เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven - บทที่ 926 ไป๋อีโชกไปด้วยเลือดอสูร
- Home
- เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven
- บทที่ 926 ไป๋อีโชกไปด้วยเลือดอสูร
เจ้าต้องการสิ่งประดิษฐ์โบราณงั้นรึ? ไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก!
เสียเฟยโกรธเคืองมากและเมื่อเขาเห็นว่าไม่มีลมดาราโจมตีเขาอีกต่อไปและเจียงอี้ก็รีบวิ่งไปทางบัลลังก์น้ำแข็งอย่างรวดเร็ว แต่เดิมสิ่งประดิษฐ์โบราณชิ้นนี้เป็นของเขาและเขาไม่ได้คาดว่าจะมีเด็กที่ไม่รู้จักเข้ามาขัดขวางและหากไม่ใช่เพราะความเร็วในการเก็บสมบัติเชื่อมดวงจิตของตัวเองกลับมา มันอาจถูกทำลายไปเหมือนไข่มุกของหวู่นี่ด้วยซ้ำ มันจึงจินตนาการได้เลยว่าตอนนี้เสียเฟยโกรธแค้นเพียงใด
กระแสทะเลโลหิต!
เสียเฟยคำรามออกมาขณะที่เลือดสดๆพุ่งออกมาจากปากของเขาและพ่นลงบนกะโหลกอย่างไม่รู้จบ กะโหลกนั้นเปียกโชกไปด้วยเลือดสดและกลิ่นอายที่ชั่วร้ายเปล่งออกมาจากกะโหลกนั้น จากนั้นมันก็บินพุ่งไปยังเจียงอี้ขณะที่เปล่งแสงสีแดง
สงครามสะท้านสวรรค์!
หวู่นี่ระเบิดออกมาพร้อมกับตะโกนขณะที่เขาปล่อยกำปั้นไปข้างหน้าและปล่อยทักษะสูงสุดของตระกูลหวู่
เมื่อกำปั้นปะทะออกมา ชั้นพื้นอากาศก็สั่นสะเทือน นี่ไม่ใช่เขตพื้นที่ภายนอกเนื่องจากเขตพื้นที่ในนี้หนาแน่นมากและมันไม่ง่ายเลยที่หวู่นี่จะทำให้ห้วงอากาศสะเทือนได้เพียงนี้ วัตถุประสงค์ของเขาไม่ได้ทำเพื่อสังหารเจียงอี้แต่เพื่อลดความเร็วของเจียงอี้และขัดขวางการเคลื่อนไหวของเขาเพื่อไม่ให้เขาได้สิ่งประดิษฐ์โบราณไป
เมื่ออีฉานเห็นเลือดบนกะโหลกศีรษะ สีหน้าของนางก็เปลี่ยนไปและตะโกนออกมาว่า ไป๋อี เลือดบนกะโหลกนั่นมีพิษ อย่าแตะต้องมัน!
บัดซบ!
การโจมตีของหวู่นี่เร็วเกินไปและความผันผวนของห้วงมิติก็มาถึงแล้ว ร่างของเจียงอี้สั่นเทาและช้าลงและทำให้เขาก้าวไปได้ช้าลง
เจียงอี้หยุดมองกะโหลกที่บินมาจากด้านหลังเขา จากนั้นเขาก็มองไปยังบัลลังก์น้ำแข็งเบื้องหน้าและเย้ยหยัน เสียเฟย ในเมื่อเจ้าต้องการสังหารข้า เช่นนั้นเราก็จะพินาศไปด้วยกัน!
จู่ๆเจียงอี้ก็ปล่อยฝ่ามือออกไปมากกว่าสิบสายที่เบื้องหน้าเพื่อโจมตีกะโหลก แต่เขาไม่ได้ควบคุมลมดาราให้โจมตีกะโหลกแต่ให้มันอ้อมกะโหลกและโจมตีเสียเฟย ลมดารารวดเร็วเพียงใด? มันเข้าไปใกล้เสียเฟยทันทีและโจมตีโล่ศักดิ์สิทธิ์ของเขา
เจ้าหนู เช่นนั้นก็มาดูกันว่าใครจะตายไปก่อน!
