เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่ 588 เวลาแกะของขวัญ
บทที่ 588 เวลาแกะของขวัญ
“ไม่มีของขวัญ ก็ต้องใช้อย่างอื่นมาชดเชยไงครับ”
“หืม?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเอียงหน้ามองเขาด้วยใบหน้าที่งงๆ
จี้จิ่งเชินยิ้มแต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา
และไม่นาน รถก็ออกจากคฤหาสน์ มายังปราสาทที่อยู่ตรงชานเมือง
รถจอดลงแล้ว เวินเที๋ยนเที๋ยนกำลังเตรียมที่จะลงรถ ประตูรถก็ถูกจี้จิ่งเชินเปิดออกให้เสียก่อน
เธอเพียงแค่อึ้งไปเล็กน้อย ก็ถูกจี้จิ่งเชินก้มตัวลงแล้วอุ้มขึ้นมาอีก
“พี่จะทำอะไรกันแน่คะ?” เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่เข้าใจ
จี้จิ่งเชินอุ้มเธอเอาไว้แล้วเดินเข้าไปในปราสาท
พ่อบ้านและแม่ครัวและอีกสองสามคนอยู่ในห้องรับแขก แต่เขากลับไม่ได้หยุดเดิน กลับอุ้มเธอขึ้นไปยังด้านบนแทน
เข้าไปในห้องนอน แล้ววางเธอลงบนเตียง เสร็จสิ้นในการกระทำรวดเดียว
เวินเที๋ยนเที๋ยนยิ่งรู้สงสัยมากขึ้นไปอีก
จี้จิ่งเชินยืนอยู่ตรงข้ามกับเธอ แววตามีรอยยิ้มปรากฏขึ้น
“ตอนนี้ ก็เริ่มแกะของขวัญได้แล้ว”
ของขวัญ?
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองด้วยใบหน้าที่ไม่เข้าใจ
แล้วหลังจากนั้น จี้จิ่งเชินกลับยื่นมือออกมา แล้ววางไว้บนหลังของเวินเที๋ยนเที๋ยน
ซิปกระโปรง ถูกเขาดึงลงทีละนิดละนิด แผ่นหลังขาวเนียนปรากฏออมาให้เห็นขึ้นมาทันที
ทันใดนั้นเองเวินเที๋ยนเที๋ยนก็เบิกตากว้างขึ้นมา
“จี้จิ่งเชิน?”
“หืม?”
เขาตอบกลับด้วยเสียงทุ้มต่ำ พลางดึงซิปกระโปรงลงจนสุด หยุดอยู่ตรงช่วงเอวของเธอ
ผิวขาวเนียนค่อยๆปรากฏออกมาทีละนิดทีละนิด ด้านหลังที่เว้าลงเล็กน้อยมีความยั่วยวนยิ่งนัก เลื่อนลงไปเรื่อยๆ ยังสามารถมองเห็นรอยเว้าตรงช่วงเอวสองจุดที่ซ่อนอยู่ใต้ผ้าบางๆอีกด้วย
ใบหน้าของเวินเที๋ยนเที๋ยนแดงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เธอยังไม่ทันได้มีปฏิกิริยาตอบกลับมาในทันที แต่ก็ถอยหลังไปบ้างเล็กน้อย
กลับคิดไม่ถึงว่า เนื่องจากการเคลื่อนไหวเล็กของตัวเองนี้ ได้ทำให้กระโปรงชุดที่ใส่อยู่นั้นร่วงลงมา
เวินเที๋ยนเที๋ยนร้องตกใจขึ้นมา แล้วรีบยกมือขึ้นมาบังตรงหน้าอกเอาไว้
จี้จิ่งเชินมองเธอ ด้วยแววตาหยอกล้อ
“ตอนนี้คือเวลาแกะของขวัญแล้ว”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเบิกตาโต แล้วเข้าใจขึ้นมาในทันที
“พี่…..พี่……”
เธอชี้ไปยังจี้จิ่งเชิน ไม่ได้เอ่ยพูดอะไรออกมาอยู่พักใหญ่
กลั้นไว้พักหนึ่ง หน้าแดง ดวงตาเป็นประกายออกมา
แล้วเอ่ยขึ้นอย่างไม่พอใจ : “ฉันไม่ใช่ของขวัญอะไรนั่น……”
“ใช่สิครับ”
แล้วจู่ๆจี้จิ่งเชินก็รู้สึกใจอ่อนระทวยลงทันที เหมือนกับลูกแมวตัวเล็กๆตัวหนึ่งที่ขดตัวกลมๆอยู่ตรงหน้าตัวเอง ถูกตัวเองแกล้งจนดวงตาแวววาว แบบนี้จะไม่ให้ชอบได้อย่างไรกัน?
