เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 375
บทที่ 375 การพบกันโดยมีกระจกกั้นไว้ตรงกลาง
วันต่อมา หลังจากที่เวินเที๋ยนเที๋ยนกลับมาถึงบริษัท ก็ได้นำความคิดเห็นของต่งไห่เมื่อคืนมาปรึกษากับผู้จัดการหยาง
เดิมที เวินเที๋ยนเที๋ยนอยากร่วมมือกับบริษัทจีนเซิน แต่พอเห็นท่าทางของต่งไห่เมื่อวานแล้ว ก็มีความลังเลนิดหน่อย
พอนึกถึงพฤติกรรมของต่งไห่ที่ร้านอาหารTHALIA ดูเหมือนจะชวนให้คนสงสัยจริงๆด้วย
คนที่นิสัยโอ้อวดอย่างต่งไห่ทำยังไงถึงพัฒนาบริษัทได้อย่างรวดเร็วภายในระยะเวลาสั้นๆได้กันนะ
“ ถ้าพวกเขาไม่ยอมขาย งั้นก็ทิ้งโครงการนี้ไปก็ได้ ” เวินเที๋ยนเที๋ยนพูดอย่างแน่วแน่
ดูเหมือนว่าผู้จัดการหยางจะรู้สึกเสียดายนิดหน่อย
“ น่าเสียดาย โครงการดีๆแบบนี้หาได้ไม่ง่ายเลย ”
จงหลียิ่งรู้สึกไม่พอใจต่อต่งไห่เป็นอย่างมาก เขายืนพูดอยู่ด้านข้าง: “ อิงจากสถานการณ์ของบริษัทในตอนนี้แล้ว ยังไงก็ทำเท่าที่มีความมั่นใจไปก่อนแล้วกัน ”
“ ตอนนี้ทำได้เพียงเท่านี้ ”
กำลังพูดคุย ก็มีเลขาเคาะประตูและเดินเข้ามาจากด้านนอก
“ คุณเวินคะ เมื่อสักครู่บริษัทจีนเซิน โทรศัพท์มาเชิญคุณให้ไปเยี่ยมชมบริษัทของพวกเขาค่ะ ”
“ เยี่ยมชม ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนขมวดคิ้วเล็กน้อย ไม่ค่อยเข้าใจความหมายของฝ่ายตรงข้ามสักเท่าไหร่
ผู้จัดการหยางพูดขึ้นอย่างคาดการณ์: “ เป็นไปได้ไหมที่พวกเขาจะเปลี่ยนความคิดแล้ว? ”
ใบหน้าของเขาเผยความดีใจขึ้นมา เห็นได้ชัดว่าเป็นโครงการที่สำคัญมากๆ
เวินเที๋ยนเที๋ยนลังเลอยู่ชั่วขณะ ถึงค่อยพูดกับเลขา: “ บอกพวกเขาว่าฉันจะไปวันนี้ตอนบ่าย ”
จงหลีได้ยินเธอพูดตอบรับ เขาจึงขมวดคิ้วเล็กน้อย
รอจนเลขาเดินออกไป เขาถึงค่อยพูดขึ้น: “ ท่าทีของเราเมื่อวานก็ชัดเจนแล้ว พวกเขายังต้องการให้เราไปอีก ไม่รู้ว่ามีจุดประสงค์อะไรกันแน่ ”
เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย นึกถึงเรื่องที่ร้านอาหารเมื่อวาน ที่ต่งไห่ทำกระโปรงของเวินเที๋ยนเที๋ยนสกปรก ไหนจะยังอยากจับมือของเธออยู่ตลอดเวลาอีก ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดในใจ
“ คุณเวินครับ ครั้งนี้ให้ผมกับผู้จัดการหยางไปก็ได้ครับ ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่ค่อยเห็นจงหลีมีท่าทีเด็ดขาดแบบนี้ เธอจึงหันไปมองเขาอย่างอดไม่ได้
“ ไม่ต้องหรอก ในเมื่อพวกเขาพูดชื่อฉันอยากจะให้ฉันไปขนาดนั้น เราก็ควรใช้ความจริงใจเข้าแลกเหมือนกัน ”
จงหลียังรู้สึกไม่วางใจ เขาขมวดคิ้ว และไม่ได้พูดอะไร
เวินเที๋ยนเที๋ยนพูดต่อ: “ นายไปกับฉันก็ได้ ”
ได้ฟังดังนั้น อารมณ์ของจงหลีถึงค่อยๆผ่อนคลายลง เขาจึงพยักหน้า
