เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่ 566 โกรธ
บทที่ 566 โกรธ
“ คุณผู้ชาย นี่…… ”
พ่อบ้านเพิ่งพูดขึ้น จี้จิ่งเชินส่ายหน้าให้เขานิดหน่อย แต่ไม่ได้พูดอะไร หลังจากนั้นเขาก็เดินขึ้นไปชั้นบน
เดินมาสักพัก พอแน่ใจว่าพวกพ่อบ้านไม่อยู่แล้ว
เวินเที๋ยนเที๋ยนถึงค่อยพูดขึ้นเสียงเบา: “ พวกเขาไม่รู้ว่าเป็นฉันใช่ไหม? ”
“ ไม่รู้ว่าเป็นคุณ หรืออยากให้คนที่อยู่ในอ้อมกอดผมเป็นคนอื่นล่ะ? ”
ได้ยินดังนั้น เวินเที๋ยนเที๋ยนก็เปิดผ้าออกทันที และโผล่หัวออกมาอย่างระมัดระวัง
ยังไม่ได้เห็นภาพตรงหน้าอย่างชัดเจน ทั้งตัวเธอก็ถูกผลักจนถอยหลัง และล้มลงไปบนสิ่งของบางอย่างที่ทั้งอ่อนและนุ่ม
พอมองอย่างละเอียด ก็ไม่รู้ว่าตัวเองเดินมาถึงที่ห้องนอนตอนไหน แถมยังถูกผลักให้ล้มลงบนเตียงอีกด้วย
ใบหน้าที่หล่อเกินไปของจี้จิ่งเชินอยู่ตรงหน้าเธอ เวินเที๋ยนเที๋ยนเบิกตากว้าง และมองเขาอย่างตะลึง
“ นายจะทำอะไรน่ะ? ”
เธอพูดไปด้วย และขยับถอยหลังอย่างตื่นกลัวไปด้วย
“ แล้วคุณคิดว่าผมจะทำอะไรล่ะ? ”
จี้จิ่งเชินดึงเนคไทของตัวเองไปมา ลูกกระเดือกของเขาขยับขึ้นลง ดูเซ็กซี่เป็นอย่างมาก
เสื้อเชิ้ตสีขาวถูกเขาปลดออกทีละนิด จนทำให้หน้าอกสีน้ำผึ้งปรากฏออกมาช้าๆ และในแสงไฟสลัวอบอวลไปด้วยกลิ่นที่ไม่สามารถบรรยายออกมาได้
เวินเที๋ยนเที๋ยนหน้าแดงนิดหน่อย ในชั่วขณะเธอจึงไม่รู้ว่าตัวเองควรมองไปที่ไหนดี
จี้จิ่งเชินถอดเสื้อเชิ้ตของตัวเองออกอย่างเชื่องช้า ทำให้เผยให้เห็นหน้าอกกับไหล่ที่แข็งแรงของเขา
เห็นท่าทางนี้ เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ได้ขยับถอยหลังอีกครั้ง
เห็นในสายตาของจี้จิ่งเชินมีความดุร้ายอยู่ในนั้น เธอจึงรีบเลิกผ้าห่มขึ้น และคลุมตัวเองไว้อยู่ด้านใน
“ นี่ก็ดึกมากแล้ว นายยังไม่นอนอีกหรือไง? ”
พฤติกรรมของเธอเหมือนนกกระจอกเทศ จึงทำให้จี้จิ่งเชินยิ้มขึ้นได้
“ กำลังจะนอนแล้ว”
เวินเที๋ยนเที๋ยนห่อหุ้มตัวเองจนมิดชิด เธอพยายามไม่ให้ผมของตัวเองโผล่ออกมาแม้แต่เส้นเดียว น้ำเสียงของเธอดังออกมาจากผ้าห่ม ฟังแล้วเหมือนกำลังกลัดกลุ้ม และดูน่าสงสารเป็นอย่างมาก
“ แล้ว แล้วนายยัง…… ”
เธอพูดไปด้วย และห่อหุ้มตัวเองอย่างมิดชิดไปด้วย
จี้จิ่งเชินเดินเข้าไปใกล้ หลังจากนั้นเขาก็กอดเวินเที๋ยนเที๋ยนพร้อมกับผ้าห่มไว้ในอ้อมอกทั้งอย่างนั้น
“ กำลังจะนอนแล้ว นอนกับคุณไง ”
ก็เห็นว่ามีผ้าห่มกั้นไว้อยู่ แต่กลับทำให้เวินเที๋ยนเที๋ยนตัวร้อนไปทั้งตัว
ไม่นาน เธอกลับพบว่าเมื่อสักครู่เธอได้ขุดหลุมฝังตัวเอง ทั้งตัวของเธอจึงพันกันจนแน่น เธอตะเกียกตะกายอยู่นาน แต่ก็ไม่สามารถหาทางออกเจอ
จี้จิ่งเชินหัวเราะอย่างจนปัญญา หลังจากนั้นเขาก็เป็นฝ่ายดึงเธอออกมาจากในผ้าห่ม
กว่าจะโผล่หัวออกมาได้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เวินเที๋ยนเที๋ยนพยายามสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าปอด พอเธอเงยหน้าขึ้น กลับเห็นดวงตาที่แฝงไปด้วยรอยยิ้มของจี้จิ่งเชินพอดี
