เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 872
บทที่872 ภารกิจที่ใหญ่ที่สุด
หลังจากที่จี้จิ่งเชินเห็นว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนกลับมาที่คฤหาสน์แล้ว ถึงแม้จะรู้สึกเซอร์ไพรส์มาก แต่กลับมีความกังวลอยู่มากด้วยเช่นกัน
คำพูดเหล่านี้เขาไม่ได้บอกกับเวินเที๋ยนเที๋ยน อย่างแรกคือกลัวว่าเธอจะคิดมาก และอย่างที่สองคือเขาทำใจไม่ได้จริงๆที่จะให้เที๋ยนเที๋ยนห่างไป
อยู่ที่คฤหาสน์ แม้จะเห็นใจเขา เขาเองก็ควรที่จะรั้งเธอไว้สิถึงจะถูก
อารมณ์ที่ดูขัดแย้งกันแบบนี้ พูดยากเสียจริงๆ
เวินเที๋ยนเที๋ยนพอจะเข้าใจความคิดของจี้จิ่งเชิน เขากลัวว่าเธอจะฝืนตัวเอง
“ฉันไม่ได้โทษพี่นี่คะ ฉันรู้ว่าที่พี่ทำไปทั้งหมดก็เพื่อฉัน”
เธอจับมือจี้จิ่งเชินขึ้นมา แล้ววางลงบนฝ่ามือของตัวเอง “ก่อนหน้านี้ความคิดของฉันรุนแรงมากเกินไป ความจริงแล้วเรื่องก่อนหน้านี้ เพียงแค่พวกเราคุยกันดีๆ ก็คงจะสามารถแก้ไขได้นะคะ”
การออกจากบ้านไปของเธอนั้นขาดการคิดพิจารณามากเกินไป เพราะไม่เพียงแค่จะเกิดอันตรายขึ้นเพียงเท่านั้น แต่จะยังเป็นการทำร้ายคนที่เป็นห่วงเธออีกด้วย
แม่ครัว พ่อบ้าน แล้วก็จี้จิ่งเชิน
หรือแม้กระทั่งพ่อแม่ของเธอ ก็อกสั่นขวัญหายเพราะเหตุนี้ด้วยเช่นกัน
เรื่องที่บ้าบิ่นแบบนี้ ต่อไปเธอจะไม่ทำอีกแล้ว
“คุณคิดแบบนี้จริงๆหรือ?”
จี้จิ่งเชินมองเวินเที๋ยนเที๋ยนอย่างคาดหวัง รอให้เธอตอบคำถามตัวเอง
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้าลงท่ามกลางแววตาที่จริงจังของเขา
“ต่อไปพวกเราจะอยู่ด้วยกันดีๆ ช่วยกันดูแลเจ้าตัวน้อยที่อยู่ในท้องของฉันนะคะ”
โอกาสที่จะมีชีวิตรอด40%อะไรนั่นไม่ต้องไปคิด แล้วก็ไม่ต้องเอ่ยพูดถึงอีกแล้วด้วยเช่นกัน
ก่อนหน้านี้เธอเคยเห็นข่าว คนป่วยหลายๆคนที่เป็นเพราะตัวเองสิ้นหวังมากเกินไป ถึงได้สูญเสียความมั่นใจในการที่จะมีชีวิตอยู่ต่อ
จนสุดท้ายแล้วก็ถูกอาการเจ็บป่วยที่รุนแรงนี้กลืนกินไปในที่สุด
เธอมีคนที่รักเธอมากมายขนาดนี้ แม้ต่อให้จะมีโอกาสมีชีวิตอยู่ได้เพียงแค่40% เธอเองก็เชื่อว่าตัวเองนั้นจะสามารถข้ามผ่านไปได้เช่นกัน
จี้จิ่งเชินมองเวินเที๋ยนเที๋ยนอย่างลึกซึ้ง จากนั้นก็ค่อยๆพยักหน้าลง “ผมรับปากคุณครับ”
ปมที่อยู่ในถูกปลดออกแล้ว เวินเที๋ยนเที๋ยนก็อิงแนบอยู่ในอ้อมกอดของจี้จิ่งเชิน แล้วรอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นตรงระหว่างคิ้ว
“ถ้าหากวันนี้ฉันไม่ได้พูดถึง พี่ก็จะคิดที่จะซ่อนความคิดนี้เอาไว้ไปแบบนี้ ไม่ให้ฉันรู้ใช่ไหมคะ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเอ่ยถามอย่างไม่สบอารมณ์เท่าไหร่นัก
