เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 420
บทที่ 420 อยู่ต่อโดยสมัครใจ
ออกไปจากโรงพัก ฉวีช่วยฉินก็รีบไปหาสถานที่ที่จี้ยี่หยันเคยพูดไว้จากความทรงจำ
เธออยากไปเจอเจียงหยู่เทียน แต่พอถึงชุมชน จึงพบว่าเธอไม่อยู่แล้ว
ไม่เห็นเธอแล้ว!
ตอนนี้จี้ยี่หยันบ้าไปแล้ว ก็เหลือแค่ลูกในท้องของเจียงหยู่เทียน เธอไม่สามารถให้เจียงหยู่เทียนได้รับบาดเจ็บได้
อย่างน้อย ก็ต้องรอเธอคลอดลูกก่อน
เธอเลยถามคนที่พักอยู่ใกล้ๆ กลับรู้ว่าเจียงหยู่เทียนถูกคนพาไปเมื่อสองวันก่อนแล้ว
มีคนจำได้ว่าหนึ่งในนั้นคือพ่อบ้านของปราสาทจี้จิ่งเชิน
พอได้ยินข่าวนี้ ฉวีช่วยฉินก็กังวลมากขึ้น
เธอไม่สนคนอื่น รีบไปที่ปราสาท
แต่หาอยู่รอบหนึ่ง กลับหาโอกาสใดๆที่จะเข้าไปไม่ได้ รอบๆมีบอดี้การ์ดตรวจสอบ
เธอรอทั้งบ่ายก็ไม่เห็นเงาของเจียงหยู่เทียน
ฉวีช่วยฉินหมดหนทาง ได้แต่ยอมแพ้ คิดอยู่ครึ่งวัน ก็กัดฟัน หมุนตัวออกไปอีกฝั่ง
จนท้องฟ้ามืดลง ในที่สุดเธอก็มาที่บ้านตระกูลหล่อนที่อยู่ใจกลางเมืองอีกครั้ง
คนที่ทำความสะอาดอยู่หน้าประตูแค่มองก็จำได้
ยังไม่ทันรอฉวีช่วยฉินพูด ก็พูดไปก่อน:“คุณมาหาพ่อบ้านอีกแล้ว?”
ฉวีช่วยฉินพยักหน้าอย่างละอาย
คนนั้นพูด:“คุณรอก่อน ผมจะเรียกพ่อบ้านออกมา”
เขาหมุนตัวเข้าไป ไม่กี่นาทีถัดมา ฉวีผิงก็ออกมา
ใบหน้าเขายังไม่มีอารมณ์ใดๆ
พอออกจากประตู สายตาก็ไม่ได้มองไปที่ฉวีช่วยฉิน แต่โบกมือไปที่คนข้างๆ ให้เขาออกไป
จนเขาออกไป จึงมองไปที่ฉวีช่วยฉิน
น้ำเสียงไม่พอใจเท่าไหร่
“คุณคิดจะทำอะไรอีก?”
ครั้งที่แล้วให้เงินเธอยืม เพราะว่าพอคิดถึงพวกเขาในเมื่อก่อนยังมีความรู้สึกให้
แต่คิดไม่ถึงว่า เขาเพิ่งให้คนเป็นแม่ยืมเงินไป จากนั้นจี้ยี่หยัน คนเป็นลูก ก็จับตัวเวินเที๋ยนเที๋ยน จนเธอเกือบจะตกทะเล เสียชีวิต
ในสถานการณ์แบบนี้ เขาจะมีสีหน้าดีๆให้ฉวีช่วยฉินอีกได้ไง?
ออกมาเจอเธอได้ ก็ถือว่าเมตตาแล้ว
ฉวีช่วยฉินเหมือนจะรู้ แต่ตอนนี้เธอตัวคนเดียว ไร้หนทางแล้วจริงๆ
“ฉวีผิง คุณให้ฉัน เจอเวินเที๋ยนเที๋ยนหน่อยได้ไหม?”
ได้ยินประโยคนี้ ฉวีผิงก็หันหน้าไปอย่างระวังตัว
“คุณจะทำอะไร?”
