เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่ 562 ไม่กลัวความเสียใจ แต่กลัวความผิดพลาดที่ไม่ได้ตั้งใจ
- Home
- เมียหวานของประธานเย็นชา
- บทที่ 562 ไม่กลัวความเสียใจ แต่กลัวความผิดพลาดที่ไม่ได้ตั้งใจ
บทที่ 562 ไม่กลัวความเสียใจ แต่ให้กลัวความผิดพลาดที่ไม่ได้ตั้งใจ
เวินเที๋ยนเที๋ยนและเหยาเย้นทั้งสองเดินตามเขาไปที่วิลล่าเดี่ยวหลังหนึ่งที่อยู่ท้ายสุดในเขตสวน
ขณะที่เปิดประตูออก เวินเที๋ยนเที๋ยนกำลังจะเข้าไป ทันทีที่ยกเท้าก็ได้ยินเสียงดังขึ้น
“คุณกลับมาแล้ว”
ก่อนที่เสียงจะลดลง หลวนจื่อก็ได้เดินออกมาจากห้องนั่งเล่น
เธอสวมใส่ชุดอยู่บ้านด้วยสีเบจ มองดูแล้วผ่อนคลายมาก
เมื่อได้เห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนและเหยาเย้นที่อยู่ข้างหลังของเธอ ท่าทางแข็งทื่อ และทำตัวไม่ถูก
“พวกคุณ……มาได้อย่างไร”
เพิ่งจะผ่านไปสองวัน เห็นได้ชัดว่าสีหน้าของหลวนจื่อดีขึ้นมาก
เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกโล่งใจเล็กน้อย แต่เหยาเย้นกลับรีบเดินตามหลังเธอไปและก้าวออกไปข้างหน้าอย่างกระวนกระวาย และดึงตัวหลวนจื่อเข้ามาแล้วมองสำรวจไปทั้งตัว
อารมณ์ของทั้งสองคนนั้นลึกซึ้งมาก ก่อนหน้านี้ได้ยินมาว่าตัวของหลวนจื่อนั้นเกิดเรื่องวุ่นวายหลายอย่าง ก็เลยเป็นห่วงแทบแย่ ถ้าไม่ใช่เพราะการจัดการที่เข้มงวดของตระกูลเวิน ก็ออกตามหาคนตั้งนานแล้ว
ในที่สุดก็เจอคนสักที ตอนนี้ต้องการจะพาเธอออกไป
“เธอรู้ไหมว่าตอนนี้พ่อแม่ของเธอเป็นห่วงเธอแค่ไหน คิดไม่ถึงว่าจะมาซ่อนตัวอยู่เงียบๆที่นี่ ถ้าอีกสองสามวันไม่ได้ข่าว พวกเขาก็จะตามหาเธอแล้ว”
เมื่อหลวนจื่อได้ยิน สีหน้าไม่ค่อยดีนัก และพูดว่า “เป็นเพราะแบบนี้ไง ฉันถึงอยู่ที่นี่”
เธอมองไปที่หมินอันเกอ และพูดว่า “คุณป้า คุณมาตรงนี้หน่อย ฉันมีเรื่องที่จะต้องคุยกับคุณ”
พูดจบ หลวนจื่อก็ดึงเหยาเย้นเดินไปอีกด้านหนึ่ง
เมื่อเห็นทั้งสองคนเดินออกไปไกล เวินเที๋ยนเที๋ยนจึงหันมองไปยังหมินอันเกอ
“พวกคุณคิดดีแล้วหรือ”
หมินอันเกอละสายตาจากหลวนจื่อ และพยักหน้าเล็กน้อย
เวินเที๋ยนเที๋ยนพูดอีกครั้งว่า “คุณรู้ความรู้สึกของหลวนจื่อที่มีต่อคุณไหม”
“รู้”
เมื่อได้ยินคำตอบนี้ เวินเที๋ยนเที๋ยนก็รู้สึกโล่งใจ
ดูเหมือนว่านี่ไม่ใช่การกระทำที่ชั่ววูบของหมินอันเกอ พวกเขาทั้งสองต่างก็เป็นเพื่อนที่ดีของตัวเอง เวินเที๋ยนเที๋ยนเธอคงไม่ต้องการให้ฝ่ายใดต้องเจ็บปวด
หมินอันเกอลดสายตาลงเล็กน้อย และพูดออกไปว่า “ผมและหลวนจื่อคิดดีแล้ว ให้โอกาสกับเธอสักครั้ง และผมก็จะให้โอกาสกับตัวเองสักครั้งเช่นกัน บางทีผมอาจจะยังไม่รู้จักเธอดีพอ”
พูดจบ หลวนจื่อและเหยาเย้นก็ได้เดินกลับมาจากข้างนอกแล้ว
เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้า เขาเงยหน้าไปมอง ภายในแววตาที่ดูเรียบง่ายนั้นเต็มไปด้วยความอ่อนโยน
