เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 514
ล้าแข่งมั้ย
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินแล้ว กลางคิ้วขมวดแน่นเข้าไปอีก
“เรียกนักข่าวมาทำไม?”
เพิ่งพูดจบ ก็ได้ยินเสียงที่ส่งมาจากด้านนอก อย่างอึกทึกครึกโครม
สีหน้าของจี้จิ่งเชินเยือกเย็น
“ด้านนอกมีเรื่องอะไรกัน?บอดี้การ์ดล่ะ ให้พวกเขาเข้ามาแบบนี้ได้อย่างไร?”
พ่อบ้านรีบอธิบายอย่างรวดเร็ว:“นักข่าวพวกนั้นถือกล้องอยู่ในมือ ถ้าไม่ให้เข้า พวกเขาก็จะถ่ายภาพไปเปิดเผย บอดี้การ์ดก็หมดหนทาง ตอนนี้ก็ใกล้จะถึงหน้าประตูแล้ว”
ได้ยินแล้ว เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว เตรียมตัวออกไปดู
เพิ่งก้าวขาออกมา กลับโดนจี้จิ่งเชินดึงไว้
“ไปทำอะไร?”
“หลีเจียเวยมาหาฉันแน่นอน ฉันออกไปดูหน่อย”
“ทานข้าวเช้าให้เสร็จก่อน” จี้จิ่งเชินพูดอย่างดึงดัน:“ไม่ทานข้าวเช้า เดี๋ยวจะทรมาน”
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองไปยังหน้าประตู เวลานี้แล้ว ยังมีกะจิตกะใจอะไรทานข้าวเช้า?
หล่อนเพิ่งจะโต้แย้ง พอหันหน้า กลับเห็นสายตาของจี้จิ่งเชินเต็มไปด้วยความแน่วแน่ ยืนกรานจะให้หล่อนอยู่ต่อ
เวินเที๋ยนเที๋ยนลังเลอยู่สองวินาที จึงค่อยๆนั่งกลับไป แล้วเริ่มทานข้าวเช้าอย่างรวดเร็ว
พอดีกับซาลาเปาที่ร้อนๆเข้าไปในปากอีก เลยโดนลวกจนเจ็บ
“อื้ม!”
หล่อนทำเสียงตกใจ ซาลาเปาที่อมไว้ในปาก ไม่รู้ว่าควรคายออกมา หรือว่ากลืนลงไปต่อ
จี้จิ่งเชินเห็นแล้ว ขมวดคิ้วทันที แล้วหยิกคางของหล่อนไว้ ดึงเวินเที๋ยนเที๋ยนเข้ามา
“คายทิ้ง”
เวินเที๋ยนเที๋ยนโดนลวกจนน้ำตาจะไหล
กลางคิ้วของจี้จิ่งเชินขมวดแน่นเข้าไปอีก
“คายทิ้ง!”
ดวงตาของเวินเที๋ยนเที๋ยนกลอกไปมา เสียงกลืนดังขึ้น เธอกลืนซาลาเปาที่อยู่ในปากลงไปโดยตรง
“กินแล้ว……” หล่อนพูด
คิ้วของจี้จิ่งเชินกลับยังไม่คลายออกมา
“อ้าปาก ผมดูหน่อย”
“ไม่เป็นไร……”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพูดอย่างเกรงใจ:“เพียงแค่โดนลวกนิดหน่อย”
“อ้าปาก!”
น้ำเสียงของจี้จิ่งเชินฟังดูรุนแรง เวินเที๋ยนเที๋ยนมุ่ยปาก ในที่สุดก็อ้าปาก
ในตาของจี้จิ่งเชินแสดงถึงความกังวล มองดูอย่างละเอียดแล้ว จึงหันหน้าไปสั่งกับพ่อบ้านว่า:“ต่อไปนี้ไม่ต้องทำอาหารที่ร้อนผ่าวอีก”
พ่อบ้านฟังแล้ว พูดไม่ออกในทันใด
ไม่เอาที่ร้อนผ่าว?
ทุกวันก็เป็นอาหารที่เย็นๆเหรอ?
