เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 388
บทที่ 388 คุณผู้ชายบังคับผม
“คุณให้อันนี้กับผมหรือ?”
นี่มันไม่ใช่ของเล่นของเด็กผู้หญิงหรอกใช่ไหม?
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้า
มองดูสีหน้าของจี้จิ่งเชิน กลับรู้สึกว่าตัวเองดูวู่วามไปอยู่บ้าง
เธอยื่นมือออกมา เพื่อจะเอาดอกไม้ดอกเล็กนั้นกลับคืนมา
แล้วจู่ๆประตูห้องหนังสือก็ถูกเปิดออก เวินเที๋ยนเที๋ยนจึงคว้าอากาศเอาไว้แทนเสียอย่างนั้น
“คุณผู้ชาย คุณเวินครับ”
พ่อบ้านยืนอยู่ตรงหน้าประตู มองทั้งสองคนที่อยู่ด้านในด้วยรอยยิ้ม
“พวกเราเตรียมเสร็จเรียบร้อยแล้วครับ”
“อ๋า?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกตกใจอยู่บ้าง แต่กลับเห็นจี้จิ่งเชินที่ควบคุมรถเข็นออกไปทางด้านนอกแล้ว เธอเองจึงรีบตามออกไปเช่นกัน
ทั้งสองคนกลับมายังห้องรับแขก เห็นว่าบนโต๊ะนั้นมีอาหารที่เตรียมเอาไว้จัดวางเอาไว้เรียบร้อยแล้ว
แม่ครัว คนขับรถ และคนสวนต่างก็พากันยืนรออยู่ตรงด้านข้าง
ทั้งสองคนนั่งลง สองสามคนนั้นก็ยังไม่กลับออกไป
เดิมทีเวินเที๋ยนเที๋ยนยังรู้สึกกังวลว่าเวลาของวันนี้ใช้หมดไปกับดอกไม้ดอกนั้นแล้ว จี้จิ่งเชินคงจะกลับไปเร็ว
ตอนนี้พวกแม่ครัวนั้นเตรียมอาหารไว้เรียบร้อยแล้ว สามารถที่จะรั้งให้จี้จิ่งเชินอยู่ต่อได้อีกสักพักหนึ่ง
เธอจึงถือโอกาสเอ่ยพูดขึ้นมา : “ในเมื่อเตรียมเสร็จแล้ว พี่ก็อยู่ทานด้วยกันก่อนแล้วค่อยกลับนะคะ”
จี้จิ่งเชินไม่ได้ปฏิเสธ
แต่รอจนเมื่อหยิบชามขึ้นมานั้นยังไม่ทันได้ชิม ก็ขมวดคิ้วขึ้นมาเสียก่อน
“นี่คือปลาหรือ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินเสียงของเขาแล้ว จึงก้มหน้าลงมองตามไปด้วย
บนโต๊ะของทั้งสองคนนั้นมีข้าวต้มวางอยู่ถ้วยหนึ่ง ถึงแม้จะมองไม่เห็นว่าด้านในมีเนื้อปลาอยู่ด้วย แต่เมื่อเข้าไปใกล้ก็ได้กลิ่นจางๆลอยมา
“ข้าวต้มปลาค่ะ”
แม่ครัวยิ้มออกมา เธอยืนอยู่ข้างๆพลางเอ่ยขึ้น : “เมื่อก่อนคุณผู้ชายชอบทานมากที่สุดเลยค่ะ ฉันยังทำเนื้อปลาให้แหลกด้วยนะคะ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนตกใจอยู่บ้าง รู้ว่าเมื่อก่อนจี้จิ่งเชินไม่ชอบทานเมนูนี้เลยแม้แต่นิดเดียว
เป็นอย่างที่คิด เมื่อจี้จิ่งเชินที่อยู่ตรงข้ามได้ยินแล้ว จึงวางถ้วยกับตะเกียบลง
“จำผิดแล้วล่ะ ผมไม่ชอบทานปลา”
ราวกับว่าแม่ครัวได้คาดการณ์เอาไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่าเขาจะพูดแบบนี้
“จะเป็นไปได้อย่างไรคะ? เมื่อก่อนคุณผู้ชายชอบทานข้าวต้มปลาที่คุณเวินทำมากที่สุดเลยนะคะ ทานหมดทุกครั้งเลยด้วย”
จี้จิ่งเชินได้ยินแล้วนั้น เหลือบมองไปยังเวินเที๋ยนเที๋ยนแวบหนึ่ง
แม่ครัวเอ่ยพูดขึ้นอย่างกระสับกระส่าย : “หรือว่าคุณผู้ชายชอบที่คุณเวินทำเท่านั้นกันคะ? แต่วันนี้ฉันเตรียมไว้แค่ข้าวต้มปลาเท่านั้นเอง ทำอย่างไรดีล่ะคะ?”