พอขยับตัว กลับพบว่าตัวเองโผล่ออกมาแค่หัว ตัวของเธอยังถูกผ้าห่มห่อหุ้มไว้อยู่ อีกทั้งจี้จิ่งเชินก็ยังกอดเธอไว้อยู่เช่นกัน
“ นาย นายปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ ” เวินเที๋ยนเที๋ยนพูดขึ้นอย่างไม่พอใจ
แต่ใบหน้าที่แดงก่ำกลับทำให้การข่มขู่ของเธอ ฟังดูแล้วเหมือนข้างนอกแข็งแรง แต่ข้างในไม่มีอะไรเลยอย่างนั้นแหละ
จี้จิ่งเชินมองเธอ หลังจากนั้นเขาก็ยิ้มออกมาทันที
รอยยิ้มนี้ทำให้เวินเที๋ยนเที๋ยนหน้าแดงมากกว่าเดิม หลังจากนั้นเธอก็ทำการตะเกียกตะกายอย่างรุนแรง
จี้จิ่งเชินเห็นเธอโกรธจริงๆแล้ว เขาจึงพูดขึ้นอย่างหวังดี: “ ไม่ต้องโกรธแล้ว ผมช่วยคุณเอง ”
พูดเสร็จ เขาก็เป็นฝ่ายช่วยเธอออกมาจากในผ้าห่ม
เวินเที๋ยนเที๋ยนเพิ่งเป็นอิสระ เธอยืดเส้นยืดสายนิดหน่อย หลังจากนั้นเธอกำลังจะเดินออกไป กลับพบว่ามือของจี้จิ่งเชินยังไม่หยุดลง
หลังจากที่แกะผ้าห่มออกแล้ว มือของเขาก็เริ่มทำการแกะเสื้อผ้าของเธอต่อ
เวินเที๋ยนเที๋ยนเบิกตากว้าง เธอรีบก้าวถอยหลังอย่างรวดเร็ว
“ นายทำอะไรน่ะ? ”
จี้จิ่งเชินทำหน้าประมาณว่ามันควรจะเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว
“ ใส่เสื้อผ้านอนมันไม่สบายตัว ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนอยากร้องแต่ร้องไม่ออก
“ ฉันว่าสบายดีออก ”
“ ช่วยคนแล้วต้องช่วยให้ถึงที่สุดสิ ”
จี้จิ่งเชินเงยหน้าขึ้น และยกยิ้มให้เวินเที๋ยนเที๋ยน ดวงตาของเขาทำให้เวินเที๋ยนเที๋ยนใจลอยไปชั่วขณะ
เขาถือโอกาสตอนเธอกำลังใจลอย โถมตัวไปด้านหน้า และกดเธอลงเตียงทันที
ตอนนี้เวินเที๋ยนเที๋ยนถึงจะได้สติกลับมา
“ เดี๋ยวก่อน จี้จิ่งเชิน นาย……อื้ออื้อ…… ”
เธอยังพูดไม่ทันจบ ปากของเธอก็ถูกอุดไว้เสียก่อน
ไม่นาน ในห้องที่มืดสนิทก็มีเสียงที่ชวนให้คนหน้าแดงดังขึ้นมาเป็นระยะ
ตอนเช้าวันต่อมา พอตื่นมาก็พบว่าสายมากแล้ว
เวินเที๋ยนเที๋ยนนวดเอวที่ปวดระบมนิดหน่อย อีกฝั่งของเตียงเย็นเจี๊ยบ ไม่รู้ว่าจี้จิ่งเชินออกไปตั้งแต่ตอนไหน
เธอใช้เวลาห้านาทีถึงจะสามารถลุกขึ้นมาจากเตียง หลังจากนั้นก็ไปล้างหน้าบ้วนปาก เปลี่ยนเสื้อผ้า และลงไปชั้นล่าง
พ่อบ้านกับแม่ครัวกำลังรออยู่ที่ชั้นล่าง คล้ายกับพวกเขาทำตามคำสั่งของจี้จิ่งเชิน ให้อุ่นอาหารเช้าให้ร้อนตลอดเวลา หลังจากนั้นก็เหลือเพียงรอเธอลงมา
ในที่สุดพวกเขาก็เห็นเธอลงมาจากชั้นบนอย่างเชื่องช้า แม่ครัวจึงรีบเดินเข้าไปหาทันที
“ คุณผู้หญิงคะ อาหารเช้า…… ”
เดิมที เธอพูดขึ้นยิ้มๆ แต่พอเห็นสภาพของเวินเที๋ยนเที๋ยน แม่ครัวก็เบิกตากว้าง และมีท่าทีตกตะลึง จึงทำให้คำพูดต่อไปของเธอกระโดดออกข้างนอกไปจนหมด
“ อาหารเช้า เตรียมเสร็จ แล้วค่ะ……คุณ จะทานเลยไหมคะ? ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนยังไม่สังเกตถึงความผิดปกติ เธอเดินไปที่ห้องอาหาร และพูดขึ้น: “ ทานเลยค่ะ ”
แม่ครัวมองเธอด้วยสีหน้าที่แปลกประหลาด แต่สุดท้ายก็เดินไปที่ห้องอาหารอยู่ดี
ผ่านไปไม่กี่นาที พ่อบ้านก็เดินออกมา พอเขาเห็นเวินเที๋ยนเที๋ยน ก็ได้มีสีหน้าตกตะลึงเช่นเดียวกับแม่ครัว