เขาก้าวไปด้านหน้า ด้วยอารมณ์ที่พลุกพล่านในดวงตา
เวินเที๋ยนเที๋ยนตกใจจะถอยไปด้านหลัง แต่จู่ๆกลับสะดุดกระโปรงที่อยู่ตรงเท่านั้น ทำให้ร่างกายเสียสมดุล แล้วล้มไปทางด้านหลัง
จี้จิ่งเชินตาไวมือไว รีบเข้าไปตรงด้านหน้า แล้วดึงมือของเธอเอาไว้ มือทั้งสองข้างโอบอยู่รอบเอวของเธอ
ทั้งสองคนเปลี่ยนทิศทาง หลังของจี้จิ่งเชินนั้นล้มลงบนเตียง เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ถูกเขากอดเอาไว้
แน่ใจว่าไม่เป็นอะไรแล้ว เขาถึงได้ยิ้มออกมาเล็กน้อย แววตาปรากฏความหยอกล้อออกมา
“ไม่คิดเลยนะว่าเที๋ยนเที๋ยนของผมจะเป็นฝ่ายรุกเองขนาดนี้”
และพอเวินเที๋ยนเที๋ยนก้มหน้าลงมา ถึงได้พบว่าสองมือของตัวเองนั้นจับเสื้อของจี้จิ่งเชินเอาไว้แน่นตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้
กระโปรงที่อยู่บนร่างของเธอนั้นก็ลงไปกองอยู่บนพื้นตั้งแต่แรกแล้ว
ในเวลานี้บนร่างกายของเธอไม่มีแม้แต่เส้นด้าย ผิวขาวเรียบเนียนราวกับเปล่งแสงออกมาเมื่ออยู่ใต้แสงไฟ ทำให้ไม่สามารถละสายตาออกไปได้เลย
ใบหน้าของเธอแดงก่ำ แล้วคิดที่จะลุกขึ้นมา
แต่เพิ่งจะผละร่างกายออกมานั้น เอวของเธอก็ถูกมือคู่หนึ่งจับตัวเธอกดลงมาอีกครั้งในทันที
“จุดไฟเอาไว้แล้วคิดจะหนีใช่ไหม?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนดิ้นรนด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ พลางเอ่ยขึ้นอย่างไม่พอใจ : “ฉันไปจุดไฟตอนไหนกันคะ?”
จี้จิ่งเชินไม่พูดอะไรออกมา เพียงแค่กอดเอวของเวินเที๋ยนเที๋ยนเอาไว้แน่น แล้วกดตัวเธอเอาไว้
ไม่ต้องพูด เวินเที๋ยนเที๋ยนก็รู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนตรงจุดนั้น ร่างของเธอแข็งทื่อขึ้นมาในทันที ไม่กล้าขยับ
เธอหน้าแดงจนแทบจะไหม้อยู่แล้ว
“ทำไมพี่เป็นแบบนี้?”
จี้จิ่งเชินเลิกคิ้ว ตั้งใจเอ่ยถามออกมา : “ผมทำไมหรือ?”
เห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนหลบตา ร่างที่แข็งทื่ออยู่นั้นไม่กล้าขยับเขยื้อน ทันใดนั้นก็ถูกยั่วจนหัวเราะออกมา
เขาจับหน้าของเวินเที๋ยนเที๋ยนเข้ามาใกล้ แล้วเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำตรงข้างหูเธอ
“นี่จะไม่ใช่ไฟที่คุณจุดหรอกหรือครับ?”
