เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 351
บทที่ 351 บ้านของฉันอยู่ที่ไหน
ใบหน้าของหล่อนหลีนั้นปรากฏรอยยิ้มอันขมขื่นออกมา
เวินเที๋ยนเที๋ยนเห็นท่าทางของเธอ ในใจนั้นกลับรู้สึกเจ็บปวดตามไปด้วย
ถึงแม้เหตุผลจะบอกเธอว่านี่ไม่ใช่ความผิดของเวินหงหยู้กับหล่อนหลีก็ตาม
ในช่วงเวลาสิบกว่าปีนี้ ทั้งสองคนก็คงจะใช้ชีวิตได้ไม่ดีเท่าไรนัก หรือบางทีพวกเขาเองก็กำลังตามหาเธออยู่ก็ได้
แต่ถึงแม้ว่าเหตุผลจะบอกแบบนี้ เวินเที๋ยนเที๋ยนกลับไม่สามารถทำให้จิตใจสงบลงได้เลย เมื่อจู่ๆต้องมาเผชิญหน้ากับพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดอย่างกะทันหันแบบนี้
ในหัวของเธอนั้นสับสนวุ่นวายไปหมด ราวกับว่ามีเสียงเป็นร้อยเป็นพันเสียงที่กำลังพูดถึงความคิดที่แตกต่างกันออกไปเหล่านั้น
เธอปิดหูเอาไว้ แล้วก้าวถอยหลังไป เหมือนกับว่าทำเช่นนี้แล้วจะสามารถไล่เสียงที่ดังขึ้นภายในหัวของเธอออกไปได้
หล่อนหลียื่นมือออกมาอยากจะดึงตัวเธอเอาไว้
“เที๋ยนเที๋ยน ลูกจะโทษแม่ก็ได้ แม่รู้ แต่ตอนนี้ลูกไปจากที่นี่กับพวกเราก่อนได้ไหม?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองมือของเธอที่กำลังยื่นออกมา แล้วส่ายหน้า
“อย่าพูดเลยค่ะ….คุณไม่ต้องพูดแล้ว!”
เธอก้าวถอยหลังไปอีกครั้ง ต้องการที่จะละสายตาออกไปจากร่างของหล่อนหลี มิเช่นนั้นแล้วตัวเธอเองจะต้องใจอ่อนขึ้นมาอีก
“ขอโทษนะคะ”
น้ำเสียงของเธออ่อนโยนขึ้นบ้างเล็กน้อย
เธอสูดหายใจเข้า พลางเอ่ยขึ้น : “ฉันต้องการเวลาคิดอีกสักหน่อย”
ว่าแล้ว ก็ไม่ทันได้รอให้หล่อนหลีและเวินหงหยู้พูดอะไรออกมา เวินเที๋ยนเที๋ยนก็หมุนตัวแล้วเดินหนีออกไปแล้ว
“เที๋ยนเที๋ยน!”
หล่อนหลีรีบตะโกนเรียก คิดอยากจะตามไป แต่กลับถูกเวินหงหยู้ขวางเอาไว้เสียก่อน
“ปล่อยให้เธอคิดก่อนเถอะครับ”
หล่อนหลีหยุดชะงักฝีเท้าตัวเอง พลางมองตามเบื้องหลังของเวินเที๋ยนเที๋ยนที่เดินจากไปด้วยความรู้สึกกังวล
เวินฉี่ยืนอยู่ข้างๆ กลับหันมาโบกมือให้คนที่อยู่ทางด้านหลัง ให้พวกเขาตามเวินเที๋ยนเที๋ยนไป ส่วนตัวเองกลับหันมาทางเวินหงหยู้และหล่อนหลีที่อยู่ตรงด้านหน้าแล้วหัวเราะขึ้นมาอย่างช้าๆ
“พวกแกคิดว่าถ้ารอให้เธอกลับมาแล้ว เธอจะกลับไปที่ตระกูลเวิน?หรือตระกูลหล่อน?”
