เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่ 591 รีบออกไปเถอะ
บทที่ 591 รีบออกไปเถอะ
เวินเที๋ยนเที๋ยนเดินไป
“เขียนไปถึงไหนแล้ว?”
เหยาเย้นเมื่อได้ยินเสียงก็หันหน้ามา เธอขมวดคิ้วและเอ่ยด้วยความทุกข์ใจ “บางทีฉันอาจจะไม่ได้สัมผัสกับด้านนี้มานานมากเกินไป มีกฎบางอย่างบนนั้นที่ฉันไม่เข้าใจอยู่บ้าง”
ได้ฟัง เวินเที๋ยนเที๋ยนก็รับข้อมูลมาดู จากนั้นจึงชี้ให้เห็นข้อผิดพลาดหลายประการออกมา
“อันที่จริง ไม่จำเป็นต้องเขียนให้ซับซ้อนขนาดนี้ เขียนง่ายๆ ก็พอแล้ว”
เหยาเย้นพยักหน้า และแก้ไขใหม่ จากนั้นจึงค่อยรู้สึกโล่งใจขึ้น
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองไปรอบๆ เธอยังคงไม่เห็นเวินหมิงเฮ่าปรากฏตัวขึ้นจึงอดถามขึ้นมาไม่ได้ “หมิงเฮ่ายังโกรธอยู่ อีกหรือ? ”
เหยาเย้นได้ยินคำพูดเข้า เธอก็งงงวยเล็กน้อย
“หมิงเฮ่าเป็นอะไรไป?”
“เขาไม่บอกกับเธอเหรอ? ” เวินเที๋ยนเที๋ยนเองก็งง
เหยาเย้นส่ายหัว “เขายังไม่กลับมา ไม่ได้อยู่กับเธอตลอดหรอกหรือ? ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนชะงักไปชั่วขณะ
“เมื่อกี้ ฉันกับเขาเข้าใจผิดกันนิดหน่อย ฉันคิดว่าเขากลับมาหาเธอแล้ว”
เหยาเย้นได้ยินเข้าก็ตกใจไปชั่วครู่
“ไม่มีนี่ ฉันอยู่ที่นี่ตลอด ไม่เห็นเขากลับมานี่”
“เขาคงไม่ได้หนีไปอยู่ที่อื่นแล้วนะ?” เวินเที๋ยนเที๋ยนตื่นตระหนก
เหยาเย้นเองก็ลนลานขึ้นมาแล้วเช่นกัน
“หมิงเฮ่าถูกเวินหงไห่ตามใจมาตั้งแต่เล็กจนเคยตัว เวลาโกรธก็มักจะชอบหนีไปซ่อน นี่เขาคงไม่ได้อาละวาดอีกแล้วหรอกนะ?”
พูดไป เธอก็นั่งไม่ติดไปแล้วเรียบร้อย เธอลุกขึ้น “ไม่ได้การ ฉันต้องไปหาสักหน่อย”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเดินตามเธอออกไปด้วยความกังวล
“ฉันไปด้วย เรียกคนอื่นมาสมทบด้วยเถอะ ด้านหลังปราสาทล้วนเป็นป่าทอดยาวอีกทั้งยังเป็นภูเขาสูงหลายลูก หากไม่ทันระวังแล้วเผลอเข้าไปในนั้นก็ยากที่จะหาทางออก”
เวินเที๋ยนเที๋ยนกังวลในจุดนี้มากที่สุด เธอรีบไปแจ้งแม่บ้านและคนทำอาหารทันที จากนั้นจึงเรียกกลุ่มบอดี้การ์ดให้ออกค้นหาตามป่า ส่วนคนอื่นๆ ก็กำลังมองหาตามรอบๆ
อย่างไรก็ตาม หลังจากค้นหาไปทั้งช่วงบ่ายเต็มๆ ก็ยังคงไม่เห็นเงาของเวินหมิงเฮ่า ไม่มีใครรู้ว่าที่แท้เขาหายไปไหนกันแน่
เมื่อไม่สามารถหาคนเจอ เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ยิ่งตำหนิตัวเองมากขึ้น
“ถ้าตอนนั้นฉันตามออกมา บางทีเขาอาจจะไม่เดินหายไปแบบนี้”
เหยาเย้นก็กังวลอย่างยิ่งในตอนนี้ เธอมองไปรอบๆ ด้วยความตื่นตระหนก
เมื่อได้ยินคำพูดของเวินเที๋ยนเที๋ยน เธอก็เอ่ยปลอบ “ไม่ใช่ความผิดของเธอ บางทีเขาอาจจะถูกเวินหงไห่และภรรยาของเขาพอกลับไปแล้ว…”
เมื่อมองเห็นท้องฟ้าที่ค่อยๆ มืดลง แต่กลับยังไม่พบคน
เวินเที๋ยนเที๋ยนอยู่ไม่สุขแล้ว ในใจของเธอเกือบจะแน่ใจแล้วว่า หมิงเฮ่าต้องวิ่งเข้าไปในป่าด้านหลังปราสาทโดยไม่ทันระวังแน่
ในขณะที่คิด เธอก็เรียกบอดี้การ์ดหลายคนมาและเตรียมตัวเพื่อค้นหาในภูเขา