เสียเฟยเสี่ยงทุกอย่างในตอนนี้และมันสายเกินกว่าจะเก็บกะโหลกกลับมาได้ สร้อยกระดูกที่คอของเขาบินออกมาและหมุนไปรอบตัวเสียเฟยขณะที่กะโหลกก็ยังคงบินพุ่งไปยังเจียงอี้ จี๊! จี๊!
ปึง! ปึง!
ลมดาราของเจียงอี้ทำลายสร้อยกระดูกและทำลายโล่ศักดิ์สิทธิ์ของเสียเฟยไปขณะที่กะโหลกของเสียเฟยปะทะเข้ากับเจียงอี้อย่างไร้ปรานีในเวลาเดียวกัน ทำให้เขาถูกส่งปลิวไป
อ๊ากก!
เกราะบนร่างของเสียเฟยเปล่งประกายด้วยแสงและอักขระก็หลั่งไหลออกมาและปกป้องร่างกายของเจ้าของโดยอัตโนมัติ ในเวลาเดียวกัน ต่างหูก็สว่างไสวขึ้นและปกป้องหัวของเสียเฟยไว้ แต่ไม่มีทางปกป้องขาเอาไว้ได้และถูกลมดาราตัดขาจนกลายเป็นฝุ่นไป ทำให้เสียเฟยร้องออกมาอย่างน่าสังเวช
ด้านเจียงอี้เองก็ถูกกะโหลกทำลายโล่ศักดิ์สิทธิ์ของเขาทันทีและเกราะเหล็กทมิฬก็แตกเป็นเสี่ยงๆและถูกทำลายลง กระจกนิรันดร์ที่ซ่อนอยู่บนร่างกายของเจียงอี้บินออกมาเพื่อปกป้องเจ้านายของมันแต่ก็ถูกบดขยี้ไปในทันที กระดูกจำนวนนับไม่ถ้วนบนร่างของเจียงอี้หักและเลือดของกะโหลกทำให้ร่างของเขาเปียกโชกไปด้วยสีแดง
นี่เป็นสถานการณ์ที่เจียงอี้เสี่ยงชีวิตของเขา หากไม่ใช่เพราะลมดาราที่ตัดขาเสียเฟยไปและกันไม่ให้เสียเฟยควบคุมกะโหลกและลดพลังโจมตีของกะโหลกได้ มันคงบดขยี้เขาจนตายได้!
ในขณะนั้นเอง เขาได้ลืมความเจ็บปวดบนร่างกายไปจนสิ้น เขาลืมไปว่าเลือดอสูรเริ่มซึมซาบเข้าสู่ผิวหนังเขา เขาลืมทุกสิ่งอย่างไปและมือของเขายังคงดูดซับลมดาราเอาไว้ขณะที่เขาบินไปข้างหน้า เจียงอี้จะต้องดูดซับลมดาราเอาไว้…ไม่อย่างนั้นเขาจะต้องตาย!
นายน้อยเฟย!
ขาของเสียเฟยถูกตัดขาด? ไอ้นั่นของเขาก็ถูกตัดไปด้วย?
ไป๋อี! หวู่นี่, เจี้ยนอู๋อิง, อีฉาน, ถูหลง, หลิงชีเจี้ยนและทุกคนในนั้นต่างพากันตกตะลึง โดยเฉพาะตอนที่พวกเขาเห็นขาของเสียเฟยที่ถูกตัดขาดซึ่งมันเป็นภาพที่น่าสยดสยอง เสียเฟยเสียสติไปแล้วในครั้งนี้ แม้ว่าตระกูลเสียจะหาสมุนไพรชั้นยอดมาได้ทันทีเพื่อช่วยให้ขาของเขางอกใหม่ แต่การบ่มเพาะพลังของเขาจะได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน ท้ายที่สุดแล้ว ร่างกายมนุษย์จะมีการก่อตัวตามธรรมชาติ แม้ว่าบางส่วนที่ถูกทำลายไปจะงอกขึ้นใหม่ แต่แบบร่างนั้นก็ยังคงบกพร่อง เว้นแต่ว่าตระกูลเสียจะมีหญ้ามังกรยาจก!
