เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven - บทที่ 915 พบจีทิงยวี่
บ้าเอ้ย ดาบวิญญาณนี่ทรงพลังนัก!
เจียงอี้เองก็หวาดกลัวตัวเองเหมือนกัน นี่เป็นครั้งแรกที่เขาใช้ดาบวิญญาณเต็มกำลังหลังจากที่มันวิวัฒนาการ เขาไม่เคยคาดหวังว่าพวกมันจะทำงานได้ดีเยี่ยมและสังหารขอบเขตเทียนจุนขั้นสูงสุดสองคนได้ในทันที
แม้ว่ายอดฝีมือขอบเขตเทียนจุนขั้นสูงสุดทั้งสองจะไม่ได้ทรงพลังมากนักและเป็นพวกที่เข้าใจรูปแบบเต๋าระดับต่ำจำนวนมากได้ แต่พวกเขาก็ยังคงเป็นขอบเขตเทียนจุนขั้นสูงสุด
ความเร็วเพิ่มขึ้นมาสามเท่า แม้แต่ยอดฝีมือระดับสามดาวก็คงไม่น่าจะหลบเลี่ยงได้ใช่ไหมนะ?
เจียงอี้รู้สึกตื่นเต้น ดาบวิญญาณนี้ทรงพลังและเป็นอีกวิธีการโจมตีที่ทรงพลังของเขานอกเหนือจากทักษะวิชาเสียงสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์และอัสนีพิโรธ สิ่งที่น่าเสียดายเพียงเรื่องเดียวคือเขามีดาบวิญญาณสีทองเข้มเพียงสามเล่มและมีดาบวิญญาณสีทองราวสิบสามเล่มเท่านั้น
เจียงอี้อาจจะสามารถไปหาหูตันนีและร้องขอวิชาผีเสื้อในฤดูใบไม้ผลิได้ แต่เขาไม่สามารถหาหนอนไหมมณีสวรรค์ได้อีก ดังนั้น ดาบวิญญาณสีทองเข้มจึงมีเพียงสามเล่มเท่านั้น
ในภายหน้า ข้าไม่ควรใช้ดาบวิญญาณสีทองเข้มจนกว่ามันจะเป็นทางสุดท้าย มันคงน่าเสียดายนักหากมันถูกทำลายลง
เจียงอี้เตือนตัวเองในใจ เขาหยุดไปชั่วขณะและบินไปยังริมทะเลสาบพร้อมกับใช้ญาณศักดิ์สิทธิ์ตรวจสอบพื้นที่ หลังจากนั้นเขาก็โล่งใจหลังจากที่พบว่าเสียเฟย, อีฉานและคนอื่นๆไปกันหมดแล้ว
เจียงอี้ไม่ได้กลับไปยังทะเลสาบเพลิงลาวา เขานั่งขัดสมาธิอยู่ที่เดิมเพื่อดูว่าเปลวเพลิงจะปะทุอีกหรือไม่ ส่วนยอดฝีมือทั้งสองของตระกูลเสียที่ตกตายไป พวกนั้นก็ถูกหลอมละลายเป็นเถ้าถ่านไปด้วยเพลิงลาวาพร้อมกับสมบัติบนตัวพวกเขาแล้ว เจียงอี้จึงไม่ได้สนใจอะไรพวกเขา
เขาได้กล้วยไม้เขี้ยวเพลิงมาแล้ว!
เจียงอี้คลายกังวลไปได้หน่อยนึง เขาได้ทำสิ่งที่เขาสัญญากับเอ๋าหลูเสร็จสิ้นแล้วและเชียนเชียนก็จะรักษาตัวได้ จากนั้นเขาก็จะสามารถวางแผนอื่นได้อย่างช้าๆ แม้ว่าเขาจะไม่สามารถจับหวู่นี่และจีทิงยวี่ได้ในครั้งนี้ แต่ก็ยังมีครั้งหน้า
หลังจากที่รอมาหนึ่งชั่วโมง ทะเลสาบเพลิงลาวาก็ปะทุขึ้นมาอีกครั้ง คราวนี้มันปะทุรุนแรงมากและเพลิงลาวาก็พุ่งขึ้นไปบนฟ้าเหนือพื้นดินไปสามร้อยเมตร
เจียงอี้เจอดอกบัวหิมะสามใบ และเมื่อเขาดมกลิ่นบัวนั้น ร่างของเขาก็รู้สึกอบอุ่นและสบายตัว
ของดี!
เจียงอี้ไม่รู้ว่าดอกบัวนี้มีประโยชน์อย่างไร แต่เขามั่นใจว่ามันมีค่า เขาจึงพุ่งเข้าหาดอกบัวที่อยู่ตรงกลางทันที
เอ๊ะ?
