เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่ 523 ภรรยาของจี้จิ่งเชิน
บทที่ 523 ภรรยาของจี้จิ่งเชิน
สิ่งที่หลีเจียเวยอยากจะเลือก คือมองดูแล้วสวยงาม หรูหรา แต่รอยแตกเล็กกว่า วัตถุที่ซ่อมแซมง่าย
แค่แป๊บเดียว เธอก็พบเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว
นั่นก็คือขวดดมกลิ่น ฝีมือประณีต น่าจะเป็นสมบัติที่สืบทอดมาจากสมัยราชวงศ์ชิง แต่บนตัวของแจกันมีรอยแตกที่เล็กมาก ซ่อมแซมได้เร็วมาก
อีกทั้งยังเป็นส่วนที่เธอถนัดที่สุด ซ่อมแซมได้ง่ายมาก
ถือขวดดมกลิ่นไว้ในมือ หลีเจียเวยถึงจะรู้สึกโล่งใจ
ครั้งนี้ เธอต้องชนะเวินเที๋ยนเที๋ยนอย่างแน่นอน!
แต่ว่าทันใดนั้นเธอก็นึกถึงเมื่อกี้ที่ตนเองพ่ายแพ้ยับเยิน อดใจไม่ไหวจนต้องหันไปทางเวินเที๋ยนเที๋ยน สำรวจสถานการณ์ของทางโน้น
ฝีเท้าของเวินเที๋ยนเที๋ยนหยุดอยู่ที่หน้าโต๊ะ แววตามองไปที่สร้อยคอเส้นหนึ่งในนั้น
สร้อยคอ?
หลีเจียเวยมองไปตรงที่เธอมองอยู่ ของสิ่งนั้น พูดได้ว่าเป็นสมบัติสมัยใหม่ ถึงตอนนี้ก็แค่ร้อยปีเท่านั้น
ถือไม่ได้ว่าเป็นของเก่า วัตถุโบราณยิ่งไม่ใช่
อีกทั้งสร้อยคอเส้นนั้นเสื่อมเสียเยอะมากแบบคาดคิดไม่ถึง ขาดออกเป็นสามท่อน แม้แต่จี้ที่อยู่บนสร้อยก็มีรอยแตกเต็ม ทั้งขาดทั้งเก่าไม่น่าดูเลย
หรือเธอจะเลือกชิ้นนั้น?
กำลังคิดอยู่พอดี เวินเที๋ยนเที๋ยนก็หยิบสร้อยเส้นนั้นขึ้นมา
เปิดจี้ที่อยู่บนสร้อยเส้นนั้นออกมาดู
ในนั้นมีรูปขาวดำรูปหนึ่ง มองดูแล้วเหมือนเป็นรูปภาพพรีเวดดิ้งของสมัยนั้น บนรอยยิ้มของทั้งสองคนดูเขินและหวานแหวว
แม้แต่พิธีกรเห็นสร้อยที่เวินเที๋ยนเที๋ยนเลือกแล้ว ยังตกใจมาก อดใจไม่ได้ที่จะเตือนเธอ
“คุณเวินครับ สร้อยเส้นนี้น่าจะเป็นสมบัติสมัยใหม่ อายุยิ่งเก่าแก่น่าจะยิ่งมีความโดดเด่นกว่า ท่านมั่นใจว่าจะเลือกสร้อยเส้นนี้หรือครับ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้าอย่างตั้งมั่นแน่วแน่
“สร้อยเส้นนี้ทำให้ฉันนึกถึงเรื่องบางอย่าง แตกและเสียหายขนาดนี้ แต่ก็ดูออกว่าเจ้าของยังดูแลรักษาอย่างระมัดระวัง ฉันอยากจะซ่อมแซมมันให้กลับมาเป็นเหมือนเดิม”
เห็นเธอตั้งมั่นขนาดนี้ พิธีกรถอนหายใจอีกครั้ง แล้วก็ส่ายหัว
เวินเที๋ยนเที๋ยนกำลังเสี่ยงอยู่ชัดๆ
มองดูอีกข้างหนึ่ง หลีเจียเวยเลือกถูกต้องแล้ว
ยุคสมัยยิ่งเก่าแก่ อีกทั้งมีส่วนที่เสียหายน้อย แบบนี้ซ่อมแซมขึ้นมาจะสะดวกกว่า
เห็นทีการแข่งขันรอบแรกในวันนี้ ถึงแม้เวินเที๋ยนเที๋ยนจะโชคดีชนะไปแล้ว แต่รอบที่สองคงต้องแพ้แล้ว
เขาถอนหายใจอีกครั้ง แต่ว่าการแข่งขันเริ่มขึ้นแล้ว จะเปลี่ยนใจไม่ได้แล้ว
หลีเจียเวยเห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนเลือกสร้อยเส้นนั้นจริงๆ จากนั้นก็ยิ้มอย่างได้ใจ
เป็นคนที่โง่จริงๆ!
