เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven - บทที่ 923 พุ่งเข้าหาสิ่งประดิษฐ์โบราณ
- Home
- เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven
- บทที่ 923 พุ่งเข้าหาสิ่งประดิษฐ์โบราณ
เสียเฟยและอีฉานผ่านโถงทางเดินไปได้แล้ว?
เมื่อเจียงอี้ได้ยินเสียงด้านหลัง เขาก็เกือบจะยอมแพ้ไปแล้วเพราะทางเดินนี้ลำบากเกินกว่าจะคลานไปได้ เขาทิ้งรอยเลือดไว้เบื้องหลังและยังคงมีเลือดออกที่หัวเข่าและศอก และเนื่องจากเขาสูญเสียเลือดไป เขาจึงเริ่มหมดแรงลง
ฮ่าฮ่า นายน้อยอู๋อิงผ่านไปได้แล้ว!
นายน้อยนี่ก็ผ่านไปเช่นกัน เร็วเข้านายน้อยยี่ เอาสิ่งประดิษฐ์โบราณมาให้ได้นะขอรับ!
นายน้อยหลง เร็วเข้า ท่านใกล้จะถึงแล้วขอรับ!
มีเสียงเบาๆที่เจียงอี้ได้ยินซึ่งมันทำให้ดวงตาของเขาเผยอายสังหารออกมา หวู่นี่ก็ผ่านไปได้แล้ว? เมื่อเจียงอี้นึกถึงความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นตอนที่หวู่นี่ได้สิ่งประดิษฐ์โบราณไปซึ่งมันจะทำให้เป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่จะคว่ำหวู่นี่ได้ ดวงตาของเจียงอี้ก็เริ่มแดงเดือดขึ้น
ไป!
เจียงอี้กัดฟันและเริ่มคลานอย่างบ้าคลั่งและเพิ่มความเร็วเป็นสองเท่า เดิมทีเขาต้องใช้เวลาราวๆสามสิบถึงสี่สิบนาทีในการคลานสามร้อยเมตร แต่ในตอนนี้เขาใช้เวลาเพียงสิบห้านาทีและรีบพุ่งออกไปจากโถงทางเดิน
เอ๊ะ?
หยิ่นรั่วปิง, พี่ชิ่งและคนอื่นๆที่ด้านนอกมีดวงตาเป็นประกายขณะที่พี่ชิ่งพึมพำด้วยความเลื่อมใส แรงใจของไป๋อีนั้นแข็งแกร่งยิ่งนัก เขาไม่ได้สนใจร่างกายของเขาและรีบผ่านมันไปอย่างรวดเร็ว ข้าว่าอวัยวะภายในของเขาต้องบาดเจ็บมากจนน่าจะเลือดออกจากภายในแล้ว?
ใบหน้าของหยิ่นรั่วปิงแดงระเรื่อขณะที่นางมองร่างของเจียงอี้ที่หายลับไป นางพึมพำเบาๆ ยังเหลืออีกยี่สิบนาที มาดูกันว่าไป๋อีจะได้สิ่งประดิษฐ์โบราณไปสักชิ้นหรือไม่ หากเขาได้มันมา ตระกูลจะให้ความสำคัญกับเขามากยิ่งขึ้น
เอ่อ…
ช่วงที่เจียงอี้คลานออกมาจากโถงทางเดิน ทิวทัศน์ตรงหน้าก็เปลี่ยนไปมาก มันไม่ใช่สิ่งที่เขาเห็นก่อนหน้านี้อีกต่อไป เมื่อเขามาถึงโถงแห่งใหม่ มันสว่างไสวเหมือนเป็นตอนกลางวันและเป็นที่ที่มองเห็นอย่างแจ่มชัดมาก ด้วยการชำเลืองมองเพียงครั้งเดียวก็เพียงพอแล้วที่จะเห็นทุกสิ่งและเขายังเห็นหวู่นี่, เสียเฟย, เจี้ยนอู๋อิง, อีฉานและถูหลงด้วย
ฮู ฮู!
