เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 376
บทที่ 376 คนคนนั้น……คือจี้จิ่งเชิน
เวินเที๋ยนเที๋ยนเงยหน้าขึ้นไปมองในกระจกอีกครั้ง
กระจกสูงสะท้อนเงาของเธอกลับมา แต่ถ้าเข้าไปในกระจกก็จะเห็นว่าอีกฝั่งมีคนนั่งอยู่
จี้จิ่งเชินนั่งอยู่บนรถเข็น เขากำลังมองเวินเที๋ยนเที๋ยนที่อยู่ในกระจก
ตั้งแต่เวินเที๋ยนเที๋ยนเข้ามา เขาก็สังเกตเธออยู่ตลอดเวลา
จนกระทั่งเธอเอามือของเธอมาแนบบนกระจก มุมปากของเขาถึงค่อยยกขึ้นมาช้าๆ
“ ช่างเป็นแมวน้อยที่ฉลาดซะจริงๆ ” เขาพูดเสียงเบา
ถึงแม้จะรู้ว่าฝ่ายตรงข้ามมองไม่เห็นตัวเอง แต่สายตาของเวินเที๋ยนเที๋ยนในตอนนี้ กลับเหมือนกำลังสบตาเขาอยู่
จี้จิ่งเชินรู้สึกใจหวิว ยิ่งมองคนตรงหน้า หน้าผากของเขาก็ยิ่งรู้สึกปวด
แต่ถึงจะเป็นแบบนั้น เขาก็ไม่เคลื่อนสายตาของตัวเองออกไปไหน
ต่งไห่หยิบของที่จี้จิ่งเชินให้มาเมื่อครั้งก่อนออกมา พอเงยหน้าขึ้นมา ก็เห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนกำลังจ้องมองกระจก เขารู้สึกใจเต้นแรง กลัวว่าเธอจะเห็นอะไร จึงรีบเดินเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว
“ อันนี้ครับ! คุณเวิน! ให้คุณครับ! ”
อยู่ๆเขาก็พูดเสียงสูง จนทำให้เวินเที๋ยนเที๋ยนตกใจ เธอหันกลับมา แต่ใจยังคงไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
เธอรับเอกสารไป กลับไม่รีบร้อนเปิด แต่พูดขึ้น: “ ผู้จัดการต่งคะ ครั้งนี้ฉันพกความจริงใจมาพบคุณ ”
ต่งไห่ชะงักไปเล็กน้อย
“ ทางเราก็อยากร่วมมือกับคุณอย่างใจจริงครับ ”
สีหน้าของเวินเที๋ยนเที๋ยนค่อยๆเย็นลง
“ แต่น่าเสียดายที่ฉันมองไม่เห็นความจริงใจของพวกคุณ ”
พูดเสร็จ นิ้วของเธอก็เคาะลงไปบนกระจก จนทำให้เกิดเสียงขึ้น
สีหน้าของต่งไห่ขาวซีดทันที เขาพยายามยิ้มออกมาด้วยสีหน้าที่แสนจะตลก
“ คุณเวินครับ ทำไมถึงพูดแบบนี้ล่ะครับ…… ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนนำเอกสารที่ต่งไห่เพิ่งส่งมาให้กลับไปวางบนโต๊ะอีกครั้ง
“ ถ้าอยากร่วมมือกัน ก็เชิญทำให้ฉันเห็นถึงการร่วมมือของพวกคุณ วันนี้ฉันขอตัวกลับก่อน รอให้ บริษัทจีนเซิน เตรียมเสร็จก่อน แล้วฉันค่อยเข้ามาใหม่ ”
พูดเสร็จ เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ไม่หยุดอีก เธอหมุนตัวและเดินออกไปด้านนอกทันที
“ คุณเวินครับ! คุณเวินรอก่อนครับ! ”
ต่งไห่ รีบเดินตามเวินเที๋ยนเที๋ยนออกมา เห็นเธอเดินออกมาจากประตูห้องทำงาน และเดินตรงไปทางห้องที่อยู่ข้างๆ
เธอยื่นมือออกไปผลักประตู กลับพบว่าประตูถูกล็อคจากด้านใน
ต่งไห่เดินตามมาด้วยสีหน้าที่ดูไม่ได้
“ คุณเวินครับ คุณ…… ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนหันกลับมา “ ห้องนี้ใช้ทำอะไรคะ? ”
ตอนนี้ใบหน้าของต่งไห่ไม่หลงเหลือรอยยิ้มแล้ว
เขาเช็ดเหงื่อที่ผุดขึ้นมาตรงหน้าผาก
“ ที่นี่……ที่นี่ใช้เก็บของที่ไม่ใช้แล้วครับ…… ”
ตอนนี้ จงหลีที่รออยู่ข้างนอกก็ได้ตามมาแล้ว เขาขมวดคิ้ว สีหน้าระมัดระวัง
“ คุณเวินครับ มีอะไรหรอครับ? ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่ตอบ แต่หันกลับไปมองต่งไห่เพื่อรอเขาพูดอธิบาย