แต่เมื่อเห็นสายตาของจี้จิ่งเชิน เขาทำได้เพียงพยักหน้า
“ครับ คุณผู้ชาย”
โดนลวกไปรอบหนึ่ง เวินเที๋ยนเที๋ยนเลยทำได้เพียงชะลอตัวลง กลับได้ยินเสียงนอกประตูที่ยิ่งอยู่ยิ่งดังขึ้นเรื่อยๆ
หล่อนขมวดคิ้วแน่น เต็มไปด้วยความกังวล
แต่จี้จิ่งเชินกลับไม่สะทกสะท้าน ทำอย่างกับว่าฝูงคนที่กำลังเอะอะอยู่ด้านนอกเป็นเพียงแค่อากาศ
เวินเที๋ยนเที๋ยนรีบร้อนอยากจะออกไปตรวจดู กลับโดนจี้จิ่งเชินดึงไว้ แล้วค่อยๆลิ้มลองรสชาติของอาหารต่อ
และก็เสียเวลาไปอีก20นาทีเต็มๆ จึงได้สิ้นสุดการทานอาหารเช้าที่แสนยาวนานในที่สุด
จี้จิ่งเชินช่วยเธอเช็ดปาก แล้วจึงพูดขึ้นว่า:“ไปเถอะ ผมจะออกไปพร้อมกับคุณ”
เขาเช็ดมุมปากอย่างเอื่อยเฉื่อย แล้วจึงบังคับวีลแชร์ไปยังหน้าประตู
แล้วตอนนี้ นักข่าวหลายคนที่เข้ามาอย่างเอะอะตลอดทาง เดินอยู่หน้าประตูตั้งแต่20นาทีที่แล้วแล้ว ถึงแม้พวกเขาจะสามารถข่มขู่บุกรุกเข้ามาได้ตลอดทาง แต่ว่าเมื่อถึงหน้าประตู ก็ยังคงโดนเหล่าบอดี้การ์ดกันไว้ เข้าไม่ได้อยู่ดี เพราะฉะนั้นจึงได้เอะอะไม่ขาดสาย
เมื่อเวินเที๋ยนเที๋ยนออกมา เห็นว่านักข่าวหลายคนถือไมโครโฟนอยู่ในมือ กล้องด้านหลังก็ยังถ่ายภาพในเวลานี้ไว้
นึกไม่ถึงว่าพวกเขากำลังออกอากาศสด!
นักข่าวคนหนึ่งกำลังพูดอยู่หน้ากล้องว่า:“พวกเรารออยู่นอกปราสาทโบราณของตระกูลจี้แล้ว20นาทีเต็มๆ แต่ว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนกลับยังไม่ปรากฏตัว หรือว่าจะเป็นเหมือนที่เพื่อนในโซเชียลพูดจริงๆ เธอไม่กล้ายอมรับการท้าทายเหรอ?”
“บอดี้การ์ดไม่ให้พวกเราเข้าไป เลยไม่สามารถรับรู้ได้ถึงความคิดที่แท้จริงของเวินเที๋ยนเที๋ยน ไม่รู้ว่าเธอมีความกล้าที่จะปรากฏตัวออกมารึเปล่า”
แล้วตรงอีกด้านหนึ่ง สองมือของหลีเจียเวยกอดอกไว้ มองดูเรื่องตลกตรงหน้าด้วยความพึงพอใจ
นักข่าวพวกนี้เธอเป็นคนหามาทั้งหมด เมื่อมีคนพวกนี้ช่วยเหลือ ก็ไม่กลัวเวินเที๋ยนเที๋ยนจะไม่ตกลง
กำลังคิดไป หลีเจียเวยก็กำหมัดไว้แน่น
นางต้องทำให้ให้จี้จิ่งเชินรู้ให้ได้ ว่าตัวเองดีกว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนน่นอน!
ไม่ว่าจะเป็นด้านไหน ก็อยู่เหนือกว่าเธอ
แล้วตอนนี้ นักข่าวพวกนั้นก็เห็นการมาถึงของเวินเที๋ยนเที๋ยนแล้ว และเต้นตื่นขึ้นมาในทันที
“เวินเที๋ยนเที๋ยน!เวินเที๋ยนเที๋ยนมาแล้ว!”
ผู้คนมากมาย พวกเขาอยากพุ่งเข้าไป แต่ว่าโดนบอดี้การ์ดกันไว้
แต่ว่ายังคงยื่นมือออกไป อยากที่จะยื่นไมโครโฟนในมือไปอยู่ข้างหน้าเวินเที๋ยนเที๋ยน
“คุณหนูเวิน สำหรับจดหมายท้าทายในครั้งก่อน การตอบกลับของคุณคืออะไร?คุณจะยอมรับการท้าทายมั้ย?”
“คุณหนูเวิน คุณคือนักบูรณะเครื่องเคลือบดินเผาที่เป็นยอดฝีมือ ในความคิดของคุณ เทคนิคในการซ่อมแซมแจกันทรงกลมชิ้นนั้นเป็นเช่นไร?”
“ข้างนอกพูดกันว่า คุณกลัวตัวเองแพ้แล้วภาพลักษณ์จะเสียหาย ถึงได้หลีกเลี่ยงจดหมายท้าทายฉบับนั้น ขอถามหน่อยว่าใช่เรื่องจริงรึเปล่า?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนขมวดคิ้ว กำลังฟังพวกนักข่าวตรงหน้าต่างก็ถามอยู่
สายตาค่อยๆยกสูงขึ้น มองไปยังหลีเจียเวยที่ยืนอยู่ด้านหลัง
เห็นรอยยิ้มอันพึงพอใจที่เผยออกมาบนหน้านาง บางที นางคิดว่าแจกันทรงกลมชิ้นนั้นนางเป็นคนซ่อมแซมเองจริงๆ?
