เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 372
บทที่ 372 ชื่อเหมือนกัน
รถแท็กซี่ออกจากเขตตัวเมือง ค่อยๆเข้าไปในเขตชุมชนที่ค่อนข้างเก่าแก่นิดหน่อย และไปหยุดอยู่ที่ด้านล่างตึกแห่งหนึ่ง
เจียงหยู่เทียนลงมาก่อน เธอยืนอยู่ข้างนอก และเลื่อนโทรศัพท์ของตัวเองดูอย่างไม่สบอารมณ์
ประตูรถเปิดออกเล็กน้อย คนขับรถเห็นเธอไม่ขยับไปไหน จึงมองเธออย่างอดไม่ได้ แต่ต่อมากลับเห็นจี้จิ่งเชินลงมาจากเก้าอี้ด้วยตัวของเขาเอง
เขาเม้มริมฝีปากแน่น และใช้มือค้ำตัวเองให้ไปนั่งลงบนรถเข็น ท่าทางดูกระฉับกระเฉงเป็นอย่างมาก
หลังจากทำเสร็จแล้ว คล้ายกับว่าเจียงหยู่เทียนทนรอไม่ไหวแล้ว เธอจึงหมุนตัวและเดินจากไป
ทั้งสองคนดูไม่เหมือนสามีภรรยากัน……
คนขับรถมองแผ่นหลังของพวกเขา คิดไปด้วยและติดเครื่องรถยนต์ไปด้วย
บ้านเหล่านี้ค่อนข้างมีอายุ รู้สึกแบบนั้นถ้าดูจากด้านนอก เข้ามาข้างในกลับดูดีขึ้นมาเล็กน้อย
แต่พอเข้ามาในตัวบ้าน ข้างในกลับว่างเปล่า ทั้งๆที่อยู่กันสองคน แต่กลับไม่มีร่องรอยของคนเลยสักนิดเดียว
นิตยสารกับเสื้อผ้าวางกันอย่างสะเปะสะปะอยู่บนโต๊ะกับโซฟา ไม่มีคนเก็บมาสักพักแล้ว
ฟ้าเริ่มมืดแล้ว จี้จิ่งเชินไถลรถเข็นไปทางห้องอาบน้ำ
เจียงหยู่เทียนที่นั่งอยู่บนโซฟาเห็นการกระทำของเขา ก็ได้กลอกตาเล็กน้อย และนั่งลงบนโซฟาอย่างรวดเร็ว
วันนี้เจอเวินเที๋ยนเที๋ยนที่ข้างนอก ทำให้เธอระวังตัวมากยิ่งขึ้น
เธอโยนโทรศัพท์ทิ้ง แอบเปิดประตูห้องอาบน้ำเงียบๆ และเดินเข้าไปข้างใน
ได้ยินเสียงเปิดประตู จี้จิ่งเชินก็หันหัวกลับมา พอเห็นว่าเป็นเจียงหยู่เทียน เขาก็ขมวดคิ้วทันที
“ เธอเข้ามาทำไม? ”
เขาถอดเสื้อออกแล้ว บนหน้าอกสีน้ำผึ้งยังหลงเหลือรอยแผลเป็นจำนวนหนึ่งที่เกิดจากการถูกเผาไหม้
แต่รอยแผลเป็นพวกนี้กลับไม่ทำให้คนรู้สึกรังเกียจ กลับยิ่งเพิ่มเสน่ห์ให้กับเขาอย่างบอกไม่ถูก
ความเคร่งขรึมบนใบหน้ามีความห่างเหินอย่างชัดเจน กลับทำให้คนยิ่งอยากเข้าไปใกล้
เจียงหยู่เทียนก้าวขึ้นไปข้างหน้าอย่างลืมตัว และยิ้มให้จี้จิ่งเชินอย่างเอาใจ
“ ฉันกลัวนายจะไม่สะดวก เลยเข้ามาช่วยน่ะ ”
จี้จิ่งเชินพยายามข่มความรู้สึกไม่พอใจที่อยู่ในใจ
“ ไม่ต้อง ” เขาพูดบอก
แต่เจียงหยู่เทียนจะล้มเลิกไปอย่างง่ายๆหรอ?
