เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 469
บทที่ 469 มีบางสิ่งบางอย่างที่ไม่ถูกต้อง
ตอนที่เวินเที๋ยนเที๋ยนมาถึงสถานที่นัดหมายนั้น เฟิงหมิงก็นั่งรออยู่ในร้านกาแฟสักพักแล้ว
เวินเที๋ยนเที๋ยนนั่งลง ไม่มีอารมณ์จะมานั่งพูดอะไรอย่างมีพิธีรีตอง ก็พูดอย่างตรงๆ ไม่อ้อมค้อม “ขอโทษมากจริงๆ ที่เมื่อวานฉันกลับไปก่อน”
“ก่อนหน้านี้ฉันไม่รู้ว่างานเมื่อวานจะเป็นงานหมั้น ถ้าเกิดฉันรู้ล่ะก็ มันจะไม่ถูกจัดขึ้นแน่นอน จนถึงตอนที่งานเลี้ยงเริ่มต้น ฉันพึ่งได้ยินจากปากของคนอื่น”
เฟิงหมิงได้แต่ฟังเงียบๆ แต่ว่าไม่ได้พูดอะไร เหมือนกับว่ากำลังคิดอะไรอยู่
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองดูสีหน้าของเขา เห็นว่าไม่มีอะไรเปลี่ยนไป ก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆ
“เกี่ยวกับสัญญาระหว่างฉันกับนายก่อนหน้านี้ ฉันคิดว่า หยุดไว้ตรงนี้ดีกว่า ก่อนหน้านี้ฉันไม่ได้ไตร่ตรองอย่างเหมาะสม ก็เลยทำให้นายเกิดความเข้าใจผิดมากมาย”
พอได้ยินดังนั้น เฟิงหมิงที่นั่งอยู่ตรงข้ามก็เงียบไปครู่หนึ่ง หลังจากนั้นก็พูดออกมา น้ำเสียงดูสูญเสียเล็กน้อย
“เพราะว่าเรื่องงานหมั้นเมื่อวานน่ะหรอ? ”
“เที๋ยนเที๋ยน ที่จริงแล้วเมื่อวานนี้ฉันก็ไม่รู้ว่าพวกเขาจะให้ฉันหมั้นกับเธอ ถ้าเกิดว่าฉันไปเร็วกว่านี้หน่อย ก็จะไม่เกิดเรื่องแบบนี้แน่นอน”
เขาพูด หลังจากนั้นก็ค่อยๆ หยุดลง แล้วเดาว่า “ได้ยินมาว่าเมื่อวานจี้จิ่งเชินรับเธอกลับไปงั้นหรอ? พวกเธอดีกันแล้วหรอ? ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนอึ้งไปครู่หนึ่ง ถึงได้พยักหน้า ไม่ได้ปฏิเสธอะไร
“ขอโทษด้วยนะ เพราะว่าฉันเห็นแก่ตัว ก็เลยทำให้นายต้องเดือดร้อนมากมาย สำหรับเรื่องตระกูลเวิน ฉันจะไปพูดกับพวกเขาเอง งานคลุมถุงชนนี้จะไม่ดำเนินต่อไป
หลังจากเวินเที๋ยนเที๋ยนพูดจบ แต่ว่าผ่านไปนานก็ไม่ได้รับคำตอบจากเฟิงหมิง
เธออดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นมาดู ได้แต่เห็นความมืดในดวงตาของเฟิงหมิง สีหน้าก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก
“เฟิงหมิง?เฟิงหมิง?”