เหอ….ดูเด็กนั่นเร็ว!
เจี้ยนอู๋อิงตะโกนออกมาซึ่งทำให้ทุกคนได้สติและพวกเขาก็หันไปมองที่เจียงอี้ พวกเขาพบว่าเจียงอี้ถูกกะโหลกทุบเข้าไปให้ใกล้บัลลังก์น้ำแข็ง
กระดูกของเจียงอี้ถูกทุบจนแหลกและทั้งตัวของเขาก็เต็มไปด้วยเลือด แต่เขากัดฟันเพื่อปีนขึ้นไปและค่อยๆหยิบเตาหลอมหินออกมาจากโครงกระดูกบนบัลลังก์น้ำแข็ง เจียงอี้กอดเตาหลอมไว้และหันกลับไปส่งสายตาให้ทุกคน
สิ่งประดิษฐ์โบราณ!
เจี้ยนอู๋อิง, หวู่นี่และคนอื่นๆแทบจะตาถลนออกมา โดยเฉพาะตอนที่พวกเขาเห็นสีหน้าที่เย้ยหยันของเจียงอี้ซึ่งแทงใจทุกคนเป็นอย่างยิ่ง อัจฉริยะเก้าตระกูลจักรพรรดิถูกเด็กที่ไม่รู้จักกดดันและยังถูกเขาฉกสิ่งประดิษฐ์โบราณไปได้ นี่ถือเป็นความอัปยศของพวกเขา!
และในขณะเดียวกัน หวู่นี่, เจี้ยนอู๋อิง, ถูหลง, เยี่ยอิงและหลิงชีเจี้ยนต่างก็หยิบกระดาษและแปรงขึ้นมาวาดภาพเหมือนของเจียงอี้และจดข้อความว่า ไป๋อีได้สิ่งประดิษฐ์โบราณ, ร่างของเขาชุ่มไปด้วยเลือดอสูร และ เขาต้องถูกฆ่า!
เสียเฟยอาจจะแทบเป็นลมไปเพราะความเจ็บปวด แต่เขาก็ใช้กำลังสุดท้ายเพื่อใช้มือเปื้อนเลือดเขียนคำสำคัญเอาไว้ว่า ไป๋อี,ขาขาด, เลือดอสูร, สิ่งประดิษฐ์โบราณ!
บึฟ!
ทันใดนั้น ห้องโถงก็สว่างขึ้นและแสงก็สาดส่องมายังแต่ละคน พลังงานมหาศาลห่อหุ้มผู้ที่รอดชีวิตทั้งหมดในซากปรักหักพังสลายบาปทันทีและพวกเขาทั้งหมดกลายเป็นแสงสีขาวและถูกย้ายร่างออกไป เวลาได้หมดลงแล้ว
บรึฟ!
ณ ที่ราบด้านนอกซากปรักหักพังสลายบาปได้สว่างไสวขึ้นด้วยแสงมากมายและผู้คนมากมายก็ถูกย้ายร่างออกมา ราชาอรหังยืนอยู่บนฟ้าพร้อมยอดฝีมือตระกูลอีนับไม่ถ้วนที่ยืนอยู่เงียบๆ ทหารของตระกูลต่างๆก็บินออกมาจากกระโจมลิขิตสวรรค์และมองรอบๆเพื่อหานายน้อยและคุณหนูของตนอย่างร้อนรน
แต่ก็น่าอนาถนัก!
ผู้คนเข้าไปในซากปรักหักพังสลายบาปได้สองสามแสนคน แต่มีเพียงแค่หมื่นกว่าคนเท่านั้นที่ได้ออกมา เพียงหนึ่งเดือนนี้ก็มีคนตกตายไปในซากปรักหักพังมากกว่าสองแสนคนแล้ว
นายน้อย!
คุณหนู!
