เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่ 611 หลักฐานที่ใช้พิสูจน์ความจริงของเธอ
บทที่ 611 หลักฐานที่ใช้พิสูจน์ความจริงของเธอ
เวินเที๋ยนเที๋ยนนึกไม่ถึงเลยว่าอาจารย์ฟ่านจะขอบคุณเธอ
เธอจึงอึ้งไปสักพัก ก่อนที่จะได้สติกลับมา
“ไม่เป็นไรค่ะ นี่เป็นเรื่องที่ฉันสมควรทำ”
หลังจากพูดจบ อาจารย์ฟ่านกลับเงียบไปแล้วขมวดเข้าหากันจนยุ่งเหยิงเสียอย่างนั้น
เวลาผ่านไปพักใหญ่ ในที่สุดเธอก็เอ่ยปาก: “ฉันรู้ว่าพวกคุณกำลังตามหาหลักฐานของเวินฉี่ในการประชุมเอเชียแปซิฟิกครั้งนี้”
เวินเที๋ยนเที๋ยนตกใจทันทีที่ได้ยิน แล้วมองไปรอบๆ ยังโชคดีที่ไม่มีคนอื่นอยู่ด้วย
และก็ได้ยินเสียงอาจารย์ฟ่านพูดต่อว่า: “ในช่วงการตัดสินการประมูลในรอบสุดท้ายของวันนี้ จู่ๆผู้นั้นก็ชนะการประมูลขึ้นมา พวกคุณก็คงพอจะเดาออกว่าเป็นคนที่ตระกูลเวินหามาสินะ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่รู้ว่าทำไมอาจารย์ฟ่านถึงเอ่ยเรื่องนี้ขึ้นมากะทันหัน จึงสังเกตสีหน้าของเธออย่างละเอียดพร้อมถามหยั่งเชิงไปด้วย: “คุณรู้ไหมคะว่าเกิดอะไรขึ้น?”
“แน่นอน” อาจารย์ฟ่านเองก็ไม่ได้ปฏิเสธและตอบตามตรง: “อันที่จริงแล้วฉันเป็นคนชักใยอยู่เบื้องหลัง แต่คนที่เป็นกุญแจสำคัญที่สุดก็คือเวินฉี่”
เวินเที๋ยนเที๋ยนก็พอจะเดาออก แต่ติดตรงที่ไม่มีหลักฐานนี่สิ
ขณะที่พูด จู่ๆ เธอก็นึกอะไรขึ้นได้ แล้วมองไปที่อาจารย์ฟ่าน หรือว่า…
อาจารย์ฟ่านยังคงมีสีหน้าดังเดิมแล้วพูดต่อว่า: “ถึงฉันจะทำงานร่วมกับตระกูลเวิน แต่จากพฤติกรรมก่อนหน้านี้ของตระกูลเวิน มันทำให้ฉันระแวงเลยต้องหาทางหนีทีไล่ให้กับตัวเอง ไม่อย่างนั้นคงถูกคนอื่นใช้เป็นเครื่องมืออย่างแน่นอน”
พอฟังถึงตรงนี้ เวินเที๋ยนเที๋ยนอดที่จะเบิกตาโตไม่ได้และพอจะเดาได้ว่าอาจารย์ฟ่านจะพูดอะไรต่อ
สุดท้ายเธอก็พูดต่อว่า: “อีกสองวันฉันก็จะไปต่างประเทศแล้วจะไม่กลับมาที่จีนอีก ตอนนี้ทุกคนในครอบครัวต่างก็ย้ายไปอยู่ที่ต่างประเทศกันหมดแล้ว จึงไม่มีอะไรให้น่าเป็นห่วง”
ขณะที่พูดอาจารย์ฟ่านก็มองเวินเที๋ยนเที๋ยนแวบหนึ่ง และดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยเต็มใจเล็กน้อย
“เดิมทีของพวกนี้มีไว้เพื่อรักษาชีวิตของฉัน แต่ในเมื่อคุณดูแลลูกสาวฉัน สิ่งเดียวที่ฉันจะสามารถตอบแทนได้ก็คงจะมีเพียงสิ่งนี้ หลังจากที่ฉันไปแล้ว ฉันจะให้คนส่งของไปให้เผื่อมันอาจจะช่วยคุณได้”
พอสิ้นเสียง เธอก็ไม่ได้อธิบายอะไรอีกแล้วหันหลังเดินจากไป
เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกตกใจก่อนเป็นอันดับแรก แล้วตามมาด้วยความดีใจที่พรั่งพรูออกมา
เธออยากจะตะโกนเรียกอาจารย์ฟ่านไว้ แต่ก็ต้องหยุดลงเพราะเห็นอีกฝ่ายรีบร้อนเดินจากไปอย่างไม่คิดจะหยุด เวินเที๋ยนเที๋ยนยืนนิ่งอยู่กับที่ หัวใจเธอเต้นระรัว คิดไม่ถึงเลยว่าทางเลี้ยวลดคดเคี้ยวนี้จะได้รับผลตอบแทนอย่างไม่คาดคิดแบบนี้
ขอเพียงมีหลักฐานการทุจริตของตระกูลเวินในการประชุมเอเชียแปซิฟิกครั้งนี้ จากนั้นก็มอบให้คุณตำรวจเหยียน มันจะต้องสร้างความเสียหายครั้งใหญ่ให้กับตระกูลเวินแน่นอน!