เธอถอนหายใจออกมา
“อีกทั้งวันนี้เตรียมเมนูนี้มาโดยเฉพาะด้วย ในครัวเลยมีเพียงแค่วัตถุดิบสองอย่างนี้เท่านั้น”
จี้จิ่งเชินที่อยู่ข้างๆนั้นขมวดคิ้วขึ้น เมื่อครู่นี้ตอนที่พวกเขาจะออกไป คนพวกนี้บอกออกมาอย่างน่าเชื่อถือว่าจะเตรียมของขวัญเอาไว้ให้เขา
นี่คือของขวัญของพวกเขาอย่างนั้นหรือ?
อาหารมื้อเย็นเตรียมแค่เพียงข้าวต้มอย่างเดียวก็ว่าแล้ว ทั้งๆที่รู้ว่าเขาไม่ชอบ ยังจะตั้งใจจะเตรียมเนื้อปลาเอาไว้ให้อีก
ไม่ได้แกล้งเขาจริงๆอย่างนั้นหรือ?
เขานึกไปถึงรอยยิ้มที่ดูแปลกๆของสองสามคนนั้นเมื่อครู่นี้แล้ว สีหน้ายิ่งดูแย่ลงไปอีก
เวินเที๋ยนเที๋ยนกังวลว่าเขาจะตำหนิแม่ครัว จึงยืนขึ้นมา
“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวฉันไปทำเอง เดี๋ยวเดียวก็เสร็จแล้ว”
จี้จิ่งเชินคิดจะเรียกเธอเอาไว้ เพราะต่อให้เปลี่ยนคนทำแล้วจะแตกต่างกันตรงไหนเชียว?
แทนที่จะอยู่ที่นี่กินปลาที่เขาไม่กินนั้น สู้ออกไปทานที่ร้านอาหารข้างนอกจะดีกว่าเสียอีก
แต่การเคลื่อนไหวของเวินเที๋ยนเที๋ยนนั้นเร็วมาก ราวกับกังวลว่าจี้จิ่งเชินจะรอไม่ไหว เพียงแค่พริบตาเดียวเธอก็หายเข้าครัวไปเสียแล้ว
จี้จิ่งเชินหันมาอย่างไม่พอใจ เขามองข้าวต้มที่ยังไม่ได้แตะนั่นที่วางอยู่บนโต๊ะ
“เปลี่ยนคนทำแล้วมันจะมีประโยชน์อะไร?”
“เพราะว่าคุณเวินทำไงคะ เพราะฉะนั้นคุณผู้ชายจะต้องชอบอย่างแน่นอน” แม่ครัวที่ยืนอยู่ข้างๆนั้นยิ้มพลางเอ่ยพูดขึ้น
จี้จิ่งเชินเงยหน้าขึ้นมามอง เห็นท่าทางที่ดูไม่ได้รู้สึกผิดเลยแม้แต่นิดเดียวของเธอ ทั้งยังกลับดูดีใจมากอีกด้วยเสียอย่างนั้น
“ต่อหน้าแขกยกอาหารเย็นแบบนั้นมา นี่ควรจะเป็นความรับผิดชอบของเธอถึงจะถูก เป็นเพราะเวินเที๋ยนเที๋ยนทำตัวคุ้นเคยกับพวกเธอมากเกินไปสินะ ถ้าเป็นฉัน ตอนนี้เธอคงถูกฉันไล่ออกไปแล้ว!”