ตอนเดินขึ้นบันไดมา หลวนจื่อไม่ทันระวังจึงเดินเซ เขารีบก้าวไปข้างหน้า และประคองเธอเอาไว้ได้ทันเวลา
ด้วยสีหน้าที่เป็นห่วงจึงพาเธอไปพักผ่อนที่โซฟา แล้วรินน้ำผลไม้ให้หนึ่งแก้ว
ใบหน้าของหลวนจื่อถูกแต่งแต้มด้วยสีชมพู แม้ว่าทั้งสองจะไม่ได้พูดอะไรกัน แต่ก็เข้าใจโดยปริยายแล้ว
เมื่อมองไปที่ปฏิสัมพันธ์ระหว่างคนสองคน บางทีหมินอันเกออาจไม่ได้รู้สึกแบบนั้นเหมือนที่เธอคิด ไม่ได้รู้สึกอะไรกับหลวนจื่อแม้แต่น้อย
แต่สีหน้าของเหยาเย้นที่เดินตามหลังหลวนจื่อเข้ามากลับไม่ค่อยจะดีนัก ดูเหมือนจะเป็นเพราะได้รู้สาเหตุที่หลวนจื่อไม่ยินดีที่จะออกไปกับเธอ
แต่ตอนนี้เห็นหลวนจื่อมีความสุขมากขนาดนี้ เธอก็ได้แต่เพียงประนีประนอม
ไม่สามารถจะปล่อยให้หลวนจื่อต้องมาลงเอยแบบเดียวกับเธอในตอนจบ
แต่เธอยังคงกังวลว่าหมินอันเกออาจจะทำอันตรายกับหลวนจื่อ จึงกัดฟันพูดว่า “หมินอันเกอ ถ้าคุณกล้าทำอะไรล่วงเกินกับหลวนจื่อแม้แต่นิดเดียว ทำให้เธอเสียใจละก็ ฉันก็จะไม่ปล่อยคุณไปแน่นอน!”
สีหน้าท่าทางของหมินอันเกอดูเอาจริงเอาจัง และเขายังไม่ทันได้พูด หลวนจื่อก็ชิงพูดก่อน “คุณป้า ทำไมคุณพูดแบบนี้”
หมินอันเกอวางมือบนไหล่ของเธอ และปลอบโยนเธอ
“คุณวางใจเถอะ ผมเข้าใจ”
เมื่อได้รับคำตอบของเขา เหยาเย้นก็รู้สึกโล่งใจเล็กน้อย
เมื่อหันกลับไปมองหลวนจื่อ น้ำเสียงก็เปลี่ยนเป็นนุ่มนวลขึ้นมาอีกครั้ง
“ฉันมาจะหาเธอบ่อยๆ จะไม่พานักข่าวมา ถ้าต้องการอะไรก็บอกกับฉันและเที๋ยนเที๋ยน ฉันมาหาได้ทุกเมื่อ”
หลวนจื่อรู้สึกซาบซึ้งใจ
เธอไม่เคยคิดเลยว่าเหยาเย้นจะคอยสนับสนุนตนเอง และยืนอยู่เคียงข้างตนเอง “ขอบคุณค่ะ คุณป้า”
เวินเที๋ยนเที๋ยนนั่งลง และถามเกี่ยวกับสถานการณ์ของหลวนจื่อในช่วงไม่กี่วันนี้ รวมถึงสิ่งอื่นๆที่ต้องการ
เธออาศัยอยู่ที่นี่ รอบ ๆดูเหมือนว่าไม่มีเพื่อนเลยสักคน งานของหมินอันเกอในตอนนี้ก็น้อยลงมาก แต่ก็ยังต้องออกไปทำงานทุกวัน
เพื่อไม่ให้หลวนจื่อกลัดกลุ้มใจ เวินเที๋ยนเที๋ยนและเหยาเย้นจะผลัดกันมาเยี่ยมเธอ
หลังจากอยู่ได้สักพัก ในที่สุดพวกเขาก็ออกไป
จริง ๆแล้วหมินอันเกอจะต้องส่งสองคนกลับไป แต่กลับถูกเหยาเย้นหยุดเขาลงด้วยน้ำเสียงที่ไม่ดี
“คุณอยู่ดูแลหลวนจื่อเถอะ พวกเรากลับไปเองได้”
พูดจบ ก็มองไปที่หลวนจื่ออย่างไม่สบายใจอีกครั้ง และในที่สุดก็จากออกไป
หลังจากออกไป เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกกังวลเล็กน้อย
“คุณจะบอกข่าวของหลวนจื่อกับคนในตระกูลหลวนไหม”
เหยาเย้นขมวดคิ้ว ด้วยความไม่เต็มใจเป็นอย่างมาก
“เมื่อกี้เธอให้ฉันออกไปคุยเรื่องนี้ เธอบอกว่าจะบอกกับคนในตระกูลด้วยตนเอง ฉันก็ไม่อยากเข้ายุ่งเกี่ยว แค่หวังว่าหลวนจื่อจะไม่ถูกหมินอันเกอรังแก”
“คุณวางใจเถอะ หมินอันเกอไม่ใช่คนแบบนั้น” เวินเที๋ยนเที๋ยนพูดเกลี้ยกล่อม