ทั้งห้าคนเบื้องหน้านั้นใช้สิ่งประดิษฐ์ต่างๆและความสามารถทั้งหมด เสียเฟยและอีฉานอยู่ด้านหน้า ด้านเสียเฟยนั้นมีกะโหลกอยู่ข้างๆขณะที่มันไหลเวียนด้วยอักขระโบราณและหมุนเวียนอยู่รอบตัวเขา
ส่วนร่างของอีฉานก็ถูกปกคลุมด้วยสายฟ้า ขลุ่ยคล้องวิญญาณของเจี้ยนอู๋อิงเองก็โคจรอยู่รอบๆเขาอย่างรวดเร็ว และมีไข่มุกสีเขียวเข้มเจ็ดเม็ดกำลังวนเวียนอยู่รอบหวู่นี่และห่อหุ้มร่างของเขาไว้อย่างแน่นหนา
ส่วนถูหลงนั้นเปลี่ยนร่างไปแล้ว ครึ่งล่างของร่างกายเขายังคงเป็นมนุษย์แต่ครึ่งบนของเขาเป็นหมีสีเทาขนาดยักษ์ เขามีหางยาวเหมือนเหล็กและทั้งตัวก็ถูกปกคลุมไปด้วยอักขระที่ส่องประกาย มันมีสัตว์ลึกลับตัวเล็กๆอยู่ในอักขระด้วยซึ่งมองเห็นได้จางๆและมันก็น่าทึ่งเป็นอย่างยิ่ง
สิ่งประดิษฐ์โบราณ!
เจียงอี้มองไปยังทิศทางที่ทุกคนกำลังมุ่งหน้าไปและเห็นบัลลังก์น้ำแข็งที่อยู่ห่างออกไปหลายกิโลเมตร มีโครงกระดูกที่สูงกว่าสิบสองเมตรนั่งอยู่บนบัลลังก์นั้นราวกับเป็นร่างของเทพเจ้าโบราณ
โครงกระดูกมีมงกุฎและมีเตาหลอมขนาดใหญ่อยู่ที่มือ เตาหลอมนั้นมีสีเขียวเข้มและไม่มีอักขระ แต่มันมีลวดลายลึกลับมากมายที่ถูกสลักไว้และดูเหมือนจะมีพลังบางอย่างที่ไม่สามารถอธิบายได้ ด้วยการมองเพียงครั้งเดียวก็ทำให้ใจสั่นได้แล้ว
ทำไมพวกเขาเคลื่อนไหวช้ากันนัก? มีอะไรอยู่เบื้องหน้ากัน?
เจียงอี้มองด้วยความสงสัยเล็กน้อยและเข้าสู่สภาวะมนุษย์ประสานสวรรค์ทันที และไม่นานดวงจิตของเขาก็สั่นสะท้านอย่างตื่นเต้น เพราะโถงใหญ่นี้มีลมดาราและความเข้มข้นก็คล้ายคลึงกับโถงลมดารา
ลมดารา?
เขากลัวมันน้อยที่สุด!
ข้าควรพุ่งไปหาสิ่งประดิษฐ์โบราณหรือจับหวู่นี่ดี?
เจียงอี้คิดมากทันที หวู่นี่อยู่เบื้องหน้าเขาแล้วและเขาก็ได้สิ่งประดิษฐ์โบราณได้อย่างง่ายดาย ดวงตาของเขาสั่นไหวขณะที่ตัดสินใจจะทิ้งสิ่งประดิษฐ์โบราณ เนื่องจากสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการจับหวู่นี่! ไม่ว่าสมบัติจะมีค่าเพียงใด แต่มันก็เป็นเพียงสมบัติและแค่เสริมสร้างตัวเอง แต่หากเขาจับหวู่นี่ได้ เขาก็จะใช้หวู่นี่แลกกับซูรั่วเสวี่ยได้ ซูรั่วเสวี่ยเป็นสิ่งที่ล้ำค่ากับเขามากและไม่มีสมบัติใดจะเทียบได้
ฟึ่บ!