แต่เมื่อเข้าใกล้ดอกบัว มันก็บินลงไปในทะเลสาบประหนึ่งว่ามันมีชีวิต มันว่องไวมากและดูเหมือนจะไม่ต้องการให้เจียงอี้จับไป
คิดจะหนีรึ?!
เจียงอี้เย้ยหยันและเร่งความเร็ว เขารีบพุ่งไปยังทะเลสาบเพลิงลาวาและคว้าดอกบัวด้วยมือเดียว และจากนั้นเขาก็บินขึ้นไปข้างบนอีกครั้ง
สมุนไพรวิญญาณนี้คืออะไรกัน? มันมีประโยชน์อย่างไรนะ?
เมื่อสูดดมกลิ่นหอมๆและมองดอกบัวที่กำลังสั่นไหว เจียงอี้เองก็สงสัยแต่ก็ไม่ได้สนใจมัน จากนั้นเขาก็โยนมันเข้าไปในแหวนแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์โบราณและค่อยถามผู้คนเมื่อเขาออกไปจากที่นี่
เจียงอี้นั่งใกล้ทะเลสาบเพลิงลาวาเป็นเวลาสี่ชั่วโมงซึ่งมันไม่ปะทุอะไรออกมาอีก สมุนไพรวิญญาณทั้งหมดน่าจะหมดสิ้นแล้ว เจียงอี้รอต่ออีกสองชั่วโมงและเมื่อมั่นใจว่าไม่มีสิ่งใดปะทุอีก เขาก็ลุกขึ้นและจากไป
เวลาผ่านไปเพียงแปดวัน เจียงอี้ก็ได้กล้วยไม้เขี้ยวเพลิงมาแล้ว เขาจึงไม่คิดจะนั่งเฉยๆ เขายังเหลือเวลาอีกยี่สิบกว่าวันซึ่งเขาจึงจะไปเดินเล่นในซากปรักหักพังและดูว่าจะได้เจอหวู่นี่และจีทิงยวี่หรือไม่
เจียงอี้มีญาณศักดิ์สิทธิ์ เขาสามารถเลี่ยงผู้คนได้ตราบใดที่เขาระมัดระวัง และหากว่าเขาเห็นหวู่นี่และกลุ่ม เจียงอี้ก็จะตามพวกนั้นไปและหาทางสังหารพวกเขา
เจียงอี้แปลงกายกลับไปเป็นชายหนุ่มชุดขาวโดยใช้วิชาเทพพลางตาและเปิดโล่ศักดิ์สิทธิ์เปลวเพลิงมังกรเก้าสวรรค์เพื่อเดินต่อไปช้าๆ โล่ศักดิ์สิทธิ์เปลวเพลิงมังกรเก้าสวรรค์นี้เปราะบางเกินไป ยิ่งไปกว่านั้น เขาต้องเข้าสู่สภาวะมนุษย์ประสานสวรรค์เพื่อคอยตรวจจับลมดาราด้วย ทุกๆแปดชั่วโมง เขาจะปล่อยญาณศักดิ์สิทธิ์ออกมาสำรวจรอบๆเพื่อเลี่ยงถูหลง, เสียเฟยและคนของพวกเขาและยังต้องใช้เวลาพักหนึ่งชั่วโมงหลังจากเดินทางหนึ่งวัน ไม่เช่นนั้น ดวงจิตเขาจะสูญพลังมากเกินไปและเขาจะลำบากเมื่อต้องพบเจอกับศัตรูที่แข็งแกร่ง
เขาจึงหยุดเป็นครั้งคราว
เจียงอี้วนเวียนไปรอบๆสามวันและเจอซากเมืองสองแห่ง แต่น่าเสียดายที่ไม่มีอะไรอยู่ในนั้นเลย เขาเจอเสียเฟยอีกครั้งแต่เสียเฟยมีคนมากเกินไป เจียงอี้จึงไม่กล้าเข้าใกล้และคอยตีตัวห่างโดยใช้ญาณศักดิ์สิทธิ์
หืม? สองคนนี้อีกแล้วหรือ?
ในวันที่ห้า เจียงอี้พบว่าหยิ่นรั่วปิงและอีฉานอยู่ห่างออกไปสองร้อยห้าสิบกิโลเมตรและพวกนางกำลังมุ่งหน้ามาทางเขา
เจียงอี้หยุดและตัดสินใจที่จะไม่เจอพวกนาง สาวงามทั้งสองนี้น่าดึงดูดเกินไป และยิ่งเขาอยู่กับพวกนางนานเท่าใด เขาจะยิ่งได้รับอันตรายมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นเจียงอี้จึงเปลี่ยนทิศทางและมุ่งหน้าไปอีกทางหนึ่ง
สาวงามทั้งหลายมักถูกหนุ่มรูปงามคอยเกี้ยวพาราสี
โดยเฉพาะกับคนเหล่านี้ มันเป็นเรื่องปกติที่ผู้ชายจะมีภรรยาหลายคน และแม้ว่าจะแต่งกับหญิงงามสามพันคนก็ไม่ถือเป็นเรื่องแปลก ส่วนเจียงอี้เป็นชายธรรมดาและปรารถนาในสาวงามเช่นกัน แต่เขาก็รู้ดีว่าด้วยความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเก้าตระกูลจักรพรรดินั้น มันจะทำให้เขาจบเห่หากเขาเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพวกนางสองคน
เจียงอี้เกิดความผิดหวังขึ้นเล็กน้อย!
