เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 501
บทที่ 501 ผู้หญิงเชื่อไม่ได้
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้มีความดีใจแทบบ้าทะลักพรั่งพรูขึ้นอยู่ในใจ
“มีคนไหม?” เธอถามเบาๆ
ผ่านไปแล้วกี่วินาที ทางด้านนอกถึงได้มีเสียงที่เบามากเสียงหนึ่งส่งเข้ามา
“คุณเวิน?”
“เป็นฉัน!” เวินเที๋ยนเที๋ยนพูดด้วยความตื่นเต้น จึงอดไม่ได้ที่จะยกเสียงสูงแล้ว
ไม่ช้าเธอก็ได้มองแล้วมองอีกไปยังทิศทางของประตู จากนั้นก็ได้ส่งเสียงกดต่ำอย่างระมัดระวัง
“เป็นจี้จิ่งเชินที่เรียกพวกเธอมาเหรอ?”
น้ำเสียงของด้านนอกมีความสุขุมเยือกเย็นเป็นอย่างมาก
“คุณเวิน พวกเราได้แจ้งประธานจี้แล้ว รอหลังจากที่เขาพาคนเข้ามา ก็สามารถช่วยคุณออกมาได้”
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้พูดด้วยความกังวลใจ: “พรุ่งนี้พวกเขาก็ต้องส่งฉันออกจากที่นี่ไปแล้ว พวกเธอระวัง”
“ทราบ”
พูดไปแล้วกี่ประโยค ในที่สุดใจที่ห้อยสูงมาตลอดของเวินเที๋ยนเที๋ยนก็ได้วางลงมาแล้วนิดหน่อย
แต่ไม่ช้า เมื่อคิดถึงวันพรุ่งนี้เช้าที่ยังมีช่วงเวลาที่ยิ่งคับขันมากฉากหนึ่ง เธอก็ได้เคร่งเครียดขึ้นมาอีกครั้ง
เธอนอนอยู่บนเตียง ไม่ได้นอนทั้งคืน
ท้องฟ้าเพิ่งจะสว่าง ตรงประตูด้านนอกก็ได้มีเสียงพูดคุยส่งมาแล้ว
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้นั่งขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
พวกเขากำลังจะไปแล้วเหรอ?
แต่ว่าจี้จิ่งเชินยังมาไม่ถึง!
ตอนที่กำลังคิด ประตูของห้องก็ได้ถูกคนผลักออก
เฟิงหมิงเดินเข้ามาแล้ว เห็นถึงเวินเที๋ยนเที๋ยนที่นั่งอยู่ ดูท่าทางแล้วไม่ได้นอนทั้งคืน
“ดีใจจนนอนไม่หลับเหรอ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองเขาไว้ ในใจกลับคิดอย่างลึกซึ้งไว้ไม่หยุด
เธอจะต้องถ่วงเวลาจนถึงจี้จิ่งเชินมาพบ……
“เฟิงหมิง นายไม่ไตร่ตรองๆให้ดีๆจริงๆเหรอ? เมื่อวานที่ฉันบอกกับนายก็ล้วนเป็นเรื่องจริง!”
แต่ว่าครั้งนี้เฟิงหมิงกลับยืนหยัดไม่ไหวติง
“ตอนนี้เธอต้องการให้ฉันเชื่อเธอยังไง?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยกคิ้วขมวดขึ้น
“แม้ว่าฉันกลับคือคิดที่จะติดต่อจี้จิ่งเชิน แต่เมื่อวานที่ฉันพูดเรื่องของจ้าวเจียก็ล้วนเป็นเรื่องจริง! นายไม่ใช่ว่าได้เริ่มเสียใจแล้วเหรอ?”