มือของเจียงอี้สะบัดไปมาและร่างของเขาก็พุ่งไปข้างหน้าราวกับมังกรดุร้ายขณะที่มุ่งไปทางหวู่นี่
โถงนี้มีแรงโน้มถ่วงสูงมากเช่นกัน แต่มันเทียบไม่ได้กับโถงทางเดินด้านนอกเลย เกราะเหล็กทมิฬปรากฏขึ้นบนร่างของเจียงอี้ มือของเขาก็สะบัดอย่างบ้าคลั่งและกำลังหมุนเวียนศาสตร์นิรนามเพื่อดูดซับลมดาราใกล้ๆ แหวนแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์ของเขาส่องสว่างราวกับว่าดาบเหล็กทมิฬและดาบอ่อนพร้อมที่จะปรากฏขึ้นทุกเมื่อ หากจำเป็น เขาจะเสี่ยงแม้จะต้องเปิดเผยทักษะเสียงสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์
ความเร็วของเจียงอี้เร็วเกินไปเมื่อเทียบกับคนอื่นๆเนื่องจากเขาไม่กลัวลมดาราเลย ทุกคนต้องการจะก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วแต่พวกเขาต้องกำจัดลมดาราเบื้องหน้าอย่างระมัดระวังก่อนจะเดินหน้าต่อได้
หกกิโลเมตร, สามกิโลเมตร…สองกิโลเมตรครึ่ง!
การมาถึงของเจียงอี้ทำให้ทุกคนสนใจ ก่อนหน้านี้ไม่มีใครสนใจเขาเพราะพวกเขาสนใจเพียงสิ่งประดิษฐ์โบราณในมือของโครงกระดูกเบื้องหน้า แต่เมื่อพวกเขาได้ยินเสียงฝีเท้าที่หนักแน่น ทุกคนก็หันไปมองอย่างประหลาดใจ
เอ๊ะ?
เมื่อมองเพียงครั้งเดียว มันทำให้ดวงตาทั้งห้าคู่หดลงเล็กน้อยเนื่องจากความเร็วของเจียงอี้เร็วเกินไป แม้ว่าพวกเขาจะปัดลมดาราเบื้องหลังพวกเขาไปแล้ว แต่มันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะทำให้เจียงอี้เคลื่อนไหวได้เร็วเช่นนี้ ลมดาราจะไหลเวียนช้าๆและสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาก็แกร่งมากพอที่จะเห็นได้ว่าลมดาราเบื้องหน้าเจียงอี้นั้นรุนแรงเพียงใด
อะไรน่ะ?
ทุกคนไม่เข้าใจและหยุดมองไปที่เจียงอี้กันหมดขณะที่พวกเขาจ้องมองฝ่ามือของเจียงอี้และพบว่าลมดาราที่อยู่ใกล้ๆทั้งหมดได้รวมตัวอยู่ที่ฝ่ามือทั้งสองข้างนั้นและพวกมันจะ….หายลับไป!
ไป๋อีคนนี้มีทักษะล้ำเลิศเพียงนี้เลย? ดูเหมือนว่าเขากำลังดูดซับลมดารา?
ดวงตาที่งดงามของอีฉานเป็นประกายและตกตะลึง จากนั้นนางก็เห็นไข่มุกสีเขียวเข้มสามในเจ็ดเม็ดของหวู่นี่ว่ายเวียนขณะที่เจี้ยนอู๋อิงคว้าขลุ่ยของเขาและเริ่มเป่าท่วงทำนอง ดวงตาของนางเปล่งประกายและส่งข้อความเสียงไปทันที ไป๋อี ระวัง!
ข้อความเสียงของอีฉานช้าเกินไปเนื่องจากเสียงขลุ่ยจางๆได้เข้าไปในแก้วหูเจียงอี้แล้วและดวงจิตของเขาก็รู้สึกราวกับฟ้าผ่า และไข่มุกสีเขียวสามเม็ดของหวู่นี่ก็ปะทะเข้ากับร่างของเขาอย่างหนัก ปัง ปัง ปัง!
ร่างของเจียงอี้ปลิวลอยกลับมาและล้มลงไป เกราะเหล็กทมิฬของเขาส่องแสงระยิบระยับและมีรอยบุบที่เห็นได้ชัดเจนสามรอย ซี่โครงด้านในของเขาหักไปสามซี่และอวัยวะภายในของเขาก็สั่นสะท้านไปหมด
ฮู ฮู!
ทันทีที่เจียงอี้ถูกโจมตี เขาก็ดึงสติกลับมาทันที แม้ว่าร่างของเขาจะเจ็บปวดอย่างสุดขีด แต่มือของเขาก็ไม่หยุดและดูดซับลมดาราเอาไว้ หากเขาหยุดนิ่ง ร่างของเขาจะถูกลมดาราสับเป็นชิ้นๆ
ตูม!
