เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven - บทที่ 927 เจ้าสังหารคนผู้นี้ไม่ได้
- Home
- เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven
- บทที่ 927 เจ้าสังหารคนผู้นี้ไม่ได้
ข้าจะทำอย่างไรดี?
ขณะที่เจียงอี้กำลังระดมความคิด เขาก็นึกบางอย่างขึ้นได้ เขาน่าจะออกมาจากซากปรักหักพังสลายบาป และเขาอาจจะทำหลายสิ่งที่ทำให้เก้าตระกูลจักรพรรดิขุ่นเคืองหรือไม่ก็ถูกเปิดเผยตัวตน!
ก่อนที่จะเข้าไปยังซากปรักหักพัง เจียงอี้เตือนตัวเองให้หมุนเวียนวิชาเทพพลางตาและเปลี่ยนรูปลักษณ์กับกลิ่นอายดวงจิตทันทีที่เขาออกมา และเขาจะหนีไปก่อน
แต่สถานการณ์ในตอนนี้ทำให้เขาไม่มีเวลาใช้วิชาเทพพลางตาก่อนที่เขาจะมีสติ และยอดฝีมือหลายคนก็ระบุตัวตนเขาได้แล้ว แม้ว่าตอนนี้เขาจะเปลี่ยนกลิ่นอายวิญญาณและรูปลักษณ์ของเขา มันจะมีประโยชน์อันใด?
วิชาหลีกสวรรค์?! แม้ว่าเขาจะทำได้ แต่ด้วยอาการบาดเจ็บทั้งหมด เขาก็อาจถูกสับเป็นชิ้นๆด้วยพลังห้วงมิติ แววตาที่ดุร้ายวาบผ่านดวงตาของเจียงอี้ เมื่อเขาไม่สามารถหนีได้ เช่นนั้นเขาก็จะสู้อย่างเต็มกำลัง
บรึฟ!
ดาบอ่อนและดาบเหล็กทมิฬปรากฏขึ้นในมือของเจียงอี้พร้อมกัน และไข่มุกวิญญาณเพลิงก็ปรากฏขึ้นเงียบๆในแขนเสื้อของเขา เขาพร้อมที่จะปล่อยโล่ศักดิ์สิทธิ์ออกมาทุกเมื่อ
ไป๋อีเป็นแขกผู้มีเกียรติของตระกูลหยิ่น ผู้ใดอย่าได้บังอาจมาแตะต้องเขา?!
ในขณะนั้น เสียงโห่ร้องก็ดังขึ้นมาก่อนที่ยอดฝีมือตระกูลหยิ่นกว่าพันคนจะพุ่งขึ้นมาบนฟ้าและเพ่งเล็งไปที่คนของตระกูลเสีย, ตระกูลหวู่, ตระกูลเจี้ยนและตระกูลถู ยิ่งไปกว่านั้น คนของตระกูลหยิ่นทั้งหมดมีอาวุธอยู่ในมือโดยเปิดโล่ศักดิ์สิทธิ์ไว้พร้อมแล้ว และพวกเขาดูพร้อมที่จะทำสงคราม หยิ่นจื้อจวิน ถอยไปซะ!
ผู้อาวุโสตระกูลเสียที่นำกลุ่มได้คำรามออกมาอย่างเดือดดาล ไอ้สารเลวนี่ตัดขานายน้อยเฟยของเรา วันนี้ข้าจะเสี่ยงเพื่อสังหารมัน! ตระกูลเสียทุกคนจงฟัง! จัดการไป๋อี ใครก็ตามที่กล้าเข้ามาแทรกแซง ฆ่าพวกมันให้หมด!
ฟรึ่บ!
หยิ่นรั่วปิงบินขึ้นมาและพูดด้วยรอยยิ้มที่เย็นชาว่า ตระกูลหยิ่นจงฟังให้ดี ปกป้องไป๋อี ผู้ใดที่กล้าแตะต้องไป๋อี สังหารพวกนั้นให้หมด!
