เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 392
บทที่ 392 นี่คุณกำลังเขินอย่างนั้นเหรอ
จี้จิ่งเชินกำลังอยู่ในห้องหนังสือ ภาพเมื่อสักครู่ที่เวินเที๋ยนเที๋ยนและจงหลีนั่งอยู่ด้วยกันปรากฏขึ้นมาในหัวไม่หยุด ราวกับไม่สามารถบังคับได้
ยิ่งไม่อยากสนใจ ก็ยิ่งปรากฏขึ้นมาไม่หยุด และดึงความสนใจของเขาไปจนหมด
ในขณะนั้นเอง อยู่ๆก็มีคนเปิดประตูห้องหนังสือเข้ามา
ถึงแม้ไม่ได้หันไปมอง จี้จิ่งเชินก็รู้ว่าเป็นเวินเที๋ยนเที๋ยนที่เดินเข้ามา
เพราะแค่เขาเรียก เธอก็จะรีบมาหาเขาทันที
ความรู้สึกหงุดหงิดที่มีอยู่เมื่อสักครู่ ราวกับถูกพัดหายไปด้วยลมเย็น แล้วกลับมาเป็นปกติในทันที
“จี้จิ่งเชิน คุณเรียกฉันมีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ?” แล้วก็มีเสียงของเวินเที๋ยนเที๋ยนดังขึ้นมาจากข้างหลังของเขาจริงๆ
จี้จิ่งเชินจึงหันกลับมา
และในขณะที่กำลังจะเปิดปากพูด เขาก็ได้เจอกับจงหลี ที่เดินตามเวินเที๋ยนเที๋ยนเข้ามาจากข้างนอก เขาจึงขมวดคิ้วขึ้นมาและมีสีหน้าที่เปลี่ยนไปทันที
“เขามาด้วยทำไม?”
จี้จิ่งเชินจงใจพูดออกมาอย่างชัดเจน จึงทำให้เวินเที๋ยนเที๋ยนหันกลับไปมองคนที่อยู่ข้างหลังของเธอด้วยความตกใจ
มีเรื่องจะคุยไม่ใช่เหรอ?
จงหลีก็อึ้งไปเล็กน้อย และเมื่อเห็นสายตาที่ไม่พอใจของจี้จิ่งเชิน ทันใดนั้น เขาก็กลับนึกขึ้นมาว่า หรือจี้จิ่งเชินได้เห็นอะไรหรือเปล่า
หัวใจของเขาเต้นเร็วขึ้นมาทันที เขาจึงก้มหน้าเพื่อหลบหลีกสายตาของจี้จิ่งเชิน
“ประธานจี้ คุณเวิน วันนี้ผมก็ได้ทำงานเสร็จแล้ว และถ้าไม่มีธุระอะไรแล้ว ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ”
พูดเสร็จ เขาก็หมุนตัวกำลังจะเดินออกไป แต่จี้จิ่งเชินกลับเรียกให้หยุดไว้ก่อน
“เดี๋ยวก่อน ในเมื่อเข้ามาแล้ว ก็อยู่ต่ออีกสักพักสิ”
จงหลีรู้สึกกังวลขึ้นมาทันที กล้ามเนื้อในร่างกายตึงเครียดไปหมด และยังคงก้มหน้าโดยที่ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมา
“ครับ ประธานจี้”
เมื่อเวินเที๋ยนเที๋ยนดูออกว่าท่าทางของจี้จิ่งเชินนั้นดูแปลกไป เธอจึงได้ถามขึ้นมา: “ที่คุณให้ฉันมาหา มีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ?”
จี้จิ่งเชินจึงได้สังเกตเธอ สีของดวงตาค่อยๆเข้มขึ้นมา
เป็นแบบนี้อีกแล้ว!
ท่าทีเมื่อสักครู่ตอนอยู่ด้วยกันกับจงหลี และท่าทีตอนนี้ที่อยู่ต่อหน้าเขา มันไม่เหมือนกันเลย!
อยู่ๆก็รู้สึกมีไฟลุกโชนขึ้นมาในใจ เพราะเวินเที๋ยนเที๋ยนและจงหลีที่ยืนอยู่ข้างหน้าของเขาเป็นตัวนำ ทำให้ไฟในใจลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว ราวกับไฟที่กำลังลุกโชนอยู่ในทุ่งหญ้า
“นี่ก็จะถึงเวลาอาหารเย็นแล้ว คุณไปบอกให้พวกเขาเตรียมอาหารเย็นหน่อยสิ”จี้จิ่งเชินหาข้ออ้างขึ้นมาพูด
เวินเที๋ยนเที๋ยนยังคงไม่เข้าใจ เป็นเพราะเรื่องอาหารเย็นเขาจึงได้เรียกเธอขึ้นมาอย่างนั้นเหรอ?
เมื่อสักครู่พ่อบ้านพูดว่า จี้จิ่งเชินดูรีบราวกับมีเรื่องสำคัญไม่ใช่เหรอ?