ถ้าหากไม่บังเอิญพูดถึงเรื่องนี้ เธอก็คงจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าการกลับมาของตัวเอง จะทำให้จี้จิ่งเชินเซอร์ไพรส์อย่างไม่คาดคิดเช่นนี้ และยังมีความกังวลมากขนาดนี้ด้วย
จี้จิ่งเชินลูบผมยาวๆของเธอ แล้วก้มลงแล้วจูบลงที่ปลายผมของเธอ ถึงได้พยักหน้าลงเล็กน้อย
“ต่อไปมีอะไร ไม่ให้พี่ปิดบังฉันแล้วนะคะ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเอ่ยพูดขึ้นด้วยสีหน้าที่จริงจัง “เราเป็นสามีภรรยากัน ควรจะไม่มีเรื่องอะไรที่ไม่สามารถที่จะพูดคุยกันได้สิ ก่อนหน้านี้พี่ปิดบังเรื่องลูกกับฉัน ฉันถึงได้…….”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพูดออกมาไม่หมด
เธอไม่ได้อยากจะเอ่ยพูดถึงเรื่องเมื่อก่อน เพราะถึงอย่างไรสำหรับพวกเขาแล้ว เรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ทั้งหมดล้วนแต่ไม่ได้เป็นเรื่องที่มีความสุขนัก
ถึงแม้เธอไม่ได้เอ่ยออกมาทั้งหมด แต่จี้จิ่งเชินค่อนข้างจะมีความกระตือรือร้น แล้วเข้าใจความหมายที่ยังไม่จบนี้ของเธอทันที
เขารีบยอมรับผิดออกมา “ผมคิดไม่รอบคอบเอง…..”
“พี่ต้องพูดออกมาว่าต่อไปจะไม่ปิดบังเรื่องอะไรฉันอีกแล้วสิคะ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนจับมือเขา “รีบพูดให้ฉันฟังสิ”
“……….”
“พี่ไม่ได้มีเรื่องปิดบังฉันอยู่ใช่ไหมคะ?”
“ไม่มีแล้วครับ!”
จี้จิ่งเชินส่ายหน้า “ได้ครับ ผมรับปากคุณ ว่าต่อไปจะไม่มีเรื่องอะไรปิดบังคุณแล้ว”
สิ่งที่เขาจะรู้สึกกังวลทั้งหมดนั้นก็คือการคิดว่าเรื่องบางเรื่อง หากเวินเที๋ยนเที๋ยนรู้เข้าก็ไม่ใช่เรื่องดีอะไร
อย่างเรื่องที่เธอถูกเวินหงไห่ลักพาตัวไปก่อนหน้านี้ เขาสงสัยว่าเบื้องหลังจะยังมีหล่อนเจียนีอยู่ด้วยอีกคน แต่เขาไม่ได้บอกสิ่งที่เขาคาดเดานี้กับเวินเที๋ยนเที๋ยน
นั่นก็เพราะกังวลว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนจะคิดมาก แล้วจะรบกวนต่อการรักษาตัวของเธอ
“แต่ผมก็ยังต้องบอกเอาไว้ก่อนนะครับ ว่าเรื่องบางเรื่องให้ผมเป็นคนกังวลคนเดียวก็พอแล้ว ตอนนี้ภารกิจที่สำคัญที่สุดของคุณก็คือคลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัย”
จี้จิ่งเชินเน้นคำว่า “ลูก”
และเป็นอย่างที่คิด เวินเที๋ยนเที๋ยนถูกเขาพูดโน้มน้าวเข้าเสียแล้ว
“ไม่ยอมให้ปิดบังฉันแล้วนะคะ”
เธอเอ่ยขึ้นอย่างประนีประนอม
เพราะถึงอย่างไรตอนนี้ลูกก็เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
“อืม” จี้จิ่งเชินได้ยินเธอพูดแบบนี้แล้ว ก็รู้สึกวางใจด้วยเช่นกัน “ตอนนี้มีเรื่องใหญ่ที่อยากจะแจ้งคุณนายจี้ครับ”
แจ้ง? นี่เขาเห็นเธอเป็นผู้บังคับบัญชาการไปแล้วใช่ไหม?
