เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 517
บทที่ 517 ซ่อมแซมหรือว่าต่อจิ๊กซอว์
“ดีมาก!”
ได้ยินคำตอบของเวินเที๋ยนเที๋ยน ท่านอาจารย์ดีใจจนเกือบจะกระโดดขึ้นมาจากพื้น
ตอนแรกที่เขายินยอมสอนเวินเที๋ยนเที๋ยนเกี่ยวกับความรู้ด้านโลหะ เพียงเพราะเห็นว่าตัวเธอมีความดื้อรั้น ถึงได้มีจิตใจที่เกิดความสงสาร
แต่คิดไม่ถึง ว่าการกระทำอันเล็กน้อยของเขาในตอนนั้น กลับยังช่วยตัวเขาเอง
ท่านอาจารย์ดึงเวินเที๋ยนเที๋ยนไว้
“พวกเราเดินทางกันตอนนี้เลย”
เวินเที๋ยนเที๋ยนถูกเขาดึงไปข้างหน้าหลายก้าวอย่างไม่รู้จะทำอย่างไร ใช่หรือไม่ว่า นักบูรณะวัตถุโบราณทุกคน คือเฒ่าทารก?
เธอพูดอย่างรวดเร็ว:“เพียงแต่ทักษะการซ่อมแซมโลหะของฉันฉันเรียนรู้ด้วยตัวเองทั้งหมด มืออาชีพไม่พอ”
“อันนี้ไม่เป็นไร มีอะไรที่ขาดตกบกพร่อง ถึงเวลาฉันค่อยสอนคุณ”
พูดจบ ก็ดึงเวินเที๋ยนเที๋ยนออกไปด้านนอกแบบไม่หยุดสักก้าว ท่านเปิงพูดขึ้น ทันใดนั้นก็ตื่นเต้นเล็กน้อย รีบร้อนตามขึ้นมา
“ไอ่เฒ่า นายฟังไว้ให้ดีนะ นี่เป็นลูกศิษย์ของฉัน!นายอย่าแย่ง! เป็นของฉัน!”
เขาพูดซ้ำหลายรอบ แต่ไม่มีเสียงตอบรับจากท่านอาจารย์ เลยกังวลขึ้นมาทันที
“จริงๆเลย ไม่ง่ายเลยที่จะหาลูกศิษย์ได้คนหนึ่ง กลับมีคนมากมายขนาดนี้มาแย่ง!ตัวเองไม่มีเหรอ? ไปหาเองคนหนึ่งไม่ได้เหรอ?”
พูดไป ก็ยิ้มแบบได้ใจขึ้นมา
“แต่ว่า จะหาลูกศิษย์ที่ดีแบบเวินเที๋ยนเที๋ยนได้มันยากจริงๆ งั้นยืมพวกเขาไปใช้ชั่วคราวก็แล้วกัน”
พูดจบ เขาก็ฮัมเพลงอย่างได้ใจ หันหลังเดินเข้าห้องนอน อีกด้านหนึ่ง เวินเที๋ยนเที๋ยนถูกท่านอาจารย์พามาถึงพิพิธภัณฑ์ราชวังแห่งชาติโดยตรงแล้ว ใช้เป็นห้องทำงานในการซ่อมบำรุงวัตถุโบราณโดยเฉพาะ
เมื่อเข้าประตูมา ก็ปะทะกับต้นทองสัมฤทธิ์ที่วางอยู่ศูนย์กลางตรงหน้า
ต้นสูงสามเมตร ที่พื้นฐานเป็นรากต้นไม้ กิ่งก้านทองสัมฤทธิ์ด้านบนสลับไปมา มีที่พำนักของนกอยู่บนนั้น เหมือนกับต้นไม้ที่เขียวชอุ่มกิ่งหนึ่ง
เคร่งขรึมน่าเกรงขาม แปลกประหลาดอย่างมาก
ท่านอาจารย์ข้างๆอธิบายว่า:“นี่เป็นผลิตภัณฑ์ยุคซาง ประวัติยาวนาน”
เขาพูด เวินเที๋ยนเที๋ยนเข้าไปมองดูอย่างละเอียด พบว่าที่ลับหลายที่บนเครื่องทองสัมฤทธิ์ ยังหลงเหลือร่องรอยเล็กๆบางส่วนที่เคยถูกซ่อมแซมแล้ว
แต่ดูโดยรวมแล้ว ของพวกนี้ได้รับการซ่อมแซมและเข้าใกล้ความสมบูรณ์แล้ว
อย่างเดียวที่ยังไม่พอ ก็น่าจะเป็นด้านบนที่น่าจะแขวนใบเซรามิกไว้หลายร้อยใบ ยังไม่ได้เชื่อมต่อขึ้นไป
เวินเที๋ยนเที๋ยนกำลังสำรวจอยู่ ท่านอาจารย์ก็กวักมือให้หล่อนกะทันหัน
“เที๋ยนเที๋ยน คุณมานี่ ฉันจะช่วยแนะนำอาจารย์หลายๆท่านให้”
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองไป
เพื่อซ่อมแซมต้นทองสัมฤทธิ์ที่ใหญ่มากต้นนี้ ราชวังรวบรวมปรมาจารย์ในการซ่อมแซมมาหกคน ทุกคนก็มีฝีมือดีในแวดวง
