เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่ 526 ทำเสร็จโดยคนเดียว
บทที่ 526 ทำเสร็จโดยคนเดียว
รอยแตกร้าวที่อยู่บนขวดดมกลิ่นนั้น ก็คือตรงที่หลีเจียเวยซ่อมแซมไม่ใช่หรือ?
“เป็นแบบนี้ได้ไง?” ตรงที่นั่งท่านผู้ชมส่งเสียงดังออกมา
เสียงแห่งความแปลกใจดังขึ้นมาเป็นพักๆ ทำให้สีหน้าของหลีเจียเวยดูไม่ดีเลย
ท่านเปิงพูดขึ้นมาในขณะนี้ว่า: “เพราะเธอยังไม่ได้ซ่อมแซมขวดดมกลิ่นนี้ให้เสร็จเรียบร้อย เพื่อทำให้เสร็จภายในเวลาที่กำหนด แค่ซ่อมแซมส่วนที่อยู่ภายนอกเท่านั้น ตรงด้านในที่มีปัญหาจริงๆยังมีรอยแตกร้าวอยู่ มองเพียงภายนอก ขวดดมกลิ่นนี้ดูสมบูรณ์สวยเหมือนเดิม แต่ถ้าตั้งขึ้นมาส่องกับแสงไฟ ก็จะเห็นรอยร้าวที่อยู่ด้านใน”
เขาหมุนขวดดมกลิ่นนั้นที่อยู่ในมือ ในตาเต็มไปด้วยตำหนิ
“อีกปีสองปี รอยร้าวที่อยู่ด้านในก็จะโผล่ออกมาอีกจนได้ ก็แค่ดูดีเพียงภายนอกเท่านั้น”
“พูดไร้สาระ!” หลีเจียเวยกำมือไว้แน่น พูดด้วยความไม่พอใจ: “ซ่อมแซมก็คือทำให้ลักษณะภายนอกกลับมาเป็นเช่นเดิมไม่ใช่เหรอ? มันไม่ถูกตรงไหน? ใครสามารถทำให้เหมือนเดิมได้ทั้งหมด?”
“นั่นเพราะคุณไม่เคยเห็นของที่ยายหนูซ่อมแซม” ท่านจางพูดอย่างไม่สนใจ
ของที่เคยให้เวินเที๋ยนเที๋ยนซ่อมแซมเมื่อก่อน ในนั้นก็มีขวดดมกลิ่นอยู่หนึ่งชิ้น
เขายังจำได้ ขวดดมกลิ่นชิ้นนั้นก็ถูกซ่อมแซมได้อย่างสมบูรณ์สวยงามอย่างไม่มีที่ติ ถึงแม้จะส่องกับแสงไฟแล้ว ก็ไม่มีตำหนิแม้แต่นิดเดียว
ไม่เหมือนกับของหลีเจียเวยเลยสักนิดเดียว
“คุณดูสร้อยเส้นนี้อีกทีซิ แม้แต่ด้านใน ก็ถูกซ่อมใหม่หมด ไม่มีตำหนิแม้แต่นิดเดียว ไม่เหมือนคุณ ไม่ว่าจะพูดยังไง คุณก็เทียบเวินเที๋ยนเที๋ยนไม่ได้เลย”
หลีเจียเวยกำมือไว้แน่น หันหน้าไปและใช้สายตาที่แหลมคมจ้องมองบนตัวของเวินเที๋ยนเที๋ยน
เวินเที๋ยนเที๋ยนสามารถซ่อมแซมสร้อยที่เสียหายพร้อมกับด้านใน?
เป็นไปได้ไง?
เวลาเพียงหนึ่งชั่วโมง ไม่มีทางเพียงพอสำหรับซ่อมแซมงานให้เสร็จได้
ถ้าไม่ใช่เพราะอยากจะซ่อมเสร็จก่อนเวินเที๋ยนเที๋ยน เธอจะซ่อมเฉพาะภายนอกก่อนได้ยังไง?
“เป็นไปไม่ได้! เธอจะเก่งกว่าฉันได้ยังไง?”
เวลามีเท่ากัน เป็นไปได้ยังไง?
เธอกัดฟันไว้แน่นๆ และโบกมือไปมา
“ฉันเป็นคนเก่งที่สุด! ฉันซ่อมแซมแจกันทรงกลมนั้นได้ คุณล่ะ?”
หลีเจียเวยหันหน้าไปมองเวินเที๋ยนเที๋ยนด้วยแววตาที่ดุร้าย นึกถึงหมากต่อรองสุดท้ายของตนเอง
ใช่ แจกันทรงกลมอันนั้นคือหนึ่งเดียวในโลก!
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่มีทางซ่อมเสร็จต้นไม้สำริดนั่นหรอก ขอแค่ชนะการแข่งขันรอบสุดท้าย ผู้ชนะก็ยังเป็นเธอ!