น้ำเสียงทุ้มต่ำ เต็มไปด้วยความดึงดูด ทำให้เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกจั๊กจี้ตรงใบหู ครึ่งหนึ่งของร่างกายนั้นอ่อนยวบไปหมด
“คุณว่า ตอนนี้ควรจะทำอย่างไรดี?” เขาเอ่ยพูดต่อ ลมหายใจอุ่นๆนั้นพ่นรดตรงใบหู
อุณหภูมิรอบๆนั้นราวกับกำลังสูงขึ้นทีละนิดๆ ผิวของเวินเที๋ยนเที๋ยนนั้นก็เป็นสีชมพูจางๆ ดวงตาใสๆนั้นช่างเย้ายวนใจยิ่งนัก
เธอยังคงไม่กล้าขยับ ติดอ่างอยู่แบบนั้น
“ฉัน…..ฉันจะรู้ได้ยังไงล่ะคะ?”
จี้จิ่งเชินหัวเราะออกมาเบาๆ หน้าอกสั่นสะเทือนนั้นส่งไปถึงร่างของเวินเที๋ยนเที๋ยนด้วย
“ผมรู้ ผมสอนคุณได้นะ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนแทบอยากจะขดตัวขึ้นมา เพื่อหาที่สอดแทรกเข้าไปเสีย
“ไม่ต้องค่ะ….ฉัน……”
“คุณรู้?” จี้จิ่งเชินย้อนถาม : “ถ้าอย่างนั้นเมื่อกี้คุณก็หลอกผมสิ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเม้มปาก ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี
เป็นเวลานาน กว่าใบหน้าแดงๆของเธอนั้นจะค่อยๆจางหายไป
และพอเงยหน้าขึ้นมา เห็นแววตาที่กำลังหัวเราะเยาะอยู่นั้น ในใจก็รู้สึกโมโหขึ้นมาทันที พลิกตัวจะเดินออกไป
และเพิ่งจะขยับตัว ออกไปจากตัวของจี้จิ่งเชิน แล้วปีนไปยังอีกฝั่งของเตียง
วินาทีต่อมา ขาข้างขวาก็ถูกจับเอาไว้ แล้วก็ถูกดึงตัวกลับไป
เสื้อเชิ้ตบนร่างของจี้จิ่งเชินนั้นถูกปลดออกแล้ว เผยให้เห็นหน้าอกแข็งแรงโทนสีน้ำผึ้ง
ใบหน้าของเวินเที๋ยนเที๋ยนนั้นร้อนมาก คว่ำหน้าลงอยู่บนเตียง ยังไม่รอให้พลิกตัวกลับขึ้นมาก็ถูกกดตัวเองไว้จากทางด้านหลังเสียก่อน
อุณหภูมิที่ร้อนผ่าวจากร่างกายของจี้จิ่งเชินนั้นส่งผ่านทางหน้าอกมายังด้านหลังของเวินเที๋ยนเที๋ยน ราวกับจะแผดเผาเธออย่างไรอย่างนั้น
เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกเดือนพล่านไปทั้งร่างกาย มือจับผ้าปูที่นอนเอาไว้แล้วดิ้นอยู่พักหนึ่ง แต่ก็กลับถูกจี้จิ่งเชินจับเอาไว้ได้
ผ้าปูที่นอนในมือนั้นถูกดึงออกมา แล้วเปลี่ยนเป็นมือของจี้จิ่งเชินแทน สิบนิ้วประสานกันแน่น
เวินเที๋ยนเที๋ยนซุกหน้าไว้กับผ้าห่ม น้ำเสียงอู้อี้
“จี้จิ่งเชิน…..”