เหลือบไปมองเวินเที๋ยนเที๋ยนหนึ่งครั้ง แล้วก็รีบหันกลับมาที่งานบนมือของตนเอง
ขวดดมกลิ่นที่เธอเลือกมานั้นมีรอยแตกเล็กมากที่สุด จึงซ่อมแซมได้ง่ายที่สุด น่าจะซ่อมเสร็จเรียบร้อยได้เร็วมาก
ทั้งสองคนนั่งคนละข้างของเวที เวลาอันเชื่องช้าในขณะที่บูรณะซ่อมแซมนั้น มองดูเหมือนจะน่าเบื่อหน่อย แต่ฟังคำพูดเล่นและเสียงหัวเราะของพิธีกรแล้ว ค่อยๆเริ่มมีความสนุกมากขึ้น ในบางเวลายังมีเสียงปรบมืออยู่ตลอดเวลา บรรยากาศรื่นเริง
เหมือนรู้ว่าท่านผู้ชมทั้งหลายกำลังคิดอะไรอยู่ ทันใดนั้น พิธีกรก็เปลี่ยนเรื่องไปพูดถึงความรักระหว่างเวินเที๋ยนเที๋ยนและจี้จิ่งเชิน และกล้องก็ยังส่องไปที่จี้จิ่งเชินที่อยู่ด้านล่างเวทีด้วย
“ได้พบเจอท่านประธานบริษัทเอ็มไอกรุ๊ปในงานแบบนี้ พูดได้ว่ายากมากจริงๆ แค่ดูก็รู้ ว่าทั้งสองคนนั้นมีความรักที่ลึกซึ้งมาก”
พิธีกรจับทุกๆโอกาสที่จะเพิ่มเรตติ้งคนดู
“ไม่ทราบว่าคุณจี้มีความมั่นใจในตัวของคุณเวินไหมครับ?”
มองเห็นแววตาของเขามองที่ตัวเวินเที๋ยนเที๋ยนตลอดเวลา พิธีกรจึงถือโอกาสลองถามไปด้วย: “คุณจี้ครับ ท่านคิดว่าภรรยาของท่านจะชนะไหมครับ?”
เพิ่งจะพูดจบ พิธีกรก็รู้สึกผิดมาก
เพราะจี้จิ่งเชินเป็นคนที่คบยากใครๆก็รู้กันทั้งนั้น ไม่เคยให้การสัมภาษณ์จากนักข่าวเลย
แม้แต่ในงานแถลงการณ์เปิดตัวโครงการใหม่ต่างๆ ไม่ว่าจะรีบถามอะไรไป ก็ไม่ได้รับการตอบรับอะไรทั้งนั้น
บางทีอาจจะเป็นเพราะว่าเมื่อสักครู่บรรยากาศในงานมีความคึกคักเกินไป พิธีกรจึงลืมเรื่องนี้และหลุดถามออกมา
แย่แล้ว!
ถ้าจี้จิ่งเชินไม่ตอบคำถามล่ะก็ คงน่าอายแน่ๆเลย
ในขณะที่เขากำลังคิดอยู่ว่า จะแก้ไขสถานการณ์นี้ยังไงดี คิดไม่ถึง จี้จิ่งเชินที่นั่งอยู่แถวหน้าด้านล่างเวทีเอ่ยปากพูดออกมากะทันหัน
“เธอจะชนะ”
สามคำ ทั้งห้องเงียบลงทันที
แม้แต่พิธีกรที่ผ่านประสบการณ์มานับครั้งไม่ถ้วนก็ยังถึงกับตกตะลึงจนตาโต
เขาตอบคำถามแล้ว?
เขาตอบคำถามแล้วจริงๆ!
หลายคนต่างมองไปที่จี้จิ่งเชิน กลับเห็นสีหน้าท่าทางบนใบหน้าของเขาก็ยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน
หรือว่าพวกเขาจะฟังผิดไปแล้ว?
จี้จิ่งเชินจะตอบคำถามแบบนี้ได้ยังไง?
ในขณะที่พวกเขากำลังสงสัย จี้จิ่งเชินก็ตอบคำถามอีกครั้ง
“ภรรยาของผมต้องชนะ”
ครั้งนี้หันไปมองดูอย่างละเอียด เห็นแต่รอยยิ้มอันอบอุ่นบนหน้าของเขา แววตามีแต่เวินเที๋ยนเที๋ยนคนเดียว
นี่… …
แววตาแบบนี้มันอบอุ่นเกินไปรึเปล่าเนี่ย?
มันเป็นไปได้ยังไงที่รอยยิ้มจะอยู่บนหน้าของจี้จิ่งเชิน?
อีกทั้งเขาตอบคำถามจริงๆ อีกทั้งยังตอบสองครั้ง!
พิธีกรตกตะลึงไปสักพัก ทันใดนั้นดีใจเป็นอย่างมาก!
ไม่รู้ว่าวันนี้ จี้จิ่งเชินเป็นอะไรไป ตอบคำถามด้วยความยินดีเช่นนี้!
หรือจะเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ?