เขายืนห่างจากเวินเที๋ยนเที๋ยนอยู่พอประมาณ แววตาของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อน
กว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนจะทานอาหารเช้าหมด ก็ใช้เวลาอยู่พอสมควร เขาลังเลอยู่สักพัก เห็นเธอกำลังจะออกไป เขาถึงค่อยเดินเข้ามาหา
“ คุณผู้หญิงครับ คุณจะออกไปข้างนอกหรอครับ? ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้า หลังจากนั้นเธอก็เดินไปที่ประตู
พ่อบ้านรีบเรียกเธอไว้
“ คุณผู้หญิงครับ ผมว่าวันนี้คุณไม่ต้องออกไปข้างนอกดีไหม? ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนหันกลับมามองอย่างไม่เข้าใจ
“ ทำไมหรอคะ? ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนยื่นมือออกมาลูบคอตัวเองอย่างไม่เข้าใจ เธอไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
พ่อบ้านพูดออกมาไม่ได้ เขาจึงทำได้เพียงเรียกให้แม่ครัวหยิบกระจกมาให้
“ คุณดูสิครับ ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนรับกระจกมาดู หลังจากนั้นเธอก็มองไปในกระจกอย่างสงสัย
“ ทำไมหรอ ” เธอยังคงดูไม่ออกอยู่ดี
พ่อบ้านจึงชี้ให้เธอดูอีกครั้ง เวินเที๋ยนเที๋ยนจึงเงยหน้าขึ้นมา พอเธอเห็น การกระทำของเธอก็แข็งทื่อไปทันที หลังจากนั้นหนึ่งวิ ตัวของเธอก็แดงไปทั้งตัว
นี่มันเรื่องเมื่อไหร่กันเนี่ย?
จากในกระจกจะเห็นได้อย่างชัดเจน ว่าบริเวณที่ไม่ได้อำพรางบนคอของเธอเต็มไปด้วยรอยจูบ
เมื่อสักครู่ ตอนที่เวินเที๋ยนเที๋ยนล้างหน้าบ้วนปาก เธอไม่ได้สังเกตเท่าไหร่ มาตอนนี้ถึงจะสังเกตเห็น
ต้องเป็นจี้จิ่งเชินที่ทำไว้เมื่อคืนแน่เลย!
ไอ้คนบ้า!
เวินเที๋ยนเที๋ยนหน้าแดงทันที เธอรีบเก็บกระจกลงอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นเธอก็มองพ่อบ้านกับแม่ครัวที่อยู่ตรงหน้า
มิน่าเมื่อสักครู่ถึงรู้สึกว่าท่าทางของทั้งสองคนดูแปลกๆไป คงเป็นเพราะเห็นสภาพของเธอเข้า ถึงได้เป็นแบบนั้น
“ คือว่า…… ” เธอพูดขึ้นอย่างยากลำบาก และหลบสายตาทั้งสองคน: “ เพิ่งนึกขึ้นได้ว่างานของฉันทำที่ปราสาทก็ได้ ฉันขอตัวก่อนนะคะ ”
พูดเสร็จ เธอไม่ได้อธิบายอะไรต่อ เอาแต่ก้มหน้าเดินออกไป และขังตัวเองไว้อยู่ในห้องหนังสือ
ตอนกลางคืน
ตอนที่จี้จิ่งเชินกลับมาจากบริษัท เขาเดินเข้าไปในห้องรับแขก และเห็นว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนกำลังทานอาหารค่ำอยู่
นึกถึงตอนที่ออกไปตอนเช้า เธอยังขดตัวอยู่ในอ้อมอกของเขาอย่างสบายใจ แถมยังกอดเขาไม่ปล่อยอีกด้วย
ถ้าไม่ใช่เพราะใช้แรงไปจนหมด เขาถึงกับอยากมองดูเธอตื่นขึ้นมาด้วยตาของเขาเอง
ช่วงนี้กำลังเตรียมงานเลี้ยงค็อกเทลของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ปริมาณงานของทุกวันจึงเยอะจนน่าตกใจ
เดิมที งานที่ต้องทำถึงตอนกลางคืนถึงจะสามารถทำเสร็จ กลับถูกเขาลดเวลาลง เพื่อจะได้กลับมาให้ตรงเวลา
อีกอย่าง คืนนี้เขายังเตรียมเซอร์ไพรส์อย่างอื่นไว้อีกด้วย