จี้จิ่งเชินยื่นหน้าเข้ามา แล้วเอาคางเกยไว้ตรงไหล่ของเธอ ร่างกายแนบชิดกัน ราวกับไม่มีช่องว่างเหลืออยู่เลยแม้แต่นิดเดียว สามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจนถึงอุณหภูมิในร่างกายของเวินเที๋ยนเที๋ยน และผิวเนียนๆของเธอ
เวินเที๋ยนเที๋ยนกัดฟันอย่างยอมแพ้
“สอนฉัน……”
น้ำเสียงเล็กๆนั้นส่งผ่านผ้าห่มออกมา ฟังดูอู้อี้ ไม่ชัดเจนอยู่บ้าง
จี้จิ่งเชินเข้าไปใกล้ใบหูของเธอ
แล้วจงใจเอ่ยถามขึ้น : “คุณว่าอะไรนะครับ? เสียงดังหน่อยสิ”
หูของเวินเที๋ยนเที๋ยนแดงไปหมดแล้ว ทั้งๆที่รู้ว่าจี้จิ่งเชินตั้งใจ แต่ก็ยังคงเงยหน้าขึ้นมาเล็กน้อย
น้ำเสียงก็เปลี่ยนเป็นชัดเจนยิ่งขึ้น
“จี้จิ่งเชิน สอนฉันนะคะ”
รอยยิ้มในดวงตาของจี้จิ่งเชินนั้นยิ่งลึกซึ้งมากขึ้น แต่กลับยังจงใจเอ่ยพูดขึ้น : “ผมเป็นโค้ช ค่าใช้จ่ายแพงนะครับ”
“อืม…..” เวินเที๋ยนเที๋ยนตอบรับกลับไปเบาๆ
ในใจของจี้จิ่งเชินนั้นเต็มไปด้วยอะไรบางอย่างที่แทบจะเต็มเปี่ยมล้นออกมา หน้าอกพองโต
เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วจับเวินเที๋ยนเที๋ยนให้หันกลับมา
ในรูม่านตาที่ลึกซึ้งนั้น มีอารมณ์ที่ทำให้รู้สึกกลัว จับจ้องมองมาที่เธอ
เวินเที๋ยนเที๋ยนถูกดึงดูด สายตานั้นไม่สามารถละออกไปไหนได้อีก
เขาเอนตัวเข้ามา ควบคุมน้ำเสียงตัวเองไว้อย่างเห็นได้ชัด ราวกับว่าพยายามได้เอาชนะความตั้งใจที่แน่วแน่ของตัวเองเอาไว้แล้ว
“ผมไม่ต้องการเงิน ไม่ต้องการของขวัญ เพียงแค่รับค่าตอบแทนอีกแบบนึงเท่านั้นแหละครับ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่ได้ตอบ เพียงแต่ยกมือขึ้นมา แล้วโอบไหล่ของจี้จิ่งเชินเอาไว้ แนบชิดอยู่บนร่างของเขา
ใช้การกระทำเป็นตัวแทนของทุกสิ่ง
อุณหภูมิในร่างกายของจี้จิ่งเชินนั้นสูงมาก ตอนที่เวินเที๋ยนเที๋ยนกอดเขาเอาไว้นั้น
อารมณ์ที่ถูกระงับไว้ในใจนั้นระเบิดขึ้นมาในทันใด สิ่งคุ้มกันจะปกคลุมทั้งสองคนเอาไว้
เขากอดเวินเที๋ยนเที๋ยนไว้แน่น แล้วจูบเธออย่างลึกซึ้ง
ภายในห้องที่มีแสงสลัวๆนี้ไม่ได้เปิดไฟ
ไม่นานก็มีเสียงเล็กๆเบาๆดังขึ้นมา
ในปราสาทตั้งแต่ชั้น2ขึ้นไปนั้น ไม่มีใครก้าวเท้าเข้ามาในเวลาเช่นนี้
ปราสาทในยามค่ำคืน ราวกับหญิงสาวที่สง่างามคนหนึ่ง ที่อยู่ภายใต้แสงจันทร์ กำลังจัดการอยู่อย่างเงียบๆอยู่บนยอดเขา รู้สึกเขินอายทุกครั้ง ไม่กล้ามองทุกสิ่งที่เกิดขึ้นที่ปราสาทในเวลานี้