เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 442
บทที่ 442 คำตอบของเขา
จี้จิ่งเชินได้ยินคำคำนั้นก็รู้สึกใจหวิว เขาเงยหน้ามอง และมองเข้าไปในตาของเที๋ยนเที๋ยนพอดี
เห็นสายตามุ่งมั่นของเธอ ในใจของเขาก็เกิดระลอกคลื่นขึ้น
เด็กผู้หญิงในความทรงจำที่อ่อนแอและขี้อายคนนั้น ได้โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว
ในสายตาของเธอมีความมุ่งมั่นกับพลังที่ไม่ยอมแพ้อยู่ในนั้น เธอมองมาอย่างแน่วแน่ และเปล่งประกายแสงระยิบระยับ
แต่จี้จิ่งเชินกลับขมวดคิ้ว
ปลายนิ้วสามารถรับรู้ถึงอุณหภูมิความเย็นที่มีอยู่บนแหวน กลับทำให้ใจของเขายุ่งเหยิงกันทันที
ก่อนหน้าไม่กี่วินาทียังอยู่ในความเย็นยะเยือกอยู่เลย ตอนนี้กลับเปลี่ยนเป็นร้อนระอุขึ้นมาเสียแล้ว
แต่พอคิดถึงสถานการณ์ของตัวเอง เขากลับเย็นยะเยือกขึ้นทันที
เดี๋ยวเย็น เดี๋ยวร้อน ราวกับความเย็นกับความร้อนปะทะกัน
ในใจของเขาทุรนทุราย ในใจกลับเจ็บจนระบมไปหมด ความเจ็บแปลบๆ แล่นไปถึงขั้วประสาททั้งหมดของเขา
“ เวินเที๋ยนเที๋ยน ” เขาพูดออกมาอย่างยากลำบาก “ คุณรู้ไหมว่านี่หมายความว่าอะไร? ”
นี่คือแหวนหมั้นของเขาในตอนนั้น ถ้าสวมเข้าไปใหม่ นั้นก็หมายความว่า……
“ ฉันรู้ว่ามันหมายความว่าอะไร ” เวินเที๋ยนเที๋ยนพูดขึ้น
เธอจับมือจี้จิ่งเชินแน่น สบตาเขาอย่างไม่ลดละ
“ ฉันอยากให้คุณช่วยสวมแหวนวงนี้ให้ฉัน ฉันอยากแต่งงานกับคุณ ”
เธอตื่นเต้นจนฝ่ามือร้อน ถึงขนาดรู้สึกฮึกเหิมนิดหน่อย
เวินเที๋ยนเที๋ยนสูดหายใจลึกๆ
รวบรวมความกล้าและพูดออกมา: “ จี้จิ่งเชิน คุณจะแต่งงานกับฉันไหม? ”
ชิงช้าสวรรค์เคลื่อนตัวมาถึงจุดสูงสุดพอดี เวินเที๋ยนเที๋ยนเพิ่งพูดจบ บริเวณรอบๆก็ได้เงียบลงทันที
ตอนนี้ พวกเขามาอยู่ตรงจุดที่ใกล้กับท้องฟ้ามากที่สุด เมืองทั้งเมืองอยู่ภายใต้เท้าของพวกเขา
เวินเที๋ยนเที๋ยนตื่นเต้นมากกว่าเดิม เธอมองจี้จิ่งเชินอย่างคาดหวัง และรอคำตอบของเขาด้วยความรู้สึกที่กระวนกระวายใจ
หนึ่งวิ สองวิ สามวิ……
จี้จิ่งเชินไม่มีปฏิกิริยาใดๆ
ผ่านไปตามการเปลี่ยนแปลงของเวลา เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น มือของเธอกำเข้าหากัน และจับมือของจี้จิ่งเชินไว้แน่น
ปลายนิ้วของเธอสัมผัสกับแหวนที่เย็นเฉียบวงนั้น แม้แต่ตัวของเธอก็เริ่มรู้สึกหนาวขึ้นมาบ้างแล้ว
ทำไมไม่ตอบรับ?
ทำไมไม่พูด?