น้ำเสียงของเขาดูเฉียบขาดมาก จนทำให้แม่ครัวตกใจ
จี้จิ่งเชินยังคงตำหนิว่าออกมาต่อ : “ในบ้านของตัวเอง กับถูกคนใช้กลั่นแกล้งแบบนี้ เป็นผู้หญิงที่โง่จริงๆ!”
“คุณผู้ชายครับ”
พ่อบ้านเดินเข้ามาในเวลานี้
“ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณผู้ชายเสียหน่อยครับ”
จี้จิ่งเชินหันมา แล้วมองไปยังพ่อบ้านสูงวัยผมขาวตรงหน้า
ตอนที่เขาเข้ามาคฤหาสน์นั้น รอยยิ้มของคนคนนี้ ที่ทำให้เขารู้สึกแปลกๆ
มักจะทำให้เขารู้สึกว่าเขากำลังวางแผนเรื่องไม่ดีเอาไว้อยู่อย่างไรอย่างนั้น
“มีอะไรหรือ?” เขาเอ่ยถามอย่างระวังตัว
พ่อบ้านเอ่ยขึ้น : “ผมอยากจะบอกคุณผู้ชายเป็นการส่วนตัวครับ”
จี้จิ่งเชินขมวดคิ้วขึ้น ยังไม่ได้ตอบรับ จู่ๆพ่อบ้านกลับเดินอ้อมมาทางด้านหลังของเขาเสียแล้ว
รถเข็นขยับ แล้วจึงถูกผลักไปยังทิศทางทางด้านหน้า
“นายจะทำอะไร?”
“คุณผู้ชายครับ พวกเราหาที่คุยกันดีกว่านะครับ”
จี้จิ่งเชินขมวดคิ้ว ไม่รู้ว่าคนคนนี้จะเล่นตลกอะไรอีก
พ่อบ้านส่งสัญญาณไปยังคนที่เหลืออยู่ในห้องครัว เพื่อให้พวกเขาคอยสังเกตทางเวินเที๋ยนเที๋ยนด้วย ส่วนตัวเองนั้นก็พาจี้จิ่งเชินออกไปทางด้านนอก
สักพักหนึ่ง ทั้งสองคนก็มาในสวนดอกไม้
สีหน้าของจี้จิ่งเชินนั้นดูแย่มาก หากไม่ใช่เป็นเพราะพ่อบ้านที่คอยควบคุมรถเข็นของเขาอยู่ตลอดนั้น เขาคงจะกลับออกไปด้วยความโมโหตั้งแต่แรกแล้ว
เขามองดูปุ่มกดอัตโนมัติที่อยู่ในมือ ถึงแม้เขาจะกดปุ่มควบคุมรถเข็นนี้ ก็ไม่สามารถต้านทานแรงจากคนเข็นได้อยู่ดี
แล้วจึงหยุดลงในที่สุด
“ว่ามาสิ นายมีอะไรจะคุยกับฉัน?”
พ่อบ้านยิ้ม แล้วเดินมาหยุดอยู่ตรงข้าม
“คุณผู้ชายครับ ทำไมคุณถึงไม่อยู่ที่คฤหาสน์นี่ล่ะครับ?”
จี้จิ่งเชินขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างรำคาญใจ
“ฉันอยากจะอยู่ที่ไหน นั่นมันคงเป็นสิทธิ์ของฉัน ไม่เกี่ยวอะไรกับนาย”
พ่อบ้านติดตามจี้จิ่งเชินมาเป็นเวลานานขนาดนี้ เขาคุ้นเคยกับอารมณ์ร้ายๆของเขาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
เขายิ้มแล้วเอ่ยขึ้น : “แต่คฤหาสน์เป็นบ้านของคุณผู้ชายนะครับ…..”