ในขณะที่หลายคนกำลังเตรียมตัวออกเดินทาง จี้จิ่งเชินก็เพิ่งกลับมาจากบริษัทพอดี
รถจอดตรงหน้าปราสาท เวินเที๋ยนเที๋ยนรีบร้อนออกไป และต้องการให้จี้จิ่งเชินเรียกคนมาส่วนหนึ่งเพื่อไปค้นหาด้วยกัน
เวินเที๋ยนเที๋ยนเดินไป ประตูรถก็ถูกเปิดออก จากนั้นคนๆ หนึ่งก็ถูกผลักออกมาอย่างดุดัน
เธอจ้องมอง จากนั้นจึงพบว่าเด็กคนนั้นก็คือเวินหมิงเฮ่าที่พวกเขาตามหามานานทั้งวัย
เวินหมิงเฮ่าเม้มปากของเขา ดวงตาของเขาเป็นสีแดง ราวกับว่าผ่านการร้องไห้มาก่อนหน้านี้
ใบหน้าเย่อหยิ่งนั้น กำลังยืนอยู่ที่เดิมอย่างดื้อรั้น ใบหน้าเชิดขึ้นไม่พูดไม่จา
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองดูด้วยความประหลาดใจ และไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
ถัดมา ก็เห็นจี้จิ่งเชินลงมาจากรถ สีหน้าของเขาดูไม่ดีอย่างเห็นได้ชัด
“ทำไมหมิงเฮ่าถึงอยู่กับคุณหล่ะคะ?”
จี้จิ่งเชินขมวดคิ้ว
“บังเอิญเจอระหว่างทางกลับจากบริษัท ฉันเห็นว่าเด็กนี่กำลังมุ่งหาทางกลับบ้านตระกูลเวิน เมื่อถามบอดี้การ์ดก็เลยถูกฉันพากลับมา”
“กลับบ้านตระกูลเวิน”
ในใจของเวินเที๋ยนเที๋ยนเกิดความหวาดกลัว
เหยาเย้นเดาถูกจริงๆ ด้วย เวินหมิงเฮ่าอยากกลับไปที่บ้านตระกูลเวินจริงๆ
ถ้าจี้จิ่งเชินไม่ไปบังเอิญพบเขาเข้า หากหาทางกลับบ้านได้จริงก็แล้วไป แต่ถ้าเขาถูกลักพาตัวหรือประสบอุบัติเหตุระหว่างทาง ก็คงจะเป็นเรื่องแย่แล้ว
เมื่อได้ยินข่าวการกลับมาของเวินหมิงเฮ่า เหยาเย้นก็วิ่งออกจากห้องด้วยความยินดี และอุ้มเด็กไว้ในอ้อมอก และอดร้องไห้ขึ้นมาไม่ได้
คุณเคยไปที่ไหน? คุณรู้ไหมว่าฉันกำลังมองหาสถานที่กี่แห่ง? ”
เวินหมิงเฮ่ากะพริบตา ดวงตาของเขาเป็นสีแดงอีกครั้งจากนั้นจึงซบบนไหล่ของเหยาเย้นและร้องไห้เสียงดังลั่น
ขณะที่ร้องไห้ เขาก็ชี้ไปที่จี้จิ่งเชินที่อยู่ข้างหลังเขา
“เป็นเขา! ทั้งหมดเป็นเพราะเขา! เขารังแกผม!”
จี้จิ่งเชินสีหน้าเย็นชา แม้ว่าเด็กๆ ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าจะเปลี่ยนมุมมองของเขา แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะชอบเด็กชายที่ไม่มีเหตุผลตรงหน้า
เวินหมิงเฮ่าเอ่ยพูดครึ่งหนึ่ง จากนั้นก็เหลือบเห็นท่าทางดุร้ายของเขาก็ตกใจกลัวไปจนไม่กล้าเอ่ยพูดอีก
เวินเที๋ยนเที๋ยนที่ตกอยู่ในความลนลานตลอดช่วงบ่าย ในที่สุดหัวใจของเธอก็ผ่อนคลายลง โชคดีที่เด็กไม่เป็นอะไร ไม่อย่างนั้นเธอคงจะรู้สึกแย่อย่างมากก็จริงๆ
เหยาเย้นเช็ดน้ำตา จากนั้นจึงจูงเวินหมิงเฮ่าและเอ่ยขอโทษ “ขอโทษจริงๆ นะคะที่ทำให้พวกคุณเดือดร้อน”
เวินเที๋ยนเที๋ยนส่ายหัว
“ไม่เป็นไร ส่งเด็กกลับไปก่อนเถอะ ฉันว่าเขาก็ถูกทำให้ตกใจกลัวไปแล้วเหมือนกัน”
เหยาเย้นจูงเวินหมิงเฮ่าผู้ดื้อรั้น จากนั้นจึงขอบคุณพวกเขา และกลับไปที่หอคอย
ใบหน้าของจี้จิ่งเชินยังคงมีสีหน้าไม่สบอารมณ์เล็กน้อย ดูเหมือนว่ามีหลายสิ่งเกิดขึ้นระหว่างทางที่นำเวินหมิงเฮ่ากลับมา
แค่คิดก็รู้ เวินหมิงเฮ่าผู้ซุกซนต้องไปเกล็ดย้อนของจี้จิ่งเชินเข้าให้แล้วแน่
“หมิงเฮ่าทำอะไรลงไปคะ? คุณถึงได้โมโหขนาดนี้?”