แต่ต่งไห่จะไปกล้าพูดตอนนี้หรอ
เขาเช็ดเหงื่อบนหน้าผากอย่างต่อเนื่อง และก้มหน้าหลบสายตาของเวินเที๋ยนเที๋ยน
เวินเที๋ยนเที๋ยนยืนอยู่ที่หน้าประตูสักพัก สุดท้ายก็พูดขึ้นมา: “ จงหลี เรากลับกันเถอะ ”
ถึงแม้ว่าจงหลีจะยังไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่ก็รีบพยักหน้าทันที
จนกระทั่งทั้งสองคนเดินออกจากบริษัทต่งไห่ถึงค่อยโล่งอก และเอาตัวไปพิงกับผนัง
เขาถอนหายใจออกมาอย่างยาวเหยียด และเคาะประตูห้อง
“ นี่? คุณยังอยู่ข้างในไหม? นี่? ”
ผ่านไปสักพัก ประตูห้องก็เปิดออก
จี้จิ่งเชินออกมาจากข้างในด้วยใบหน้าเคร่งขรึม
เห็นเขาแล้วต่งไห่ก็รู้สึกกลัว
“ ตกใจหมด ผมคิดว่าคุณจะถูกพบแล้วซะอีก ”
จี้จิ่งเชินพูดขึ้นอย่างเย็นชา: “ ในห้องยังมีทางออกอีกทาง ”
ต่งไห่ได้ฟัง ก็พูดขึ้นอย่างตกใจ: “ แล้วทำไมเมื่อสักครู่คุณไม่ออกไปล่ะ? ไม่กลัวจะถูกพบหรอ? ”
จี้จิ่งเชินไถลรถเข็นออกไป ในใจกลับหยุดอยู่ที่คำถามที่ต่งไห่ถามเมื่อสักครู่อยู่ตลอดเวลา
ทำไมไม่ออกไป?
แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังไม่รู้
เมื่อสักครู่ ตอนที่ประตูห้องถูกเคาะ เขามองไปทางประตูอยู่ตลอดเวลา และไม่มีความคิดที่จะหลบหนีเลยแม้แต่นิดเดียว
ถึงขนาดมีความคิดที่หวังให้ฝ่ายตรงข้ามหาเขาเจอ
สุดท้าย ตอนที่เวินเที๋ยนเที๋ยนเดินออกมา ในใจก็เกิดความรู้สึกหดหู่ขึ้น เป็นตัวเธอเองที่มองข้ามไปไม่ได้
จงหลีเดินออกมาจากบริษัทกับเวินเที๋ยนเที๋ยน เดินมาถึงด้านล่าง เขากลับยังรู้สึกข้องใจ
เมื่อสักครู่ ตอนที่เวินเที๋ยนเที๋ยนอยู่ในห้องทำงานกับไอ้บ้าต่งไห่นั่น ตกลงว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
เขารู้สึกโมโหในใจ เขาส่งเวินเที๋ยนเที๋ยนขึ้นรถ ตัวเองกลับไม่ขึ้นตามไปด้วย
“ ผมเพิ่งนึกออก ผลลืมกระเป๋าราชการไว้ในห้องพักข้างในครับ ”
จงหลีพูดกับเวินเที๋ยนเที๋ยนยิ้มๆ: “ คุณเวินครับ คุณกลับบริษัทไปก่อน ผมจะกลับไปเอากระเป๋าครับ ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเงยหน้ามองชั้นที่มีบริษัทจีนเซิน ตั้งอยู่
“ ไม่ต้อง ฉันรอนาย อีกสักครู่ยังมีประชุมอีกไม่ใช่หรอ? ”
จงหลีลังเลนิดหน่อย ถึงค่อยพยักหน้า
“ ผมจะรีบกลับมานะครับ ”
พูดเสร็จ เขาก็หมุนตัวกลับไปที่บริษัทจีนเซิน
เดินเลียบไปตามทางเดินข้างใน ยังเดินไม่ถึงห้องทำงาน เพิ่งจะเลี้ยวโค้งได้ครึ่งเดียวก็เห็นต่งไห่ยังยืนอยู่ที่นั่นเหมือนเดิม
สีหน้าของจงหลีไม่พอใจ เห็นฝ่ายตรงข้ามกำลังจะหมุนตัว เขาก็เตรียมจะตามไปทันที
ตามการเคลื่อนที่ของเขา ในตาก็ค่อยๆกว้างขึ้น
ต่งไห่กำลังเดินออกมาจากในห้อง แต่ตรงหน้าเขามีคนที่นั่งอยู่บนรถเข็น และกำลังเคลื่อนที่เข้าไปในห้อง
เห็นรูปร่างนั้น ฝีเท้าของจงหลีก็หยุดลงทันที
ประตูห้องทำงานเริ่มปิดลง ตอนที่มันใกล้จะปิด คนที่นั่งอยู่บนรถเข็นก็ค่อยๆหันหัวกลับมาเล็กน้อย และเผยให้เห็นใบหน้าด้านข้างที่มีลายเส้นคมชัด
จงหลีเบิกตาโต เวลาไม่ถึงหนึ่งวินาที กลับทำให้หัวใจของเขารู้สึกตกตะลึงไปได้
ใบหน้านี้ เขาคุ้นไปมากกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว!
