เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่ 525 ไม่สมบูรณ์แบบ
บทที่ 525 ไม่สมบูรณ์แบบ
อาจารย์ท่านนี้ขึ้นมาบนเวที ก็ด่าว่านักสะสมทั้งหลายอย่างไม่หยุด
ผู้ที่อยู่ตรงหน้านั้นพอจะมีชื่อเสียง มีมูลค่าทรัพย์สินหมื่นล้านขึ้นแต่ก็ไม่มีใครกล้าเอ่ยปากพูด
ต้องรู้ว่า อาจารย์ท่านนี้ที่อยู่ตรงหน้า เป็นที่พึ่งที่จะทำให้พวกเขาสามารถอยู่ในวงการต่อไปได้
สมบัติล้ำค่าที่พวกเขาสะสมเมื่อก่อน แค่มีตรงไหนที่เสียหาย ก็ต้องดูสีหน้าของอาจารย์ท่านนี้ ถ้าเขาปฏิเสธ ของล้ำค่าทั้งหมดที่สะสมมาก็จะกลายเป็นของที่หมดคุณค่าทันที ไม่มีใครกล้ายั่วโมโหเขา?
ยังมีนักบูรพาโบราณวัตถุท่านอื่นๆที่นั่งอยู่ข้างๆของเขา ก็เป็นคนที่คุ้นหน้ากันดี
ดูแล้วถึงจะรู้ว่า ในเวลานี้นักบูรพาวัตถุโบราณที่มีชื่อเสียงได้มาอยู่ที่นี่ทั้งหมดแล้ว!
หลายๆท่านพอได้เปิดเผยตัวตน ตอนนี้กลับมีเสียงตกใจดังขึ้นมาทันทีทันใด
แต่ว่านักบูรพาวัตถุโบราณระดับชาติหลายๆท่านไม่สนใจเสียงภายนอกเลยสักนิด ต่างก็เดินขึ้นไปบนเวที ล้อมรอบและพิจารณาดูสร้อยเส้นนั้นที่ถูกเวินเที๋ยนเที๋ยนซ่อมแซมแล้ว ต่างก็ชื่นชมความสามารถของเธอไม่หยุด
“เห็นทีความสามารถของเที๋ยนเที๋ยนเก่งขึ้นกว่าเดิมอีกแล้ว!”
“เวลาสั้นๆเพียงหนึ่งชั่วโมงกว่า ซ่อมได้สมบูรณ์ถึงขนาดนี้ พูดได้ว่าอัจฉริยะจริงๆ!”
“สร้อยที่ซ่อมยากขนาดนี้ ถ้าเป็นผม น่าจะยากหน่อย”
ต่างประเมินคุณภาพกันใหญ่ นึกถึงคำพูดของพวกนักสะสมเมื่อสักครู่นี้ รู้สึกไม่พอใจขึ้นมาทันที
หันหน้าไปมองดูพวกเขา ด่าต่อไปอีกครั้ง
“พวกคนภายนอก ต่างกันดั่งภูเขากั้น ใครเก่งกว่ายังดูไม่ออก!”
“โง่จริงๆ โง่จริงๆ”
นักบูรพาวัตถุโบราณคนหนึ่งถอนหายใจแรงๆ
ใครให้เวินเที๋ยนเที๋ยนเลือกสร้อยที่ไม่ค่อยมีคุณค่าเช่นนี้ล่ะ?”
คนทั้งหลายได้ยินแล้ว ต่างก็ส่ายหัว
ทันใดนั้น คนทั้งเวทีไม่มีใครกล้าเอ่ยปากพูด กลัวจะขัดใจอาจารย์ใหญ่ทั้งหลายที่อยู่ตรงหน้า
“เรื่องนี้ น่าจะโทษผม ขอโทษจริงๆครับ”
ทุกคนต่างกำลังวิเคราะห์กันอยู่นั้น มีเสียงที่แก่ๆดังมาจากข้างๆเวที
ผู้คนหันไปมองดู เห็นแต่คนแก่คนนั้นที่คุยกับหลีเจียเวยเมื่อสักครู่นี้ กำลังเดินมา
เขาปรากฏตัวออกมาปั๊บ อาจารย์ทั้งหลายต่างตกใจจนต้องลืมตาโตๆ
“ท่าน… …ท่านมาได้อย่างไร?”
แม้แต่ท่านอาจารย์ที่ดุๆคนนั้น ยังพูดจาติดอ่างขึ้นมาทันที
พิธีกรได้ยินแล้ว รู้สึกแปลกใจ
หันหัวไปดู วินาทีแรกยังดูไม่ออก
มองดูอีกที สีหน้าซีดขึ้นมาทันที!
“ท่านนายพลสวี่!”
ทันทีที่ได้ยินคำนี้ ทั้งห้องส่งเกิดความวุ่นวายอีกครั้ง!
ท่านนายพลสวี่อยู่ในงานนี้ด้วยหรือ?
หลายคนรีบร้อนหันไปดู สำหรับคนหนุ่มสาว อาจจะไม่เคยเห็นหน้าท่านนายพลสวี่ แต่ว่าหลายๆท่านที่นั่งอยู่นั้นต่างก็มีอายุหน่อย
คำนามของท่านนายพลสวี่นี้ ใครไม่รู้จัก?