“แต่ว่าตอนนี้ฉันเสียใจแล้ว”
เขาได้ยื่นมือออกมาอย่างรุนแรง จากนั้นก็ได้บีบตรงคางของเวินเที๋ยนเที๋ยนไว้ และได้นำใบหน้าของเธอเงยขึ้นมาแล้ว
“คำพูดของผู้หญิง ไม่สามารถเชื่อได้จริงๆ คนทั้งโลกก็เหมือนกันหมด”
เฟิงหมิงได้เขวี้ยงริมฝีปากไปมา จนได้ปรากฏรอยยิ้มถากถางหนึ่งออกมาแล้ว
“ผู้หญิงคนนั้นก็เป็นแบบนี้ รับปากครั้งแล้วครั้งเล่า แต่กลับยังคงคือครั้งแล้วครั้งเล่าซ้ำ ๆ ก็แม้ว่าได้เปลี่ยนไปแล้ว ฉันก็จะไม่ลังเลเลยสักนิดในการฆ่าเธอ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้เบิ่งตาโตแล้ว
ผู้หญิงคนนั้น?
หรือว่าที่เขาพูดคือแม่ของตัวเอง?
เฟิงหมิงพูดต่อ: “น่าเสียดายที่พ่อของฉันโง่เกินไป ทำไมจะต้องสูญเสียอนาคตของตัวเองเพื่อผู้หญิงแบบนั้น? ฉันจะไม่ทำผิดพลาดอย่างเขาอีกแน่ๆ”
เมื่อพูดจบ เขาก็ได้ใช้แรงสะบัด นำเวินเที๋ยนเที๋ยนสะบัดหลุดออกไปตรงๆ
“พาไป!”
คำสั่งเสียงหนึ่ง บอดี้การ์ดกี่คนก็รีบเดินขึ้นมาทางด้านหน้าอย่างรวดเร็ว เพื่อลากเวินเที๋ยนเที๋ยนไป พาเธอเดินไปทางด้านนอก
“รอก่อน!”
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ต่อสู้ดิ้นรนขึ้นมา แต่กลับไม่สามารถมีพละกำลังตีเสมอกับบอดี้การ์ดได้ จึงได้ถูกพาออกไปอย่างต่อเนื่องแล้ว
ท้องฟ้าด้านนอกสว่างมาก พระอาทิตย์ที่เพิ่งพ้นขอบฟ้าในยอมเช้าตรู่ยังไม่ได้ผุดขึ้น ในอากาศก็ได้มีไอเย็นอยู่
ในชั่วพริบตาขนละเอียดตามผิวหนังบนหลังมือของเวินเที๋ยนเที๋ยนก็ได้ตีลังกาขึ้นมา ไม่รู้เป็นเพราะว่าเย็นเกินไป หรือว่าคือตกใจแล้ว
ด้านข้างห้องไม้ได้มีรถสองคันที่คับแคบมากจอดอาศัยอยู่ ความกว้างไม่ถึงหนึ่งเมตร มีเพิ่งแค่สองที่นั่ง ดูท่าแล้วเป็นการออกแบบมาเป็นพิเศษโดยเฉพาะเพื่อให้รอดผ่านอยู่ในป่าทึบ
ก่อนหน้านี้เธอก็กำลังไม่แน่ใจ เฟิงหมิงกี่คนคือทำไมอยู่ในเวลาไม่ถึงวันก็ได้มาถึงป่าทึบที่อยู่ลึกเข้าไปแห่งนี้ ที่แท้คือได้มีความเตรียมพร้อมมาตั้งนานแล้ว
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ถูกลากขึ้นไปตรงๆ และทิ้งเข้าไปในรถ
เธอเพิ่งต้องการที่จะต่อสู้ บอดี้การ์ดสองคนก็ได้ใช้เชือก เอามือของเธอมัดไว้อยู่บนรถแล้ว
เฟิงหมิงได้มองด้วยสายตาที่เย็นชาไว้ เวลานี้ถึงได้ขึ้นรถ และได้นั่งอยู่ที่ด้านข้างของเวินเที๋ยนเที๋ยนแล้ว
บอดี้การ์ดอีกสองคนได้นั่งอยู่บนรถอีกคันหนึ่ง
“ออกเดินทาง”
รถสองคันได้รอดผ่านอย่างมีประสบการณ์ชำนาญอยู่ในป่า ไม่ช้าก็ได้ออกจากบ้านไม้ไปทางด้านนอกแล้ว
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้มองรอบด้านไว้ พยายามวางแผนที่จะค้นหาข่าวคราวที่มีความเกี่ยวข้องกับจี้จิ่งเชิน
แต่หาได้แล้วรอบหนึ่ง กลับไม่ได้รับผลสำเร็จใดๆ
มองรถที่ค่อยๆออกจากป่าไป ใจของเวินเที๋ยนเที๋ยนก็ได้ลึกลงมาอย่างถึงที่สุดแล้ว
หรือว่าทุกอย่างเมื่อคืนก็ล้วนเป็นเรื่องหลอกลวง?