ผู้จัดการหยางยืนมองการกระทำของพวกเขาสองคนอยู่ด้านข้าง ในใจกลับรู้สึกแปลกประหลาด แต่ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
คิดไปคิดมา ลองมองย้อนไปในอดีต ก็รู้สึกว่าตัวเองคิดมากไป จึงลืมเรื่องนี้ไปสะ
ตอนบ่าย เวินเที๋ยนเที๋ยนกับจงหลีมาถึงที่บริษัทจีนเซินอย่างตรงเวลา
บริษัทจีนเซินจำกัด ตั้งอยู่ที่เขตราชการเก่า
แตกต่างกับบริษัทเอ็มไอกรุ้ป ทั้งบริษัทครอบคลุมพื้นที่ครึ่งล่างทั้งหมด พนักงานมีสิบกว่าคน
อาคารเก่าแก่ บนทางเดินตกแต่งด้วยของที่ไม่ใช้แล้ว ดูคับแน่นมาก
เวินเที๋ยนเที๋ยนเดินเข้าไปกับจงหลี พบว่าที่แผนกต้อนรับไม่มีคน จึงทำได้เพียงตามหาตามตำแหน่งที่ได้รับมาเมื่อครั้งก่อน
หาอยู่สักพัก ในที่สุดก็หาคนของบริษัทจีนเซิน เจอที่ห้องสุดท้าย
ในห้องที่มืดสลัวมีโปรแกรมเมอร์นั่งอยู่สองสามคน และมองไม่ค่อยชัดเท่าไหร่
เวินเที๋ยนเที๋ยนกวาดสายตาไปมองบนหน้าจอคอมของพวกเขา เห็นโปรแกรมเลือนราง ทำให้นึกถึงเอกสารที่จงหลีส่งมาเมื่อครั้งก่อน
คล้ายกับว่าบริษัทจีนเซิน เริ่มร่ำรวยขึ้นจากด้านไอที ในยุคที่อินเตอร์เน็ตพัฒนาได้อย่างรวดเร็วแบบนี้ ก็มีแค่โครงการนี้เท่านั้นที่สามารถเติบโตได้เร็วขนาดนี้
เธอกับจงหลีรออยู่ด้านนอกสักครู่ ก็มีคนที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกับเวินเที๋ยนเที๋ยนออกมาต้อนรับพวกเขา
“ ผู้จัดการสั่งว่า ถ้าคุณเวินมาแล้ว ให้พาคุณไปที่ห้องทำงานของเขาค่ะ ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้า และเดินตามเธอไป
จงหลีเดินตามอยู่ที่ด้านหลัง แต่เพิ่งก้าวเดินได้สองก้าว กลับถูกหญิงสาวคนนั้นห้ามไว้เสียก่อน
เธอพูดอย่างลำบากใจ: “ ขอโทษค่ะคุณผู้ชาย ผู้จัดการต้องการคุยกับคุณเวินเป็นการส่วนตัวค่ะ ”
เดิมทีจงหลีก็รู้สึกไม่ชอบต่งไห่อยู่แล้ว ในใจยิ่งระมัดระวังมากขึ้นไปอีก พอได้ยินดังนั้น เขาจึงรู้สึกโกรธมากกว่าเดิม
“ จงหลี ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนรีบเรียกเขาไว้ และพูดขึ้น: “ ไม่เป็นไร นายรอฉันอยู่ข้างนอกนี่แหละ เดี๋ยวฉันออกมา ”
จงหลีเม้มริมฝีปาก เงียบไปสักพัก ถึงค่อยพยักหน้า
ท่าทางของหญิงสาวคนนั้นเหมือนกำลังโล่งใจ เธอพาเวินเที๋ยนเที๋ยนเดินไปทางห้องทำงาน
เข้ามาในห้อง ก็เห็นต่งไห่นั่งอยู่ข้างในจริงๆด้วย
เขายังใส่ชุดสูทตัวที่เจอกันเมื่อวาน ดูเหมือนว่าชุดสูทจะใหญ่กว่าตัวนิดหน่อย และควบคู่ไปด้วยสีหน้าที่เกินจินตนาการของเขา
“ คุณเวินมาแล้ว ”
เขาลุกขึ้นยืนอย่างเป็นกันเอง พาเวินเที๋ยนเที๋ยนไปนั่งที่โซฟา ส่วนตัวเองก็เอาหลังพิงผนัง และนั่งลงฝั่งตรงข้ามเวินเที๋ยนเที๋ยน
ตอนที่เวินเที๋ยนเที๋ยนเพิ่งเข้ามาข้างในก็รู้สึกถึงแปลกๆ
พื้นที่ของห้องทำงานนี้เล็กมาก น้อยคนที่จะเอาโซฟามาวางตรงข้ามกัน ถึงขนาดกั้นทางที่จะเดินเข้ามา