เมื่อก่อนเวินเที๋ยนเที๋ยนเคยเห็นแค่ในนิตยสารและในเทปเท่านั้น ตอนนั้นเคยเห็นรูปร่างของพวกเขา เวลานี้ตัวจริงกลับยืนอยู่ตรงหน้า ทำให้เธอมีความตื่นเต้นเล็กน้อย
แต่พวกปรมาจารย์แค่ค่อยๆเงยหน้ามองเธอ ใบหน้าไม่มีอารมณ์อะไร แล้วก็ก้มหน้าทำงานต่อ
เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกผิดหวังในใจ กำลังจะหันหน้า ท่านอาจารย์ก็เอาจานใบหนึ่งยัดใส่ในมือเธอกะทันหัน
หล่อนก้มมอง เห็นแค่ในจานเต็มไปด้วยเศษชิ้นส่วนสีเขียว
“นี่ก็คือใบไม้บนต้นทองสัมฤทธิ์ต้นนั้น” ท่านอาจารย์พูด
“อะไรนะ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองเศษชิ้นส่วนของแผ่นเคลือบดินเผาสีเขียวในจานใหญ่นี้
นี่มันแตกจนละเอียดแล้ว
นี่ตกลงให้เธอมาซ่อมแซม หรือว่าให้เธอมาต่อจิ๊กซอว์?
ท่านอาจารย์รู้ว่าการซ่อมแซมของแบบนี้นั้นลำบาก ก็ยิ้มแบบลำบากใจ
“ขอร้องคุณล่ะ ถ้าหากต้องการความช่วยเหลือ พวกเราสามารถช่วยได้หมด เพียงแต่พวกเรามีความรู้ในเครื่องเคลือบดินเผาไม่พอ ทำได้แค่ช่วยคุณต่อออกมาก่อน”
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองไปรอบๆ เห็นว่าที่ท่านเปิงแนะนำเมื่อกี๊ เป็นนักซ่อมแซมด้านเครื่องโลหะหมดเลย
“นักบูรณะเครื่องเคลือบดินเผาในราชวังล่ะ?”
“ฮึ ไม่สบาย นอนโรงพยาบาล ถ้าไม่ใช่เพราะแบบนี้ พวกเราก็ไม่รีบร้อนขนาดนี้ อีกแค่ไม่กี่วัน ต้นทองสัมฤทธิ์ต้นนี้ก็จะออกแสดงแล้ว แต่ว่าถ้าคุณสามารถซ่อมเสร็จได้จริง พวกเราก็รับปากได้ว่าจะให้ของขวัญที่ดีชิ้นหนึ่งกับคุณ“
“ของขวัญอะไร?”
“เรื่องนี้จะต้องเก็บเป็นความลับ รอให้คุณซ่อมแซมเสร็จออกมาก่อนค่อยว่ากัน”
พูดจบ เขาก็เร่งให้เวินเที๋ยนเที๋ยนเริ่มงานเร็วๆ
“งานด้านเครื่องทองสัมฤทธิ์ของฉันก็เหลือนิดหน่อย คุณเริ่มก่อนได้เลย”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้า แล้วนั่งลงที่โต๊ะทำงานที่ว่างอยู่
มองดูเศษชิ้นส่วนมากมายที่อยู่ในจานตอนนี้ ถอนหายใจ แล้วเข้าสู่สภาวะโดยเร็ว คือเริ่มทำงาน
เมื่อเริ่มลงมือ เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ทำงานตลอดจนถึงกลางดึก
จนถึงท่านอาจารย์มาเตือน จึงได้เงยหน้าขึ้นในที่สุด
มองไปรอบๆ ทั้งห้องทำงานเหลือแค่ตัวเองกับท่านอาจารย์สองคน
“คนอื่นล่ะ?”
“ไปตั้งนานแล้ว เห็นคุณตั้งใจขนาดนี้ ก็เลยไม่เรียกคุณ งานปิดท้ายของเครื่องทองสัมฤทธิ์พวกเราก็เสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ก็รอแค่เครื่องเคลือบดินเผาของคุณแล้ว”
เวินเที๋ยนเที๋ยนฟังแล้ว หันหน้าไปมอง ก็เห็นว่าข้อบกพร่องเล็กๆบนเครื่องทองสัมฤทธิ์ในเมื่อก่อนก็ถูกซ่อมแซมใหม่เรียบร้อยแล้ว
ตอนนี้ก็เหลือเธอคนเดียวแล้ว
เวินเที๋ยนเที๋ยนมีความตึงเครียดกะทันหัน
“ขอโทษค่ะ ฉันเพิ่งเรียงเศษชิ้นส่วนของใบไม้พวกนั้นเสร็จ รอพรุ่งนี้……”
“อะไรนะ?”
