เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 502
บทที่ 502 ที่เขาสนใจก็คือเวินเที๋ยนเที๋ยน
เวินเที๋ยนเที๋ยนตกใจจนหวาดกลัวไปทั่วตัว
“เฟิงหมิง! หยุดทำ!”
เธอได้ตะโกนออกไปแล้วเสียงหนึ่ง คิดต้องการที่จะนำปืนแย่งเข้ามา
เฟิงหมิงกลับได้เห็นการเคลื่อนไหวของเธอไว้ตั้งนานแล้ว และได้นำเวินเที๋ยนเที๋ยนผลักออกไปตรงๆ เตรียมพร้อมที่จะลั่นไก
“เฟิงหมิง!”
เสียงหนึ่ง เครื่องเสียงที่ได้ทะลุผ่านส่งเข้ามา
“วางอาวุธลง นายได้ถูกล้อมไว้หมดแล้ว!”
ในชั่วพริบตา ตำรวจที่ได้สวมใส่ชุดเครื่องแบบกี่คนก็ได้วิ่งเพ่นพ่านออกมาแล้วจากทั่วทุกสารทิศ
ในมือของพวกเขาแต่ละคนก็ได้ถือปืนไว้ และได้เล็งเป้าไปที่คนตรงหน้า
ยืนอยู่ตรงหน้าสุดก็คือคุณตำรวจเหยียน
จี้จิ่งเชินเห็นถึงตำรวจที่ได้พุ่งออกมาอย่างกะทันหันพวกนี้ สีหน้าก็ได้ไม่น่าดูขึ้นมาแล้วไปชั่วขณะ
“สมควรตาย! ฉันไม่ใช่ว่าพูดแล้วว่าไม่ต้องแจ้งให้ตำรวจเข้ามาเหรอ?”
จงหลีก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
“คนของพวกเราก็ได้ออกไปขัดขวางอยู่ตรงล่างเขาแล้วจริงๆ พวกเขาคือขึ้นมาได้ยังไง?”
ตอนที่พวกเขาออกเดินทางก่อนหน้านี้ จี้จิ่งเชินก็ได้กำชับจงหลีกับบอดี้การ์ดกลุ่มหนึ่ง นำเส้นทางรอบด้านปัดกั้นไว้ทั้งหมด
ก็แม้แต่ได้รับข่าวคราวของเวินเที๋ยนเที๋ยนก็ไม่สามารถรั่วไหลความลับไปได้ ไม่ได้ให้คนนอกสักคนรู้
ตำรวจพวกนั้นคือเข้ามาได้ยังไง?
เวลานี้ทั้งสองฝ่ายก็ได้คุมเชิงขึ้นมา
สีหน้าของจี้จิ่งเชินได้ไม่น่าดูแล้ว และได้กังวลว่าพวกเขาจะไม่ระวัง ปืนได้ลั่นไกผิดพลาด เป็นอันตรายไปถึงเวินเที๋ยนเที๋ยนจะทำยังไง?
เขาได้กำกำปั้นไว้แน่น มีความโกรธคละปนกันยุ่งอยู่บนใบหน้า
และอีกด้านหนึ่ง เฟิงหมิงมองปากกระบอกปืนที่ได้เล็งมาที่ตัวเองพวกนั้นตรงหน้าไว้ แต่กลับไม่ได้มีความลุกลี้ลุกลนเลยสักนิด แต่กลับได้ยกมุมปากขึ้น หัวเราะอย่างเย็นชาออกมาเสียงหนึ่ง
มือของเขาได้กดอยู่บนไกปืนอย่างแน่นหนา และได้เล็งเป้าไปยังทุกคนตรงหน้า จากนั้นก็ได้กดลงมาอย่างช้าๆ ในสายตาได้ทะลุรอยยิ้มออกมา
ปัง! เสียงดังเสียงหนึ่ง
ลูกกระสุนได้ปล่อยออกจากในปืน และได้บินเข้าไปทางนายตำรวจกี่คนตรงหน้าตรงๆ
ก็แม้ตำรวจก็คิดไม่ถึงว่า เฟิงหมิงจะใจกล้าเช่นนี้ ต้องจับกุม!
