถานไถชี่จะเป็นผู้ชี้ชะตาของทุกคน
“ข้า…”
ร่างอันบอบบางของถานไถชี่สั่นเทาขณะที่ใบหน้าของนางแดงก่ำและดวงตาของนางเต็มไปด้วยความยินดี นี่เป็นความสุขที่นางไม่เคยมีมาก่อน นางมองบุคคลสามคนและพูดอย่างกล้าหาญ “ผู้อาวุโสทั้งสามเคยต้องการจะดูหมิ่นข้า”
“ฆ่า!”
ด้วยการโบกมือของเจียงอี้ ทหารเกราะดำหลายร้อยคนเพ่งเล็งไปที่ทั้งสามคนนั้น เหล่าขอบเขตเทียนจุนระดับกลางทั้งสามนั้นต่างมีสีหน้าซีดเผือดขณะที่จอมยุทธที่อยู่ใกล้ๆพวกเขามองพวกเขาราวกับเป็นโรคระบาดและพากันบินหนีไปอย่างร้อนรน
จี๊! จี๊!
การโจมตีนับร้อยสายแผ่กระจายไปทั่วและทั้งสามคนไม่มีโอกาสแม้แต่จะหลบหนี พวกเขาถูกการโจมตีหลายร้อยครั้งและระเบิดออกเป็นหมอกโลหิตจากฟากฟ้า
เจียงอี้พยักหน้าและถามอีกครั้ง “มีใครอีก?”
ไม่มีสิ่งใดนอกจากความเงียบงันจนแทบจะได้ยินเสียงเข็มหมุดที่ร่วงหล่น ร่างของถานไถชี่สั่นเทาอย่างรุนแรงขณะที่นางชี้ไปที่อีกสองคนที่อยู่อีกฟากและพูดว่า “และสองคนนั้น”
“ฆ่า”
เสียงที่เลือดเย็นและไร้หัวใจของเจียงอี้ดังก้องขึ้นอีกครั้ง นิสัยของเขาเป็นเช่นนี้เสมอ เมื่อเขากำลังจะสังหาร เขาจะสังหารจนกว่าจะพอใจ หากตระกูลถานไถไม่มากวนใจเขา เขาก็คงจะไม่ยุ่งกับตระกูลถานไถ แต่เมื่อพวกนั้นมากวนใจเขา พวกเขาก็จะต้องเตรียมรับผลที่ตามมาด้วย
ตูม! ตูม! ตูม!
คนอีกสองคนถูกสังหารไป เจียงอี้มองถานไถชี่อีกครั้งขณะที่ดวงตาที่งดงามของนางมองไปรอบๆและท้ายที่สุดก็หยุดลงที่ถานไถอู๋ตี๋ วันนี้นางปล่อยวางทุกสิ่งแล้วและนางก็ตะโกนออกมาอย่างนุ่มนวลว่า “และตาเฒ่านั่นด้วย คนผู้นี้ขอให้คนมาส่งข้อความให้ข้าเมื่อสองวันก่อนและบอกว่าขอให้ข้าอยู่กับเขาหนึ่งเดือน และเขาจะรับประกันว่าข้าจะไม่ต้องกังวลสิ่งใดอีกตลอดชีวิต”
“ข้าถูกกล่าวหา!”
ถานไถอู๋ตี๋คุกเข่าอยู่กลางอากาศและตะโกนว่า “ตาเฒ่าอย่างข้าก็จวนจะเจ็ดสิบปีแล้ว ข้าจะกล้ามีเจตนาอย่างนั้นได้อย่างไร? ถึงแม้ว่าข้าจะมีเจตนา แต่ข้าก็ไม่มีกำลังจะทำเรื่องแบบนี้ มันต้องเป็นถานไถหยาแน่ๆ ไอ้สารเลวนั่นพยายามใส่ร้ายข้า นายน้อยโปรดเมตตาข้าด้วย….”
บรึฟ!
ในขณะนั้นเอง ค่ายกลเคลื่อนย้ายขนาดยักษ์ในจัตุรัสก็สว่างขึ้นและสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของทุกคนก็สอดส่องไปที่นั่น เมื่อถานไถอู๋ตี๋กวาดตามอง เขาก็รีบลุกขึ้นยืนทันทีพร้อมพูดด้วยความปิติยินดี “ท่านประมุข ผู้อาวุโสหลัวปิง ช่วยข้าด้วยและสังหารพวกกบฏพวกนี้….”
มันคงดีกว่านี้หากถานไถอู๋ตี๋ไม่ตะโกนออกมา เพราะเมื่อเขาตะโกนออกมา เขาก็ทำให้เจียงอี้เดือดดาลทันทีขณะที่เจียงอี้ตะโกนออกมาว่า “สังหารไอ้แก่นั่นซะ!”