ขณะที่ร่างเขากระเด็นไปหลายร้อยเมตร เขาก็กระอักเลือดออกมาและจ้องไปยังขลุ่ยคล้องวิญญาณของเจี้ยนอู๋อิง เขาเคยได้ยินเกี่ยวกับขลุ่ยคล้องวิญญาณในมือของเจี้ยนอู๋อิงมาก่อนเพราะมันเป็นศาสตราวุธที่มีชื่อเสียงของจักรพรรดิแห่งศาสตรา เมื่อมันบรรเลงเพลง มันจะปล่อยทักษะเสียงสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์อันน่าสยดสยองที่รุนแรงกว่าของเจียงอี้ออกมามาก และด้วยความแข็งแกร่งของดวงจิตเจียงอี้ในตอนนี้ มันคงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะต้านไว้ได้
ปล่อยทักษะเสียงสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ของข้า?
เจียงอี้ลังเล หากเขาอยู่ข้างนอก เขามั่นใจมากว่าทุกคนจะได้รับผลกระทบ แต่ห้วงมิตินั้นหนักอึ้งเกินไปและมันจะบั่นทอนทักษะเสียงสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ของเขาทางอ้อม และเมื่อเจี้ยนอู๋อิงปล่อยทักษะเสียงสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ออกมา เจียงอี้ก็ไม่มีทางเข้าใกล้หวู่นี่ได้และความสามารถของเขาก็จะยิ่งลดลงไปอีก นอกจากนี้ ความแข็งแกร่งด้านดวงจิตของหวู่นี่และคนอื่นๆนั้นมีความสามารถอย่างแน่นอน และหากพวกเขาไม่ได้รับผลกระทบ เจียงอี้ก็จะเผยตัวตนไปอย่างเปล่าประโยชน์
เขาไม่ได้กลัวถูกเปิดเผย แต่เขากลัวว่าถึงแม้ว่าเขาจะถูกเปิดเผย แต่เขาก็จะไม่สามารถจัดการหวู่นี่ได้! ความทรงจำทั้งหมดจะถูกลบล้างไปหลังจากออกไปจากที่นี่ก็จริง แต่หากเขาเผยตัวตนออกมา ทุกคนก็จะหยิบกระดาษออกมาและบันทึกชื่อเจียงอี้เอาไว้ และเมื่อมันเป็นเช่นนั้น เพียงแค่ราชาอรหังออกคำสั่งให้ค้นหาอย่างเข้มงวดรอบๆซากปรักหักพังสลายบาป มันก็เป็นไปได้สูงที่เขาจะถูกจับได้
หากเขาจับหวู่นี่ได้ เขาก็จะไม่มีอะไรให้กลัวเพราะเขามีตัวประกัน แต่ปัญหาคือดูเหมือนว่าเขาจะไม่สามารถจับหวู่นี่ได้?
สิ่งประดิษฐ์โบราณ!
เจียงอี้เงยหน้าขึ้นมองสิ่งประดิษฐ์โบราณที่อยู่ไกลๆและเผยความดุร้ายขึ้นมาทันที หากเขาจับหวู่นี่ไม่ได้ เขาต้องได้สิ่งประดิษฐ์โบราณไป อย่างน้อย เขาต้องไม่ให้เสียเฟยและคนอื่นได้มันไป หากเขาปรับแต่งสิ่งประดิษฐ์ได้ทันทีเมื่อได้มันมา ความแข็งแกร่งของเขาอาจเพิ่มขึ้นมากและเขาจะหาทางจับหวู่นี่ได้
ไป! เจียงอี้ตบพื้นด้วยมือข้างเดียวและกระเด้งกลับมา เขาหมุนเวียนศาสตร์นิรนามและสะบัดมือของเขาด้วยความเร็วสูง ด้านเสียเฟยและคนอื่นๆต่างอยู่ห่างจากสิ่งประดิษฐ์โบราณกว่าหกกิโลเมตร เขาสามารถอ้อมไปรอบพวกเขาและตรงไปยังบัลลังก์น้ำแข็งได้อย่างง่ายดาย!