ในไม่ช้าก็ได้เริ่มตีโต้ตอบ
เป็นฉากยิงตอบโต้กันฉากหนึ่ง ในเวลาเดียวกันก็ได้ลากฉากโหมโรงออกแล้ว
เฟิงหมิงด้านหนึ่งได้ยิงปืน อีกด้านหนึ่งก็ได้เลี่ยงหลบ
กระสุนและดินระเบิดปืนตรงข้ามด้านหน้า เวินเที๋ยนเที๋ยนทำได้เพียงถูกบีบให้คุกเข่าลงมา หลบเลี่ยงการรุมโจมตีที่มาจากด้านตำรวจ
และจี้จิ่งเชินที่อยู่ทางด้านหนึ่งได้เห็นถึงท่าทางของเธอ และได้มีสถานการณ์ที่จิตใจว้าวุ่นอย่างถึงที่สุด
“หยุด! ใครก็ห้ามยิงปืน ก็ล้วนหยุดมือให้ฉัน!”
น้ำเสียงตำหนิที่เฉียบขาดของเขาดังขึ้นมา แต่น้ำเสียงของเขากลับไม่สามารถปกคลุมเสียงปืนไว้ได้ สถานการณ์ตอนนี้ได้เต็มไปด้วยความวุ่นวาย
มือคู่ของเวินเที๋ยนเที๋ยนได้ถูกผูกไว้แน่นบนรถ ก็แม้คิดต้องการจะหนี เดิมทีก็ไร้วิธี
นำตรวจมากมายที่อยู่ตรงข้าม เฟิงหมิงกับบอดี้การ์ดสองคนก็ได้ตกอยู่ในสถานการณ์เป็นรองอย่างรวดเร็ว และได้เปลี่ยนทิศทางหัวรถคิดต้องการที่จะหลบหนี
เขาควบคุมการหมุนตัวของรถไว้ คาดไม่ถึงว่าก็เตรียมพร้อมที่จะนำรถกี่คนนั้นที่ได้อุดตันอยู่ตรงปากทางชนเข้าไปตรงๆ!
สังเกตเห็นถึงความตั้งใจของเขา เวินเที๋ยนเที๋ยนคือยิ่งถูกทำให้ตกใจจนหายใจไม่ออก!
พวกเขาใช้รูปแบบรถเก๋งที่เดิมทีก็เล็กมาก อยู่ภายใต้การขับที่โคลงเคลงของเฟิงหมิงได้พุ่งเข้าไปทางด้านหน้า
ปังเสียงหนึ่ง ชนไปอยู่บนรถบรรทุกคันใหญ่นั้นที่อยู่ตรงหน้าแล้ว
รถบรรทุกไม่ได้ขยับเลยแม้แต่น้อย
แต่เฟิงหมิงก็ไม่ได้ยอมแพ้ เขากัดฟันสู้ ถอยหลังไปอีกครั้ง จากนั้นก็ใช้ความรวดเร็วที่เร็วยิ่งกว่าพุ่งชนเข้าไปแล้ว!
ชนไปแล้วสี่ห้าครั้งพอดี ในที่สุดถึงได้นำรถบรรทุกชนออกไปแล้ว และได้ปรากฏให้เห็นถึงซอกเส้นหนึ่งออกมา
รถสองคันได้ลื่นไถลมีควันดำพุ่งออกไปแล้ว
จี้จิ่งเชินโกรธอย่างถึงที่สุด
หากว่าไม่มีตำรวจพวกนี้ก่อกวนให้เกิดเรื่องจวนตัวออกมาแล้วละก็ เวลานี้เขาก็ช่วยเวินเที๋ยนเที๋ยนกลับมาได้แล้ว!
“สมควรตาย”
เขาได้ด่าสาปแช่งไปแล้วเสียงหนึ่ง จากนั้นก็ได้ขึ้นรถอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ได้สั่งคนขับรถให้รีบไล่ตามไป
แต่ในที่สุดพวกตำรวจที่ได้สามารถหาหลักฐานของเฟิงหมิงเจอแล้วก็ไม่ยอมเลิกราเพื่อยุติเรื่องราว ได้ตามขึ้นรถ ไล่ตามขึ้นไป
กำลังของคนสามฝ่ายได้ไล่ล่ากันอย่างดุเดือดอยู่บนทางวนรอบภูเขา
ภูเขาที่สูงและชันที่นี่ มีอาณาเขตติดกับหน้าผาที่สูงชัน หากว่าไม่ระวัง ทุกเวลาจากบนถนนสามารถคว่ำลงไปสู่หน้าผาสูงชันได้!