ที่น่าแปลกที่สุดก็คือ ไม่คิดว่าบนผนังที่ต่งไห่กำลังเอนพิงนั้น จะมีกระจกขนาดใหญ่ตั้งไว้อยู่
เวินเที๋ยนเที๋ยนนั่งลงก็รู้สึกว่าตัวเองกำลังส่องกระจกอยู่
ทำให้เธอหันไปมองอย่างอดไม่ได้
ต่งไห่หยิบเอกสารบนโต๊ะที่เตรียมไว้แล้วส่งให้กับเวินเที๋ยนเที๋ยน
“ เมื่อวานหลังจากกลับมา ผมก็ได้คิดอย่างละเอียดดูแล้ว ผมคิดว่าที่คุณเวินยังลังเลกับโครงการนี้ คงเป็นเพราะยังไม่รู้จักบริษัทของเรา ดังนั้น ผมถึงได้เชิญคุณมาเยี่ยมชมที่บริษัทของเรายังไงละครับ ”
นี่เป็นเอกสารที่เกี่ยวกับบริษัทของเรากับโครงการนี้ครับ คุณลองอ่านดูก่อน ผมเชื่อว่าคุณจะต้องเปลี่ยนความคิดอย่างแน่นอน ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเก็บสายตากลับมา และเปิดดูเอกสาร
บนเอกสารได้เขียนแผนการวิเคราะห์โครงการนั้นกับข้อมูลของบริษัทอย่างละเอียด ถึงขนาดยังดำเนินการวิเคราะห์ว่าหลังจากที่บริษัทเอ็มไอกรุ้ปร่วมมือกับบริษัทจีนเซิน แล้ว จะนำผลประโยชน์อะไรมาให้บ้าง
แผนการวิเคราะห์ฉบับนี้ทำให้คนตกใจมากจริงๆ
เวินเที๋ยนเที๋ยนพลิกอ่านดูอีกรอบ ความลังเลใจเมื่อครั้งก่อนได้หายไปในพริบตาเดียว
เธอเงยหน้ามองต่งไห่หรือว่าตัวเองจะตัดสินเขาจากภายนอกไปจริงๆล่ะ?
คนตรงหน้าสามารถเขียนโครงการออกมาได้ขนาดนี้ คงจะไม่เหมือนภายนอกที่ดูเรียบง่ายแบบนั้นแน่ๆ
ต่งไห่เห็นท่าทีของเธอเปลี่ยนไป รอยยิ้มบนหน้าก็ค่อยๆผ่อนคลายลง เขาขยับตัวเล็กน้อย และไปนั่งเอียงอยู่ที่ฝั่งตรงข้ามเวินเที๋ยนเที๋ยน
พอเขาขยับ ก็กลายเป็นว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนได้หันหน้าเข้ากับกระจก และยิ่งรู้สึกแปลกขึ้นไปอีก
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเงาในกระจกก็กำลังมองตัวเองหรือเปล่า ทำให้เธอมักจะรู้สึกว่าคล้ายกับมีคนกำลังมองตัวเองอยู่
เวินเที๋ยนเที๋ยนจ้องกระจกอยู่สักครู่ จนกระทั่งต่งไห่เรียกเธอ เธอถึงจะดึงสติกลับมา
“ คุณเวินครับ คุณว่าเป็นยังไงบ้างครับ? ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนทำจิตใจให้เป็นปกติ และพูดขึ้นอย่างตั้งใจ: “ ฉันจะคิดทบทวนเรื่องการร่วมมือของเราใหม่อีกครั้ง ถ้าสามารถบรรลุมาตรฐานบนแผนการวิเคราะห์ได้จริงๆ ทางบริษัทเอ็มไอกรุ้ปก็ยินดีที่จะร่วมมือกับพวกคุณค่ะ ”
ต่งไห่พยักหน้าอย่างพอใจ อยู่ๆเขาก็นึกอะไรออก จึงลุกขึ้นยืนและเดินไปที่โต๊ะทำงาน
“ ผมจำได้ว่าทางนี้ยังมีเอกสารอีกหนึ่งฉบับ คุณรอสักครู่ ผมจะไปหยิบให้คุณ ”
เห็นเขาก้มหน้าหาของในลิ้นชัก เวินเที๋ยนเที๋ยนก็เคลื่อนสายตาไปหยุดที่บนกระจกบานนั้นอย่างอดไม่ได้
เธอขมวดคิ้ว จ้องอยู่สักพัก ลุกขึ้นยืนและเดินเข้าไปใกล้ๆอย่างอดไม่ได้
เธอยืนอยู่หน้ากระจก เวินเที๋ยนเที๋ยนยื่นมือออกไปแนบกับบนกระจกเบาๆ ทำให้นิ้วมือกับเงาในกระจกรวมเข้าด้วยกัน……