ในทั้งประเทศ ชื่อนี้ดังไปทั่วประเทศเลยทีเดียว!
แม้แต่เรื่องของความเป็นรุ่นพี่รุ่นน้อง ยังใหญ่กว่าท่านแม่ทัพเวินอีกระดับหนึ่ง หลังจากที่สร้างชาตินั้น เป็นหนึ่งเดียวที่เป็นท่านแม่ทัพใหญ่!
ตระกูลสวี่ทั้งสามรุ่นต่างก็เป็นทหารที่มียศสูง ท่านพ่อของเขาในตอนนั้นยังเป็นทหารที่ติดตามท่านประธานาธิบดีเหมา ไปสู้รบทั่วทุกสารทิศ
บุคคลสำคัญที่ยิ่งใหญ่ที่ถูกเขียนไว้ในหนังสือเรียนประวัติศาสตร์ ยังได้เห็นเขาตั้งแต่เล็กจนโต
ตอนนั้นเขามีชื่อเสียงดังไปทั่วประเทศ ได้รับรางวัลดีเด่นในด้านต่างๆ เพียงแต่ว่าหลังจากที่เขาเกษียณแล้ว ท่านจะอยู่อย่างเงียบๆเรียบง่ายไม่ชอบออกสื่อทางสังคม
ไม่มีใครนึกถึงว่าเขาจะมากลางรายการ!
ได้ยินชื่อนี้แล้ว หลีเจียเวยก็นึกขึ้นได้ทันที
สมควรตายจริงๆ!
เมื่อกี้เธอทำไมถึงลืมได้?
เขาเป็นท่านนายพลสวี่ที่มีชื่อเสียงดังก้องทั่วประเทศ เมื่อกี้เธอยังพูดจากับเขาแบบนั้น ถ้าท่านไม่พอใจขึ้นมาล่ะก็……
เห็นผู้คนให้ความสนใจขนาดนี้ ท่านแม่ทัพแค่โบกมือเบาๆ ใบหน้ายิ้มแย้ม
ใส่ชุดสูท เหมือนสุภาพบุรุษแก่ๆท่านหนึ่ง ไม่เหมือนท่านแม่ทัพที่เคยขับรถถังและเคยถูกกระสุนยิงเลยสักนิด
เขาเดินไปจนถึงด้านหน้าของเวินเที๋ยนเที๋ยน รอยยิ้มก็ยิ่งอ่อนโยนมากกว่าเดิม
“สาวน้อย ที่นี่มีของมีค่าตั้งมากมาย ทำไมคุณถึงเลือกสร้อยเส้นนี้? บอกเหตุผลให้ฉันหน่อยได้ไหมว่าทำไมถึงอยากทำ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนนึกถึงรูปผู้ชายที่อยู่ในสร้อยนั้น มีความคล้ายกับท่านนายพลสวี่นิดๆ ไม่รู้ว่าใช่ญาติของท่านหรือเปล่า
เธอพูดอย่างตรงไปตรงมา: “ที่จริงแล้ว ที่หนูเลือกมันก็เพราะมีความเกี่ยวข้องกับเรื่องส่วนตัวเล็กน้อย”
ในขณะที่เวินเที๋ยนเที๋ยนพูดอยู่นั้น ก็ได้เอามือดึงสร้อยที่ใส่อยู่บนคอออกมา
สร้อยสีเงินที่มีจี้เป็นกรอบรูป การออกแบบก็มีความคล้ายกับสร้อยที่ซ่อมแซมในวันนี้
“ฉันก็มีสร้อยแบบนี้เช่นกัน นี่คือคนที่ฉันรักมากมอบให้ฉัน เขามอบสิ่งของที่มีค่ามากมายให้ฉัน แต่ชิ้นนี้คือชิ้นที่ฉันชอบมากที่สุด”
พูดไปด้วย เธอก็เงยหน้าไปมองจี้จิ่งเชินที่อยู่ด้านล่างเวที ในแววตาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
จากนั้นก็พูดต่ออีกว่า: “ก็เพราะเช่นนี้ ฉันเห็นรูปที่อยู่ในสร้อยแล้ว ถึงรู้สึกว่ามันต้องมีคุณค่าทางจิตใจเช่นกัน”
“ยิ่งกว่านั้นก็คือ มองจากส่วนที่เสียหายแล้ว น่าจะเสียมาสิบกว่าปีแล้ว แต่ว่าสร้อยนี้ก็ยังถูกเก็บรักษาไว้อย่างดี ฉันคิดว่า เจ้าของสร้อยเส้นนี้น่าจะรักและทะนุถนอมมันมาก ถูกทำลายจนเสียได้ขนาดนี้ น่าจะเป็นเพราะมีความจำเป็นมั้ง?”