นึกถึงตรงนี้แล้ว เธอก็รีบตั้งสติใจเย็นๆใหม่
“ต้นไม้สำริดที่คุณซ่อมแซมล่ะอยู่ไหน? เอาออกมาให้ฉันดูสิ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเม้มปาก หันหน้าไปมองที่ท่านอาจารย์ใหญ่
เห็นเธอมีความลังเลนิดๆ หลีเจียเวยยิ่งทะนงตัวมากขึ้น
“คุณยังทำไม่เสร็จ? ฉันเคยพูดตั้งนานแล้ว ว่าคุณไม่มีทางซ่อมได้สำเร็จ คนที่ชนะจริงๆคือฉัน!”
เธอผงาดหน้าขึ้นมาสูงๆ ยิ่งอวดดีอีก
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้านิดๆ
“ฉันไม่ได้ลำบากใจเพราะเรื่องนี้ แต่เป็น……”
เธอหันหน้าไปมองที่อาจารย์หลายท่านของพิพิธภัณฑ์พระราชวังแห่งชาติ รู้สึกลำบากใจนิดๆ
หลีเจียเวยยิ่งจองหองขึ้นมาอีก
“ถ้าหากคุณซ่อมมันเสร็จแล้ว ก็นำออกมาให้พวกเราดูสิ ไม่เอาออกมาก็คือซ่อมไม่เสร็จ!”
เธอยกมือขึ้นมาและพูดด้วยคำพูดที่ได้ใจ
ด้านข้างเวที มีคนเข็นรถเล็กๆเดินขึ้นมา
ตอนที่ผ้าสีแดงที่ปิดไว้ถูกเปิดออกนั้น ในห้องส่งมีแสงส่องขึ้นมาสว่างทันที
แจกันทรงกลมที่สวยสง่า สูงประมาณครึ่งเมตรกว่าๆ ทำให้ทุกคนตะลึงจนส่งเสียงออกมาดังไปทั่ว
“นั่นเป็นแจกันที่หลีเจียเวยซ่อมแซม!”
“แน่นอน ไม่ว่าจะมองดูยังไง ก็เป็นผลงานที่สวยงามสมบูรณ์ไม่มีตำหนิเลย!”
มีเสียงโต้แย้งเล็กๆดังมาจากที่นั่งของท่านผู้ชม
หลีเจียเวยค่อยๆตั้งสติดีๆ กำลังยิ้มอย่างได้ใจ
“เมื่อกี้เป็นเพราะเวลามีจำกัน ฉันถึงได้ซ่อมแซมเฉพาะภายนอก แจกันใบนี้ถึงจะแสดงถึงความสามารถในการบูรณะซ่อมแซมของฉันได้อย่างแท้จริง เป็นไง เวินเที๋ยนเที๋ยน? คุณสามารถทำได้ไหม?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนขมวดคิ้วขึ้น พูดด้วยความลังเล: “ฉันซ่อมเสร็จแล้วจริงๆ เพียงแต่ว่าต้องการใช้เวลาหน่อย ตอนนี้ยังไม่สามารถ……”
“คือไม่ได้? หรือไม่กล้ากันแน่? ใครจะรู้ว่าคุณซ่อมแซมเสร็จเรียบร้อยแล้วจริงๆ?” หลีเจียเวยขัดขวางคำพูดของเธออย่างไม่พอใจ
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่พูดอะไร
ต้นไม้สำริดต้นนั้นเป็นวัตถุโบราณลำดับต้นๆของชาติ จะเอาออกมาจากพิพิธภัณฑ์พระราชวังแห่งชาติ ต้องผ่านการอนุญาตจากหลายๆฝ่าย
ยิ่งกว่านั้นคือ ก่อนหน้านั้น วัตถุโบราณชิ้นนี้ไม่เคยปรากฏให้ใครเห็นภายนอกพิพิธภัณฑ์ นอกจากคนในวงการ ประชาชนทั่วไปภายนอก ไม่มีใครรู้เรื่องนี้
ก่อนจะมาที่รายการนี้ เวินเที๋ยนเที๋ยนเคยยื่นคำขออนุญาตแล้ว แต่ถูกปฏิเสธกลับ
นี่คือวิธีที่แม้แต่เธอยังนึกไม่ถึง
วิธีเดียว ก็คือรอให้จัดแสดงนิทรรศการแล้ว ค่อยขออนุญาตเปิดเผย
นอกจากนี้……
ในขณะที่เวินเที๋ยนเที๋ยนกำลังคิดอยู่นั้น ตรงที่นั่งของท่านผู้ชมมีเสียงซุบซิบดังออกมาอีกครั้ง
ทุกคนมองไปอีกข้างของเวทีพร้อมกัน ต่างเต็มไปด้วยความแปลกใจ
ในขณะเดียวกัน อาจารย์ท่านนั้นออกเสียงพูดขึ้นมาด้วย
“ลืมตาของคุณดูให้ดีๆ อะไรคือฝีมือการซ่อมแซมขั้นสูง”
