เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 407
บทที่ 407 หลอนไหม
เจียงหยู่เทียน ขึ้นเสียงสูง
“ถึงตอนนี้คุณยังจะทำเป็นโง่อีก?คุณให้คนใช้ชื่อผม หลอกให้เวินเที๋ยนเที๋ยนไปใต้ชิงช้าสวรรค์แล้วลักพาตัวเธอ และยังบังคับให้ผมจ่ายค่าไถ่อีกแปดสิบล้าน คุณไม่ได้ทำเหรอ?”
เจียงหยู่เทียนฟัง กลับตะลึง
“อะไรนะ?”
สีหน้าเธอขาวซีด บ่นพึมพำ:“ที่ฉันนัดกับเขาไม่ใช่แบบนี้……”
เธอพูดไปได้ครึ่งหนึ่ง จากนั้นยื่นมือไปคว้าจี้จิ่งเชิน
“พูดแบบนี้ ยัยแพศยาเวินเที๋ยนเที๋ยนยังไม่ตาย?”
“ไม่มีทาง เขาตอบรับฉันไปว่า ……”
เจียงหยู่เทียนได้สติคืนมา จากนั้นก็ตะโกนไป ใบหน้าต่างชักขึ้นมา
“เขา เขาทรยศฉัน!ตางี่เง่านั่น เพื่อเงินแปดสิบล้านก็ทำให้เรื่องวุ่นวาย!”
จี้จิ่งเชินมองท่าทางของเธอ พูดอย่างเยือกเย็น:“คุณพูดถึงใคร?ใครที่ร่วมมือกับคุณทำเรื่องนี้?”
เจียงหยู่เทียนหยุดลง หันหน้าไป หัวหน้าอย่างบ้าคลั่ง
“คุณถามฉัน?”
“ไม่ใช่ว่าคุณฉลาดเหรอ?คุณคิดเองสิ”
“ยังไงตอนนี้ฉันก็ไม่ได้ถอยหลังกลับ ยังไงซะแค่มีศพของเวินเที๋ยนเที๋ยนให้ฉัน ก็พอแล้ว!”
พูดจบ เจียงหยู่เทียนก็หันไปหัวเราะเสียงดัง ไม่สนใจคำขู่ของจี้จิ่งเชินตอนนี้
คนอื่นๆที่นั่งอยู่ในห้องรับแขกมองเห็นน้ำเสียงที่เธอพูด ต่างโกรธจนยืนขึ้น เกือบจะเข้าไปจัดการเธอ แต่สุดท้ายก็อดทนไว้
เขาหันไปมองจี้จิ่งเชิน
“คุณชาย ตอนนี้จะทำไงดี?”
จี้จิ่งเชินมองท่าทางของเจียงหยู่เทียนในตอนนี้ รู้ว่า ไม่ว่ายังไงเธอก็ไม่เอาที่อยู่ของเวินเที๋ยนเที๋ยนบอกเขาได้
บางที แม้แต่เธอเอง ก็ไม่รู้
ดูจากท่าทางที่เธอช็อก และคำที่พูดพวกนั้น คนที่ร่วมมือกับเธอเรื่องนี้ เปลี่ยนใจชั่วคราว จากการฆาตกรรมเป็นการขู่กรรโชก
แต่ต้องขอบคุณความโลภของคนพวกนั้น ไม่งั้นเวินเที๋ยนเที๋ยนตอนนี้ก็คงเกิดเรื่องแล้ว
เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ ตอนนี้คนที่ช่วยเจียงหยู่เทียนได้ นอกจากตระกูลเวินแล้วจะมีใครอีก?
ไม่ใช่ตระกูลเวิน คุณนายหล่อนไม่มีทางทำร้ายลูกชายและลูกสาวแท้ๆของตัวเองแน่ งั้นก็เหลือแค่คนของตระกูลจี้ ……
ตอนนั้นที่รอดมา ก็เหลือแค่ ……
สายตาจี้จิ่งเชินหม่นลง จี้ยี่หยันอยู่ในกองไฟนั่น เจียงหยู่เทียนต่างออกมาจากกองไฟนั่น จี้ยี่หยันก็น่าจะมีความเป็นไปได้!
