เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่ 1123 ตอนจบ (3)
เวินเที๋ยนเที๋ยนถูกจี้จิ่งเชินอุ้มเอาไว้อยู่ในอ้อมแขน ยังไม่มีปฏิกิริยาตอบรับอยู่บ้าง
เธอท้องแล้ว?
เมื่อคืนนี้เธอเดาเอาไว้ถึงความเป็นไปได้นี้ แต่เนื่องจากระยะแรกของการตั้งครรภ์รู้สึกไม่เหมือนกับครั้งก่อน เธอจึงตัดความคิดนี้ออกไป
ยังคิดว่าเป็นเพราะหลายวันก่อนหน้านี้อยู่แต่บนเรือสำราญ ดินฟ้าอากาศผิดแปลกไป
หรือว่าจะเป็นเพราะเรื่องที่คลอดจี้หยู๋ชิง เกิดสถานการณ์บางอย่างขึ้น ทำให้ร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลง?
แต่ถ้าหากเธอตั้งครรภ์จริงๆ จี้จิ่งเชินควรจะทำอย่างไร?
เนื่องจากสถานการณ์ที่อันตรายในช่วงก่อนหน้านี้ จี้จิ่งเชินเคยบอกเอาไว้ ว่าจะไม่ให้เธอตั้งครรภ์อีก
คิดอย่างละเอียดแล้ว ดูเหมือนกับตอนที่จะเตรียมตัวออกมาเที่ยวก่อนหน้านี้ จี้จิ่งเชินยึดเธอเอาไว้อยู่ที่เตียงตลอดแบบนั้น…
หรือว่าตอนนั้นไม่ทันได้ระวัง?
เธอเงยหน้าขึ้น เห็นใบหน้าที่ตึงเครียดของจี้จิ่งเชิน คิ้วขมวดเข้าหากัน ดูแล้วตึงเครียดเป็นอย่างมาก
คงจะกำลังเป็นกังวลร่างกายของเธออยู่หรือเปล่า?
ไม่นาน เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ถูกพามาถึงที่โรงพยาบาล ดำเนินการตรวจเช็ค
คุณหมอเห็นจี้จิ่งเชินที่อยู่ข้างๆตลอดนั้น จึงเอ่ยขึ้น : “คุณคะ เชิญคุณออกไปรอทางด้านนอกก่อนนะคะ”
จี้จิ่งเชินไม่ขยับ ยังคงยืนอยู่ข้างๆเวินเที๋ยนเที๋ยนเช่นนั้น
เพียงแค่เหลือบตาไปมองแวบหนึ่ง ก็เล่นเอาคุณหมอตกใจเงียบขึ้นมาในทันที ไม่กล้าออกปากไล่เขาอีก
ตรวจเช็คอย่างละเอียดแล้วนั้น คุณหมอดูรายงานผลตรวจในมือ ใบหน้าปรากฏรอยยิ้มออกมา
“ยินดีด้วยนะคะ หนึ่งเดือนแล้ว พวกคุณ……”
เธอเพิ่งจะเอ่ยพูดขึ้นได้เพียงครึ่งเดียว กลับเห็นทั้งสองคนตรงหน้านั้นแสดงอาการที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
ใบหน้าของเวินเที๋ยนเที๋ยนนั้นแสดงความดีใจออกมา
ส่วนทางฝ่ายจี้จิ่งเชินนั้นสีหน้ากลับดูเคร่งขรึม ดูแย่เป็นอย่างมาก
พลังมหาศาลที่บีบบังคับผ่านแววตาที่ดูดุร้าย ทำให้เสียงที่กังวานของคุณหมอหยุดลง ไม่กล้าเอ่ยพูดต่อ
เวินเที๋ยนเที๋ยนเอ่ยขึ้นด้วยความตื่นเต้น : “เด็กแข็งแรงไหมคะ?”
