เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 373
บทที่ 373 ทำให้คนรู้สึกปวดใจ
เพราะกิจกรรมที่จัดร่วมกับพิพิธภัณฑ์ในครั้งนี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก โครงการที่ร่วมกันทำกับบริษัทอื่นก็ค่อยๆคลี่คลายลง แม้แต่หุ้นที่ตกลงไปอย่างต่อเนื่องของบริษัทก็กลับมาเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
และเป็นเหมือนที่คาดการณ์ไว้ กิจกรรมครั้งนี้นำผลประโยชน์มาให้พวกเขามากมาย
หลังจากที่รายงานเรื่องงานเสร็จ เวินเที๋ยนเที๋ยนก็พยักหน้าเล็กน้อย และพูดถามขึ้น: “ เรื่องจี้จิ่งเชินละ? ได้ข่าวอะไรบ้างไหม? ”
จงหลีชะงักไปเล็กน้อย ราวกับไม่คิดว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนจะถามแบบนี้ สีหน้าของเขาจึงปรากฏความลังเลขึ้นเล็กน้อย
รู้ว่าเจียงหยู่เทียน จี้ยี่หยัน และฉวีช่วยฉิน พวกเขาสามคนถูกขังไว้ในบ้านเก่าของตระกูลจี้ คนในห้องใต้ดินมีไม่มาก เมื่อก่อน จี้จิ่งเชินเคยบอกว่าต้องปิดเป็นความลับ อย่าให้เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้เรื่องนี้
เพราะฉะนั้น ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ขึ้น เขาก็ไม่ได้พูดอีกเลย แต่แอบส่งคนไปตรวจสอบลับหลัง
หลังจากไฟไหม้ ห้องใต้ดินก็ว่างเปล่า ประตูใหญ่ถูกเปิดออก
เห็นได้ชัดว่าคนด้านในได้หนีออกมาแล้ว
แต่เขาหาตั้งนาน กลับหาคนทั้งสามคนที่ถูกขังอยู่ด้านในไม่พบ
คนพวกนั้น ไม่ว่าจะเป็นใคร ล้วนเกลียดจี้จิ่งเชินกับเวินเที๋ยนเที๋ยนกันทั้งนั้น
ตอนนี้จี้จิ่งเชินตายไปแล้ว พวกเขาจะต้องมาก่อเรื่องวุ่นวายให้กับเวินเที๋ยนเที๋ยนอย่างแน่นอน
จงหลีมองเวินเที๋ยนเที๋ยนด้วยใบหน้าที่เคร่งเครียด
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่ได้ยินคำตอบสักพัก จึงเงยหน้ามองอย่างอดไม่ได้
เห็นท่าทางของจงหลี เธอจึงพูดถามขึ้นอย่างสงสัย: “ เป็นอะไรไป? หาเบาะแสเจอหรือยัง? ”
จงหลีลังเลใจเล็กน้อย และส่ายหน้าไปมา
“ ยังไม่เจอครับ ”
สีหน้าของเวินเที๋ยนเที๋ยนมีความผิดหวังเล็กน้อย ผ่านไปสักครู่ถึงค่อยกลับมาเป็นปกติ
“ ไม่เป็นไร ยังมีเวลา เราค่อยๆหาก็ได้ ”
จงหลีเห็นท่าทางของเธอ เห็นอยู่ว่าในตามีความผิดหวังกับความหงอยเหงา แต่กลับฝืนตัวเองให้ยิ้มออกมา
ท่าทางของเวินเที๋ยนเที๋ยนในตอนนี้ ทำให้เขารู้สึกปวดใจเป็นอย่างมาก
ทำให้เขาอยาก……
ได้ยินเสียงดังขึ้น อยู่ๆประตูห้องทำงานก็ถูกคนเปิดออก
ความคิดของจงหลีถูกขัดจังหวะ เห็นผู้จัดการหยางเดินเข้ามาจากด้านนอกด้วยสีหน้าที่ลำบากใจ
“ คุณเวินครับ…… ”
เขาพูดอย่างลังเลใจเล็กน้อย ไม่รู้ว่าไปเจอเรื่องอะไรมา
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองเขาอย่างสงสัย “ เป็นอะไร? กิจกรรมมีปัญหาหรอ? ”
ผู้จัดการหยางรีบส่ายหน้าไปมาทันที
“ ไม่ใช่ครับ…… ”
เขาคิดอยู่สักพัก เหมือนกำลังคิดว่าควรจะพูดยังไงดี