ว่าแล้วก็มองดูอาการที่แสดงออกถึงเจ็บปวดของหล่อนหลี เวินฉี่หัวเราะออกมา แล้วจึงหันหลังกลับออกไปในที่สุด
กลับมาถึงตระกูลเวิน สีหน้าของเวินฉี่นั้นเคร่งขรึมขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
เขาขมวดคิ้ว พลางเอ่ยถามกับคนที่อยู่ทางด้านหลัง
“หงไห่กลับมาแล้วรึยัง?”
คนรับใช้ส่ายหน้า พลางเอ่ยตอบเขา : “หลังจากที่ออกไปตั้งแต่เช้า ก็ยังไม่ได้กลับมาเลยครับ จะให้ติดต่อให้เขากลับมาไหมครับ?”
เวินฉี่เงียบไปพักหนึ่ง
“ไม่ต้อง”
ว่าแล้ว เขาก็หยิบโทรศัพท์ที่อยู่บนโต๊ะขึ้นมา แล้วกดโทรออกเบอร์ของเวินหงไห่
เมื่อปลายสายรับสายแล้วนั้น จึงเอ่ยถามขึ้น : “ตอนนี้แกอยู่ที่ไหน?”
เวินหงไห่ที่อยู่ทางนั้นไม่รู้ว่าพูดอะไร สีหน้าท่าทางของเวินฉี่จึงอ่อนโยนลง
“ที่แท้ก็ไปหลบอยู่ที่นั่นแล้ว…..”
เขาไม่รู้ว่านึกถึงอะไร จึงหัวเราะออกมา แล้วเอ่ยพูดกับคนในสาย : “ฉันจำได้ว่าบ้านของตระกูลจี้คงจะมีอายุมานานหลายปีแล้ว”
“ช่วงนี้อากาศแห้ง ฝนไม่ได้ตกมานานมากแล้ว ถ้าบังเอิญเกิดไฟไหม้ขึ้นมา ก็คงจะเป็นเรื่องปกติ”
“อืม แกรู้ว่าจะต้องทำอย่างไรก็ดีแล้ว”
พูดจบแล้วนั้น เวินฉี่จึงวางสายไป แล้วนั่งลงบนโซฟา นิ้วชี้เคาะลงบนเข่าเบาๆ
ผ่านไปสักพักหนึ่งเขาจึงหยุดลง
“ไม่มีใครที่จะมาตั้งตัวเป็นศัตรูกับตระกูลเวินได้”
เอ่ยพูดออกมาแล้วนั้นเขาจึงลุกขึ้นเดินไปยังด้านบนแล้วกลับไปที่ห้องหนังสือ
เวินเที๋ยนเที๋ยนหนีออกมาจากตระกูลเวิน แล้วพุ่งตรงไปยังถนนใหญ่
เธอมองไปรอบๆ บนถนนที่มีคนเดินอยู่มากมาย แต่กลับไม่มีคนที่เธอรู้จักอยู่เลย
ในหัวของเธอนั้นรู้สึกสับสนไปหมด
ผ่านมาเป็นเวลาหลายปีขนาดนี้ เธอบอกกับตัวเองตลอด ว่าต่อให้ไม่มีพ่อแม่ เธอก็สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้
ถึงแม้จะไม่มีครอบครัวก็ไม่เป็นไร
แต่กลับคิดไม่ถึงเลยว่า พ่อแม่แท้ๆของเธอที่หายไปหลายปีขนาดนี้จะอยู่ข้างๆเธอมาตลอด
แต่ตอนนี้ เธอกลับไม่รู้เลยว่า ที่ไหนถึงจะเป็นที่พึ่งพิงสำหรับเธอกันแน่?
เธอนึกไปถึงคำพูดที่ตัวเองเคยพูดกับเวินฉี่ไว้
โลกนี้กว้างใหญ่มาก เดิมทีเธอคิดว่าที่ไหนก็สามารถจะเป็นบ้านของเธอได้ทั้งนั้น
แต่กลับไม่มีที่ไหนให้เธอสามารถไปปักหลักได้เลย
บ้านของเธอ—สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเฉินซีก็ถูกเผาไปแล้ว ไม่ใช่ที่ที่เธอจะกลับไปได้อีกแล้ว
ตระกูลเวิน?