พอได้ยินเสียงของเวินเที๋ยนเที๋ยนเรียก สุดท้ายเฟิงหมิงถึงได้ตอบสนิท หลังจากนั้นก็คลี่ยิ้มอย่างเอาใจใส่
“งั้นหรอ? ถ้าเกิดว่านี่คือการตัดสินใจของเธอ ฉันเข้าใจแล้ว”
เขาเงยหน้าขึ้นมา สีหน้าก็เย็นชาลงทันที ดูห่างเหินมากขึ้น
พอเห็นการเปลี่ยนแปลงนี้ เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ค่อยๆ ขมวดคิ้วเข้าด้วยกัน แต่พอคิดว่าเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องวุ่นวายที่ตัวเองสร้างให้อีกฝ่ายหนึ่ง ถ้าเปลี่ยนเป็นคนอื่นได้เจอกับเรื่องแบบนี้ ก็คงจะไม่พอใจเธอเหมือนกัน
เธอพูดด้วยความรู้สึกผิด “ฉันขอโทษมากจริงๆนะ ต่อไปถ้าเกิดว่ามีเรื่องอะไรให้ฉันช่วยล่ะก็ บอกฉันได้เลยนะ ฉันต้องพยายามช่วยนายอย่างเต็มที่แน่นอน”
“งั้นหรอ? ”
รอยยิ้มบนใบหน้าของเฟิงหมิงลึกซึ้งขึ้นเรื่อยๆ แต่ว่าดูยังไงก็แตกต่างจากเมื่อก่อน
เขายิ้มแล้วพูดว่า “ที่จริงฉันก็มีเรื่องอยากให้เธอช่วยอยู่จริงๆ เธอยังจำได้มั้ย ที่เมื่อก่อนฉันเคยบอกว่าจะสร้างสวนสนุก? มันใกล้จะได้เริ่มแล้ว แต่ว่าตอนนี้ฉันเจอปัญหานิดหน่อย พรุ่งนี้ฉันเชิญเธอไปที่ตระกูลเฟิงหน่อยได้มั้ย? ไปปรึกษากับพวกผู้ช่วยของฉันหน่อย”
“ไปตระกูลเฟิงงั้นหรอ? ”
“ใช่แล้ว ปกติฉันไม่ค่อยได้ไปที่บริษัทเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นทุกครั้งเวลาจะหารือเรื่องธุรกิจก็จะจัดขึ้นที่บ้านตระกูลเฟิง ถ้าเกิดว่าเธอไม่สบายใจ ก็เปลี่ยนสถานที่ก็ได้นะ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนส่ายหน้า
“ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันจะไป แต่ว่ามีปัญหาอะไร นายบอกฉันก่อนก็ได้นะ”
“ส่วนรายละเอียดว่าเจอปัญหาอะไรนั้น ฉันเองก็ไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกัน ต้องไปถามผู้ช่วยก่อนถึงจะรู้ พรุ่งนี้เธอต้องมานะ”
หลังจากพูดจบ เฟิงหมิงก็ลุกขึ้นก่อน ใบหน้ามีรอยยิ้มของสุภาพบุรุษ
แต่ว่าในสายตาของเวินเที๋ยนเที๋ยน เธอเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเขากำลังแสร้งยิ้ม ลึกๆ เข้าไปในรูม่านตาของเขา มีแต่ความมืดมน!
“เธอวางใจเถอะ เรื่องแต่งงานกับเธอนั้น ฉันจะไปปรึกษากับท่านปู่เวินเอง ครั้งที่แล้วเขาปิดบังพวกเราแล้วจัดงานหมั้น ฉันเองก็ถูกปิดตาไม่รู้อะไรเลยเหมือนกัน”
เขาพยักหน้าให้เวินเที๋ยนเที๋ยน “ถ้ายังงั้นเจอกันพรุ่งนี้นะ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนนั่งอยู่ที่เดิม มองดูเฟิงหมิงออกไปจากร้าน สุดท้ายก็หยิบโทรศัพท์ออกมา แล้วก็โทรหาจงหลี ถามเกี่ยวกับความคืบหน้าของเขา
“ฉันไปถามบอดี้การ์ดมาหลายคนแล้ว แต่ว่าพวกเขาได้รับคำสั่งจากประธานจี้มา ไม่มีใครยอมพูดอะไร”
ความหวังสุดท้ายถูกตัดทิ้งแล้ว หัวใจของเวินเที๋ยนเที๋ยนจมดิ่งลงอีกครั้ง
จงหลีพูดอย่างไม่เข้าใจ “เที๋ยนเที๋ยน บอกฉันได้มั้ยว่าสรุปแล้วมันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่? ”
“ที่จริงแล้วฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเรื่องอะไรกันแน่ แต่แค่รู้สึกว่า……”
พอพูดมาได้ถึงครึ่งหนึ่ง ทันใดนั้นเวินเที๋ยนเที๋ยนก็มองเห็นเงาดำที่อยู่นอกร้านกาแฟ หลบอยู่ตรงมุม
เธอมองไปด้วยความสงสัย แต่ว่าอีกฝ่ายใส่เสื้อกันลมสีดำในเวลาเที่ยงวัน สวมหมวกชาวประมงแล้วก็หน้ากากอนามัย
ท่าทางแบบนี้ ดูคุ้นเคย……
นี่คือคนแปลกๆ ตอนที่เจอครั้งที่แล้วที่หน้าประตูโรงจอดรถรีสอร์ทหวินช่วยไม่ใช่หรอ?
ทำไมเขาถึงมาปรากฏตัวที่นี่อีกครั้ง?