รอยยิ้มของเธอกว้างมากขึ้น กลับทำให้คนรู้สึกสะอิดสะเอียน แม้แต่รอยย่นระหว่างคิ้วของจี้จิ่งเชินก็ยังลึกขึ้นเลย
“ พี่จิ่งเชิน ”
เธอบีบเสียงเรียกชื่อเขา ใช้มือแนบลงไปบนไหล่ของจี้จิ่งเชิน เดินเข้าไปใกล้ และคิดจะจูบเขา
จี้จิ่งเชินมองใบหน้าของเธอที่เข้ามาใกล้ เกิดความรังเกียจกับความรู้สึกต่อต้านขึ้นในใจ เขาหันหน้าไปด้านข้างอย่างทนไม่ไหว เพื่อหลบการกระทำที่เธอกำลังทำอยู่
เจียงหยู่เทียนคว้าไว้ได้แต่ความว่างเปล่า จึงเกิดความโมโหขึ้นในใจ
“ นายเป็นอะไร? ฉันเป็นภรรยาของนายนะ นายจะไม่จูบฉันเลยไม่ได้นะ! ”
จี้จิ่งเชินขมวดคิ้ว ไม่ได้พูดอะไร
ตั้งแต่แรกที่เห็นเจียงหยู่เทียน เขาก็ไม่สามารถทำตัวให้สนิทสนมกับเธอได้เลย
อย่าว่าแต่จูบเลย แม้แต่กอดก็ยังทำให้คนรู้สึกรังเกียจ
เห็นจี้จิ่งเชินไม่พูดอะไร เจียงหยู่เทียนยืนอยู่ข้างๆ ในใจก็ยิ่งโมโหมากขึ้นไปอีก
เธอกำหมัดแน่น แต่พอนึกถึงที่เจอเวินเที๋ยนเที๋ยนที่ข้างนอกวันนี้แล้ว จึงอดกลั้นไฟโกรธในใจลง
ต้องมีสักวันที่เวินเที๋ยนเที๋ยนจะหาจี้จิ่งเชินเจอ
เธอจะต้องพาจี้จิ่งเชินหนีไปก่อนที่หล่อนจะเจอเขา!
คิดได้ดังนั้น เธอจึงค่อยๆถอนหายใจออกมา ความโมโหบนใบหน้าได้จางหายไป และถูกแทนที่ด้วยรอยยิ้ม
“ พี่จิ่งเชิน คืนนี้ให้ฉันนอนกับพี่นะ ฉันจะดูแลพี่เอง ดีไหม? ”
จี้จิ่งเชินได้ยินประโยคนั้น จึงพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม: “ ไม่ต้อง ”
เจียงหยู่เทียนกัดฟันแน่น รอยยิ้มบนใบหน้าได้เปลี่ยนไปจนดูไม่ได้
“ แต่ตอนกลางคืนฉันนอนไม่สบายนี่ ลูกในท้องหยอกล้อกันอยู่เรื่อยเลย ”
พูดเสร็จ เธอก็จูงมือของจี้จิ่งเชิน เพื่อจะเอาไปวางบนท้องของตัวเอง
“ เห็นแก่หน้าลูก? ”
ยังไม่ทันได้สัมผัสท้องของเธอ มือของจี้จิ่งเชินก็ขืนเอาไว้เสียก่อน และได้สลัดเธอออก
“ ถ้ารู้สึกไม่สบายตัว พรุ่งนี้ผมจะเชิญแม่บ้านให้มาดูแลคุณ ”
พูดเสร็จ เขาก็ไม่สนใจเจียงหยู่เทียนอีก กลับไถลรถเข็นออกไปจากตรงนั้น
เจียงหยู่เทียนยืนอยู่ที่เดิม เธอกำหมัดแน่น สายตามองแผ่นหลังของจี้จิ่งเชินอย่างคับแค้นใจ
ผ่านไปสักครู่ เธอก็เดินตามไปอย่างไม่ยอมแพ้
เธอเดินมาถึงหน้าห้องของจี้จิ่งเชิน ยกมือเตรียมเปิดประตู กลับพบว่าประตูได้ถูกล็อคแล้ว
เจียงหยู่เทียนทุบประตูอย่างโมโห
“ จี้จิ่งเชิน! นายจะหลบไปถึงเมื่อไหร่กันแน่? ”
ตั้งแต่พาจี้จิ่งเชินกลับมา อย่าว่าแต่ขึ้นเตียงเลย แม้แต่อยู่ด้วยกันในทุกๆวัน จี้จิ่งเชินก็บังคับเธอมากพออยู่แล้ว และเขาก็ไม่เคยขึ้นเตียงกับเธอเลย
เจียงหยู่เทียนโมโหจนหน้าซีด เธอทุบประตูไปด้วย และต่อว่าเขาอย่างเสียๆหายๆไปด้วย
แต่ข้างในกลับไม่มีเสียงของจี้จิ่งเชินดังออกมาเลยสักนิดเดียว
เธอด่าสักพักก็รู้สึกเหนื่อย ถึงค่อยเดินจากไป