ตระกูลหล่อน?
เวินเที๋ยนเที๋ยนส่ายหน้าอย่างแรง
ไม่!
คฤหาสน์?
จู่ๆในหัวของเธอนั้นก็แวบสถานที่นี้ขึ้นมา!
เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกอึ้ง ภาพในคฤหาสน์นั้นปรากฏขึ้นในหัวของเธอ
เธอเงยหน้าขึ้นมาแล้วมองไปยังทิศทางที่จะไปยังคฤหาสน์
ใช่แล้ว ที่นั่นก็คือบ้านของเธอ
จี้จิ่งเชินเคยบอกกับเธอไว้ ว่านั่นคือบ้านที่สร้างขึ้นมาสำหรับเธอโดยเฉพาะ จะเป็นบ้านและครอบครัวของเธอเสมอ
เธอจะไปที่คฤหาสน์ เธออยากจะไปหาจี้จิ่งเชิน
เวินเที๋ยนเที๋ยนโบกรถเพื่อมุ่งหน้าไปยังคฤหาสน์
เธอที่เพิ่งจะออกมาไม่นานนั้น คนของเวินฉี่ก็ตามมา
พวกเขามองไปรอบๆ แต่กลับไม่เห็นแม้แต่เงาของเวินเที๋ยนเที๋ยน
คนหนึ่งในนั้นเอ่ยพูดขึ้น : “พวกนายไปบอกท่านนายพลก่อน แล้วที่เหลือตามฉันมา จะต้องหาตัวเธอให้เจอ!”
ว่าแล้ว แต่ละคนก็แยกย้ายกันไปทำหน้าที่นั้น
มือทั้งสองข้างของเวินเที๋ยนเที๋ยนจับกับเอาไว้แน่น มองไปยังด้านหน้าอย่างร้อนใจ
จนกระทั่งรถแท็กซี่จอดลงตรงหน้าคฤหาสน์ ในขณะที่รถยังไม่ทันได้จอดนิ่งเลยนั้น เวินเที๋ยนเที๋ยนแทบจะรอไม่ไหวรีบพุ่งลงมาจากรถเสียแล้ว
จี้จิ่งเชินเคยบอกไว้ ว่าที่นี่คือบ้านของเธอ
พ่อบ้าน แม่ครัว และยังมีจี้จิ่งเชิน……
พวกเขาจะต้องกำลังรอเธออยู่อย่างแน่นอน!
ถ้าหากเป็นที่นี่ละก็ จะต้อง…..
และเพิ่งจะเดินมาถึงด้านหน้าคฤหาสน์นั้น จู่ๆขาของเวินเที๋ยนเที๋ยนก็ชะงักลง เสียงดังขึ้นในหัว รอยยิ้มที่แข็งทื่อบนใบหน้า ค่อยๆแตกละเอียด ร่วงหล่นลงพื้น
คฤหาสน์ที่อยู่ในความทรงจำนี้ได้ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะไปแล้ว ไม่ได้ยินเสียงใครเลยแม้แต่นิดเดียว แล้วก็ไม่เห็นร่องรอยของใครแม้แต่คนเดียวด้วยเช่นกัน…..
หน้าประตูถูกปกคลุมปิดกั้นไปด้วยเส้นสีเหลือง ไม่มีใครสามารถเข้าไปได้
“นี่….นี่มันเรื่องอะไรกัน?”
เวินเที๋นเที๋ยนอยู่ตรงที่เดิมด้วยความรู้สึกพังทลาย
เธอเดินมาข้างหน้าด้วยความตื่นตระหนก จนเกือบจะล้มลงไปที่พื้น
แม้แต่ที่นี่ ก็ไม่มีแล้วอย่างนั้นหรือ?