คุณหมอเอ่ยขึ้นมาอย่างระวัง : “ดูจากข้อมูลตอนนี้ ปกติมากค่ะ แต่จะต้องระวังหน่อย แล้วก็เพิ่มการบำรุงร่างกายนะคะ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้าลง แล้วถึงได้กลับออกไป
เพิ่งจะออกมานั้น จี้หยู๋ชิงที่ถูกจี้จิ่งเชินทิ้งให้รออยู่ทางด้านนอกนั้นก็รีบเข้ามาหา ใบหน้าเต็มไปด้วยความรอคอยปรารถนา
“คุณแม่ เป็นอย่างไรบ้างครับ? ไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”
ใบหน้าของเวินเที๋ยนเที๋ยนเต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม
“แม่ไม่เป็นอะไรครับ แล้วก็อีกไม่นานลูกก็จะมีน้องชายหรือน้องสาวเพิ่มขึ้นคนนึงแล้วนะ”
ดวงตาจี้หยู๋ชิงปรากฏความเซอร์ไพรส์ออกมา จ้องมองไปยังท้องของเวินเที๋ยนเที๋ยน แล้วเผยรอยยิ้มบางๆขึ้น
หงลี่ลี่ได้ยินแล้วก็รู้สึกวางใจด้วยเช่นกัน
“ฉันบอกตั้งแต่แรกแล้ว ว่าไม่เป็นอะไร”
แต่สีหน้าของจี้จิ่งเชินนั้นกลับยังคงซีดเซียวเช่นเดิม เวินเที๋ยนเที๋ยนเห็นแล้ว หัวใจที่ยกขึ้นสูงอยู่นั้นกลับดิ่งลงมาในทันที
“จี้จิ่งเชิน พี่ไม่ชอบเด็กคนนี้หรือคะ…..”
“ไม่ใช่อยู่แล้วครับ!” ยังพูดไม่จับ จี้จิ่งเชินก็เอ่ยออกมาอย่างร้อนใจ กังวลว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนจะเข้าใจผิด
เขามองจี้หยู๋ชิงและหงลี่ลี่ที่อยู่ตรงหน้า แล้วดึงเวินเที๋ยนเที๋ยนเดินไปอีกทางด้านหนึ่ง
แววตาของจี้หยู๋ชิงเต็มไปด้วยความกังวล อยากจะตามไป แต่กลับถูกหงลี่ลี่รั้งเอาไว้
“ให้พวกเขาคุยกันเองเถอะ”
จี้หยู๋ชิงถึงได้ชะงักเท้าลง และมองตามเบื้องหลังของทั้งสองคนอยู่ตลอด
จี้จิ่งเชินพาเวินเที๋ยนเที๋ยนเดินมาอีกมุมหนึ่ง
เขามองผู้หญิงที่ตัวเองยอมที่จะปกป้องเธอไปตลอดชีวิตตรงหน้าคนนี้ แววตานั้นกำลังแสดงความต่อสู้อย่างไร้ขีดจำกัด
พักหนึ่ง จู่ๆเขาก็เดินเข้ามา แล้วกอดเวินเที๋ยนเที๋ยนเอาไว้ เอาศีรษะพิงไว้ที่ไหล่ของเธอ
เห็นได้น้อยมาก ที่จะปรากฏความอ่อนแอออกมาแบบนี้
“เป็นความผิดของผมเอง”
เสียงทุ้มต่ำดังขึ้น
เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกอึ้งไป
จี้จิ่งเชินเอ่ยพูดต่อ : “ผมเคยบอกเอาไว้ว่าผมจะปกป้องคุณ จะไม่เอาลูกอีกแล้ว ถ้าหากเรื่องครั้งที่แล้วเกิดขึ้นอีก…..”
“ไม่หรอกค่ะ” เวินเที๋ยนเที๋ยนเอ่ยขึ้นมาอย่างเด็ดเดี่ยว
จี้จิ่งเชินเป็นห่วงเธอ
ตั้งแต่หลังจากเกิดเรื่องขึ้นตอนที่เธอตั้งครรภ์ครั้งที่แล้ว ก็กลายเป็นหนามที่อยู่ในใจของจี้จิ่งเชิน ดึงไม่ออก รู้สึกเจ็บปวด และสามารถจะรู้สึกกังวลได้ทุกเวลา
ถึงแม้เวินเที๋ยนเที๋ยนจะพยายามการรับประกันอย่างถึงที่สุด แล้วก็ฟื้นฟูได้มากแล้ว แต่ก็ยังคงไม่วางใจอยู่ดี
เดิมทีเขาได้ตัดสินใจแล้ว ว่าจะไม่ให้เวินเที๋ยนเที๋ยนตั้งครรภ์อีก จะไม่ให้เธอต้องเสี่ยงอันตรายอีกแล้ว
เวินเที๋ยนเที๋ยนกอดเอวเขาเบาๆ
“ฉันไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ ครั้งนี้ฉันจะฟังพี่ทุกอย่างเลย ต่อให้พี่จะให้ฉันอยู่ไม่ห่างจากพี่แม้แต่ก้าวเดียว ก็ไม่มีปัญหา ขอเพียงแค่พี่ไม่เกลียดเด็กคนนี้ก็พอ”
“ผมจะเกลียดได้อย่างไรครับ?” จี้จิ่งเชินเสียงสูงขึ้นมาเล็กน้อย แล้วเอ่ยพูดขึ้นมาอย่างมุ่งมั่น : “นั่นลูกของเรานะ ผมจะรักเขาเหมือนกับที่รักหยู๋ชิง ผมเพียงแค่…..”