เวินเที๋ยนเที๋ยนถูกเขาหยอกจนหัวเราะออกมา “พี่ว่ามาสิคะ”
“หลวนจื่อน่ะครับ เมื่อวานตอนที่เธอไปตรวจที่โรงพยาบาลกับหมินอันเกอ หมอบอกว่าตำแหน่งของทารกในครรภ์ผิดปกติเล็กน้อย และเนื่องจากเหลือช่วงเวลากำหนดคลอดเพียงแค่สี่สัปดาห์ ก็เลยจัดให้เธอนอนเพื่อรับการดูแลที่โรงพยาบาลเลย”
จี้จิ่งเชินบอกความจริงเรื่องที่หลวนจื่อเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลกับเวินเที๋ยนเที๋ยน
เวินเที๋ยนเที๋ยน : “…………..”
วันนี้ช่วงเช้าหลวนจื่อรู้สึกถึงลูกที่กำลังเคลื่อนไหว
ปกติแล้วอายุครรภ์หกถึงเจ็ดเดือน จะมีการเคลื่อนไหวเล็กน้อย นี่เป็นสภาพที่ปกติ
แต่ครั้งนี้รู้สึกลูกที่อยู่ในครรภ์นั้นเคลื่อนไหวรุนแรงกว่าก่อนหน้านี้มาก แม้กระทั่งรู้สึกถึงระดับความเจ็บอีกด้วย
สอบถามจากหมินอันเกอที่รีบมาแล้ว ดูสาหัสขึ้นมาในทันที แล้วรีบพาหลวนจื่อไปตรวจที่โรงพยาบาล
“หมอบอกว่าตำแหน่งทารกในครรภ์ไม่ตรง แต่เพียงเล็กน้อยเอง ไม่ได้มีผลกระทบหรอก”
หลวนจื่อกลัวว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนจะเป็นกังวล จึงรีบอธิบายกับเธอ : “หมินอันเกอตื่นเต้นเกินไปหน่อยเท่านั้น ความจริงแล้วไม่มีปัญหาอะไรมากหรอก”
ถึงแม้รู้ว่าหลวนจื่อจะพูดแบบนี้ เพื่อเป็นการปลอบใจตัวเองไม่มากก็น้อย
เวินเที๋ยนเที๋ยนถึงได้ค่อยๆรู้สึกวางใจ จึงพยักหน้าลง “ถ้าอย่างนั้นก็ดีแล้ว แต่ฉันว่าที่หมินอันเกอทำก็ถูกแล้วนะ ควรจะต้องระวังกว่านี้หน่อย”
หลวนจื่อใกล้จะคลอดแล้ว หมินอันเกอจะรู้สึกหวาดกลัวไปหมดแบบนี้ก็สามารถเข้าใจได้
ตัวเธอเองพอได้ยินว่าหลวนจื่อเข้าโรงพยาบาลนั้น ก็รีบมาทันทีเลยไม่ใช่หรือ?
