เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่ 1114 แน่ใจว่าจะยิง?
“พวกแกยังยืนอึ้งทำอะไรกัน? รีบเข้าไปจับพวกมันสิ!”
แต่ไม่ว่าคนๆนั้นจะร้องเอะอะอย่างไร คนเหล่านั้นก็ไม่กล้าเคลื่อนไหวอยู่ดี
“ไอ้พวกโง่!”
เขาพลิกมือแล้วหยิบเอาปืนที่อยู่ในเสื้อออกมา แล้วเล็งไปที่จี้จิ่งเชิน พลางแสยะยิ้ม
“ต่อให้การเคลื่อนไหวของแกจะเร็ว มีกำลังที่แข็งแกร่งแล้วยังไงล่ะ? จะเร็วเทียบกับลูกกระสุนของฉันได้อย่างนั้นหรือ?”
เขาเล็งปากกระบอกปืนไปที่จี้จิ่งเชิน แล้วค่อยๆเหนี่ยวไกลง
สีหน้าเวินเที๋ยนเที๋ยนเปลี่ยนไปในทันที แล้วรีบดึงจีจิ่งเชินเอาไว้
“ระวังนะคะ!”
จี้จิ่งเชินบังตัวเวินเที๋ยนเที๋ยนให้อยู่ทางด้านหลัง แต่กลับไม่ได้รู้สึกเป็นกังวลเลยแม้แต่นิดเดียว
“แกแน่ใจว่าจะยิงอย่างนั้นหรือ?”
เขาพูดออกมา แต่การเคลื่อนไหวของคนนั้นหยุดลง ในใจรู้สึกถึงความหนาวเหน็บที่เพิ่มสูงขึ้น
ไม่รู้ทำไม ทั้งๆที่ตัวเองเป็นคนถือปืนอยู่ แต่กลับเหมือนถูกข่มขู่อยู่อย่างไรอย่างนั้น
“แก…..แกอย่าคิดจะหลอกฉันอีกเลย!”
ว่าแล้ว เขาก็เหนี่ยวไกอีกครั้ง
ปัง!
เสียงกระสุนปืนดังขึ้นในทันที แต่จี้จิ่งเชินกับเวินเที๋ยนเที๋ยนที่อยู่ตรงหน้ากลับไม่ได้มีร่องรอยการบาดเจ็บเลยแม้แต่นิดเดียว แต่กลับเป็นเสียงร้องโอดครวญของชายวัยกลางคนที่เล็งปากกระบอกปืนมาที่พวกเขาเมื่อครู่นี้ กรีดร้องออกมา แล้วปืนพกก็ร่วงหล่นลงที่พื้น
เขาจับแขนตัวเองเอาไว้ เดินโซเซถอยหลังไปสองสามก้าว เห็นเพียงที่แขนของเขามีเลือดออก ถูกยิงเข้าแล้ว!
บอร์ดี้การ์ดกลุ่มที่รีบเข้ากับจี้หยู๋ชิงมาปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าชองเวินเที๋ยนเที๋ยน ถึงแม้จี้หยู๋ชิงจะเพียงแค่เด็กคนหนึ่ง ใบหน้าที่นุ่มนิ่มนั้นก็น่ารักเป็นอย่างมาก แต่ดวงตาคู่นั้นกลับมีแสงแห่งความเยือกเย็น เหมือนกับตอนที่จี้จิ่งเชินโกรธจัดอย่างไรอย่างนั้น
สายตาของเขามองไปยังสมาชิกที่เหลืออยู่ตรงหน้าเหล่านั้น พลางออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา : “จับตัวทุกคนเอาไว้!”
“ครับ!”
บอร์ดี้การ์ดสองสามคนนั้นรีบไปยังด้านหน้า
สมาชิกขององค์กรอันธพาลมืดเหล่านั้นยังไม่ทันจะได้ตอบโต้เลยเสียด้วยซ้ำ ก็ถูกจับตัวเอาไว้ทั้งหมดแล้ว
ชายวัยกลางคนที่ถูกยิงล้มลงไปที่พื้น กุมแขนที่บาดเจ็บของตัวเองเอาไว้ ถอยหลังไปอย่างต่อเนื่อง มองจี้จิ่งเชินที่อยู่ตรงหน้าและจี้หยู๋ชิงพร้อมกับคนกลุ่มหนึ่งที่เพิ่งจะปรากฏตัวออกมาด้วยใบหน้าที่มีความตกใจ
“พวกแกเป็นใครกันแน่? ฉันจะบอกพวกแกให้นะ ลงมือที่นี่ ไม่มีผลดีอะไรหรอกนะ เพียงแค่ติดต่อกับตำรวจ…….”
ได้ยินคำพูดนี้แล้ว จี้จิ่งเชินกลับหัวเราะขึ้นมา
“ได้ยินว่าแกกับคนที่สถานีตำรวจความสัมพันธ์ไม่ค่อยดีนี่ พอดีเลย รอให้เขามาถึงก่อน จะได้มายันด้วยกันไง”
“อะไรนะ?”