ผ่านไปสักครู่ ถึงค่อยพูดขึ้นอย่างลังเล: “ เมื่อสักครู่ เราเพิ่งได้รับเอกสารร่วมมือมาหนึ่งฉบับครับ ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนยังคงไม่เข้าใจ ถึงแม้ว่าสถานการณ์ของบริษัทในตอนนี้จะค่อนข้างทรุดโทรม แต่หลังจากที่ผ่านกิจกรรมครั้งนี้มาแล้ว ก็ได้มีบริษัทอื่นมาเสนออยากจะร่วมมือกับทางบริษัทของเรา
ตกลงว่าเป็นเอกสารร่วมมือแบบไหนกันแน่ ทำไมถึงทำให้ผู้จัดการหยางลังเลได้ถึงขนาดนี้
“ เอกสารมีปัญหาหรอ? ”
ผู้จัดการหยางเดินเข้ามา นำเอกสารที่อยู่ในมือมาวางบนโต๊ะทำงาน
“ นี่คือบริษัทที่เพิ่งสร้างขึ้นมาไม่ถึงสามเดือน ถึงแม้ว่าเวลาจะสั้น แต่ดูจากแนวโน้มการพัฒนาที่ผ่านมา ในด้านการทำงาน ฝ่ายตรงข้ามมีขั้นตอนมากมายหลากหลาย ไม่นานก็สามารถครอบคลุมพื้นที่ได้อย่างกว้างขวางครับ ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนรับเอกสารมาเปิดดู ข้างบนเขียนกำกับว่า “ บริษัทจีนเซินจำกัด ” ไม่เคยได้ยินชื่อนี้จริงๆด้วย
ผู้จัดการหยางพูดต่อ: “ บริษัทนี้เสนอโครงการที่จะทำร่วมกันได้อย่างดีมาก ความคิดก็ทันสมัยมากด้วยเช่นกัน แต่ขอบข่ายโครงการใหญ่มากครับ ”
ฝ่ายตรงข้ามเสนอโครงการที่เกี่ยวกับการวางแผนส่วนแบ่งการตลาด การคิดอ่านตรงไปตรงมา วิธีก็ค่อนข้างสมัยใหม่ แต่ต้องการเอาชนะจากความเสี่ยง
แต่ปัญหาอย่างเดียวก็คือ “บริษัทจีนเซิน ” ถึงแม้ว่าบริษัทนี้จะพัฒนาอย่างรวดเร็ว แต่ถ้าเทียบกับบริษัทเอ็มไอกรุ้ปแล้ว ความสามารถก็ยังต่างกันมากอยู่ดี ทำให้ดูไม่เพียงพอ
โครงการที่ผ่านขอบข่ายแบบนี้ล้วนถูกบริษัทใหญ่ถือเอกสิทธิ์ผูกขาดกันทั้งนั้น เพราะต่อให้บริษัทเล็กเข้าร่วม ก็ทำได้แค่ตกเป็นเป้าอยู่ดี
เดิมทีผู้จัดการหยางคิดอยากจะซื้อโครงการฉบับนี้ขึ้นมา และค่อยเลือกบริษัทใหญ่มาทำร่วมกัน
หลังจากที่ฝ่ายตรงข้ามได้ฟังคำเงื่อนไขของเขาแล้ว ถึงแม้ว่าจะไม่ได้คัดค้านในทันที แต่กลับเสนอเงื่อนไขขึ้นมาหนึ่งข้อ
พวกเขาต้องการพูดคุยกับคนรับผิดชอบของบริษัทเอ็มไอกรุ้ปเป็นการส่วนตัว
โครงการนี้สมบูรณ์แบบมาก จะเสียโอกาสไปไม่ได้ ผู้จัดการหยางถึงได้มาหาเวินเที๋ยนเที๋ยนนี่ไง
หลังจากที่เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ฟังคำพูดของเขาแล้ว ก็ได้ไตร่ตรองอยู่สักครู่
“ ก็แค่เจอหน้ากันเท่านั้นเอง จัดเตรียมเวลาให้ฉันด้วย…… ”
“ แต่คุณเวินครับ ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนยังพูดไม่จบ กลับถูกผู้จัดการหยางขัดจังหวะเสียก่อน
เธอขมวดคิ้ว และพูดขึ้นอย่างเป็นกังวล: “ ผู้รับผิดชอบของบริษัทจีนเซิน คนนี้ไม่เคยเผยหน้าออกมาในที่สาธารณะเลย แม้แต่ข้อมูลของบริษัท ก็เหมือนว่าจะใช้สถานะของคนอื่นก่อตั้งขึ้นมา แม้แต่พนักงานของพวกเขาก็ยังไม่เคยเห็นรูปร่างหน้าตาของผู้รับผิดชอบคนนี้เลยด้วยซ้ำ ผมเกรงว่า…… ”
ตอนนี้คือสถานการณ์พิเศษ เรื่องเมื่อครั้งก่อนเพิ่งจะผ่านไปได้ไม่นาน ทุกคนยังคงรู้สึกกลัว จึงระมัดระวังตัวอย่างเลี่ยงไม่ได้