น้ำเสียงเต็มไปด้วยความภูมิใจเบาๆ ราวกับว่าเขาเป็นคนซ่อมแซมได้สำเร็จเอง
เพียงเวลาสั้นๆไม่กี่วัน พวกเขาก็ถือว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนเป็นคนกันเองแล้ว
คนแก่ที่อายุเกินครึ่งร้อยเหล่านี้ แววตาที่มองเวินเที๋ยนเที๋ยนเต็มไปด้วยความรักและเอ็นดู ปกป้องเธอเป็นอย่างมาก
ได้ยินเสียงของเขา เวินเที๋ยนเที๋ยนหันหน้าไป จากนั้น เห็นรถเข็นที่ใหญ่กว่าคันเมื่อกี้กำลังเดินหน้าขึ้นมาส่งอย่างระมัดระวัง
มีผ้าสีดำปิดไว้ เกือบจะสูงถึงเพดาน เทียบกับแจกันทรงกลมที่สูงครึ่งเมตรกว่าเมื่อสักครู่นี้ ยิ่งสะเทือนใจคนมากกว่า
หลังจากนั้นเสียงซุบซิบตรงที่นั่งของท่านผู้ชมก็ค่อยๆเงียบลง
เหมือนกับว่าถูกความยิ่งใหญ่อลังการที่อยู่ตรงหน้าสะทกสะท้านนจนไม่มีใครกล้าเอ่ยปากพูดอีก เหมือนกับว่ากลัวจะกระทบกระเทือนอะไร
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองดูของที่อยู่บนรถเข็นนั้น มองจากรูปร่างของผ้าที่ปิดไว้ เธอพอจะเดาออกได้แล้วว่าคืออะไร ตะลึงจนหันไปมองท่านอาจารย์อาวุโสคนนั้น
ท่านอาจารย์ยิ้มอย่างภูมิใจและกระพริบตาให้เธอ
เหมือนจะเดาได้ว่าในใจของเวินเที๋ยนเที๋ยนกำลังคิดอะไรอยู่ และเอ่ยปากพูดว่า: “ไม่มีคุณ ต้นไม้สำริดนี้ไม่มีทางถูกซ่อมแซมแน่นอน วันนี้พวกเรามาที่นี่เพื่อที่จะบอกคุณว่า พิพิธภัณฑ์พระราชวังแห่งชาติได้อนุญาตเป็นกรณีพิเศษ ใช้สถานที่นี้เป็นที่ที่แสดงผลงานต้นไม้สำริดครั้งแรก”
ในขณะที่พูด เขาก็ดึงผ้าม่านที่ปิดไว้ จากนั้นผ้าม่านที่มีขนาดใหญ่ถูกดึงออกในทันที!
ทันใดนั้น ต้นไม้สำริดศักดิ์สิทธิ์ขนาดใหญ่ต้นนั้นก็ปรากฏออกมาตรงหน้า!
ต้นไม้ที่ใหญ่สูงถึงประมาณสามเมตรมีใบไม้สีเขียวเป็นหลายร้อยใบสลับซับซ้อนอยู่เต็มต้น มีลมเบาๆพัดผ่าน ใบไม้ก็แกว่งไปมาและชนกัน ส่งเสียงที่พลิ้วใสไพเราะน่าฟังมาก
รากของต้นสำริดไม่สามารถมีเสียงเช่นนี้ออกมาได้
ท่านผู้ชมทั้งหลายตั้งใจมองดูอย่างละเอียด
นั่นคือ……สำริด!
ตรงหน้ามีต้นสำริดขนาดใหญ่ขนาดนี้ พวกเขาไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน!
ท่านอาจารย์อาวุโสเห็นแววตาอันตกตะลึงของผู้ชมทั้งหลาย จึงพูดอย่างภาคภูมิใจว่า: “นี่คือวัตถุโบราณที่คนงานขุดออกมา ตอนที่ต้นสำริดต้นนี้ถูกขุดพบ มันแตกออกเป็นชิ้นๆ”
เขาพูดไปด้วย จอภาพด้านหลังก็มีรูปภาพหนึ่งเปิดออกมาบนจอ
นั่นคือภาพที่ต้นสำริดนี้ถูกขุดพบในตอนนั้น พูดได้ว่าเป็นมันแตกจนยับเยินยุ่งไปหมด ที่น่าดึงดูดตาก็คือ เครื่องเคลือบที่แตกเป็นชิ้นๆตกอยู่เต็มพื้นไปหมด ท่านอาจารย์อาวุโสเงยหน้าขึ้นและชี้ไปที่แผ่นเครื่องเคลือบแตกอยู่ในภาพ
พูดอย่างภาคภูมิใจมาก: “แผ่นชิ้นเล็กชิ้นน้อยที่พวกคุณเห็นทั้งหมด! ผมพูดถึงว่าทั้งหมด! เวินเที๋ยนเที๋ยนเป็นคนที่ซ่อมมันสำเร็จคนเดียว