ภายในห้อง จี้จิ่งเชินเปิดคอมพิวเตอร์ ไตร่ตรองอยู่สักครู่ ถึงค่อยพิมพ์ตำแหน่งของทะเลสาบนั้นลงไป
เครื่องมือค้นหาหมุนเล็กน้อย หลังจากนั้นก็เด้งข้อมูลจำนวนหนึ่งขึ้นมา หนึ่งในข้อมูลเหล่านั้น ก็คือข่าวที่เกี่ยวกับชิงช้าสวรรค์
จี้จิ่งเชินเตรียมจะกดเข้าไป แต่สายตากลับกวาดไปเห็นลิงค์ด้านล่างเสียก่อน
――พิพิธภัณฑ์เหว่ยชี
พอเห็นชื่อนี้ ในหัวของจี้จิ่งเชินก็เหมือนมีอะไรกระทบกันทันที และเกิดเป็นภาพปะติดปะต่อขึ้น
เขาเลื่อนเม้าส์คลิกเข้าไปในข่าวนั้นทันที
หน้าข่าวเด้งขึ้นมา รูปภาพหนึ่งรูปก็เด้งออกมาเช่นกัน
จี้จิ่งเชินใจเต้นแรง ต่อมาเหมือนรู้สึกแสบร้อน และเหมือนมีเข็มเล็กมากมายทิ่มแทงเข้าไปในก้นบึ้งของหัวใจ
คนในรูปดูเหมือนอายุยังไม่มาก ผมลอนยาวสีลูกเกาลัดพาดไว้อยู่ด้านหลัง ในตากลมมีรอยยิ้มอ่อน ท่าทางที่มองกล้องเหมือนกำลังเขิน
จี้จิ่งเชินจ้องรูปนั้นอยู่สักพัก ราวกับว่าคนคนนั้นได้มาอยู่ตรงหน้าอย่างนั้นแหละ
ผ่านไปสักพัก เขาถึงค่อยเคลื่อนสายตาออกไป และอ่านข้อมูลของเธอแทน
“ รองประธานบริษัทเอ็มไอกรุ้ป เวินเที๋ยนเที๋ยน…… ”
เขาพูดพึมพำเสียงเบา กลับรู้สึกคุ้นเคยเป็นอย่างมาก สายตาเลื่อนดูข้างล่าง วินาทีต่อมา น้ำเสียงกลับขาดหายไปอย่างฉับพลัน!
ตรงคอลัมน์คู่สมรสนั้น ข้างบนได้เขียนชื่อชื่อหนึ่งไว้อย่างชัดเจน
จี้จิ่งเชิน
เขาสะดุ้งไปทั้งตัว และรีบกดเข้าไปดู กลับหาข้อมูลของคนคนนี้ไม่พบ!
ราวกับมีคนตั้งใจลบ
ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้?
จี้จิ่งเชินนั่งอยู่หน้าคอม หัวคิ้วค่อยๆเลิกขึ้น และไม่ขยับไปไหนอยู่สักพักใหญ่
ชื่อเหมือนกัน……
เป็นเรื่องบังเอิญหรอ?
เขาเอนพิงเก้าอี้เล็กน้อย สายตาจับจ้องอยู่บนรูปของเวินเที๋ยนเที๋ยนตลอด และไม่ได้ละไปไหนสักพัก
วันต่อมา ในบริษัทเอ็มไอกรุ้ป
เวินเที๋ยนเที๋ยนเห็นจงหลีเดินเข้ามาจากด้านนอก เธอก็พูดอย่างตกใจ: “ ไม่ใช่ว่าให้นายพักอยู่ที่โรงพยาบาลหรอ? ทำไมถึงมาบริษัทได้ล่ะ? ”
เมื่อวานจงหลีถูกโฟมตกลงมาใส่ หลังตรวจดูแล้ว ถึงแม้ว่าจะไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร แต่หมอแนะนำให้เขาพักผ่อนมากๆ
ตอนนี้ที่บริษัทไม่ได้มีงานสำคัญอะไร เธอจึงลางานให้จงหลีเลย
แต่ไม่คิดว่าเขาจะยังมาบริษัทอย่างตรงเวลาเหมือนเดิม
ท่าทางของจงหลีเหมือนดีขึ้นเยอะแล้ว สีหน้าก็ดีขึ้นกว่าเมื่อวานมากอีกด้วย
“ ผมไม่เป็นอะไรแล้วครับ ”
เขาเดินเข้ามา อารมณ์บนใบหน้าอ่อนโยนมาก
เวินเที๋ยนเที๋ยนพูดอย่างเป็นห่วง: “ ถ้ารู้สึกไม่สบายตัวต้องบอกกับฉันนะ ห้ามฝืนเด็ดขาด ”
จงหลีได้ยินดังนั้นก็ยิ้มเล็กน้อย
“ ครับ ”
พูดเสร็จ เขาเปิดตารางการเดินทางในมือขึ้น และพูดรายงานเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่นานมานี้ด้วยน้ำเสียงที่อ่อนนุ่ม