เวินเที๋ยนเที๋ยนรับรู้ถึงความเป็นห่วงของผู้จัดการหยาง จึงพูดขึ้น: “ ฉันจะหาคนไปด้วยกันกับฉัน แบบนี้ก็ไม่ต้องเป็นห่วงแล้วนะ ไม่ใช่คุณหรอที่บอกว่าโครงการนี้หาได้ยากมากน่ะ? ”
ผู้จัดการหยางพยักหน้า เหมือนกำลังคิดว่าควรให้ใครไปเป็นเพื่อนเวินเที๋ยนเที๋ยนดี
“ ผมไปเองครับ ”
จงหลีที่ยืนอยู่ด้านข้างได้พูดขึ้นในตอนนี้
เวินเที๋ยนเที๋ยนหันไปมองเขา เธอยิ้มเล็กน้อย
“ ได้ งั้นก็ให้จงหลีไปกับฉัน คุณหาเวลาให้ฉันด้วย ทางที่ดีควรให้ฝ่ายนั้นมาที่บริษัทเรา เพราะร่างกายของจงหลียังไม่ค่อยดีนัก ”
จงหลีได้ยินดังนั้น จึงหันไปมองเวินเที๋ยนเที๋ยนอย่างอดไม่ได้ เขาจ้องใบหน้าด้านข้างของเธอ และเกิดความอบอุ่นขึ้นในใจ
“ ครับ ”
ผู้จัดการหยางพยักหน้า และหมุนตัวไปจัดการ
สายตาของจงหลีแวววาว ตอนที่มองเวินเที๋ยนเที๋ยนก็มีอุณหภูมิที่ร้อนแผดเผาด้วยเช่นกัน
ช่วงบ่าย ผู้จัดการหยางก็ได้มาที่ห้องทำงานของเวินเที๋ยนเที๋ยนอีกครั้ง
เขาขมวดคิ้ว สีหน้ามีความโมโห
และพูดขึ้นมาด้วยความรู้สึกโมโห: “ น่ารังเกียจ! น่ารังเกียจมาก! ไม่คิดว่าพวกเขาจะนัดเจอที่ร้านอาหาร! ”
เห็นอยู่ว่าเป็นงานราชการ กลับตั้งใจนัดเจอกันที่ร้านอาหารกลางคืน ในความคิดของผู้จัดการหยาง พวกเขาต้องคิดไม่ดีอย่างแน่นอน
ที่เขารู้มา ตั้งแต่รู้ว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนเริ่มบริหารบริษัทเอ็มไอกรุ้ป ก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่กำลังรอดูละครฉากสำคัญ
หรือบริษัทนี้มีจุดประสงค์ที่เหมือนกันอย่างนั้นหรอ?
เวินเที๋ยนเที๋ยนกลับพูดขึ้นมา: “ จัดการเรื่องนัดเจอแล้วหรอ? ”
ผู้จัดการหยางเม้มริมฝีปาก
“ ฝ่ายนั้นบอกว่าคืนนี้ต้องการพบคุณที่ร้านอาหารTHALIAครับ ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ฟังก็เข้าใจทันที
ร้านอาหารTHALIAเป็นร้านอาหารที่ขึ้นชื่อเรื่องคู่รัก คนที่ไปกินร้านนั้นเกือบทุกคนจะเป็นคู่รักกัน ไม่ต้องบอกว่าเป็นตอนกลางคืนหรอก
มิน่าล่ะ ผู้จัดการหยางถึงได้โกรธขนาดนี้
เมื่อสักครู่เวินเที๋ยนเที๋ยนได้อ่านโครงการของบริษัทจีนเซิน ฉบับนั้นแล้ว และรู้สึกว่ามีความดึงดูดจริงๆ เธอคิดไปคิดมาสักพัก
“ ถ้ามีจงหลีไปกับฉันด้วย ก็ไปดูสักหน่อย โอกาสแบบนี้ไม่ได้มีบ่อยๆ ไม่ใช่หรอ? ”
ผู้จัดการหยางเงียบลงทันที อันที่จริงแล้วเขาก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน ดังนั้น สุดท้ายจึงไม่ได้พูดปฏิเสธคำแนะนำนี้
แต่บริษัทยักษ์ใหญ่อย่างบริษัทเอ็มไอกรุ้ปกลับต้องมาก้มหัวให้กับบริษัทเล็กๆที่ไม่มีชื่อเสียงอะไร ในใจของเขารู้สึกไม่สบาย เหมือนถูกก้อนหินอุดตันอยู่อย่างนั้นแหละ
เวินเที๋ยนเที๋ยนลุกขึ้นยืน และหันกลับไปถามจงหลี: “ คืนนี้ทำโอที ไม่เป็นไรใช่ไหม? ”
“ ไม่เป็นไรครับ ”
“ ดี งั้นเราไปดูสักหน่อยว่าผู้รับผิดชอบของบริษัทจีนเซิน คนนั้นเป็นใครกันแน่……