ปลายสายมีเสียงจงหลีลอดเข้ามา
“เที๋ยนเที๋ยน? เที๋ยนเที๋ยน? ฉันว่า ให้ตำรวจมาช่วยสอบสวนดีมั้ย? ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนถึงได้สติกลับมาทันที แล้วรีบพูดว่า “ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวฉันให้คนอื่นช่วย”
หลังจากพูดจบ เวินเที๋ยนเที๋ยนก็รีบลุกขึ้นทันที
“ฉันวางก่อนนะ มีธุระนิดหน่อย……“
หลังจากวางสาย เธอก็หยิบข้าวของ แล้วก็เดินออกจากร้านกาแฟไปอย่างรวดเร็ว มาถึงสวนสาธารณะนอกร้านกาแฟ มองซ้ายมองขวา
คนๆนั้นยังไม่ได้ไปไหน แต่ว่ายืนอยู่อีกฝั่งหนึ่ง
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองไปอย่างสงสัย
เธอระมัดระวังเล็กน้อย “นายเป็นใคร? นักข่าว? หรือว่าตระกูลเวินให้นายมาคอยจับตามองฉัน? ”
ฝ่ายตรงข้ามตัวสูงยาว ดูคล้ายๆ บอดี้การ์ดที่เคยดูแลเวินฉี่กับเวินหงไห่ก่อนหน้านี้
ถึงแม้ว่าจะสวมหน้ากากอนามัย แต่ว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนกลับมองเห็นแววตาที่คมกริบและแสดงให้เห็นถึงการที่ผ่านโลกมาเยอะของเขา
สายตาของอีกฝ่ายพิจารณาเวินเที๋ยนเที๋ยนอย่างละเอียด หลังจากผ่านไปสักพัก สุดท้ายก็พูดออกมา
เสียงที่ลอดผ่านหน้ากากอนามัย ก็ค่อนข้างจะคลุมเครือ
“คุณคือคุณผู้หญิงจากตระกูลเวิน เวินเที๋ยนเที๋ยนใช่มั้ย? ต่อไปก็ระมัดระวังตัวหน่อย อย่าไปไหนมั่วซั่ว”
พอเวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินดังนั้นก็รู้สึกสับสน ตอนที่อยากจะถามให้ชัดเจน อีกฝ่ายก็หันหลัง แล้วก็หายตัวไปในป่าด้านข้างอย่างรวดเร็ว
ไม่ใช่คนที่ตระกูลเวินหรือตระกูลหล่อนส่งมาให้จับตาดูหรือปกป้องเธองั้นหรอ?
เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกไม่เข้าใจมากกว่าเดิม นึกถึงคำพูดของคนๆนั้นเมื่อกี้นี้ ใจของเธอก็รู้สึกกลัว เหมือนกับว่าจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น เธอรู้สึกไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่
รู้สึกว่ามีบางอย่างที่ไม่ถูกต้อง
ไม่ได้คิดอะไรมากมาย เธอนึกถึงจี้จิ่งเชินที่ตอนนี้ยังหาตัวไม่เจอ ก็เดินขึ้นรถไป
ตอนที่ผ่านใจกลางเมืองนั้น เวินเที๋ยนเที๋ยนพึ่งจะจอดรถ พอเงยหน้าขึ้น ก็เห็นร่างของคนที่คุ้นเคย
หลีเจียเวยเดินลงมาจากรถที่จอดอยู่ไม่ไกลเท่าไหร่นัก รีบร้อนเดินเข้าโรงพยาบาลไป
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองด้วยความสงสัย
“โรงพยาบาลแห่งนี้ เหมือนว่าจะเป็นโรงพยาบาลของหมอจางนะ……”
เธอรู้สึกไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ อาการบาดเจ็บบนร่างกายของหลีเจียเวยไม่ได้หายไปตั้งนานแล้วหรอ?
แล้วมาทำอะไรที่โรงพยาบาล?
เธอคิดไปด้วย แล้วก็เห็นสัญญาณไฟเขียวที่อยู่ตรงหน้า ก็เหยียบคันเร่ง แล้วค่อยๆ ออกมาจากตรงนั้น
หลีเจียเวยรีบร้อนเข้าไปในโรงพยาบาล เมื่อพยาบาลและหมอประจำแผนกผู้ป่วยนอกเห็นเธอ ใบหน้าก็เป็นทุกข์ทันที”
“คุณหลี อาการบาดเจ็บที่ขาของคุณไม่ได้เป็นอะไรแล้ว ไม่ต้องมาแล้วก็ได้ครับ”
พอหลีเจียเวยได้ยินดังนั้น ก็พูดด้วยความไม่พอใจ “จะไม่เป็นอะไรได้ยังไง? วันนี้ตอนที่ฉันเดินๆ อยู่รู้สึกเจ็บ ฉันต้องการให้คุณออกใบรับรองแพทย์ให้ฉัน! เดี๋ยวนี้! ”
ตอนแรกถ้าไม่ใช่เพราะว่าใบรับรองแพทย์ของเวินเที๋ยนเที๋ยนใบนั้น เธอก็คงไม่พ่ายแพ้อย่างน่าสมเพชแบบนี้หรอก!
ตอนนี้เธอไม่มีที่ยืนในโลกวัตถุโบราณแล้ว ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณเวินเที๋ยนเที๋ยน!
ไม่ว่าจะยังไง เธอต้องกู้คืนมาให้ได้!