หรือเขาจะ……
การคาดเดานับร้อยพันเกิดขึ้นในใจของเธอทันที
เวินเที๋ยนเที๋ยนกำลังนึกคิด ตอนนี้ หัวคิ้วที่ยกสูงขึ้นของจี้จิ่งเชินกลับค่อยๆผ่อนคลายลง
ริมฝีปากบางเปิดออกช้าๆ
“ เที๋ยนเที๋ยน ผม…… ”
ตึง……
เสียงนาฬิกาบอกเวลาดังขึ้นมาอย่างกะทันหัน
เสียงดังนั้นได้กลบคำพูดคำต่อไปของจี้จิ่งเชินไปจนหมด
เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกมึนงง กลับได้ยินเพียงแค่เสียงนาฬิกาที่ดังอยู่ข้างใบหู แยกไม่ออกว่าจี้จิ่งเชินพูดอะไรออกมา
เวินเที๋ยนเที๋ยนขยับเข้าไปใกล้เขา อยากฟังให้ชัดเจน
แต่พอเพิ่งขยับเข้าไป เสียงนาฬิกาก็หยุดลงทันที และตอนนี้ จี้จิ่งเชินกลับพูดเสร็จแล้ว
เวินเที๋ยนเที๋ยนชะงักอยู่ที่เดิม เธอมองเขาอย่างตกตะลึง
“ เมื่อสักครู่คุณพูดว่าอะไร? ”
จี้จิ่งเชินกลับไม่ได้พูดอธิบายอะไรอีก
เวลานี้ ชิงช้าสวรรค์ก็ได้ทำการหมุนต่อ ค่อยๆเคลื่อนตัวห่างจากจุดสูงสุด และเริ่มลงสู่พื้น
เมื่อสักครู่จี้จิ่งเชินพูดว่าอะไรกันแน่?
เวินเที๋ยนเที๋ยนนึกย้อนกลับไป กลับได้ยินแค่สองคำแรกเท่านั้น
ตอนหลังเหมือนกับพูดออกมายาวเหยียด ตกลงว่ามันคืออะไรกันแน่?
เธอดึงมือของจี้จิ่งเชินอย่างร้อนใจ
“ จี้จิ่งเชิน เมื่อสักครู่…… ”
เธอกำลังจะพูด จี้จิ่งเชินกลับยื่นมือออกมารับแหวนที่อยู่ในมือของเธอไป
คำพูดที่ติดอยู่มุมปากของเวินเที๋ยนเที๋ยนได้หยุดลงทันที เธอเบิกตากว้าง และมองเขาอย่างดีใจ จนไม่ละทิ้งรายละเอียดใดๆ
เห็นแค่จี้จิ่งเชินหยิบแหวนวงนั้นไป และกำลังใช้ปลายนิ้วลูบเบาๆ
เวินเที๋ยนเที๋ยนกลั้นหายใจมองเขา ปลายนิ้วของเธอกำลังสั่นเล็กน้อย
เธอออกแรงบีบนิดหน่อย รอเวลาที่จี้จิ่งเชินจะจับมือของตัวเองไปสวมแหวนวงนั้นอีกครั้ง
แต่เวลาผ่านไปได้สักพัก จี้จิ่งเชินกลับก้มหน้ามองแหวนในมืออยู่ตลอด และไม่ได้พูดอะไร
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน ในที่สุดเขาก็เงยหน้าขึ้นมา และจับมือของเวินเที๋ยนเที๋ยน
เขาก้มสายตาลงต่ำ บดบังอารมณ์ที่อยู่ในดวงตา การกระทำของเขาดูเหมือนตั้งใจและจริงใจ
เวินเที๋ยนเที๋ยนยื่นมือออกไป แต่แหวนวงนั้นกลับไม่ได้สวมบนนิ้วมือของตัวเองเหมือนที่เธอได้หวังไว้ แต่กลับวางอยู่บนฝ่ามือแทน
ในหัวของเวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินเสียงสิ่งของกระทบกัน ความเร็วในการเต้นของหัวใจหนักอึ้งขึ้น คล้ายกับร่วงตกลงไปในถ้ำลึกที่มองไม่เห็นจุดสิ้นสุด
จี้จิ่งเชินจับมือของเธอประกบเข้ากัน และให้เธอกุมแหวนไว้ในฝ่ามือของตัวเอง เขาเงยหน้าขึ้น
“ ผมหวังว่าคุณจะสามารถหาคนที่เหมาะสมกว่าผม และให้คนคนนั้นสวมแหวนวงนี้ให้กับคุณ ”
“ แต่คนคนนั้น ไม่ใช่ผม ”
เขาค่อยๆพูดจนจบ ทุกคำพูดเหมือนรอยแผลที่ทั้งยาว ทั้งลึก ที่ทิ้งรอยไว้บนหัวใจของเวินเที๋ยนเที๋ยนกับของตัวเอง และมีเลือดสดหยดลงมา
น้ำเสียงเพิ่งหยุดลง ชิงช้าสวรรค์ก็หยุดพอดี
พนักงานเปิดประตูออกจากด้านนอก
จี้จิ่งเชินมองเธอเล็กน้อย เขาลงจากชิงช้าสวรรค์ก่อน และเตรียมเดินจากไป
