เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่ 1063 หักกระดูกพวกเขา
ทันทีที่เดินเข้าไป ก็เห็นจี้หยู๋ชิงนั่งอยู่ข้างในก่อนแล้ว ในมือถือนิตยสาร กำลังก้มหน้าอ่านอยู่ คิ้วขมวดกันแน่น
“จี้หยู๋ชิง มีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า?”
เมื่อได้ยินเสียง จี้หยู๋ชิงก็เงยหน้าขึ้น
เห็นว่าเป็นเวินเที๋ยนเที๋ยน ก็รีบยัดนิตยสารในมือวางไปบนที่นั่งของตัวเองแล้วนั่งทับมันเอาไว้ พร้อมส่ายหัว
เวินเที๋ยนเที๋ยนยิ่งคิ้วขมวด สงสัยมากขึ้นไปอีก
“เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ?”
เธอเดินเข้าไป แล้วยื่นมือออกมา “เอามาให้ฉันดู”
จี้หยู๋ชิงมองไปที่เวินเที๋ยนเที๋ยน ผ่านไปสักพัก ก็หยิบนิตยสารที่นั่งทับเอาไว้ออกมาอย่างจนใจ แล้วยื่นมันไปให้กับเวินเที๋ยนเที๋ยน
เวินเที๋ยนเที๋ยนรับมา แล้วเปิดดูนิตยสารนั้น
กวาดตามอง ตัวหนังสือที่พาดหัวสีแดงขนาดใหญ่ปรากฏตรงหน้า
——เวินเที๋ยนเที๋ยนติดสินบนกรรมการ การโกงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์!
ติดสินบน?
เวินเที๋ยนเที๋ยนขมวดคิ้ว เมื่อเห็นเนื้อหาข้างใน ก็ยิ่งไม่อยากเชื่อจนต้องเบิกตากว้างขึ้นอีก
“นี่มันเรื่องอะไรกัน?”
เธอหันหน้ามองไปยังพ่อบ้านและแม่ครัว ด้วยความประหลาดใจ
“พวกคุณรู้แต่แรกแล้ว ?”
มิน่าล่ะตอนที่ฉันลงมา พวกเขาถึงมีท่าทีแปลกๆ
พ่อบ้านพยักหน้าอย่างลำบากใจ
“นี่เป็นเนื้อหาข่าวของเช้าวันนี้ ตอนที่เห็น คุณผู้ชายให้เราอย่าบอกคุณ ไม่อยากให้คุณเป็นกังวล”
“และที่จี้จิ่งเชินเข้าบริษัท ก็เพื่อไปจัดการกับเรื่องนี้ ?”
“ครับ”พ่อบ้านตอบ :“แต่พวกเราทุกคนเชื่อว่าคุณนายไม่มีทางทำเรื่องแบบนี้แน่นอน พวกเขาต้องใส่ร้ายแน่ๆ ! อีกไม่นานความจริงจะปรากฏ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่ได้วางใจแบบที่พวกเขาเป็น
ในเมื่อข่าวนี้สามารถตีพิมพ์ลงในนิตยสารได้ ผลกระทบที่เกิดขึ้นน่าจะไม่น้อย และจี้จิ่งเชินก็ออกมารับหน้าด้วยตนเอง
“หม่าม้า……”
จี้หยู๋ชิงดึงไปที่ชายเสื้อของเวินเที๋ยนเที๋ยน ดวงตาเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด
เวินเที๋ยนเที๋ยนก้มหน้ามองไปที่เขา แล้วพูดว่า :“ไม่เป็นไร แม่ไม่โทษเรา เพียงแต่เรื่องที่เกิดขึ้นนี่มันยังไงกันแน่ ?”