เหยาเย้นกลับส่ายหัว “ไม่กลัวความเสียใจ ก็ให้กลัวความผิดพลาดที่ไม่ได้ตั้งใจ”
หลังจากพูดจบ เธอก็ยกมือเรียกแท็กซี่คันหนึ่ง และกลับไปยังตระกูลเวิน
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองไปรอบๆ
ที่นี่ตั้งอยู่ในชานเมือง ที่ร้างมาก และไร้ผู้คน
ตอนที่ทั้งสองคนเพิ่งมาถึง นั่งมากับรถของหมินอันเกอ ตอนนี้ต้องการจะกลับไป แต่ก็ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดี
เธอและเหยาเย้นรออยู่นาน กว่าจะเจอรถสักคันหนึ่ง หลังจากที่คิดแล้วคิดอีก เวินเที๋ยนเที๋ยนก็เลยจำใจต้องโทรไปที่ปราสาทเพื่อให้พ่อบ้านมารับเธอ
ตอนที่ออกมาจากปราสาทก็เริ่มเย็นแล้ว จากนั้นจึงได้ไปบริษัท และอยู่ในวิลล่าของหมินอันเกอสักพัก พอนั่งลง ไม่นานท้องฟ้าก็มืดลงแล้ว
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองไปรอบๆ
บนถนนไม่มีคนเดินเท้าหรือยานพาหนะสักคัน ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่พ่อบ้านจะมาถึง จะให้เธอกลับไปหาหมินอันเกอ ก็ไม่รู้ว่าจะเอ่ยปากอย่างไรจริงๆ
ไม่รู้ว่านั่งอยู่นานเท่าไหร่แล้ว ในที่สุดเวินเที๋ยนเที๋ยนก็นั่งหลับอยู่บนเก้าอี้
ตกกลางคืน ได้รับรู้ถึงแสงไฟของรถยนต์ที่ไกลได้ใกล้เข้ามา รถสีดำคันหนึ่งก็ค่อยๆเข้ามาหยุดที่ตรงหน้าเธอ
ประตูรถเปิดออก ผู้ชายคนหนึ่งเดินลงจากรถ ภายใต้ความมืด รูปร่างก็ดูสูงเรียว
เมื่อได้เห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนที่นั่งหลับอยู่บนเก้าอี้ในตอนนี้ ใบหน้าของจี้จิ่งเชินก็ดูผ่อนคลายลง
สองสามวันมานี้เวินเที๋ยนเที๋ยนกังวลเรื่องของหลวนจื่อ จนนอนไม่หลับมาตลอด
ในที่สุดตอนนี้ก็วางใจได้ พิงอยู่บนเก้าอี้ หลับไปอย่างลึกมาก
จี้จิ่งเชินขยับอย่างเบาๆ พ่อบ้านที่อยู่ด้านหลังก็เดินมาข้างหน้า เมื่อกำลังจะเอ่ยปาก ก็ถูกเขาห้ามไว้อย่างรวดเร็ว พ่อบ้านมองไปที่เวินเที๋ยนเที๋ยนที่หลับไปแล้ว จึงหยุดฝีเท้าอย่างรวดเร็ว และไม่ได้พูดอะไรอีก
จี้จิ่งเชินขยับอย่างเบามาก ในสายตาก็ดูผ่อนคลายและทำอะไรไม่ถูก ถอดสูทออกและคลุมลงบนตัวของเวินเที๋ยนเที๋ยน
เมื่อเห็นว่าเธอไม่ได้ตื่นขึ้นมา ก็ได้อุ้มขึ้นมา หันหลังกลับแล้วเดินไปที่รถ และได้ชี้สั่งคนขับรถอย่างเงียบ ๆ ค่อย ๆขึ้นรถออกไปอย่างช้าๆ
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่รู้ว่าหลับไปนานแค่ไหน รู้สึกได้ว่าร่างกายมีการสั่นเล็กน้อย
ลืมตาขึ้น สายตายังมองเห็นไม่ชัดเจน ก็ได้มองเห็นใบหน้าของจี้จิ่งเชินในระยะใกล้
ผู้ชายคนนั้นขมวดคิ้วเล็กน้อย สายตามองไปยังเอกสารที่อยู่ในมือ ท่าทางดูจริงจัง
จากมุมของเวินเที๋ยนเที๋ยน จะสามารถมองเห็นส่วนโค้งที่สวยงามของกรามและจมูกที่สูงโด่ง
ร่างกายที่อบอุ่น สบายเป็นอย่างมาก แม้กระทั่งรู้สึกได้ถึงอุณหภูมิร่างกายของจี้จิ่งเชินที่ผ่านเสื้อผ้ามาถึงร่างกายของตนเอง…