สีหน้าของคนๆนั้นเปลี่ยนไปในทันที
ก่อนหน้านี้ที่เขากล้าทำทุกอย่างตามอำเภอใจบนเกาะนี้ ก็เพราะตัวเองมีคนอยู่ที่สถานีตำรวจนั่นเอง
แต่คิดไม่ถึงเลย ว่าจี้จิ่งเชินจะเป็นฝ่ายเรียกพวกเขามาเองแบบนี้
คนๆนั้นแสยะยิ้ม เห็นได้อย่างชัดเจนว่าไม่เชื่อคำพูดของจี้จิ่งเชิน
“แกคิดว่าแบบนี้ฉันจะกลัวแกอย่างนั้นหรือ? รอหลังจากที่คนมาถึงแล้ว ผู้บัญชาการตำรวจจะต้องอยู่ข้างฉันอย่างแน่นอน แล้วไล่พวกแกออกไป! ที่กล้ามาทำกำเริบเสิบสานในอาณาเขตของฉัน!”
มุมปากของจี้จิ่งเชินยกขึ้นเล็กน้อย แต่แววตากลับไม่มีรอยยิ้มปรากฏขึ้นเลย กลับดูเยือกเย็นผิดปกติเสียด้วยซ้ำ
แววตามองต่ำลงเล็กน้อย มองสองสามคนตรงหน้าจากบนลงล่าง ภายในดวงตานั้นแสดงความสามารถออกมา
“ใครบอกว่าคนที่ฉันหามาคือผู้บัญชาการตำรวจ?”
แววตาของคนๆนั้นปรากฏความสงสัยออกมา “ถ้าอย่างนั้นแกหา……”
“เจ้าหน้าที่เหนือกว่าสถานีตำรวจ ตอนนี้คงจะมาถึงทางด้านนอกหมดแล้ว? ไม่นานพวกเขาก็จะเข้ามา”
สีหน้าของพวกคนขององค์กรอันธพาลมืดนั้นเปลี่ยนไปในทันที
เป็นไปได้อย่างไร?
ถึงแม้จะเป็นเขา ก็ไม่สามารถไปแตะต้องเจ้าหน้าที่ตำแหน่งระดับอธิบดีขึ้นไปได้เลยเหมือนกัน จี้จิ่งเชินคนเดียวที่มาจากที่อื่นทำไมถึงทำได้กัน?
แต่น้ำเสียงที่มีความมั่นใจมากของอีกฝ่าย ท่าทางที่ดูเย่อหยิ่ง คำพูดที่ดูเน้นย้ำอย่างเด็ดขาดนี้ กลับทำให้เขาเชื่อไม่ได้
ถ้าหากทางฝ่ายนั้นสามารถเอาคนเหล่านั้นมาได้จริงๆล่ะก็…..
อีกทั้งผู้บัญชาการตำรวจที่เขาผูกมิตรเอาไว้ก่อนหน้านี้ จะต้องไม่อยู่เข้าข้างจี้จิ่งเชินอย่างแน่นอน
ขณะที่กำลังคิดอยู่นั้น ทางด้านนอกก็มีเสียงพูดคุยกันดังขึ้นมาจริงๆ
“ใครหาพวกเรามากันแน่? ผมยุ่งมากนะ ไม่มีเวลามาเล่นกับพวกคุณที่นี่!”
“เรื่องอะไรกัน?”
ผู้บัญชาการตำรวจ ผู้ว่าราชการ ท่านเอกอัครราชทูตเดินเข้ามาด้วยกัน เห็นฉากที่อยู่ตรงหน้าในเวลานี้แล้ว ก็เลิกคิ้วขึ้นมาทันที พร้อมด้วยคำบ่นเต็มไปหมด
“ที่นี่เป็นสถานบันวิจัยแห่งชาติ ไม่ใช่ที่ที่จะให้พวกคุณมาเล่นกันเป็นตลาดสดแบบนี้!”
ก่อนหน้านี้พวกเขาได้ยินมาว่าที่นี่มีสถานการณ์บางอย่าง ต้องการให้พวกเขามา ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ยอม แต่บอร์ดี้การ์ดสองสามคนนั้นกลับเก่งมาก ไม่ได้สนใจฐานะของพวกเขาเลย พาพวกเขามาเลยทันที
แทนที่จะเป็นการเชิญมา สู้เรียกว่าเป็นการลักพาตัวมาจะดีกว่า
ในใจของพวกเขานั้นไม่พอใจนัก เมื่อเข้ามาก็พากันด่าทอออกมา
“ใครให้พวกนายทำแบบนี้กัน?”
“ผมเองที่เชิญพวกคุณมา”
และเวลานี้เอง เสียงของจี้จิ่งเชินดังขึ้น
สองสามคนนั้นเอ่ยขึ้นอย่างรำคาญ : “นายเป็นใคร? นี่เป็นการลักพาตัวนะ? เชื่อไหมว่าฉันจะฟ้องว่านายขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ แล้วจับนายเข้าไป……”
ทางฝ่ายนั้นหันมา เห็นจี้จิ่งเชินที่อยู่ตรงหน้า สีหน้าก็เปลี่ยนไปในทันที เสียงหยุดลงอย่างกะทันหัน
“จี้…..คุณจี้?”