ฉวีช่วยฉินรีบโบกมือ
“ฉันแค่อยากเจอเธอ เรื่องของยี่หยันก่อนหน้านี้ ฉันอยากไปขอโทษกับเธอเอง และ ……”
เธอนิ่งไป พูดต่อ:“ตำรวจบอกว่ายังมีคนสมรู้ร่วมคิดด้วย คุณรู้เรื่องนี้ไหม?”
ฉวีผิงขมวดคิ้ว คาดเดาจุดประสงค์ที่ฉวีช่วยฉินมาครั้งนี้
“คุณรู้ว่าคนที่สมรู้ร่วมคิดคือใคร?”
“ไม่ ไม่ใช่”
ฉวีช่วยฉินส่ายหน้า“ฉันแค่หวังว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนจะสามารถหยุดได้”
“ตอนนี้ยี่หยันเข้าคุกแล้ว ก็ไม่ต้องตามต่อไปแล้ว”
จี้จิ่งเชินตามใจเวินเที๋ยนเที๋ยน แค่เธอพูด เขาไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจียงหยู่เทียนต่อแน่
อย่างน้อย สามารถรอหลังจากเด็กในท้องคลอดมาก่อน
แต่ฉวีผิงได้ยินประโยคนี้ กลับไม่พอใจยิ่งขึ้น
“จี้ยี่หยันกับคนสมรู้ร่วมคิดของเขาทำร้ายคุณหนูจนเป็นแบบนี้ จะปล่อยเขาไปได้ไง?อย่าฝันหวานเลย ถ้าคุณรู้ว่าคนสมรู้ร่วมคิดนั่นเป็นใคร ผมแนะนำว่ารีบพูดออกมาเถอะจะดีที่สุด”
ฉวีช่วยฉินจะพูดได้ไง?
เห็นฉวีผิงไม่อยากช่วย ตัวเองก็ไม่เจอเวินเที๋ยนเที๋ยน จิตใจก็หดหู่ ราวกับตกลงไปในหลุมลึก
ฉวีผิงเห็นหน้าเธอหม่นลง จึงพูด:“ตอนนี้คุณหนูไม่อยู่นี่ คุณมาก็ไม่มีประโยชน์”
ใบหน้าฉวีช่วยฉินดูอนาถยิ่งขึ้น
“เหรอ?”
“ในเมื่อเป็นแบบนี้ ฉันก็ไม่รบกวนคุณแล้ว……”
น้ำเสียงเธอเปลี่ยนไปทันที ทำให้ฉวีผิงแปลกใจเล็กน้อย มองเธออย่างประหลาดใจ
คิดไม่ถึงว่าเธอจะยอมแพ้ง่ายๆอย่างนี้
พูดแนะนำไปอย่างไม่วางใจ:“ถ้าคนสมรู้ร่วมคิดนั่นสารภาพเอง ผมเชื่อว่าต้องได้รับโทษเบาแน่”
ฉวีช่วยฉินไม่พูด แป๊บเดียวกลับเงยหน้าขึ้น ยื่นมือไปจับข้อมือฉวีผิง ดึงมา มองเขาตาโต
“ฉวีผิง ฉันขอร้องคุณเรื่องหนึ่งได้ไหม?”
ฉวีผิงมองเธอแปลกๆ
“อะไร?”