“มีเรื่องแค่นี้เหรอ?” เธออดไม่ได้ที่จะถามกลับไป
“ก็มีแค่นี้แหละ”
เมื่อเขาจ้องตาของเวินเที๋ยนเที๋ยน ก็เลื่อนสายตาของตัวเองออกไปด้วยความรู้สึกไม่สบายใจ
เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกประหลาดใจกับท่าทางของเขา แต่ก็ยังคงถามไป: “งั้น……มีอะไรที่คุณอยากกินเป็นพิเศษหรือเปล่า?”
จี้จิ่งเชินเลื่อนสายตาของตัวเองมองออกไปนอกหน้าต่าง
“ข้าว ต้ม ปลา……”
เสียงของเขาเบามาก จนเวินเที๋ยนเที๋ยนฟังไม่ชัด
“อะไรนะ?”
จี้จิ่งเชินพูดขึ้นมาด้วยความโกรธ: “ข้าวต้มปลา”
เวินเที๋ยนอึ้งไปสักพัก และมองเขาด้วยความตกใจ
“คุณอยากกินเมนูนี้เหรอ……”
“ใช่ แล้วจะทำไม?”
จี้จิ่งเชินหันกลับมาด้วยความไม่พอใจ และจ้องเธอมองเธอ
และในตอนที่จี้จิ่งเชินหันมานั้น เวินเที๋ยนเที๋ยนก็เห็นว่าเขายังคงดึงหน้าโกรธอยู่ แต่หูกลับแดงขึ้นมาเล็กน้อย
“จี้จิ่งเชิน คุณ……”
กำลังเขินอย่างนั้นเหรอ?
เวินเที๋ยนเที๋ยนอึ้งไป จึงไม่ได้พูดออกมา
แต่เมื่อเห็นท่าทางในตอนนี้ของจี้จิ่งเชิน เธอก็รู้ในทันที
เมื่อจี้จิ่งเชินสังเกตเห็นสายตาที่ดูมึนงงของเธอ เขาก็กัดฟันขึ้นมาทันที
“มองผมทำไม?”เขาพูดออกมาด้วยความไม่พอใจ
เวินเที๋ยนเที๋ยนจึงแอบยิ้มขึ้นมา
“ฉันรู้แล้ว”
พูดเสร็จ เธอจึงหมุนตัวแล้วเดินออกไป
จี้จิ่งเชินเมื่อเห็นใบหน้าที่ยิ้มของเธอ หูของเขาก็แดงจนร้อนขึ้นมา
เมื่อรอจนเวินเที๋ยนเที๋ยนออกไปแล้ว เขาจึงค่อยขมวดคิ้วขึ้นมาด้วยความโกรธ แล้วหันไปมองนอกหน้าต่าง
ตอนนี้ในห้องหนังสือจึงเหลือเพียงจงหลีและจี้จิ่งเชินเท่านั้น
และไม่มีใครยอมเปิดปากพูดออกมา จงหลีก็ยังคงยืนอย่างเรียบร้อยอยู่ข้างๆ
บรรยากาศโดยรอบเงียบสนิท ราวกับว่าอากาศก็รอการก่อตัวอยู่
“ชื่อจงหลีใช่ไหม?” จนตอนนี้ อยู่ๆจี้จิ่งเชินก็เปิดปากถามขึ้นมา
จงหลีรู้สึกสั่นไปหมดทั้งตัว จึงรีบเงยหน้าขึ้นมา
“ประธานจี้”
จี้จิ่งเชินยังคงนั่งอยู่ข้างๆหน้าต่าง และไม่ได้หันหน้ากลับมา เขามองจงหลีที่อยู่ข้างหลังของเขา ผ่านจากเงาในกระจก
“ในใจของคุณ เวินเที๋ยนเที๋ยนเป็นคนยังไง?”
จงหลีก้มหน้า แล้วตอบกลับมาด้วยท่าทางที่เรียบร้อย: “คุณเวินเธอเป็นคนขยันในการทำงานมากครับ และตอนที่คุณจี้ไม่อยู่ ก็เป็นคุณเวินที่คอยบริหารและจัดการทั้งหมดด้วยตัวเอง และก็……”
“ฉันไม่ได้ถามเกี่ยวกับเรื่องงาน ”จี้จิ่งเชินพูดขัดขึ้นมา
จงหลีจึงขมวดคิ้วทันที
“งั้นคุณจี้หมายถึงเรื่อง……”
“คุณชอบเธอเหรอ?”