จี้จิ่งเชินไล่ตามจนอกสั่นขวัญแขวน กังวลว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนจะถูกเฟิงหมิงพาไป ก็กลัวว่าตัวเองจะไล่ตามจนรุนแรงเกินไป ทำให้เฟิงหมิงที่อยู่แนวหน้าได้มีจิตใจว้าวุ่น ไม่สนใจความปลอดภัย และได้พุ่งจากบนถนนลงสู่หน้าผาสูงชัน
เฟิงหมิงจะตายหรือจะมีชีวิต เดิมทีเขาก็ไม่สนใจ
สิ่งเดียวที่เขาสนใจคือความปลอดภัยของเวินเที๋ยนเที๋ยน
ก็แม้ว่าเอาทุกสิ่งบนโลกก็มากอบไว้อยู่ตรงหน้าของเขา ก็ไม่สู้กับเส้นขนบนผิวหนังของเวินเที๋ยนเที๋ยนเพียงเส้นเดียว
ร่างกายของจี้จิ่งเชินได้ขึงตึง มือคู่ได้กุมแน่นกลายเป็นกำปั้น และได้ชนอยู่บนหัวเข่า
ริมฝีปากบางๆได้เม้มแน่น ในสายตาก็มีไฟโกรธที่กำลังเผาไหม้ลุกโซน
เขาสาบาน ขอเพียงแค่ช่วยเวินเที๋ยนเที๋ยนกลับมา หลังจากที่ได้จับเฟิงหมิงไว้ได้ จะต้องทำให้เขาได้ลิ้มรสถึงความเจ็บปวดที่คิดไม่ถึงอย่างเด็ดขาด!
นี่ก็คือของแลกเปลี่ยนที่ลักพาตัวเวินเที๋ยนเที๋ยนไป!
ตอนที่คิด จี้จิ่งเชินก็ไร้หนทางในการควบคุมความโกรธที่อยู่ในใจ จากนั้นก็ได้ยกมือ ฝ่ามือหนึ่งก็ได้ทุบไปบนประตูรถตรงๆ!
ปัง! เสียงหนึ่ง เหล็กที่ควบคุมประตูรถก็ได้ส่งเสียงดังออกมา ร่องรอยหนึ่งจากการถูกทุบก็ได้เห็นได้ชัดออกมา
ชั่วขณะคนขับรถก็ได้ตกใจจนสั่นไปแล้วครู่หนึ่ง และยังคิดว่าจี้จิ่งเชินทำให้เขาเพิ่มความเร็วให้เร็วขึ้นอีก จากนั้นขาหนึ่งก็ได้เหยียบไปที่คันเร่ง ความเร็วของรถได้สูงขึ้นอีกครั้ง และได้พุ่งออกไปแล้วทันที
สายตาที่มองก็ต้องการที่จะไล่ตามรถของเฟิงหมิงที่อยู่ตรงหน้าขึ้นไป คนกี่คนก็คล้ายกับว่าก็รู้สึกได้ถึงการเคลื่อนไหวทางด้านหลังที่ไม่หยุดที่จะเพิ่มความเร็ว ประจวบกับได้พบกับทางเลี้ยวโค้ง รถก็ได้เอียงจนเกือบจะพุ่งชนออกไปแล้ว
ยังดีที่เฟิงหมิงเคลื่อนที่ได้ทันเวลา และได้เปลี่ยนทิศทางพวงมาลัยรถยนต์ ล้อรถที่เสียงอันตรายจึงได้แฉลบผ่านไปจากทางด้านถนนทางหลวง และได้หมุนกลับมาแล้ว
ฉากนี้ได้มองเห็นอยู่ในสายตาของจี้จิ่งเชินที่อยู่ทางด้านหลัง ยิ่งไปกว่านั้นคือแม้แต่ใจก็ได้ยกไปถึงลำคอ จนแทบจะหยุดแกว่งแล้วในชั่วพริบตา
และได้หยุดหายใจไปชั่วคราว ไม่ง่ายที่จะรอจนถึงรถของเวินเที๋ยนเที๋ยนได้กลับถึงเขตบริเวณที่ปลอดภัย ในที่สุดจึงอดไม่ได้ที่จะดุด่าเสียงดังขึ้นมา
“นายทำอะไร? เร็วเกินไปแล้ว! เอาระดับความเร็วลดลงมา!”