เขาหยุดชะงักไปนาน
“ผมแค่กลัว”
เขาไม่เคยกลัวฟ้ากลัวดิน ต่อให้เป็นความตาย ก็ไม่เคยกลัวเช่นกัน
แต่เป็นเพราะเวินเที๋ยนเที๋ยน เขาเริ่มรู้สึกกลัว
มุมปากของเวินเที๋ยนเที๋ยนปรากฎรอยยิ้มบางๆออกมา
“ไม่ใช่ว่าคุณหมอบอกว่าจะไม่เกิดอะไรขึ้นหรอกหรือคะ?”
ได้ยินแล้ว จี้จิ่งเชินก็กัดฟันขึ้นมาทันที น้ำเสียงแสดงความขุ่นเคืองออกมา
“ถ้าหากมีความผิดพลาดแม้แต่นิดเดียว ผมจะโจมตีทั้งโรงพยาบาลเลย”
“ทำแบบนั้นไม่ได้นะคะ!”
เวินเที๋ยนเที๋ยนยิ้มออกมา
“วางใจเถอะค่ะ ฉันรับประกัน เพื่อพี่ ฉันจะไม่ทำให้ตัวเองต้องเป็นอะไรนะคะ”
ศีรษะของจี้จิ่งเชินยังคงพิงอยู่ที่ไหล่ของเวินเที๋ยนเที๋ยนเช่นเดิม
“หลังจากที่กลับไปแล้วก็ลางานเลยนะครับ ไปทำงานที่พิพิธภัณฑ์ไม่ได้แล้ว”
ลางาน9เดือน?
เวินเที๋ยนเที๋ยนคิดแล้ว จึงพยักหน้าลง “ค่ะ”
“วันนี้ผมจัดเฮลิคอปเตอร์ให้มารับพวกเรากลับไป หลังจากที่กลับไปแล้วคุณจะต้องเชื่อฟังผมทุกอย่างนะ”
“ค่ะ”
“ต่อไปไม่ให้อยู่ห่างจากผม”
“ค่ะ”
“ถ้าหากชาติหน้า คุณกล้าลืมผมอีกล่ะก็ตายแน่ๆ”
“……..”
ในใจของเวินเที๋ยนเที๋ยนนั้นรู้สึกจนปัญญา คนอื่นๆตั้งครรภ์ สามีล้วนแต่จะเชื่อฟังภรรยา แต่ทำไมพอมาถึงเธอก็เปลี่ยนไปกัน?
เธอยังไม่ได้ตอบ จี้จิ่งเชินก็เอ่ยขึ้นต่อ น้ำเสียงนั้นแฝงไปด้วยความเอาแต่ใจและไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย
“จำผมไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ผมจะหาคุณจนเจอ แย่งกลับมาแล้วขังเอาไว้ที่บ้าน หลังจากนั้นก็ทำให้คุณรักผมใหม่อีกครั้ง”
เวินเที๋ยนเที๋ยนยิ้ม อ่อนโยนราวกับสายน้ำ
“อืม”
ขณะที่พูดอยู่นั้น จี้หยู๋ชิงอดที่จะตามมาไม่ได้
เห็นทั้งสองคนที่กำลังกอดกันอยู่นั้น ก็รีบมาขวางหน้าเวินเที๋ยนเที๋ยนเอาไว้
“คุณแม่ คุณพ่อรังแกคุณแม่ใช่ไหมครับ?”