“ฉันหวังว่า คุณจะช่วยฉันดูแลคนหนึ่งได้”
ฉวีช่วยฉินตาโต เอื้อมเข้าไป พูดเสียงเบาที่ข้างหูฉวีผิง
“ทำไมคุณ……”
ฉวีผิงตะลึงอยู่ที่เดิม คิ้วขมวดแน่น
ฉวีช่วยฉินจีบมือเขา พูดเสียงเบาขอร้อง
“ขอร้องล่ะ ช่วยฉันได้ไหม เรื่องสุดท้าย”
ฉวีผิงมองท่าทางของเธอ สุดท้ายก็ใจอ่อน
เขาพยักหน้าเล็กน้อย
“เข้าใจแล้ว ถ้าหากว่ามีวันนั้นจริงๆ”
ได้ยินคำสาบานนี้ ฉวีช่วยฉินจึงโล่งอก ถอนหายใจยาวๆ ปล่อยที่จับมือฉวีผิงไว้
“แบบนี้ฉันก็วางใจ”
พูดจบ เธอปล่อยมือฉวีผิงอย่างสั่นๆ หมุนตัวออกไป
ท่าทางแบบนั้น เหมือนแก่ไปอีกสิบปี
ฉวีผิงมองแผ่นหลังที่ดูเศร้าของเธอ ตอนนั้นเอง ฉวีช่วยฉินเหมือนจะตัดสินใจทำอะไร
ลังเลอยู่พักหนึ่ง ในที่สุดเขาก็ไม่พูดอะไร หันกลับไปในบ้าน
เพิ่งเข้าไป ก็เจอคุณนายหล่อนที่สวนหน้าบ้าน
พอคิดว่าเมื่อกี๊ตอบตกลงฉวีช่วยฉินไปแล้ว ทันใดนั้นฉวีผิงก็กังวล
“คุณนาย กำชับอะไรไหม?”
หล่อนหลีมองไปที่ประตูใหญ่
“ได้ยินว่ามีคนมา ฉันยังคิดว่าเที๋ยนเที๋ยนกลับมาแล้ว”
ได้ยินประโยคนี้ ฉวีผิงตะลึงเล็กน้อย
“ไม่ใช่คุณหนู เป็นเพื่อนเมื่อก่อนมาพูดคุยเรื่องสมัยเด็กกับผมน่ะ”
หล่อนหลีได้ยิน ก็มีร่องรอยของความเหงาในดวงตา
“เที๋ยนเที๋ยนไม่ยอมกลับมาเหรอ?”
เธอถอนหายใจ พูดต่อ:“เธอไปจากปราสาท คิดว่าจะกลับมานี่ แต่คิดไม่ถึงว่า จะกลับไปที่นั่น ……”
ฉวีผิงก็ขมวดคิ้วตาม
ใครต่างคิดไม่ถึง พอเวินเที๋ยนเที๋ยนไปจากปราสาทของจี้จิ่งเชิน ไม่ได้กลับไปที่ตระกูลหล่อน แต่ไปที่ตระกูลเวิน
ไม่ดีตรงไหน?ก็ไปที่นั่นไง
ฉวีผิงก็ไม่เข้าใจเช่นกัน เมื่อก่อนตอนที่เวินเที๋ยนเที๋ยนไปจากปราสาท ยังเคยบอกกับคนอื่นๆ ตัวเองจะไปที่ตระกูลหล่อน
แต่พวกเขารออยู่วันหนึ่งก็ไม่มีข่าวใดๆ จนส่งคนไปหา กลับพบว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนปรากฏตัวที่ตระกูลเวิน และยังเต็มใจไปเองด้วย
“บางทีคุณหนูอาจจะมีเหตุผลของตัวเอง คุณนาย คุณไม่ต้องกังวล”
หล่อนหลีพยักหน้า แต่คิ้วยังขมวด หันออกไป
ฉวีผิงยืนอยู่ที่เดิม เงยหน้ามองไปที่ตระกูลเวิน
ไม่ว่าจะคิดอย่างไร ก็ไม่เข้าใจ จุดประสงค์ที่เวินเที๋ยนเที๋ยนไปตระกูลเวินคืออะไร?
ตระกูลเวินในตอนนี้
เวินเที๋ยนเที๋ยนกลับมาที่ห้องที่ตัวเองเคยอยู่ครั้งแรกอยู่ช่วงหนึ่งอีกครั้ง
แค่ไม่เหมือนเมื่อก่อนก็คือ ครั้งนี้หน้าประตูไม่มีคนเฝ้าดูแล้ว และเธอสามารถเข้าออกตระกูลเวินได้อย่างอิสระ
ครั้งนี้ เธอเต็มใจอยู่เอง