คิ้วของเวินเที๋ยนเที๋ยนได้ขมวดขึ้น
ผ่านไปแล้วครู่หนึ่ง ตรงหน้าก็ได้โล่งโปรดโปร่ง
รถสองคันได้อ้อมออกจากประสาทเก่าของจี้จิ่งเชินแล้ว ได้ขับออกมาจากอีกทิศทางหนึ่ง เตรียมพร้อมที่จะไหลประจบเข้าสู่ถนนทางหลวง
ถนนที่วนรอบภูเขาเส้นนี้สูงและชันเป็นอย่างมาก ด้านหนึ่งติดภูเขา อีกด้านหนึ่งกลับคือหน้าผาที่สูงชัน
หากว่าไม่ระวังตกลงไป ตายศพไม่ครบส่วน
ฝีมือที่บอดี้การ์ดสองคนขับรถได้ล้ำเลิศเป็นอย่างมาก เดินหน้าและถอยหลังมีเหลือ
ตอนที่พวกเขาต้องการเข้าสู่เส้นทางของแกนสำคัญ คนกี่คันได้โดดเด่นออกมา! ขวางอยู่ตรงหน้าของพวกเขาแล้ว!
รถสูงใหญ่ได้นำเส้นทางทั้งเส้นอุดตันแน่นไปหมด ก็แม้แต่คนก็ไม่สามารถที่จะผ่านไปได้ ก็ยิ่งอย่าพูดถึงรถเลย
บอดี้การ์ดคนหนึ่งได้เหยียบเบรกรถกะทันหัน เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่ได้นั่งอย่างมั่นคง เกือบจะล้มลงไปแล้ว
เฟิงหมิงได้นำคนลากกลับมาแล้ว สายตาทั้งหมดกลับได้ตกอยู่บนรถกี่คันตรงหน้า
“ดูแล้วเมื่อวานไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอลงไม้ลงมือแล้ว”
เวินเที๋ยนเที๋ยนฉวยโอกาสยกมือไปมอง รถตรงหน้ากี่คนได้จอดขวางอยู่ตรงกลางถนน เห็นได้ชัดมากว่าคือเพื่อขวางกั้นการปรากฏออกมาของพวกเขาไว้โดยเฉพาะ
หรือว่าพวกนี้ก็คือแผนการของจี้จิ่งเชิน?
ในชั่วขณะในใจของเวินเที๋ยนเที๋ยนได้มีความหวังทะลักพรั่งพรูขึ้น สายตาได้มองแล้วมองอีกไปยังบนที่นั่งคนขับของรถกี่คัน เป็นไปตามคาดในจำนวนนั้นได้เห็นถึงใบหน้าที่คุ้นเคยกี่คนแล้วจริงๆ
เป็นจี้จิ่งเชินจริงๆ!
“ถอยกลับไป!”
เฟิงหมิงก็สังเกตเห็นถึงจุดนี้แล้ว และได้ออกคำสั่งเสียงหนึ่ง
หัวรถเปลี่ยนทิศทาง กำลังเตรียมพร้อมกลับไป แต่ก็อยู่ในเวลานี้ ในป่าทางด้านหลัง ไม่รู้ตั้งแต่ตอนไหน ได้ถูกคนวางสิ่งกีดขวางลงมาแล้ว
เฟิงหมิงถูกขวางกั้นอยู่ที่ตรงกลาง อยู่ในภาวะที่ลำบาก!