ประโยคเพียงสั้นๆ แต่ทำให้ร่างของจงหลีสั่นขึ้นมา และสีหน้าก็เปลี่ยนเป็นซีดขาวทันที
“ประธานจี้ ทำไมท่านถึงพูดแบบนี้ละครับ? ความรู้สึกที่คุณเวินมีต่อท่าน ท่านน่าจะรู้ดีกว่าใครนะครับ ถึงแม้ตอนนี้ท่านจะจำเรื่องในอดีตไม่ได้แล้ว แต่ก็น่าจะรู้สักนิดนะครับ”
สีหน้าของจี้จิ่งเชินเปลี่ยนเป็นไม่พอใจขึ้นมาทันที
“ไม่ใช่ ที่ฉันถามคือ ความรู้สึกที่คุณมีต่อเวินเที๋ยนเที๋ยนต่างหาก”
“ประธานจี้ ผม……”
จงหลีกัดฟันแน่น และลังเลขึ้นมา แล้วไม่ยอมเปิดปากพูด
และในตอนนั้นเอง จงหลีก็หันมามองที่เขา
“คุณชอบเธอ”
เขาพูดขึ้นมาหนึ่งรอบ แต่ครั้งนี้เป็นน้ำเสียงที่ฟังดูแน่ใจ
จงหลียังคงยืนมองคนที่อยู่ข้างหน้าของเขา โดยไม่ยอมพูดอะไรออกมา
และถึงแม้เขาจะก้มหน้าแล้ว แต่เขาก็ไม่กล้าแม้แต่จะโต้กลับไป
เป็นแบบนี้จริงๆด้วย
เมื่อจี้จิ่งเชินได้เห็นท่าทางของเขาแล้ว ก็ยิ่งรู้สึกโกรธมากขึ้นไปอีก
ผู้หญิงอย่างเวินเที๋ยนเที๋ยนไม่เคยรู้เรื่องเลย ว่าคนที่อยู่ข้างๆของเธอนั้นแอบมองเธอมาตลอด แต่เธอกลับไม่รู้ความรู้สึกของจงหลีเลยสักนิด แถมยังให้อีกฝ่ายเป็นเพื่อนของตัวเองอีก
แต่ตัวเขาในเมื่อก่อนก็เป็นคนโง่เขลาเหมือนกัน ถึงได้เลี้ยงเลี้ยงศัตรูความรักเอาไว้ข้างกาย แล้วยังฝากคนรักไว้กับศัตรู
โง่เขลาสิ้นดี
เขาแค่ไม่เข้าใจว่า ทำไมตัวเองถึงได้ทำเรื่องไร้ความคิดแบบนี้ลงไปได้
จี้จิ่งเชินมองไปที่เขา และออกมาพูดตรงๆด้วยน้ำเสียงจริงจัง: “คุณอยู่ให้ห่างจากเธอด้วย”
จงหลีจึงเงยหน้าขึ้นมาด้วยความตกใจ แล้วรีบกำหมัดแน่น
“พูดแบบนี้ หมายความว่าประธานจี้จำเรื่องของเมื่อก่อนได้แล้วเหรอครับ? ท่านจะแต่งงานกับคุณเวิน และอยู่ด้วยกันกับเธอไหมครับ?”
น้ำเสียงของเขาดังขึ้นโดยไม่รู้ตัว และเดินหน้าเข้ามาหนึ่งก้าวด้วยความรู้สึกตื่นเต้น
แต่จี้จิ่งเชินกลับขมวดคิ้วขึ้นมา
“ไม่ ฉันยังจำอะไรไม่ได้…… และถึงแม้จะจำได้แล้ว ฉันก็ไม่แน่ใจ ว่าฉันจะยังแต่งงานกับเธออยู่ไหม” เขาพูดออกมาแบบเปิดเผย
“ทำไมครับ?”จงหลีมองเขาด้วยความตกใจ
“เพราะฉันไม่คิดว่าเมื่อก่อนฉันจะชอบใครคนหนึ่งได้”
สิ่งที่เวินเที๋ยนเที๋ยนและพ่อบ้านเล่าให้เขาฟัง ทุกอย่างเป็นภาพที่เขาไม่อาจคาดคิดได้
คนอย่างเขาจะหลงรักคนใครหนึ่งงั้นเหรอ ตลกสิ้นดี
จงหลีขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจ
“ประธานจี้ครับ แต่ว่าเมื่อก่อนท่าน……”
“เมื่อก่อนก็คือเมื่อก่อน ไม่ใช่ฉันในตอนนี้สักหน่อย”จี้จิ่งเชินพูดขัดเขาขึ้นมา ด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
สองมือของจงหลีกำหมัดไว้แน่น จนเห็นรอยเส้นเลือดนูนขึ้นมาตรงหลังมือ
เดิมทีคิดว่าหลังจากที่จี้จิ่งเชินกลับมาแล้ว เขาจะทำดีกับเวินเที๋ยนเที๋ยนมากขึ้น เพื่อชดเชยกับสิ่งที่เธอเคยประสบพบเจอทั้งหมด
แต่หลังจากได้เห็นในวันนี้ เขาก็เห็นว่ามันไม่ได้เป็นอย่างที่ตัวเองได้คิดไว้เลย
ท่าทีของจี้จิ่งเชินที่ปฏิบัติต่อเวินเที๋ยนเที๋ยนเมื่อสักครู่ กับเมื่อก่อนมันกลับตาลปัตรกัน แถมเขายังปฏิบัติต่อเธอตามอำเภอใจอีก!
ราวกับเห็นเธอเป็นแค่คนใช้
แล้วถ้าเป็นแบบนี้ เขาจะออกไปแบบวางใจได้ยังไงกัน?