ได้ยินคำพูดของเวินเที๋ยนเที๋ยน รอยยิ้มของท่านนายพลสวี่ยิ่งลึกซึ้งเข้าไปอีก มองดูเธอด้วยความชื่นชม
“ถูกต้อง”
ท่านนายพลสวี่หยิบสร้อยนั้นขึ้นมา แววตามีความซึมเศร้านิดๆ
“สร้อยเส้นนี้ เป็นของที่พ่อผมรักมาก รูปที่อยู่ด้านใน ก็คือรูปที่ระลึกแต่งงานของท่านกับท่านแม่ของผม แต่น่าเสียดายที่ตอนเกิดสงคราม ท่านเข้าไปช่วยเหลือคน ไม่ทันระวังจึงทำเสีย”
ประโยคเดียว ทำให้ผู้คนทั้งห้องส่งต่างตกใจส่งเสียงดังไปทั่ว
พ่อของท่านนายพลสวี่?
นั่น…นั่นมันเป็นบรรพบุรุษนักรบผู้กอบกู้บ้านเมืองไม่ใช่หรือ?
“ตอนที่ท่านพ่อยังมีชีวิตอยู่นั้น ท่านรู้สึกเสียใจและโทษตนเองมาตลอด ก่อนตายยังคิดถึงสร้อยเส้นนี้อยู่ตลอดเวลา ผ่านไปนานขนาดนี้ ในที่สุดท่านสามารถวางใจและตายตาหลับได้แล้ว เวินเที๋ยนเที๋ยน คุณซ่อมได้ดีมาก”
เขามองดูสร้อยที่อยู่ในมือ ทันใดนั้นน้ำตาก็ไหลพรากลงมา
กังวลกับสร้อยเส้นนี้มานานมาก ถ้าไม่ใช่เพราะมีบุญวาสนาต่อกัน คงจะไม่ได้ซ่อมมันไปตลอดชีวิต
“เมื่อก่อนผมกังวลอยู่ตลอด กลัวว่านักบูรณะซ่อมแซมจะทำให้สร้อยเส้นนี้เสียหายมากกว่าเดิมอีก ถ้าไม่ใช่เพราะสวี่หลาย บางทีอาจจะไม่มีโอกาสนี้แล้ว”
ในขณะที่เขาพูดนั้น เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ตะลึงไปด้วย จากนั้นก็นึกขึ้นได้ว่า ผู้จัดการรายการแข่งขันครั้งนี้ เหมือนจะชื่อสวี่หลาย!
นามสกุลก็แซ่สวี่… …
หรือว่า… …
เวินเที๋ยนเที๋ยนหันหน้าไปทางผู้จัดการ แต่มองไม่เห็นคน จากนั้นก็หันกลับมา
พวกเขามีความสัมพันธ์อะไร เจ้าของสร้อยเส้นนี้คือใคร พวกนี้มันไม่สำคัญเลยสักนิด
ที่สำคัญคือ อาการดีใจของท่านนายพลสวี่ในขณะนี้
รอมาหลายสิบปี ในที่สุด สร้อยเส้นนี้ก็กลับมาเงางามเหมือนเดิมอีกครั้ง มันคือพยานหลักฐานที่จดจำความรักที่อบอุ่นในนั้น
นึกถึงตรงนี้แล้ว เธออดใจไม่ได้ที่จะกำสร้อยของตนเองไว้ จากนั้นใช้นิ้วมือลูบๆ
สร้อยที่เป็นของพ่อท่านนายพลสวี่ สามารถถูกคนเก็บรักษาจนถึงตอนนี้
เธอคิดแล้ว อดใจไม่ไหวที่จะหันไปมองจี้จิ่งเชินอีกครั้ง
พอหันไปนั้น ก็เห็นจี้จิ่งเชินกำลังมองตนเองอยู่ตลอดเวลา
แววตาตั้งมั่นเหมือนเดิม
“ฉันไม่เชื่อ!”
ในเวลานั้นพอดี เสียงแหลมๆเสียงหนึ่งดังมากะทันหัน
หลีเจียเวยใส่รองเท้าส้นสูงเดินขึ้นมา สีหน้าบึ้งน่าเกลียดมาก
“ถึงแม้เธอจะสามารถซ่อมได้จริง แล้วยังไง? ขวดดมกลิ่นที่ฉันซ่อมแซมก็สวยสมบูรณ์แบบเหมือนกัน! เธอจะชนะเพราะสร้อยเส้นนี้มีความเกี่ยวข้องกับท่านนายพลสวี่ไม่ได้ ฉันไม่ยอม!”
ตอนแรกท่านเปิงไม่อยากจะเอ่ยปากพูด ได้ยินคำพูดนี้ในตอนนี้ จึงโมโหขึ้นมาทันที
“คุณบอกว่าของคุณสวยสมบูรณ์ไม่มีที่ติ? ลืมตาของคุณโตๆแล้วมองให้ชัดๆ!”
ท่านเปิงยื่นมือไปหยิบขวดดมกลิ่นชิ้นนั้นขึ้นมาตั้งให้ตรงกับแสงไฟแล้วส่อง
แสงเล็กๆที่ส่องผ่านขวดดมกลิ่นนั้นแล้ว ทำให้ด้านในกลายเป็นความปวดหัว
สามารถมองเห็นรอยแตกร้าวที่อยู่ในนั้นได้อย่างชัดเจน