เอ่อ…
ทุกคนต่างมึนงง เกิดอะไรขึ้นในซากปรักหักพังสลายบาปนี้กันแน่? ทำไมขาของเสียเฟยถึงขาดไป? ดูเหมือนว่าเก้าตระกูลจักรพรรดิจะต่อต้านซึ่งกันและกันเมื่อพวกเขาเพิ่งจะออกมาได้ไม่นาน
และที่สำคัญที่สุดเลย ไป๋อีคือใครกัน?ทำไมไม่เคยมีใครได้ยินเรื่องของเขามาก่อน? และในเมื่อเขาไม่มีชื่อเสียง ทำไมตระกูลหยิ่นและตระกูลเสียถึงได้มาใส่ใจกับแมลงตัวเล็กๆเช่นนี้?
สัมผัสศักดิ์สิทธิ์มากมายจับจ้องมาที่เจียงอี้ แต่พวกเขาก็พบว่าพวกเขาไม่คุ้นเคยกับคนผู้นี้เลยไม่ว่าพวกเขาจะมองมากเพียงใดก็ตาม เขาเป็นเพียงขอบเขตเทียนจุนขั้นที่สามและกำลังจะตายในตอนนี้ มันไม่มีอะไรแปลกเกี่ยวกับเขาเลย
ทหารจักรพรรดิอุดรจงฟัง จัดการไป๋อีซะ ผู้ใดกล้าแทรกแซง สังหารให้หมด!
ทหารจักรพรรดิแห่งศาสตราจงฟัง จัดการไป๋อีซะ ผู้ใดกล้าแทรกแซง สังหารให้หมด!
ทหารจักรพรรดิแห่งมวลอสูรถูเซียนจงฟัง จัดการไป๋อีซะ ผู้ใดกล้าแทรกแซง สังหารให้หมด!
สิ่งที่ทำให้ทุกคนตกตะลึงมากขึ้นก็เกิดขึ้น หวู่นี่ ถูหลงและเจี้ยนอู๋อิงบินขึ้นไปบนฟ้าพร้อมกัน เจี้ยนอู๋อิงจ้องไปยังหยิ่นรั่วปิงอย่างเย็นชาและพูดว่า พี่รั่วปิง วันนี้เจ้าช่วยไป๋อีไม่ได้ หากเจ้าฉลาดก็ไปให้พ้นทางซะ ไม่เช่นนั้นมันคงไม่สู้ดีแน่หากมิตรภาพของเราจะขุ่นเคืองกัน
หวู่นี่, เจี้ยนอู๋อิงและถูหลงไม่ได้มีความทรงจำเกี่ยวกับซากปรักหักพังสลายบาป แต่พวกเขาทั้งหมดเขียนประโยคนี้ในนาทีสุดท้ายว่า ไป๋อีได้สิ่งประดิษฐ์โบราณไปและเปื้อนเลือดอสูรและจะต้องถูกฆ่า!
พวกเขาทั้งหมดรู้ว่าสิ่งประดิษฐ์โบราณคืออะไร มันเป็นสมบัติที่สำคัญที่แท้จริงที่รวบรวมรูปแบบเต๋าอันยิ่งใหญ่และแข็งแกร่งกว่าสมบัติเชื่อมดวงจิต ในบรรดาสมบัติสิบอันดับแรกนั้น สมบัติทั้งเจ็ดเป็นสิ่งประดิษฐ์โบราณ อย่างคทาวัชระที่จักรพรรดิอรหังได้มาในซากปรักหักพังสลายบาป มันก็เป็นสิ่งประดิษฐ์โบราณที่รวบรวมรูปแบบเต๋าที่ทรงพลังเอาไว้
สิ่งประดิษฐ์โบราณนั้นเป็นที่ต้องการของทุกคน หากเจียงอี้เป็นคนของตระกูลหยิ่น เจี้ยนอู๋อิงและคนอื่นๆอาจจะไม่แย่งสมบัติมา แต่เจียงอี้ไม่ได้เป็นผู้ใดเลย ซึ่งเขาได้สิ่งประดิษฐ์ล้ำค่าไป พวกเขาจะไม่อยู่ฝ่ายนางอย่างแน่นอน ไม่มีผู้ใดรู้ว่าหยิ่นรั่วปิงอาจจะต้องการเอาสิ่งประดิษฐ์โบราณไว้กับตัวเองหรือเปล่า!