แววตาของจี้จิ่งเชินมองไปยังร่างของเขา ยิ้มเล็กน้อยพลางเอ่ยขึ้น : “จะจับผมไปทำอะไรหรือ?”
คนๆนั้นหน้าซีด รีบส่ายหน้า และยังไม่ทันได้เอ่ยพูดออกมานั้น ที่หน้าผากก็มีเหงื่อเม็ดเล็กๆผุดออกมา
เอ่ยพูดอย่างติดอ่าง : “แน่นอน…..ว่าจะต้องเชิญคุณกลับไปรับประทานอาหาร แล้วก็ พักผ่อนสิครับ”
เขาหัวเราะแห้งๆออกมา เอ่ยขึ้นอย่างตื่นเต้น : “คุณจี้ คุณมาได้อย่างไรครับ? ถ้าหากแจ้งพวกเราก่อนล่วงหน้า พวกเราจะต้องไปต้อนรับคุณอย่างแน่นอน”
รอยโค้งที่มุมปากของจี้จิ่งเชินไม่มีการเปลี่ยนแปลง เอ่ยขึ้นพลางกึ่งยิ้ม : “ยังไม่ได้แจ้งพวกคุณ ก็เตรียมเหตุการณ์ใหญ่โตขนาดนี้เอาไว้ให้ผม ถ้าหากแจ้ง จะดีหรือ?”
จากนั้นผู้บัญชาการตำรวจที่เพิ่งจะเข้ามาก็มองไปรอบๆ เห็นใบหน้าที่คุ้นเคยเหล่านั้น สีหน้าก็เปลี่ยนไปในทันที สามารถคาดเดาสถานการณ์โดยส่วนมากได้แล้ว
ปกติแล้วเขามีการสมคบคิดกับคนขององค์กรนี่อยู่จริงๆ ใช้แผนการของพวกเขาเพื่อให้ได้ผลประโยชน์มา แต่กลับคิดไม่ถึงเลย ว่าคนกลุ่มนี้จะใจกล้ามาขัดแย้งกับจี้จิ่งเชินเข้า…..
ตอนนี้อย่าพูดถึงว่าเป็นเขาเลย ต่อให้เป็นผู้อำนวยการสำนักงานตำรวจ หรือแม้กระทั่งสมาชิกของสำนักงานรัฐมนตรีเห็นเขาแล้ว ก็จะต้องสุภาพอ่อนน้อม คนพวกนี้ไม่รู้ที่ต่ำที่สูงเอาเสียเลย!
ขณะที่กำลังคิดอยู่นั้น ทางฝ่ายนั้นจำเขาได้ แล้วรีบขอความช่วยเหลือจากเขา
“ท่านอธิบดี! เมื่อก่อนเราพูดกันเอาไว้ดีแล้ว คุณจะต้องช่วยผมแน่นอน…..”
เพียะ!
“หุบปาก!”
ทางฝ่ายนั้นยังไม่ทันพูดจบ ผู้บัญชาการตำรวจก็ฟาดฝ่ามือไป กลัวว่าอีกฝ่ายจะทำให้สถานะของตัวเองนั้นเปิดเผยออกมา สีหน้าของเขาดูแย่เป็นอย่างมาก
“นี่มันเป็นเรื่องของคุณ ไม่เกี่ยวกับผม” เขาหันมาเอ่ยพูดกับจี้จิ่งเชิน : “ผมคิดจะทำลายองค์กรนี้มาตั้งแต่แรกแล้ว แต่ยังหาโอกาสไม่ได้มาโดยตลอด ครั้งนี้ต้องขอบคุณความช่วยเหลือจากคุณจี้ สามารถกำจัดได้เสียที”
ได้ยินคำพูดนี้แล้ว สีหน้าของสมาชิกองค์กรอันธพาลมืดนั้นก็ขุ่นมัวขึ้นมา พลางเอ่ยขึ้นอย่างร้อนใจ : “ก่อนหน้านี้พวกเรานัดแนะสัญญากันดีแล้ว ทั้งๆที่คุณ…….”
“สัญญาอะไร? ผมไม่เคยรับปากอะไรคุณมาก่อนเลย”
กลัวว่าทางอีกฝ่ายหนึ่งนั้นจะพูดสัญญาของพวกเขาออกมา จึงรีบออกคำสั่งอย่างลนลาน : “เร็วเข้า! จับพวกเขาเอาไว้ แล้วส่งตัวโอนกลับไปที่ศาลตุลาการ”
“คุณ! คุณจะทำแบบนี้กับผมไม่ได้นะ! ก่อนหน้านี้คุณรับเอาผลประโยชน์จากผมไปตั้งมากมายขนาดนี้ จะทำแบบนี้ไม่ได้!”
คนๆนั้นร้องเอะอะโวยวายไม่หยุด แต่ไม่มีใครฟังคำพูดของเขาเลย