ยังไม่ทันพูดจบ ท่านอาจารย์กลับอุทานขึ้นมาคำหนึ่ง
“คุณเรียงหมดแล้ว?เป็นไปได้อย่างไร!”
เขาพุ่งเข้ามาด้วยความไม่เชื่อ
นั่นมันใบไม้สี่ร้อยกว่าใบ แม้ว่าบางอันจะไม่เสียหาย แต่ว่าส่วนใหญ่ก็แตกเป็นสองสามท่อนแล้ว หรืออาจมากกว่านั้น
ที่จริงเขาคิดว่า วันนี้เวินเที๋ยนเที๋ยน
สามารถทำได้แค่หนึ่งส่วนสิบก็เก่งมากแล้ว แต่คิดไม่ถึงว่า เธอกลับใช้เวลาแค่วันหนึ่งก็เรียงเสร็จแล้ว?
เวินเที๋ยนเที๋ยนกลับไม่รู้สึกว่าแปลกอะไร แล้วพยักหน้า
“ที่ยากที่สุดยังอยู่ข้างหลัง รอให้……”
เธอยังไม่ทันพูดจบ เมื่อเงยหน้า เห็นว่าท่านอาจารย์มองโต๊ะพวกนั้นด้วยใบหน้าแปลกใจ
บนโต๊ะห้าตัว เครื่องเคลือบดินเผาที่แตกละเอียดถูกต่อเรียบร้อยหมดแล้ว
ถ้าไม่ใกล้เข้ามา ยังคิดว่าถูกซ่อมแซมเสร็จแล้วนะ!
“ท่านอาจารย์?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนลองเรียกคำหนึ่ง ฝ่ายตรงข้ามจึงได้สติมาในที่สุด
“สุดยอด!” เขาพูดคำหนึ่ง:“นี่มันสุดยอดจริงๆ!ตกลงท่านเปิงขุดสมบัติล้ำค่านี้มาจากที่ไหนกันแน่?”
เขาขมวดคิ้วด้วยความสงสัย แล้วมองดูเวินเที๋ยนเที๋ยน ตัวเองก็อยากรับลูกศิษย์แล้ว……
แต่ว่า ยังไปหานักเรียนที่เหมือนเวินเที๋ยนเที๋ยนได้ที่ไหนอีก?
เวินเที๋ยนเที๋ยนถูกเขาชมจนเกรงใจเล็กน้อย แล้วรีบเข้าสู่เรื่องสำคัญ
“แต่ว่า ที่ยากที่สุดก็คือซ่อมแซมแผ่นเคลือบดินเผาพวกนี้”
เมื่อกี๊เขาได้จดบันทึกไว้ แผ่นเคลือบดินเผาปกติก็จำเป็นต้องซ่อมแซม
ท่านอาจารย์ฟังแล้ว ก็เข้าใจในความกังวลของเวินเที๋ยนเที๋ยนทันที
อีกสามวัน เธอก็ต้องเข้าร่วมแข่งขันในรายการแล้ว กำลังคิดอยู่ ก็ได้ยินเวินเที๋ยนเที๋ยนพูดขึ้น:“เพราะฉะนั้นฉันคิดว่า คืนนี้ฉันสามารถอยู่ต่อได้มั้ย?”
“เธอจะโต้รุ่ง?”
“ฉันอยากพยายามอีกหน่อย ลองดูว่าจะทำได้หรือไม่ ได้รึเปล่าคะ?”
“ก็ไม่ใช่ว่าไม่ได้” ท่านอาจารย์ขมวดคิ้วแล้วพูดว่า:“เพียงแต่ว่าเป็นห่วงร่างกายของเธอ แม้ว่านี่จะเป็นวัตถุโบราณชั้นหนึ่งของประเทศ มีค่ามาก แต่ว่าเธอก็น่าจะรักษาร่างกายตัวเองให้ดีกว่านี้”
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันทนไหว”
สายตาของเวินเที๋ยนเที๋ยนหนักแน่น ดึงดันที่จะทำแบบนี้ ท่านอาจารย์เลยทำได้เพียงพยักหน้า
“ในเมื่อนี่เป็นการตัดสินใจของคุณ งั้นก็อยู่ต่อเถอะ ฉันจะสั่งพวกเขาไว้ คุณไม่ต้องกังวล”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้าด้วยความตื่นเต้น
กำลังจะพูด แล้วกลับนึกขึ้นได้ว่า ตัวเองไม่ได้ติดต่อจี้จิ่งเชินเลย
เขาไม่รู้ว่าเธอไปที่ไหน น่าจะกังวลจนใจเสียแล้วแน่เลย