สายตาของเธอจับจ้องมองไปที่ภาพถ่ายเหล่านั้น
ภาพถ่ายนั้นเป็นของจริง แต่ในตอนนั้น จางลัยยี่กับนิวมั้นกำลังพูดคุยอะไรกันอยู่ก็ไม่อาจรู้ได้
เวินเที๋ยนเที๋ยนหยิบมือถือออกมา แล้วเปิดดู Weibo วินาทีต่อมา โทรศัพท์ก็สั่นเป็นเจ้าเข้าขึ้นทันทีอย่างรวดเร็ว
จนเธอแทบจะจับมันเอาไว้ไม่ได้
กว่าจะรอให้ข้อความสงบลงได้ ข้อความทั้งส่วนตัวและอินบ็อกซ์ ก็เต็มไปหมด
เธอกำลังจะคลิกมันดู พ่อบ้านก็เข้ามา แล้วพูดด้วยความเป็นห่วงไปว่า :“คุณนาย ในนั้นมีแต่เรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง ทุกคนต่างก็ถูกหลอก”
ก่อนที่เวินเที๋ยนเที๋ยนจะลงมานั้น พวกเขาก็ได้เข้าไปดูแล้ว ในนั้นมีแต่คนด่าทอมากมายเต็มไปหมด
พวกเขากังวลว่าหากเวินเที๋ยนเที๋ยนเข้าไปดู จะทำให้ไม่สบายใจเปล่าๆ
“ไม่เป็นไร”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเปิดข้อความดู ในนั้นล้วนแต่เป็นคำด่าทอ
เดิมทีเธอคิดว่า เพียงรูปภาพสองใบไม่สามารถอธิบายอะไรได้ และรวมไปถึงในระหว่างการแข่งขัน เวินเที๋ยนเที๋ยนเองก็เจอกับปัญหามากมาย หลังจากที่คนดูได้เห็น ก็คงจะรู้ ว่าเธอไม่เคยทำเรื่องแบบนี้มาก่อนแน่นอน
แต่ไม่คิดว่า สิ่งเหล่านั้นในสายตาคนอื่น จะกลับกลายเป็นการสมรู้ร่วมคิด เพื่อต้องการความเห็นใจจึงทำเรื่องพวกนี้ขึ้น
เหตุผลเดียวก็คือ ในสถานการณ์แบบนั้น ไม่ว่าจะวิเคราะห์ยังไง ก็ไม่มีทางชนะได้!
เพราะเอาชนะไม่ได้ เวินเที๋ยนเที๋ยนจึงต้องติดสินบน
ภายใต้ตรรกะแบบนี้ เลยทำให้คนส่วนใหญ่หลงเชื่อ
แม้ว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนจะเตรียมใจมาก่อนแล้ว แต่เมื่อเห็นความคิดเห็นต่างๆเหล่านี้ ก็ยังรู้สึกหนักอึ้งเหมือนกัน
เมื่อแม่ครัวเห็น ก็พูดอย่างปวดใจว่า :“คุณนาย อย่าเศร้าไปเลย คนพวกนี้ใจร้อนเกินไป ผ่านไปสักพัก ความจริงก็จะกระจ่างเอง”
“ฉันไม่เป็นไร”
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองไปที่พวกเขาอย่างปลอบใจ แล้วพูดว่า:“ฉันสงสัยมากกว่า ว่าในภาพสองภาพนี้ นิวมั้นกับจางลัยยี่คุยอะไรกัน”
เธอและอาจารย์ฉู่ต่างก็สงสัยว่าเขาสองคนกำลังสมคบคิดกันทำอะไรบางอย่างอยู่ แต่ก็หาหลักฐานไม่ได้สักที มีรูปถ่ายพวกนี้ คงจะสืบอะไรได้บ้าง
ส่วนข่าวที่ไม่มีมูลความจริงแบบนี้ ภายในวันนี้ก็คงจะเงียบหายไป ?
แต่เหตุการณ์ก็ไม่ได้ราบรื่นอย่างที่เวินเที๋ยนเที๋ยนคิด
ตอนเที่ยง ก็มีอีกเรื่องเกิดขึ้น!
ในตอนที่ทุกคนกำลังพูดคุยถึงเรื่องของเวินเที๋ยนเที๋ยน จางลัยยี่ก็ออกมายอมรับกับสาธารณชนว่า แม้ว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนจะไม่ได้ติดสินบนคณะกรรมการ แต่เขาติดสินบนกับผู้ที่เข้าร่วมการแข่งขันกับเธอ หนำซ้ำเขายังเป็นคนไปเจรจาให้อีกด้วย
ภาพที่ถูกถ่ายได้ เป็นภาพที่เขากำลังพูดคุยปรึกษาเรื่องนี้กับนิวมั้น
แล้วเขายังยอมรับอีกว่า นอกจากติดสินบนผู้เข้าร่วมการแข่งขันแล้ว ในระหว่างการแข่งขัน ปัญหาต่างๆที่เวินเที๋ยนเที๋ยนเจอ อาทิเช่นเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบอย่างกะทันหัน ชิ้นงานที่แข่งขันถูกทำลายจนเสียหาย ทุกอย่างล้วนถูกควบคุมโดยเธอ เพียงเพื่อให้ทุกคนเห็นว่าเธอเก่งกาจ
ในตอนที่จางลัยยี่ชี้แจงนั้นก็ร้องไห้ไปด้วย ว่าเขาเองก็ไม่เต็มใจที่จะทำสิ่งเหล่านี้ แต่เพราะถูกข่มขู่จากจี้จิ่งเชินและเวินเที๋ยนเที๋ยน ไม่ทำตามก็ไม่ได้
เมื่อทุกคนเห็นข่าวนี้ ต่างก็เดือดดาลกันขึ้นมา !