จี้จิ่งเชินเหลือบมองเขา แล้วยกเสื้อเขาอุ้มตัวเขาขึ้นมา หนีบไว้ตรงใต้แขน และดึงเวินเที๋ยนเที๋ยนเดินออกไปด้านนอก
“ไปแล้ว กลับกัน”
“กลับไปไหนครับ?” จี้หยู๋ชิงเอ่ยขึ้นอย่างงงๆ
จี้จิ่งเชินว่า : “กลับบ้าน”
ช่วงพลบค่ำ เฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่งจอดอยู่บนเกาะ
พวกเวินเที๋ยนเที๋ยนทั้งสามคนเพิ่งจะขึ้นไปนั่ง อาหงที่ได้ยินข่าวนั้นก็รีบมา แล้วโบกมือให้พวกเขา
“คุณเวิน ขอให้คุณและครอบครัวของคุณมีความสุข และสุขภาพแข็งแรงนะครับ ทุกคนบนเกาะนี้จะคอยอธิษฐานให้คุณอยู่ทางนี้”
เวินเที๋ยนเที๋ยนโบกมือ แล้วส่งรอยยิ้มให้พวกเขา
เฮลิคอปเตอร์ค่อยๆบินขึ้นสูง
ลมพัดใบไม้บนพื้น และหญ้าที่อยู่บนพื้นนั้นกลายเป็นคลื่น
คนบนเกาะที่นับวันก็ยิ่งมีจำนวนมากขึ้นรวมตัวกันอยู่ตรงนี้ เพื่อส่งและคอยอวยพรให้พวกเขา
จนกระทั่งมองไม่เห็นเงาแล้วนั้น เวินเที๋ยนเที๋ยนถึงได้หันมามองทางจี้จิ่งเชิน พลางเอ่ยขึ้นด้วยความสงสัย : “ฉันคิดว่าพรุ่งนี้ถึงจะกลับไปได้เสียอีกค่ะ? ถึงแม้จะเป็นเฮลิคอปเตอร์ บินมาจากภายในประเทศ ก็จะต้องใช้เวลาไม่น้อยเลยใช่ไหมคะ? พี่รู้ได้ยังไงว่าวันนี้พวกเราจะต้องไปแล้ว?”
จี้จิ่งเชินก้มลงมองเวินเที๋ยนเที๋ยนที่กำลังตั้งครรภ์อยู่
“เพราะว่าผมคือจี้จิ่งเชินไงครับ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนทำหน้ามุ่ย
คำตอบนี้อีกแล้ว
เธออยากจะโต้กลับ แต่จี้จิ่งเชินกลับเอ่ยขึ้นต่อ : “แล้วอีกอย่าง ผมคือคนที่เวินเที๋ยนเที๋ยนจะต้องอยู่ด้วยไปตลอดชีวิตด้วยไงครับ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกอึ้งไป เงยหน้ามองเขาอย่างประหลาดใจ สะท้อนอยู่ในดวงตาของจี้จิ่งเชินขึ้นมาในทันที
ดวงตาที่ลึกซึ้งเหมือนเวลาเที่ยงคืน ตอนที่มองเวินเที๋ยนเที๋ยนนั้น มีดวงดาวส่องแสงระยิบระยับอยู่ภายในดวงตา
เวินเที๋ยนเที๋ยนจับเสื้อของเขาเอาไว้แน่น เธอยิ้ม ดวงตานั้นแสดงนิสัยเด็กๆออกมา
ในช่วงที่เคลิบเคลิ้มอยู่นั้น ราวกับว่าย้อนกลับไปตอนที่เจอกันครั้งแรก
“บั้นปลายของชีวิต ฉันกับลูกๆยังต้องขอให้คุณจี้ให้คำแนะนำด้วยนะคะ”
ดวงตาของจี้จิ่งเชินเอ่อล้นไปด้วยความอ่อนโยน เอาความรักทั้งหมดนี้มอบให้กับผู้หญิงตรงหน้าคนนี้ไปแล้ว
เขาโน้มตัวลงมาเล็กน้อย ค่อยๆเข้าไปใกล้เวินเที๋ยนเที๋ยนมากขึ้น
เมื่อริมฝีปากของเขากำลังจะบรรจบกันนั้น เขาก็ยกมือขึ้นมาปิดตาจี้หยู๋ชิงเอาไว้ แล้วหันหน้าลูกไปอีกทางหนึ่ง
“รับทราบครับ คุณนายจี้”
ยังไม่ทันสิ้นเสียงนั้น ก็บรรจงจูบเธออย่างลึกซึ้ง
จูบที่เอ้อระเหย มอบความไว้วางใจให้กับชีวิตที่เหลือของฉัน
ถึงแม้จะผ่านความผิดหวัง เสียใจ และผ่านความทุกข์ยากลำบากและสิ้นหวังมา
แต่โชคดีที่ความสุขและความสบายใจไม่ได้จากไปไหน ความซึ้งใจและอาลัยอาวรณ์ก็ยังคงอยู่
ทุกๆฉากที่ผ่านมา ทุกๆคำพูด ล้วนกลายเป็นคำๆเดียวคือคำว่า—รัก
ไม่ว่าในอนาคตจะเจอกับความลำบากและอันตรายมากแค่ไหน แต่เพียงแค่มีความรัก ก็เหมือนกับอัศวินที่วิ่งฝ่าดงหนามมา แล้วต้องใช้จุมพิตเพื่อให้เจ้าหญิงตื่นขึ้นมาให้ได้
จากนี้ไป ก็จะใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุข
จบบริบูรณ