คนขับรถได้จอดแล้ว ในใจไม่เข้าใจจี้จิ่งเชินที่ไม่ให้เขาไล่ตาม แต่กลับยังต้องการให้เขาช้าลงมา
แต่ว่ายังคงได้ฟังคำพูดของจี้จิ่งเชิน และได้ค่อยๆลดระดับความเร็วลงแล้ว
สายตามองไปที่รถของเฟิงหมิงกับบอดี้การ์ดที่ยิ่งไปยิ่งไกลไว้ คิ้วคู่ของจี้จิ่งเชินก็ได้ขมวดแน่นอีกครั้ง จากนั้นก็ได้เร่งรัดขึ้นมา
“รีบเพิ่มความเร็ว!”
คนขับรถได้ยินแล้วก็ได้ร้องโอดครวญไม่หยุด
ไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วจี้จิ่งเชินต้องการทำอะไร อีกเดี๋ยวก็ให้เขาเพิ่มความเร็ว อีกเดี๋ยวก็ให้เขาลดความเร็ว
บนถนนทางหลวงวนรอบภูเขาที่ซับซ้อน เป็นฉากหนึ่งที่กำลังแสดงการสู้รบไล่ตามที่ดุเดือด
ที่ตรงหน้าสุดเป็นรถเก๋งที่คับแคบขนาดเบาสองคัน รีบร้อนที่จะหลบหนี
ทุกครั้งที่เลี้ยวโค้ง ก็ได้มีความไม่สามารถคาดเดากับความอันตรายได้
ที่ตามอยู่ด้านหลัง ก็เป็นจี้จิ่งเชินกี่คน
ด้านหลังสุดเป็นรถตำรวจเจ็ดแปดคัน เสียงของรถตำรวจได้ดังกังวานไม่หยุดไปทั่วภูเขา
กี่ครั้งได้มีความอันตรายจากการตกลงไปยังหน้าผาสูงชันอยู่บ้าง ทำให้สีหน้าของเวินเที๋ยนเที๋ยนได้ขาวซีดแล้ว หัวใจก็ได้หยุดชั่วคราวตามไปกี่ครั้งแล้ว
เธอต่อสู้ดิ้นรนไม่หยุด คิดต้องการที่จะปลดปล่อยมือที่ผูกติด
เฟิงหมิงที่อยู่ด้านข้างด้านหนึ่งได้ขับรถ อีกด้านหนึ่งได้ติดตามสังเกตสถานการณ์ทางด้านหลังไว้
เมื่อหันหัวก็ได้พบกับการเคลื่อนไหวเล็กๆน้อยๆของเวินเที๋ยนเที๋ยนแล้ว จากนั้นก็ได้นำคนดึงฉุดกลับมาตรงๆแล้ว
“เธอยังคิดที่จะวิ่งหนี? เป็นไปไม่ได้! ก็แม้ว่าฉันตายแล้วก็ต้องการเธอไปด้วยกันกับฉัน!”
เขาถลึงตาโต ดวงตาคู่ได้มีสีแดง เบ้าตาที่โกรธเกรี้ยวดูเหมือนจะแยกออก ก็ไม่ยอมปล่อย
มือหนึ่งได้ลากเวินเที๋ยนเที๋ยนไว้ อีกมือหนึ่งด้านหนึ่งถือปืนไว้ และยังต้องการที่จะควบคุมพวงมาลัยรถยนต์ไว้ กำลังเคลื่อนที่ไปมาอยู่ที่ถนนภูเขาที่ซับซ้อน
เพราะว่ามีเพียงมือเดียวในการควบคุมรถทั้งคัน จึงทำให้มีกี่ครั้งที่เกือบจะตกลงไปจากบนหน้าผาสูงชัน ล้อยางครึ่งล้อก็ได้ห่างออกไปอยู่ด้านนอก
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้กลั้นลมหายใจ ไม่กล้าที่จะต่อสู้ดิ้นรนอีก เกรงกลัวว่าการใจร้อนของเฟิงหมิง จะตกหล่นลงไปแล้วตรงๆ
ภาพวาดของความใจหายใจคว่ำนี้ ได้ตกอยู่ในสายตาของจี้จิ่งเชินที่อยู่ทางด้านหลัง ทำให้เขายิ่งรู้สึกว่าตายไปก็ยังดีกว่า
สายตาได้มองคนกี่คนของเฟิงหมิงไว้ ในที่สุดก็ได้ออกจากระยะทางกี่เส้นที่อันตรายที่สุดแล้ว เขาไม่ต้องการที่จะกลัวลนลานอีกต่อไป จากนั้นก็ได้ออกคำสั่ง
“เร่งระดับความเร็วให้เร็วขึ้น!”