จางลัยยี่ได้รับความนิยมมากในประเทศจีน และมีหลายคนก็ยกย่องเขาว่าเป็นปรมาจารย์
แม้แต่เขาเองยังพูดแบบนี้ แน่นอนว่าคงกลายเป็นประเด็นที่ทุกคนให้ความสนใจแล้ว !
เพราะคำชี้แจงของเขา ทำให้ผู้คนโกรธมากขึ้นไปอีก รู้สึกเหมือนตัวเองถูกหลอก และทุกคนก็เข้าWeiboเพื่อด่าทอสาปแช่งเวินเที๋ยนเที๋ยนมากขึ้นไปอีก
เดิมที่คิดว่าเรื่องนี้จะค่อยๆผ่านไป แต่ไม่คิดว่า เพียงคำพูดไม่กี่คำของจางลัยยี่ ก็ทำให้เกิดคลื่นลูกใหญ่อีกครั้ง !
ห้องทำงานของประธานกรรมการบริษัทเอ็มไอกรุ้ป
ใบหน้าของจี้จิ่งเชินมืดมน ในห้องทำงาน ก็มีเสียงของจางลัยยี่ดังก้องอยู่ตลอดเวลา
ดวงตาหรี่ลง มีไอเย็นไหลผ่าน จับจ้องมองไปยังร่างของจางลัยยี่ที่อยู่ตรงหน้าจอ ราวกับใบมีดคม จะเฉือนเนื้อเขาออกมา
หลังจากที่วิดีโอจบลง จงหลีที่ยืนอยู่ข้างๆก็ขมวดคิ้ว ถามด้วยความกังวลไปว่า :“ตอนนี้ทุกคนบนโลกอินเทอร์เน็ตต่างก็เชื่อในสิ่งที่จางลัยยี่ให้ข่าว ”
จี้จิ่งเชินประสานมือเข้าด้วยกัน ดวงตามืดมน
“แล้วเรื่องสื่อล่ะ?”
“ถึงแม้ก่อนหน้านั้นจะได้แจ้งไปแล้ว ว่าห้ามเผยแพร่เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว แต่ตอนนี้มันแพร่กระจายเป็นวงกว้าง ยิ่งไปกว่านั้นคือมันถูกเผยแพร่บนอินเทอร์เน็ต”
ในห้องก็เงียบลง ไม่มีเสียงอะไร
จงหลีหัวคิ้วชนกัน แล้วก้มหน้าลงอย่างประหม่า
ผ่านไปสักพัก จี้จิ่งเชินก็เอ่ยปากพูดออกมาว่า
“แล้วคนที่จับได้ในวันงานเหล่านั้นล่ะ ?”
“ถูกขังไว้แล้วครับ แต่พวกเขายังปากแข็ง ไม่ยอมปริปากพูดอะไร”
จี้จิ่งเชินลุกขึ้นยืน จับไปที่แขนเสื้อตัวเอง แล้วเดินออกไป
“งั้นก็ฉีกปากพวกมัน”
คำพูดที่เย็นชา ราวกับการนับถอยหลังสู่ความตายที่มืดมิด
ทันทีที่เสียงเงียบลง เสียงปังก็ดังขึ้น ประตูในห้องทำงานถูกปิดลง
รถสีดำค่อยๆจอดลงตรงย่านที่ดูเหมือนปกติทั่วไป ประตูรถเปิดออก จี้จิ่งเชินที่ใบหน้าเรียบนิ่งก็เดินลงมา ดวงตาเต็มไปด้วยความเย็นชา
ประตูตึกของชุมชนมีบอดี้การ์ดชุดดำสองคนยืนอยู่ เมื่อเห็นจี้จิ่งเชิน พวกเขาก้มศีรษะลงเล็กน้อย แล้วเปิดประตู
จี้จิ่งเชินเดินตรงเข้าไปด้านใน โดยไม่หยุด
เดินตรงไปยังห้องใต้ดินของชุมชน รอบๆ บริเวณเงียบงัน แม้แต่อากาศก็ดูราวกับถูกแช่แข็ง