นายหญิง..
หยิ่นจื้อจวิน ผู้อาวุโสที่เป็นผู้นำของตระกูลหยิ่นกระตุกปาก เมื่อมองยอดฝีมือที่รายล้อมพวกเขา เขาก็ส่งข้อความเสียงว่า คุณหนู เด็กนี่พิเศษอย่างไร? เราไม่ควรขัดขืนคนมากมายเพียงนี้ ปล่อยเขาไปเถอะ
ไม่มีทาง!
ผู้คุ้มกันของนางบันทึกรายละเอียดเอาไว้ เจียงอี้มีสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ที่ทรงพลัง, เป็นผู้ที่เข้าไปยังอารามศักดิ์สิทธิ์ได้ ดูดซับลมดาราได้ และยังเข้าไปในราชวังราชันเวหาได้ในท้ายที่สุด นางเก็บข้อมูลเหล่านี้ไว้ทั้งหมด และคำพูดของนางก็ยังถูกบันทึกเอาไว้ด้วยว่าหากเจียงอี้ไปถึงขอบเขตเทียนจุนขั้นสูงสุดและเป็นบุคคลที่ดี นางก็จะแต่งงานกับเขา
นางลืมทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในซากปรักหักพังสลายบาป แต่บันทึกนี้ไม่ผิดแน่ ดังนั้นนางจึงต้องปกป้องเจียงอี้ นางลืมตาขึ้นมาและบินลงไปยืนข้างเจียงอี้พร้อมกับจ้องไปที่หวู่นี่และคนอื่นๆอย่างเย็นชาและพูดว่า ถ้าเจ้าต้องการจะฆ่า เช่นนั้นก็ฆ่าข้าด้วย!
ฮือฮา!
ในตอนนี้ทุกคนต่างตกตะลึง หวู่นี่, ถูหลงและนายน้อยคนอื่นๆเดือดดาลมาก หยิ่นรั่วปิงใส่ใจเด็กที่ชื่อไป๋อีผู้นี้มากเลยหรือ? หญิงงามที่ดูจับต้องยากกลับเต็มใจเสียสละชีวิตเพื่อชายเพียงคนเดียว?
หวู่นี่, ถูหลง, เยี่ยอิง, หลิงชีเจี้ยนและนายน้อยคนอื่นๆของตระกูลใหญ่มากมายนั้นเคยตามหยิ่นรั่วปิงมาก่อน นางงดงาม และตระกูลหยิ่นนั้นแข็งแกร่งมาก ที่สำคัญที่สุดคือ นางมากจากเผ่านารีหอมหวนซึ่งเป็นที่สมควรที่ชายทุกคนในโลกอยากได้นางมาครอบครอง แม้ว่าหยิ่นรั่วปิงจะดูเป็นกันเองและใจดี แต่ข้างในนั้นเย็นชามาก ไม่มีชายใดได้พื้นที่ในใจของนางเลย หลายคนถึงกับสงสัยว่าคนจากเผ่านารีหอมหวนนั้นเลือดเย็นและไม่เคยพัวพันกับเรื่องรักใคร่เลยหรือเปล่า
แต่ตอนนี้หยิ่นรั่วปิงกลับเต็มใจเสี่ยงชีวิตเพื่อชายคนหนึ่ง ซึ่งมันทำให้หวู่นี่, เยี่ยอิงและคนอื่นๆรู้สึกย่ำแย่มาก ไฟแห่งความหึงหวงของพวกเขาแผดเผาขึ้นสู่ท้องฟ้า
เอ่อ…
เจียงอี้เองก็ประหลาดใจเล็กน้อยและเต็มไปด้วยความสงสัย เกิดอะไรขึ้นที่ซากปรักหักพังสลายบาปกันถึงได้ทำให้แม่นางหยิ่นผู้นี้ปกป้องเขาได้ถึงเพียงนี้? เจียงอี้หยุงตัวเองด้วยดาบเหล็กทมิฬ เขากัดฟันแน่นและยืนอย่างสั่นเทา เขายิ้มให้หยิ่นรั่วปิงและพูดว่า แม่นางหยิ่น ข้าซาบซึ้งในความเมตตาของเจ้า ไป๋อีไม่สมควรได้รับมัน เจ้าไปยืนข้างๆก่อนเถอะ ข้าไม่ใช่เป้าหมายที่ใครก็เหยียบลงไปได้ง่ายๆ หากพวกมันต้องการสังหารข้า ข้าก็จะลากพวกมันไปลงนรกกับข้าด้วย!