เวินเที๋ยนเที๋ยนกลับนั่งอยู่ที่เดิม และไม่ขยับไปไหนอยู่สักพักใหญ่
เธอกำสองมือแน่น แหวนบาดจนทำให้ฝ่ามือเกิดรอยแดง แต่เธอเหมือนไม่รู้สึกตัวอะไรเลย
จี้จิ่งเชินเพิ่งลงจากชิงช้าสวรรค์ ไม่รู้ว่านึกอะไรออก การกระทำของเขาจึงหยุดลง
เขาหันหลังให้เวินเที๋ยนเที๋ยน หันหน้าไปด้านข้างเล็กน้อย แต่กลับไม่มองเธอ
และได้พูดต่อ: “ คุณเคยบอกว่า นี่เป็นครั้งสุดท้าย ”
พูดจบ เขาก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ
“ ลาก่อน ”
พูดจบ เขาก็ควบคุมรถเข็น และจากไปในตอนกลางคืนอย่างรวดเร็ว โดยไม่หันกลับมาอีก
ในชิงช้าสวรรค์ เวินเที๋ยนเที๋ยนกลับอยู่ในนั้น ไม่ลงมาข้างล่าง
พนักงานที่ยืนอยู่ด้านนอกมองเข้ามาอย่างสงสัย เขายื่นมือออกมา
“ คุณเวินครับ ถึงเวลาแล้วครับ ต้องการลงมาหรือจะนั่งต่ออีกรอบครับ? ”
แสงไฟด้านในดับลงแล้ว ในชิงช้าสวรรค์กลับไม่มีเสียงขานรับตอบกลับมา
พนักงานยื่นหัวเข้ามาอย่างสงสัย กลับเห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนนั่งอยู่ในมุมของชิงช้าสวรรค์ เธอก้มหน้า และใช้สองมือปิดหน้าของตัวเองไว้
ในที่นั่งของชิงช้าสวรรค์ อบอวนไปด้วยความโศกเศร้ากับความผิดหวัง
พนักงานเห็นดังนั้นก็พูดไม่ออก เขาไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงดี
เขากำลังลังเล เวินเที๋ยนเที๋ยนกลับเงยหน้าขึ้นมา เธอออกแรงเช็ดน้ำตา และใบหน้าของเธอก็ได้กลับมาใจเย็นกับมีความหวังเหมือนเดิม
“ ขอโทษ ฉันทำให้เสียเวลานิดหน่อย ”
พูดจบ ใบหน้าของเธอก็ปรากฏรอยยิ้มบางๆขึ้น เธอเดินลงจากชิงช้าสวรรค์ และพูดขอโทษ: “ ฉันจะรีบไปเดี๋ยวนี้ รบกวนพวกคุณแล้วค่ะ ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้าแสดงเจตนาขอโทษให้กับคนพวกนั้นเล็กน้อย หลังจากนั้นก็ยืดหลังตรง และก้าวเดินจากไปอย่างช้าๆ
พนักงานมองแผ่นหลังที่เดินจากไปของเธอ เขาขมวดคิ้ว ใบหน้าเต็มไปด้วยความเป็นห่วง
“ คุณผู้หญิง เป็นยังไงบ้างครับ? ”
ฉวีผิงรออยู่ที่รถ เห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนเดินออกมา จึงพูดถามขึ้น
เวินเที๋ยนเที๋ยนส่ายหน้า ไม่ได้พูดอะไร
ฉวีผิงเห็นสีหน้าของเธอ ก็พอจะเดาอะไรได้บ้างแล้ว ใบหน้าของเขาจึงปรากฏสีหน้าผิดหวังขึ้นมา
แผนการครั้งนี้เป็นเขากับเวินเที๋ยนเที๋ยนที่ช่วยกันคิด
เห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกหดหู่แบบนี้ เขาก็รู้สึกเสียใจไปตามๆกัน
“ หรือว่าคุณจี้ปฏิเสธคุณแล้ว? ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนส่ายหน้า
“ ไม่รู้สิ…… ”
อยู่ๆเธอก็คิดอะไรออก ทำให้หยุดร้องไห้ และยิ้มออกมา “ อันที่จริง ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาพูดว่าอะไรบ้าง ”
เสียงนาฬิกานั้น……
เธอจะไปได้ยินได้ยังไงกันล่ะ?
ฉวีผิงมองเธออย่างตกตะลึง ไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
เวินเที๋ยนเที๋ยนหมุนตัวขึ้นรถ ดูเหมือนเธอจะไม่ค่อยเสียใจมากเท่าไหร่ กลับดูเหมือนกำลังมีความสุขด้วยซ้ำไป