หรือว่าพวกเขาสองคนร่วมมือกัน?
คิดถึงตรงนี้ จี้จิ่งเชินแทบจะมั่นใจตัวตนของฝ่ายตรงข้าม รีบกำชับพ่อบ้าน
“ให้คนไปสืบ มีใครเห็นจี้ยี่หยันหรือไม่!ตอนนั้นเขาไม่ได้ถูกไฟเผา ก็ยังอยู่ที่เมืองหลวงแน่”
เขาคิดไป พูดไปว่า:“ที่ไหนจนที่สุด ไปหาที่นั่น ถึงจะไม่เจอร่องรอยเขา ก็หาแม่เขา ――ฉวีช่วยฉินมาให้ผม”
เจียงหยู่เทียนได้ยินประโยคนี้ ก็มองจี้จิ่งเชินอย่างกังวล
จี้จิ่งเชินสังเกตเห็นสายตาเธอ ก็รู้ว่าตัวเองเดาถูก รีบกำชับให้พ่อบ้านไปหา
พอออกไป เจียงหยู่เทียนก็ร้องเสียงสูงอย่างไม่พอใจ
“ไม่มีประโยชน์!คุณไม่ทันกันแล้ว เวินเที๋ยนเที๋ยนจะต้องตายแน่นอน!”
แต่ไม่มีใครสนใจเสียงของเธอ แต่ละคนต่างเริ่มยุ่งขึ้นมา
เจียงหยู่เทียนมองเห็นพวกเขาไม่ได้รับผลกระทบจากตัวเอง ทันใดนั้นก็กัดฟัน
สมควรตาย สรุปจี้ยี่หยันนั่นทำอะไร?
รีบฆ่าเวินเที๋ยนเที๋ยน ทั้งหมดนี้ก็จะจบ
อีกด้านในตอนนี้ เวินเที๋ยนเที๋ยนตื่นมา ก็พบว่าตัวเองนั่งอยู่ในรถ
รถขับออกไปบนถนนอย่างรวดเร็ว วิวบนถนนสองข้างทางไม่หยุดดึงไปด้านหลัง ล้วนแต่เป็นสถานที่ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
เธอมอง รู้สึกเวียนหัว จำได้รางๆว่าเมื่อกี๊ตอนที่ตัวเองมาอยู่ใต้ชิงช้าสวรรค์ พบว่าคนที่นั่งอยู่ใต้ชิงช้าสวรรค์ไม่ใช่จี้จิ่งเชิน
แต่ตอนที่เธออยากจะหนี จู่ๆกลับถูกคนนั้นอุดปากกับจมูกไว้ แล้วเป็นลมไป
เธอนึกถึงใบหน้าที่ตัวเองเห็น ยังคิดไม่ถึง คนนั้นจะกลายเป็นแบบนี้
เวินเที๋ยนเที๋ยนลูบหน้าผาก นั่งลง จากกระจกมองรถด้านหลัง มองเห็นคนนั้นที่กำลังขับรถอยู่ตอนนี้
ผมยาวปิดคลุมหน้าเขา แต่ยังแยกตัวตนเขาออก
“จี้ยี่หยัน?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพูดอย่างทนไม่ไหว:“ทำไมเป็นคุณล่ะ?”
จี้จิ่งเชินมองเธอตื่น เงยหน้าขึ้นนิดๆ มองเธอไปจากกระจกมองหลัง ขำอย่างเยือกเย็น
“คิดไม่ถึงล่ะสิ?เวินเที๋ยนเที๋ยน เราเจอกันอีกแล้ว!”
เวินเที๋ยนเที๋ยนถอยไปอย่างกังวล
“คุณยังมีชีวิตอยู่?”
จี้ยี่หยันได้ยินคำนี้ เสียงหัวเราะก็ดังขึ้น
“แน่นอนว่าผมยังอยู่!”