“คฤหาสน์ในตอนนี้ เป็นของผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่หรือ? จะเป็นของฉันได้อย่างไร?” ยังไม่รอให้พ่อบ้านได้เอ่ยพูดจบ จี้จิ่งเชินก็ตัดบทเขาขึ้นมาเสียก่อน
พ่อบ้านรู้สึกอึ้งไปพักหนึ่ง เพิ่งสังเกตได้ว่าจี้จิ่งเชินเรียกเวินเที๋ยนเที๋ยนว่าผู้หญิงคนนั้น
พ่อบ้านขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย นึกถึงความพยายามที่เวินเที๋ยนเที๋ยนทำเพื่อเขามาในช่วงเวลานี้ และไม่ใช่เรื่องง่ายกว่าจะรอจี้จิ่งเชินกลับมา แต่เขากลับมีท่าทีเช่นนี้
คุณเวินถึงได้เสียใจขนาดนี้
แต่เธอก็ยังเป็นกังวลกลัวว่าตัวเองจะทำให้จี้จิ่งเชินมีความกดดัน จึงไม่ยอมพูดออกมา
ได้ ในเมื่อคุณเวินไม่ยอมพูด ถ้าอย่างนั้นเขาก็จะเป็นคนพูดออกมาเอง!
พ่อบ้านมองใบหน้าทางด้านข้างของจี้จิ่งเชิน แล้วรวบรวมความกล้าขึ้นมา
ถึงแม้ว่าเมื่อคืนนี้เขาจะพูดออกมาได้อย่างดูจริงใจและน่าเชื่อถือ แต่พอมาอยู่ตรงหน้าคุณผู้ชายจริงๆแล้ว เขาก็อดที่จะรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาไม่ได้
“คุณผู้ชายครับ!”
เขาเอ่ยเสียงดังขึ้นมาเล็กน้อย
“เจียงหยู่เทียนที่อยู่ข้างๆคุณผู้ชายตอนนี้ เมื่อก่อนเธอทำร้ายคุณเวินเอาไว้ไม่น้อยเลยนะครับ ถ้าหากคุณไม่อยากจะให้ตัวเองต้องเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาอีก ทางที่ดีที่สุดคุณควรจะอยู่ที่คฤหาสน์นี่ดีกว่านะครับ”
น้ำเสียงของเขาดูแข็งๆ ดูเหมือนจะเป็นการปรึกษา แต่กลับคล้ายว่ากำลังออกคำสั่งกับจี้จิ่งเชินอยู่อย่างไรอย่างนั้น
น้ำเสียงที่ดูเป็นคำสั่งนี้ ทำให้จี้จิ่งเชินหันกลับมามองในทันที
และทันใดนั้นริมฝีปากของเขาก็ยกขึ้น พร้อมกับหัวเราะออกมา
“ถ้าหากฉันจะต้องไปล่ะ?”
พ่อบ้านคาดการณ์เอาไว้แล้วว่าเขาจะต้องพูดเช่นนี้ เขาก้มลง พร้อมกับมีดเล่มเล็กในมือที่ไม่รู้ว่าปรากฏออกมาตั้งแต่เมื่อไหร่
“นายคิดจะทำอะไร?”
รูม่านตาของจี้จิ่งเชินหรี่ลง และในขณะนั้นก็เห็นแววตาที่กำลังขู่เข็ญด้วยความชั่วร้ายของพ่อบ้านปรากฏขึ้นมา
“คุณผู้ชายเป็นคนบังคับผมเองนะครับ”
พ่อบ้านพูดออกมา
แล้วยกมือขึ้น แทงมีดปลายแหลมที่สะท้อนแสงเล่มนั้นเข้าไป