คนขับรถยังไม่ได้ขับออกไป เห็นท่าทางของเวินเที๋ยนเที๋ยนแล้ว จึงเอ่ยขึ้นอย่างใจดี : “คุณครับ คุณไม่รู้หรือครับ?ว่าคฤหาสน์แห่งนี้ได้ถูกตรวจสอบเพื่ออายัดแล้ว ด้านในไม่มีใครอยู่หรอกครับ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินประโยคนี้แล้ว จึงรีบหันกลับมาอย่างรวดเร็ว ดูเหมือนราวกับว่าจะจับยึดฟางเส้นสุดท้ายเอาไว้ได้อย่างไรอย่างนั้น
อาการที่แสดงออกบนใบหน้าของเธอนั้นดูไม่สมบูรณ์เท่าไรนัก แม้แต่สายตาของเธอนั้นก็ไม่ได้มองโฟกัสด้วยเช่นกัน
ใช่!
เวินหงหยู้บอกกับเธอว่าอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ภายใต้ชื่อของจี้จิ่งเชินทั้งหมดถูกอายัด แม้แต่คฤหาสน์หลังนี้ด้วยเช่นกัน
เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกตกใจ บ้านหลังสุดท้ายของเธอ…..
บ้านและครอบครัวสุดท้ายของเธอก็ไม่มีแล้ว…..
ขาทั้งสองข้างของเธออ่อนแรง เธอนั่งยองๆ เอาหน้าซุกลงตรงเข่าของตัวเอง โดยไม่ได้พูดอะไรออกมาอีกเป็นเวลาพักใหญ่
ในคฤหาสน์ไม่มีคนอยู่แล้ว แล้วพ่อบ้านล่ะ?
แม่ครัวล่ะ?
จี้จิ่งเชินล่ะ?
พวกเขาไปอยู่ที่ไหนกัน?
แล้วตัวเองจะสามารถไปที่ไหนได้บ้าง?
หรือเธอจะต้องคอยฟังสิ่งที่ตระกูลเวินและตระกูลหล่อนจัดการเช่นนั้นหรือ?
จู่ๆเธอก็ส่ายหน้าขึ้น แล้วลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว แล้วพุ่งตรงไปยังด้านหน้าคนขับรถคนนั้น
“คุณรู้ไหมคะว่าเจ้าของคฤหาสน์หลังนี้อยู่ที่ไหน?”
คนขับรถตกใจกับท่าทางของเธอจนอึ้งไป แล้วส่ายหน้าออกมา
“นี่….ผมจะรู้ได้อย่างไรล่ะครับ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนจับหน้าต่างรถเอาไว้แน่น ไม่ยอมปล่อย
เธอขมวดคิ้วพลางครุ่นคิดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
อสังหาริมทรัพย์ของจี้จิ่งเชินนั้นมีอยู่มาก นอกจากคฤหาสน์หลังนี้แล้ว เขายังมีบ้านพักตากอากาศอีกหลายหลัง แต่ในเมื่อที่นี่ถูกอายัดไปแล้ว ที่อื่นๆก็คงจะเป็นเช่นนี้เหมือนกัน
จี้จิ่งเชินไปอยู่ที่ไหนกัน? โรงแรม? บ้านคนอื่น?หรือว่า……
“บ้านตระกูลจี้!”
มีแสงส่องประกายแวบเข้ามาในหัวของเวินเที๋ยนเที๋ยน
“ใช่! เขาจะต้องไปที่นั่นแน่ๆ!”
คนขับรถมองดูท่าทางที่คาดเดาไม่ได้นี้ของเวินเที๋ยนเที๋ยนแล้วเอ่ยถามขึ้นอย่างระวัง : “คุณยังจะไปอยู่ไหมครับ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองเขา
“ไปค่ะ!”
เธอดึงประตู แล้วเข้าไปนั่งด้านใน พลางเอ่ยพูดอย่างมุ่งมั่น : “พาฉันไปบ้านตระกูลจี้ทีค่ะ”