ประตูห้องปิดลงแล้ว แต่จงหลีกลับยังยืนอยู่ที่เดิม ไม่ขยับไปไหน
เวลาไม่นาน บนหัวก็มีเหงื่อผุดขึ้นมา
คนคนนั้น……คือจี้จิ่งเชิน?
เขาค่อนข้างลังเลใจ กลับไม่ก้าวไปดูให้แน่ใจ ถึงขนาดต้องก้าวถอยหลัง
ฝีเท้าของเขาหยุดลง ลืมเรื่องที่ตัวเองต้องถามต่งไห่ไปสนิท เขาหมุนตัวและเดินหนีไปอย่างรวดเร็ว
มาถึงด้านล่าง เวินเที๋ยนเที๋ยนนั่งอยู่ในรถ และกำลังหลับตาพัก
รถสั่นเล็กน้อย เธอถึงได้ลืมตาขึ้นมา
“ ไปเอาแล้วหรอ? ”
เพิ่งถามเสร็จ กลับเห็นบนมือของจงหลีว่างเปล่า แถมสีหน้าของเขายังไม่ปกติอีกด้วย คล้ายกับกำลังตกใจเรื่องอะไรอยู่
“ นายเป็นอะไร? ”
จงหลีใจลอยอยู่สักครู่ ถึงค่อยดึงสติกลับมา และมองเวินเที๋ยนเที๋ยน
“ ไม่……ไม่เป็นไรครับ ผมลืมไปว่าผมได้วางกระเป๋าราชการไว้บนรถ ไม่ได้พกติดตัว ผลเลอะเลือนเองครับ ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองเขาอย่างสงสัย แต่จงหลีกลับหลบสายตาของเธอ
“ เวลาล่วงเลยมาเยอะแล้ว เรากลับบริษัทกันเถอะครับ ”
รถค่อยๆเคลื่อนออกมาจากตึกของบริษัทจีนเซิน
เส้นประสาทของจงหลียังคงพันกันแน่น
เขานั่งตัวตรง สองมือจับกันเป็นกำปั้นและตั้งอยู่บนขา ในใจเกิดความรู้สึกเสียใจ
เมื่อสักครู่ทำไมเขาถึงต้องหนี?
ทำไมต้องโกหกเวินเที๋ยนเที๋ยน?
กำลังคิดอะไรเรื่อยเปื่อย เวินเที๋ยนเที๋ยนที่อยู่ข้างๆก็พูดขึ้นมา: “ คล้ายกับบริษัทจีนเซิน นี้กำลังซ่อนความลับอะไรไว้อยู่ พวกเขามักจะหาโอกาสเข้าใกล้บริษัทเอ็มไอกรุ้ป หรืออาจจะมีจุดประสงค์อื่น ”
จงหลีได้ฟังประโยคนี้ ก็เม้มริมฝีปากเล็กน้อย
“ เรื่องนี้มอบให้ผมทำเอง ผมจะให้พวกเขาลงไปตรวจสอบให้ชัดเจน ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินดังนั้น ก็หันไปยิ้มให้เขาเล็กน้อย
“ ได้สิ นายทำงานฉันมักจะรู้สึกวางใจอยู่เสมอ ”
จงหลีมองสายตาของเธอ กลับรู้สึกขาดความมั่นใจในตัวเองไปชั่วขณะ