พวกเขาไม่รู้ว่า สิ่งที่ทำให้จี้จิ่งเชินตอบคำถาม ก็คือภรรยาสองคำนี้
ภรรยา
เมื่อสักครู่นี้ พิธีกรบอกว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนเป็นภรรยาของเขา
จี้จิ่งเชินจึงได้แสดงท่าทีเช่นนี้ เพราะฟังแล้วรู้สึกอารมณ์ดี
ถ้าไม่ใช่เพราะคำนามนี้ คงจะไม่เหลียวแลเขาเลยสักนิด
ก็เพราะคำตอบคำถามของเขา ทำให้ในงานครื้นเครงขึ้นมาอีกครั้ง
พิธีกรก็ยิ่งมั่นใจว่า เรตติ้งครั้งนี้ต้องพุ่งขึ้นแรงอย่างแน่นอน!
เขาเห็นว่าดีแล้ว ก็เลยเปลี่ยนเรื่องพูดไปที่เทคนิคการบูรณะซ่อมแซมของทั้งสอง บวกกับนักสะสมวัตถุโบราณหลายๆท่านที่ให้การอธิบาย ยิ่งทำให้มีความน่าสนใจมากขึ้น
เวลาหนึ่งชั่วโมงผ่านไปเร็วมาก ในขณะที่พิธีกรกำลังคิดจะหาเรื่องพูดใหม่นั้น หลีเจียเวยก็วางเครื่องมือลง แล้วกดกระดิ่งบนโต๊ะ
เธอได้ซ่อมแซมขวดดมกลิ่นนั้นเสร็จเรียบร้อยแล้ว
แต่ปัญหาคืออีกข้างหนึ่ง เวินเที๋ยนเที๋ยนยังกำลังซ่อมแซมอยู่
พิธีกรเห็นแล้ว จึงเดินมาใกล้ๆ
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้วางขวดดมกลิ่นนั้นไว้บนพานอีกครั้ง ผืนผ้าสีแดงเหมาะสมกันดีมาก ทำให้ขวดนั้นยิ่งดึงดูดตา สีสันสดใสภายใต้แสงไฟ ดูสวยงามยิ่งนัก
เขาก้มเข้าไปมองดูใกล้ๆ ตกใจและพูดว่า: “ไม่มีรอบแตกเลยสักนิดจริงๆ เหมือนกับว่าไม่เคยมีรอยแตกจริงๆ!”
ได้ยินคำวิจารณ์ของเขาแล้ว หลีเจียเวยยิ่งได้ใจและพูดว่า: “ เชิญท่านอาจารย์นักสะสมทุกท่านช่วยดูหน่อย ว่าฉันซ่อมได้เป็นยังไงบ้าง”
พูดจบ ก็มีผู้ช่วยมายกขวดดมกลิ่นนั้นไปที่โต๊ะคณะกรรมการ
ทุกคนต่างใส่ถุงมือสีขาว หยิบขึ้นมาดูตรงหน้าอย่างใกล้ๆและระมัดระวัง
หลังจากที่ดูแล้ว ต่างก็พยักหน้าด้วยความพอใจ
“ไม่เลว! สวยงาม!”
“เก่งจริงๆ มองไม่เห็นรอยแตกเลยสักนิด เก่งเหมือนที่เล่าลือจริงๆ”
หลีเจียเวยที่อยู่บนเวทีได้ยินดังนั้นแล้ว ยิ่งรู้สึกได้ใจ แล้วหันไปมองดูเวินเที๋ยนเที๋ยน
กลับเห็นเธอก้มหน้าอยู่ ไม่เงยหน้าขึ้นมาเลย รู้สึกไม่สนุกเลย
ไม่ว่าจะยังไง ในที่สุดตอนนี้เธอก็ได้ชัยชนะกลับมารอบหนึ่งแล้ว!
เทคนิคการซ่อมแซมของเวินเที๋ยนเที๋ยนต้องสู้เธอไม่ได้แน่นอน ยิ่งกว่านั้น เธอยังเลือกสร้อยแบบนั้น หาเรื่องให้ตัวเองชัดๆ!
ท่านจางรับขวดดมกลิ่นมาดูอย่างละเอียด
“ซ่อมได้ดีจริงๆ”
แต่เขาก็ขมวดคิ้วขึ้นมา ว่าแต่เป็นแบบนี้แล้ว เวินเที๋ยนเที๋ยนก็เสี่ยงแพ้แล้ว
เขาเงยหน้าขึ้นไป เห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนแล้ว ในใจยิ่งรู้สึกกังวล แล้วก็วางขวดดมกลิ่นที่อยู่บนมือไว้ที่เดิม
แล้วจะซ่อมถึงเมื่อไหร่จึงจะเสร็จ?
ถ้าซ่อมเกินเวลาที่กำหนดไว้ ก็ต้องแพ้ไปโดยปริยาย
สร้อยเส้นนั้นเสียหายเยอะมาก เป็นของที่ซ่อมยากที่สุดในของทั้งหมดนั้น ไม่รู้ว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนทำไมต้องเลือกมัน
หรือว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนไม่อยากจะชนะแล้วจริงๆหรือ?