เกราะเหล็กทมิฬของเจียงอี้ถูกทำลายลงและเขาสวมชุดสีขาว แต่มันเปียกโชกไปด้วยเลือดอสูรซึ่งเขาสั่นเทาด้วยความเจ็บปวดอย่างท่วมท้น แต่เขาก็ไม่ได้แสดงท่าทีเจ็บปวดแต่อย่างใด เขากลับมีรอยยิ้มจางๆแทน ดวงตาของเขาเฉียบคมดุจดาบและใบหน้าก็แหลมคมราวใบมีดขวาน มันทำให้ดวงตาที่งดงามของหยิ่นรั่วปิง ต่างไปจากคนปกติอย่างสิ้นเชิง
เจียงอี้กำลังจะเสี่ยงทุกสิ่ง มันไม่ใช่นิสัยของเขาที่จะให้สตรีมาคอยปกป้อง เขากำลังจะรอให้หยิ่นรั่วปิงถอยไป และจากนั้นเขาก็จะปล่อยโล่ศักดิ์สิทธิ์เปลวเพลิงอัสนีออกมาและเสี่ยงสู้ตายในศึกครั้งนี้
ลุงเตา!
หวู่นี่ตะโกนออกมา และแสงสีขาวก็ส่องประกายบนฝ่ามือของผู้อาวุโสข้างๆเขาก่อนที่จะยิงลงไปเบื้องล่าง ทันใดนั้น พื้นที่ที่เจียงอี้และหยิ่นรั่วปิงอยู่นั่นเหมือนจะถูกแช่แข็งเอาไว้ ในอีกทางหนึ่ง ยอดฝีมือของตระกูลหวู่ก็เคลื่อนไหวราวกับฝูงมังกรและพุ่งไปที่เจียงอี้, หยิ่นรั่วปิงและยอดฝีมือของตระกูลหยิ่นตามลำดับ พวกเขากำลังจะสังหารเจียงอี้
ผนึกห้วงมิติ?
หยิ่นรั่วปิงพบว่าทั้งคู่ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ ใบหน้าที่งดงามของนางถอดสีทันที ความตั้งใจของหวู่นี่ชัดเจนมาก เขากำลังจะทำให้นางแข็งทื่อและจะจับเจียงอี้ไป!
ฮึ่ม!
ในขณะนั้นเอง ก็มีเสียงกระแอมดังขึ้นมา ทุกคนรู้สึกว่าดวงจิตของพวกเขาหนักอึ้ง ยอดฝีมือตระกูลหวู่เองก็หยุดในทันทีและมองขึ้นไปยังราชาอรหังบนฟ้าด้วยความสยดสยอง เจียงอี้เองก็รู้สึกว่าดวงจิตของเขาเจ็บปวดและตระหนักได้ว่าผนึกห้วงมิติสลายไปแล้ว เขามองขึ้นไปยังราชาอรหังบนฟ้าโดยไม่รู้ตัว
ทุกคนได้ยินเสียงที่เย็นชาและต่างมองไปยังราชาอรหังโดยไม่ได้ตั้งใจ อีฉานยืนอยู่ข้างราชาอรหังเงียบๆ หน้ากากภูติผีของนางเองก็ยังดูมีเสน่ห์เหมือนเคย แต่ดวงตาของนางมองไปที่เจียงอี้และมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้าของนาง
ทุกคน ถอยไปซะ!
ราชาอรหังพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่แยแสและชี้ไปที่เจียงอี้แต่ไกล เขาพูดว่า พวกเจ้าสังหารคนผู้นี้ไม่ได้ ฉานเอ๋อร์ตัวน้อยของข้า…หลงใหลในตัวเขา!
….