จี้จิ่งเชินกลับไม่ตอบ เขาเพียงแค่เอ่ย “ไม่มีอะไร ก็แค่เด็กคนนี้ต้องได้รับการสั่งสอนบ้าง”
ขณะพูด เขาก็จูงมือเวินเที๋ยนเที๋ยนเอาไว้ และเตรียมจะเข้าไปข้างใน
ขณะที่มือของเธอยังไม่ทันจะได้กุมมือเอาไว้ บาดแผลที่ฝ่ามือของเวินเที๋ยนเที๋ยนเมื่อถูกสัมผัสเข้าก็ทำให้เธอเจ็บจนต้องสูดหายใจเข้าลึก
จี้จิ่งเชินได้ยินท่าทางของเธอและพบว่าฝ่ามือของเวินเที๋ยนเที๋ยนมีสัมผัสบางอย่างที่แตกต่างออกมา เขาก็ก้มไปมองด้วยความสงสัยจับมือของเวินเที๋ยนเที๋ยนขึ้นมา
ถัดมา ผ้าก๊อซที่พันแน่นบนมือของเธอก็เข้าสู่สายตาของเขา เห็นได้ชัดว่าเป็นบาดแผลที่เกิดขึ้นไม่นานมานี้ อีกทั้งยังมีเลือดไหลออกมาเล็กน้อยจากผ้าก๊อซ
“เกิดอะไรขึ้น”
ทันใดนั้นเสียงของ จี้จิ่งเชินก็เปลี่ยนเป็นดุดันขึ้นมา เขาถามด้วยความโกรธ “มือของคุณเป็นอะไร?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนต้องการดึงมือกลับ แต่จี้จิ่งเชินกลับดึงเอาไว้แน่น
ไม่มีทางเลือกอื่น เธอได้แต่ยอมเอ่ยปาก “ฉันไม่ทันระวังเลยล้มลง และโดนเศษแก้วบาดเข้า … ”
จี้จิ่งเชินขมวดคิ้ว และยังสงสัยอยู่ลึก ๆ
ขณะกำลังจะพูด แม่ครัวที่ยืนอยู่ด้านข้างก็ได้ยิน และอดไม่ได้ที่จะเอ่ยขึ้น “เป็นแผลที่เกิดขึ้นจากคุณหนูที่ไหนกัน? เห็นชัดๆ ว่าเป็นเพราะเวินหมิงเฮ่าตัวแสบตัวน้อยนั่น”
จี้จิ่งเชินได้ยินดังนั้น สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันที ดวงตาของเขาเข้มขึ้นและหันมองไปที่แม่ครัว
“เกิดอะไรขึ้น? รายงานเรื่องทั้งหมดมาให้ฉันฟัง อย่าได้พลาดสักคำ”
แม่ครัวแทบจะทนไม่ไหวที่จะสั่งสอนบทเรียนที่ดีให้กับเด็กน้อยนั่นสักหน่อย และรีบเอ่ยถึงสาเหตุการบาดเจ็บของเวินเที๋ยนเที๋ยน
“เด็กคนนั้นไม่สำนึกผิด อีกทั้งยังไม่รู้สึกผิดเลยสักนิด ฉันแค่พูดกับเขาไปคำหนึ่ง เขาก็วิ่งออกไปทันที ไม่สนใจอาการบาดเจ็บของคุณหนูเลย….”
ใบหน้าของจี้จิ่งเชินที่เย็นชามากขึ้น ดวงตาของเขาราวกับจะแช่แข็งคนได้แล้ว สีหน้าดำคล้ำแสดงออกว่าโกรธอย่างยิ่ง
เวินเที๋ยนเที๋ยนเห็นเข้า ก็รีบส่งสายตาให้แม่ครัวไม่ให้เธอพูดต่อ
แม่ครัวอ้าปากค้าง อันที่จริงยังมีอีกหลายอย่างที่เธออยากจะบ่น แต่เมื่อเห็นสายตาของเวินเที๋ยนเที๋ยน เธอก็หยุดลงและไม่พูดต่อ
แม้ว่าจะยังพูดไม่จบ แต่แค่เรื่องที่ทำให้เวินเที๋ยนเที๋ยนได้รับบาดเจ็บเพียงเรื่องเดียว ก็เพียงพอที่จะทำให้จี้จิ่งเชินโกรธเป็นฟืนเป็นไฟแล้ว ถึงขั้นที่แทบคิดอยากจะขับไล่ทั้งสองออกจากปราสาทโดยตร