เขาเดินเตร่มาเจ็ดวันและอยู่ในซากปรักหักพังสลายบาปมาครึ่งเดือนแล้ว แต่เขาไม่เคยเจอหวู่นี่และจีทิงยวี่เลย เขาตรวจพบผู้คนมากมายในช่วงสิบห้าวันที่ผ่านมา แต่กลับไม่มีวี่แววของคนเหล่านี้เลย
ข้าจะหาพวกนั้นอีกห้าวัน หากข้ายังหาพวกมันไม่เจอ ข้าค่อยไปหาที่ซุ่มและรอออกไปจากที่นี่
ในซากปรักหักพังสลายบาปนี้มีเมืองมากมาย แต่มีผู้คนนับไม่ถ้วนเข้ามาในนี้กว่าเจ็ดแสนปีแล้ว ดังนั้นมันจึงไม่ค่อยเหลืออะไรอีกนอกจากโครงกระดูกในซากเมือง และเจียงอี้ก็เริ่มหมดความอดทน
….
เจียงอี้เดินต่อไปอีกห้าวันและเจอซากใหม่อีกสี่ซาก แต่เขาไม่ได้อะไรเลยและตัดสินใจที่จะพักอยู่ในนั้น เขาเดินทางช้ามากจนไม่สามารถเดินทางได้เกินห้าแสนกิโลเมตรในสิบวัน ดังนั้นการค้นหาต่อก็คงไร้ความหมาย
ในช่วงห้าวันนี้ เขาพบเยี่ยอิง, ถูหลง, หลิงชีเจี้ยนและน้องสาวและทายาทจากตระกูลโบราณอีกมากมาย แต่กลับไม่มีร่องรอยของหวู่นี่และจีทิงยวี่เลย
มีเขาเล็กๆอยู่ตรงนั้น ข้าจะไปพักที่นั่นแหละ! เจียงอี้มองไปรอบๆและพบเจอสถานที่ที่ดี เขาจึงเปิดโล่ศักดิ์สิทธิ์เปลวเพลิงมังกรเก้าสวรรค์และวิ่งไปที่นั่นอย่างรวดเร็ว และใช้เวลาในการไปถึงที่นั่นสองชั่วโมง
บรึฟ!
เจียงอี้หยิบดาบเหล็กทมิฬออกมาแล้วขุดหลุมข้างๆภูเขาราวสิบนาทีและฝังตัวเองไว้ เมื่อสำรวจที่นี่และเมื่อมั่นใจว่าไม่มีใครอยู่ใกล้ๆ เขาก็หลับตาและพักผ่อน
เจียงอี้หลับใหลไปได้ห้าชั่วโมง หลังจากที่เขาตื่น เขาก็ไม่ได้ออกมาและกำลังจะสำรวจสถานที่และเริ่มฝึกฝนอยู่ในหลุม
ญาณศักดิ์สิทธิ์!
เมื่อปล่อยญาณศักดิ์สิทธิ์ออกมา เขาก็เริ่มสำรวจไปเรื่อยๆ และเมื่อญาณศักดิ์สิทธิ์ของเขาสำรวจไปถึงภูเขาเล็กๆที่ห่างออกไปสามร้อยห้าสิบกิโลเมตร เขาก็สั่นสะท้านทันที มีคนเจ็ดสิบคนอยู่ในเขาลูกเล็กนั้นและเขาได้เห็นใบหน้าที่คุ้นเคย…เจี้ยนอู๋อิง, หวู่นี่และจีทิงยวี่!
ปัง!
เจียงอี้พุ่งออกมาจากหลุมราวกับดาบคมทันทีและร่างของเขาก็เอ่อล้นไปด้วยกลิ่นอายสังหาร เมื่อเขาพบหวู่นี่และจีทิงยวี่แล้ว เจียงอี้คงไม่อยู่เฉย และถึงแม้ว่าฝั่งนั้นจะมีจำนวนคนมากกว่า แต่เขาก็ยังสามารถตามพวกนั้นไปได้ หรือบางทีเขาอาจจะมีโอกาสสังหารทั้งสองคนนั้นก็ได้!