“ตอนนั้นจี้จิ่งเชินบอกคุณยังไง?ผมถูกเขาขังไว้ที่ห้องใต้ดินบ้านตัวเองอยู่หลายเดือน ทำไม?คุณไม่รู้?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนส่ายหน้าอย่างตะลึง แล้วคิดถึงเจียงหยู่เทียนที่ตอนนั้นก็อยู่ที่ตระกูลจี้
พูดอย่างตะลึง:“คุณกับเจียงหยู่เทียน พวกคุณก็ด้วย?”
“ไม่ผิด พวกเราถูกขังด้วยกันจริงๆ ไม่ใช่แค่พวกเรา แต่ยังมีแม่ผม เราสามคนอยู่ในห้องเล็กๆสิบกว่าตารางเมตร ใช้ชีวิตอย่างหมูกับหมา”
เขากัดฟันพูด ตบไปที่พวงมาลัย
เพราะว่ารถสั่น เลยทำให้เวินเที๋ยนเที๋ยนตกใจ
ได้ยินเสียงกรีดร้องของเธอ จี้ยี่หยันขำออกมาอีกครั้ง
“วางใจเถอะ ตอนนี้คุณตายไม่ได้ ผมต้องเอาเงินที่พวกเขาเอามาให้ก่อน จากนั้น……”
พูดไปได้ครึ่งหนึ่ง เขาเงยหน้ามองเวินเที๋ยนเที๋ยนในกระจกมองหลัง พูดขำๆ:“กลัวไหม?”
สีหน้าเวินเที๋ยนเที๋ยนซีดขาว ก็ยิ่งหัวเราะออกมาอย่างสะใจ
รถขับอย่างรวดเร็วบนท้องถนน ผ่านไปสักพัก จึงค่อยๆขับลงช้าๆและหยุดลง
เวินเที๋ยนเที๋ยนถูกเขาดึงลงรถ เงยหน้าไปมองเห็นอีกด้านคือโรงแรมในเครือพอดี
และโรงแรมนั้นยังเป็นธุรกิจของบริษัทเอ็มไอกรุ้ป!
ถ้าผ่านไปได้ จะต้องเตือนคนอื่นแน่นอน
แต่จี้ยี่หยันเหมือนจะเดาแผนเธอออก เอื้อมไปพูดเตือนที่หูเธอ:“อย่าส่งเสียง ไม่งั้นถึงตอนนั้นผมไม่รับประกันว่าเกิดอะไรขึ้น”
พูดจบ เขาก็เอามีดจ่อไปที่หลังของเวินเที๋ยนเที๋ยน เดินเข้าไปแนวทแยงตรงข้ามโรงแรม
ตอนที่พวกเขากำลังเดินไปที่โรงแรมนั้น ที่โรงแรมก็มีคนเดินออกมา
จงหลีที่เพิ่งทำงานสถิตของแต่ละสาขาเสร็จ ก็หยิบข้อมูลออกมา
ตั้งแต่ครั้งที่แล้วที่คุยกับจี้จิ่งเชิน เขาก็จงใจเลือกงานที่อยู่ไกลบริษัท เอาแต่ตรวจสอบสาขากับบริษัทย่อยๆใกล้ๆ ทั้งสองอย่างนี้อยู่ไกลเวินเที๋ยนเที๋ยน
เขาเพิ่งเดินออกมา เงยหน้าไป กลับมองเห็นร่างที่คันเคยนั่นพอดี
ฝีเท้าจงหลีหยุดลง คิดว่าตัวเองมองผิด
ผู้จัดการโรงแรมที่อยู่ด้านหลังก็หยุดลง พูดอย่างกังวล:“ผู้ช่วยจง มีปัญหาอะไรใช่ไหม?”
จงหลีหันไปอย่างไว หันไปส่ายหน้าไปที่เขา
“ไม่ ไม่มีอะไร”
พูดจบ ตอนที่เขามองไปอีกครั้ง แผ่นหลังนั้นก็ไม่เห็นอีกแล้ว
เขาอดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ยออกมา
หรือว่าเกิดภาพหลอนแล้วจริงๆ?
ตอนนี้เวินเที๋ยนเที๋ยนทำไมมาปรากฏตัวที่นี่?