นายน้อยเฟย!
ยอดฝีมือนับไม่ถ้วนต่างตะโกนออกมาและบินไปหานายน้อยและคุณหนูของตน โดยเฉพาะตระกูลเสียที่หน้าเปลี่ยนสีทันทีเมื่อเห็นเสียเฟยเหลือร่างเพียงครึ่งร่างและร่างกายของเขาก็เต็มไปด้วยเลือด
อ๊าก อ๊ากก!
เสียเฟยกรีดร้องออกมาอย่างทรมานและเป็นลมไป มือของเขากำเสื้อคลุมเอาไว้แน่นและเสื้อคลุมนั้นเขียนถ้อยคำชัดเจนเอาไว้…ไป๋อี, ขาขาด, เลือดอสูร, สิ่งประดิษฐ์โบราณ!
เกิดอะไรขึ้น?
ทุกคนที่ถูกย้ายร่างออกมาต่างตาพร่ามัวขณะที่พวกเขาสูญสิ้นความทรงจำไปและพวกเขามองไปรอบๆอย่างสงสัย พวกเขามีความทรงจำเพียงแค่ตอนก่อนที่จะเข้าไปในซากปรักหักพังสลายบาปและลืมทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในนั้น พวกเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพวกเขาเข้าไปยังซากปรักหักพังสลายบาปเมื่อใด
โอ ใช่แล้ว!
หวู่นี่, ถูหลง, เยี่ยอิงและคนอื่นๆนึกบางอย่างได้ก่อนจะหยิบกระดาษที่บันทึกไว้ก่อนหน้านี้ขึ้นมาอย่างรวดเร็วและตรวจสอบสถานการณ์ ในไม่ช้า ดวงตานับไม่ถ้วนต่างเย็นเยียบขณะที่หวู่นี่ตะโกนใส่ทหารที่บินมาว่า สิ่งประดิษฐ์โบราณ! ไป๋อีได้สิ่งประดิษฐ์โบราณไป! มันมีเลือดอสูรอยู่! หาตัวไป๋อีเดี๋ยวนี้!
นี่มันคืออะไรกัน? ทำไมข้ากอดมันไว้อยู่? ไม่ใช่ว่าข้าเข้าไปในซากปรักหักพังสลายบาปหรือ? แล้วทำไมข้าได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นนี้? แล้วทำไมข้าถึงเต็มไปด้วยเลือด? นี่มันไม่ถูกต้อง….เลือดนี้มีพิษและมันกำลังกัดกร่อนแก่นแท้พลังและร่างกายข้า
เจียงอี้เองก็ยังมึนงงและเขาอยู่ท่ามกลางผู้คน เขากำลังกอดเตาหลอมขนาดยักษ์ไว้และกระดูกของเขาก็หักไปมากกว่ายี่สิบท่อน เจียงอี้พบว่าแม้ยืนขึ้นยังยากเลย!
เจียงอี้เพิกเฉยต่อทุกสิ่งและเก็บเตาหลอมหินเอาไว้ในแหวนของเขาก่อนที่จะลุกขึ้นและออกไปจากที่นี่ก่อน เขากำลังจะไปหาที่พักฟื้นก่อนที่จะคิดเรื่องอื่น
ไป๋อีอยู่นี่ ไปจับตัวมันมา…
ขณะที่เจียงอี้นั่งลง เขาก็สัมผัสได้ถึงสัมผัสศักดิ์สิทธิ์นับไม่ถ้วนที่เพ่งมาที่ร่างของเขาและเจียงอี้ก็เห็นขอบเขตเทียนจุนเกือบพันคนมองมาที่เขาด้วยกลิ่นอายสังหารที่เอ่อล้นออกมา
เกิดอะไรขึ้นกัน?
เจียงอี้ตกตะลึงมาก เหตุใดคนเหล่านี้ถึงต้องการจะมาหาเรื่องเขา? หรือเขาจะทำเรื่องบางอย่างที่ไม่สามารถให้อภัยได้ในในซากปรักหักพังสลายบาปกัน?