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้หันหัว ครั้งนี้กลุ่มคนข้างหน้าสุด เธอได้มองเห็นถึงจี้จิ่งเชินแล้ว
จี้จิ่งเชินนั่งอยู่บนรถเข็น ในระหว่างกลุ่มคนที่หยิ่งและมีอำนาจ
สีหน้าของจี้จิ่งเชินดูขึ้นไปแล้วไม่ค่อยดีนัก ดูเหมือนกับว่านานมากแล้วที่ไม่ได้พักผ่อนให้ดีๆ
เมื่อเห็นถึงเขา ใจที่เคร่งเครียดของเวินเที๋ยนเที๋ยนในชั่วพริบตาก็ได้ผ่อนคลายลงมาแล้ว คล้ายกับว่าหาที่พึ่งพิงอาศัยได้แล้ว
“คุณชายเฟิงนี้คือต้องการไปไหน?”
สายตาของเฟิงหมิงได้กวาดตามองรอบด้านไปแล้วรอบหนึ่ง และได้มองรูปแบบตอนนี้ได้อย่างชัดเจนแล้ว ในที่สุดถึงได้มองไปทางจี้จิ่งเชิน
ทันทีหลังจากนั้นก็ได้หัวเราะขึ้นมาแล้ว
“ประธานจี้ นี่คุณคือทำอะไร?”
“กี่วันมานี้ต้องขอบคุณคุณมากที่ช่วยดูแลเวินเที๋ยนเที๋ยนให้ฉัน ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่จะรับเธอกลับมาแล้ว”
จี้จิ่งเชินได้พูดมาช้าๆ ไม่ลุกลี้ลุกลนไม่รีบร้อน แต่กลับสร้างความกดดันที่ไร้รูปร่างให้คน
เวินเที๋ยนเที๋ยนสามารถรู้สึกถึง เฟิงหมิงที่อยู่ข้างตัวที่ยิ่งอยู่ก็ยิ่งตึงเครียดแล้ว ก็แม้แต่กล้ามเนื้อล่างของชุดสูทก็ได้ขึงตึงขึ้นมา
“อุตส่าห์คิดใคร่ครวญวางแผนเสียอย่างแยบยลดิบดี คิดไม่ถึงว่านายยังคงมาหาแล้ว”
เฟิงหมิงได้หัวเราะเยาะตัวเองออกมาเสียงหนึ่ง จากนั้นก็ได้พูดอีก: “ไม่ถูก ควรที่จะพูดว่าคิดไม่ถึงว่าฉันก็ประสบทุกข์ถึงการทรยศหักหลังแล้ว”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ คิ้วของเวินเที๋ยนเที๋ยนก็ได้ขมวดขึ้นเล็กน้อย
เมื่อพูดจบ เฟิงหมิงก็ได้หันหัว ดึงคางของเวินเที๋ยนเที๋ยนไว้อีกครั้ง
“เพียงแต่ว่า ฉันคือจะไม่ปล่อยเธอไป ก็แม้ว่าฉันตาย! ก็ต้องให้เธอไปเป็นเพื่อน!”
เขาได้กัดฟันพูด ในสายตาได้มีความบ้าคลั่งทะลุออกมา ทำให้เวินเที๋ยนเที๋ยนกลัวจนตัวสั่น
“เฟิงหมิง นายใจเย็นหน่อย พวกเรามอบตัวดีไหม?”
“เป็นไปไม่ได้!”
เฟิงหมิงได้จับมือตัวเองไว้แน่นอย่างรุนแรง นำคำพูดของเวินเที๋ยนเที๋ยนอุดกลับไปแล้ว
“ฉันก็ได้เตรียมพร้อมไว้เรียบร้อยตั้งนานแล้ว ก็แม้ว่าตายก็จะทำไม? อยู่บนโลกใบนี้ก็ไม่มีความหมายใดๆกับคน”
ตอนที่พูดเขาก็ได้หยิบปืนสั้นออกมากระบอกหนึ่ง นิ้วชี้ได้เกี่ยวอยู่ที่บนไกปืน
เห็นถึงการกระทำของเขา บอดี้การ์ดอีกสองคนก็ได้ล้วงปืนบนตัวออกมาแล้ว จากนั้นก็เล็งเป้าไปยังจี้จิ่งเชินกี่คนตรงหน้า