หลวนจื่อพยักหน้าลงเล็กน้อย มองไปยังแววตาของเวินเที๋ยนเที๋ยนอย่างไม่เห็นด้วย “ร่างกายของเธอยังไม่ดีเลย ดูแล้วซูบไปกว่าฉันเสียอีก”
เธอลูบใบหน้าที่ซูบผอมของเวินเที๋ยนเที๋ยน “อยู่รักษาตัวที่บ้านดีๆนะ ไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องฉัน”
เวินเที๋ยนเที๋ยนปิดปากเงียบไม่พูดเลยซักคำ
จะให้ไม่เป็นกังวลได้ที่ไหนกัน หลวนจื่อจะคลอดอยู่แล้ว!
แต่ที่เธอกังวลก็ส่วนกังวล แต่ก็จะไม่แสดงออกมาให้หลวนจื่อรู้
ระหว่างที่พูดคุยกันอยู่นั้น เวินเที๋ยนเที๋ยนเหลือบไปเห็นจี้จิ่งเชินและหมินอันเกอปรากฎตัวอยู่ตรงหน้าประตูห้องพัก
แต่พวกเขาไม่ได้เข้ามา ดูเหมือนจะกำลังพูดคุยอะไรกันอยู่
หรือบางทีกลัวว่าจะรบกวนการพักผ่อนของหลวนจื่อ?
ก็คงใช่ ตอนนี้หลวนจื่อจำเป็นจะต้องพักฟื้นจริงๆ ตัวเองมาหาเธอ ถ้าหากส่งผลกระทบต่อเธอ ถ้าอย่างนั้นคงจะได้ไม่คุ้มเสีย
“หลวนจื่อ เห็นว่าเธอไม่เป็นอะไรฉันก็วางใจแล้วล่ะ” เวินเที๋ยนเที๋ยนจัดผมตรงหน้าผากแทนเธอ “เธอพักผ่อนอยู่ที่โรงพยาบาลดีๆแล้วกันนะ เดี๋ยวอีกสองวันฉันจะมาหาเธอใหม่”
แต่หลวนจื่อกลับส่ายหน้า พลางเอ่ยพูดแก้ตัวขึ้น : “ปัญหาของฉันไม่ใหญ่หรอก เธอนั่นแหล่ะ ที่ต้องอยู่พักผ่อนที่บ้านดีๆ ไม่ต้องออกไปไหนมาไหนทำให้ฉันต้องรู้สึกกังวล”
“แต่ว่า……..”
“ไม่ต้องแต่เลย ฉันใกล้จะคลอดแล้ว เธอยังจะให้ฉันมากังวลอีกหรือ?”
นัยน์ตาที่เป็นกังวลของหลวนจื่อนั้นปรากฎเข้าสู่ดวงตาของเวินเที๋ยนเที๋ยน ทำให้เธอไม่สามารถที่จะปฏิเสธความหวังดีของหลวนจื่อได้เลย
เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้ว่าหลวนจื่อกลัวว่าร่างกายของเธอจะไม่ดี ไปๆกลับๆจะทำให้เกิดอะไรขึ้นได้ง่าย
และก็เป็นเพราะว่ารู้ เธอถึงคิดเหตุผลที่จะปฏิเสธไม่ออก
“ก็ได้”
เวินเที๋ยนเที๋ยนจึงต้องยอม “แต่เธอต้องโทรมาหาฉันนะ ฉันได้ยินเสียงของเธอถึงจะวางใจ”
ได้ยินแล้ว หลวนจื่อจึงได้แต่มองเธออย่างจนปัญญา
“เที๋ยนเที๋ยน โทรศัพท์มือถือของฉันถูกอันเกอยึดเอาไปตั้งแต่แปดร้อยปีก่อนแล้ว”
เธอชี้ไปยังกระเป๋าที่ว่างเปล่าของตัวเอง