คิดไม่ถึงว่าจะเสนอข้อเรียกร้องแบบนี้ออกมา นี่มันแกว่งเท้าหาเสี้ยนจริงๆ
จี้จิ่งเชินที่อยู่ด้านหลังเห็นนักข่าวทั้งกลุ่มล้อมเวินเที๋ยนเที๋ยนอยู่ น้ำเสียงทิ่มแทงกระทบกระทั่ง ทั้งยังปากดี ก็รู้สึกไม่พอใจขึ้นมาทันที
“หุบปากให้หมด!”
เสียงแห่งความโกรธก็ดังขึ้นในทันที ทุกคนก็สงบลง เงียบสงบไร้เสียงใดๆ แม้เข็มหล่นลงมายังได้ยิน
เมื่อเห็นจี้จิ่งเชินอยู่ข้างเวินเที๋ยนเที๋ยน นักข่าวพวกนั้นถึงกับหน้าเปลี่ยน ค่อยๆเปลี่ยนสี ไม่กล้าพูดอีก
พวกเขาเกือบลืมไปแล้ว ว่าที่นี่มันเป็นพื้นที่ของจี้จิ่งเชิน
โลกอันกว้างใหญ่ นอกจากตระกูลเวิน ใครกล้าไปยุ่งกับจี้จิ่งเชิน?ไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อแล้วเหรอ?
เห็นเขาอารมณ์ไม่ดี เลยไม่มีใครกล้าพูด
แล้วหลีเจียเวยที่ยืนอยู่ข้างๆก็เดินขึ้นมาตอนนี้
“คุณจี้”
นางเผยให้จี้จิ่งเชินเห็นถึงรอยยิ้มที่ตัวเองคิดว่าสมบูรณ์แบบ แล้วหันหน้าไปมองเวินเที๋ยนเที๋ยน สายตาเปลี่ยนเป็นเฉียบคมขึ้นมาไม่น้อย
“เวินเที๋ยนเที๋ยน ฉันจะแข่งขันกับคุณ”
นางก้าวขึ้นไปข้างหน้า เงยหน้าขึ้น ราวกับนกยูงที่หยิ่งยโส
“รายการในวันนั้นคุณน่าจะดูแล้วใช่มั้ย? คุณจะยอมรับหรือว่าไม่ยอมรับ?”
พูดจบ นางยังกลัวว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนจะคัดค้าน ยิ้มแล้วพูดว่า:“แน่นอน ถ้าคุณกลัวว่าตัวเองจะแพ้ล่ะก็ สามารถที่จะยอมแพ้ได้ตอนนี้ จะได้ไม่ขายหน้าตัวเองเมื่อถึงเวลาที่ขึ้นรายการ”
เดิมทีเวินเที๋ยนเที๋ยนยังไม่อยากเข้าไปมีส่วนร่วมในเรื่องพวกนี้ เมื่อได้ยินคำนี้ กลับเปลี่ยนใจขึ้นมา
“คุณแน่ใจขนาดนี้ ว่าฉันต้องแพ้เหรอ?”
เธอพูดขึ้นมา เต็มไปด้วยความมั่นใจ
หลีเจียเวยเห็นแล้ว กลับขมวดคิ้ว สังเกตดูท่าทีของเวินเที๋ยนเที๋ยนอย่างละเอียด ความคิดกำลังหมุนอย่างรวดเร็ว
แจกันทรงกลมชิ้นนั้น ผ่านการแนะนำของคนอื่น เอามาจากในมือของเฟิงหมิง
ตอนที่เพิ่งเอามาอยู่ในมือ รอยร้าวบนแจกันส่วนใหญ่ก็ถูกซ่อมแซมแล้ว เหลือแค่งานปิดท้ายสุดท้ายที่ง่ายๆ
แม้จะไม่รู้ว่านักบูรณะคนก่อนทำไมถึงได้เลิกทำกะทันหัน แล้วฝ่ายตรงข้ามก็เคยพูดว่า คนๆนั้นไม่มีทางที่จะเปิดเผยตัวตนของตัวเอง
ก็เพราะสาเหตุนี้ นางถึงได้เหิมเกริมขนาดนี้ เอาความดีความชอบทั้งหมดเข้าตัวเอง
เพื่อสิ่งนี้ นางยังเชิญปรมาจารย์มาสำรวจตรวจชมแล้วโดยเฉพาะ เทคนิคการซ่อมแซมของแจกันชิ้นนั้นสูงมาก เทียบเคียงได้กับท่านเปิงและปรมาจารย์ซ่อมแซมกลุ่มหนึ่ง สามารถที่จะบดขยี้เวินเที๋ยนเที๋ยนได้อย่างแน่นอน
จนกระทั่งหลังจากจุดนี้ นางก็พูดถึงข้อเรียกร้องในการท้าทายท่ามกลางผู้จัดรายการทันที เพื่อจะฆ่าความโอ่อ่าของเวินเที๋ยนเที๋ยน