ในขณะที่คิดเวินเที๋ยนเที๋ยนก็สูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อระงับความดีใจเอาไว้ แล้วหันหลังเดินจากไป
และกลับมาที่ห้องผู้ป่วยของคุณนายหล่อนอีกครั้ง แวบแรกที่เธอเดินเข้ามา จี้จิ่งเชินก็หันกลับมามองทันที
หลังจากที่มองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าหนึ่งรอบและเห็นว่าสีหน้าของเวินเที๋ยนเที๋ยนปกติดี จึงถามว่า: “เป็นอย่างไรบ้าง?”
“ได้รับผลตอบแทนอย่างไม่คาดคิด”
เมื่อได้ยินที่เธอพูด จี้จิ่งเชินก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย แต่พอเห็นรอยยิ้มที่ภาคภูมิใจของเวินเที๋ยนเที๋ยนแล้ว จึงไม่ได้เอ่ยปากถามอะไรมาก แล้วบอกแค่ว่า: “เธอไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว”
“เมื่อกี้คุณหมอเพิ่งเข้ามาตรวจ บอกว่าการผ่าตัดของคุณนายหล่อนผ่านไปได้ด้วยดี พรุ่งนี้ก็คงจะตื่นแล้วเลยให้พวกเรากลับไปพักผ่อนก่อน”
เวินเที๋ยนเที๋ยนหันไปมอง ก็เห็นเวินหงไห่ยืนอยู่ข้างนอกห้องผู้ป่วยและมองลอดผ่านกระจกใสเข้ามาหาคนที่กำลังนอนอยู่บนเตียงอย่างห่วงใย
ถ้ายังไม่เห็นคุณนายหล่อนฟื้นขึ้นมา เห็นทีเขาคงจะไม่ยอมจากไปอย่างหมดห่วงแน่นอน
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองคนที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย
ดูเหมือนว่าตอนนี้ความผูกพันของครอบครัวจะลึกซึ้งขึ้น
“ให้พ่อบ้านกลับไปเอาของใช้จำเป็นของคุณนายหล่อนมาส่งเถอะ ฉันยังอยากอยู่ที่นี่นานขึ้นอีกนิด”
จี้จิ่งเชินรู้ว่าเธอกังวล จึงเอื้อมมือออกไปโอบกอดเธอไว้
“ไม่ต้องห่วง ไม่มีทางเกิดเรื่องขึ้นหรอก”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้าแล้วตอบ: “เดี๋ยวฉันโทรบอกทีมชี้แนะก่อนว่าวันนี้ฉันคงจะไปไม่ได้แล้ว”
ทุกคนรอจนดึกดื่น จนพ่อบ้านส่งของใช้จำเป็นของคุณนายหล่อนมาให้แล้ว แต่ก็ไม่เห็นว่าเธอจะมีท่าทีฟื้นขึ้นมาเลย
หลังจากที่ตรวจแล้วคุณหมอก็บอกพวกเขาว่าอาการของเธอค่อยๆ ดีขึ้นและก็พ้นขีดอันตรายแล้ว ได้ยินแบบนี้ทุกคนถึงได้ถอนหายใจอย่างโล่งอก
เมื่อเฝ้ามาทั้งวันแล้วเวินเที๋ยนเที๋ยนกับจี้จิ่งเชินก็รีบกลับบ้าน แล้วทิ้งเวินหงไห่ไว้ให้เขาอยู่ในห้องผู้ป่วยเป็นเพื่อนคุณนายหล่อนคนเดียว
ส่วนเวินเที๋ยนเที๋ยนก็ยังไม่วางใจ เช้าวันรุ่งขึ้นเธอก็ทำซุปแล้วรีบมาเยี่ยม
ในตอนที่เข้ามาคุณนายหล่อนก็ฟื้นขึ้นมาแล้ว
คนทั้งสองกำลังพูดคุยกัน ถึงแม้เสียงของคุณนายหล่อนจะฟังดูอ่อนล้าแต่กลับแฝงด้วยความไม่สบอารมณ์
“ก่อนหน้านี้พวกเราเคยคุยกันแล้วไม่ใช่เหรอว่าจะไม่บังคับเธอ?”
น้ำเสียงของเวินหงไห่ในตอนนี้มีความแข็งกร้าวเล็กน้อย
“ดูสภาพคุณเมื่อวานสิ ผมจัดการเรื่องมากมายอย่างนี้อีกได้อย่างไร? คุณจะอยู่ต่ออีกไม่ได้ ไม่ว่าอย่างไร ปีนี้คุณก็ต้องออกจากบริษัท”
คุณนายหล่อนถอนหายใจอยู่นานก่อนจะเอ่ยอย่างลำบากใจว่า: “ถ้าฉันไม่ทำต่อไปล่ะก็ บริษัทของตระกูลหล่อนจะทำอย่างไร?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนที่ยืนแอบฟังอยู่หน้าประตูก็เริ่มรู้สึกถึงความหนักอึ้งภายในใจ
เธอไม่เคยรู้ว่าก่อนเลยว่า เพื่อให้ตัวเธอนั้นมีอนาคตที่ดีแล้วคุณนายหล่อนกับเวินหงไห่ยอมแบกรับภาระไว้โดยลำพังอย่างยากลำบากขนาดนี้
เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วเคาะประตู
พอได้ยินเสียงเคาะประตู ทั้งสองคนก็เงียบเสียงลงก่อนที่จะได้ยินเสียงของเวินหงไห่ดังขึ้น
“เข้ามา”
เวินเที๋ยนเที๋ยนผลักประตูเข้ามา
คุณนายหล่อนเอนกายอยู่บนเตียง เธอไม่ได้แต่งหน้าและมันยิ่งทำให้สีหน้าของเธอดูขาวซีดอย่างเห็นได้ชัด
พอเห็นเวินเที๋ยนเที๋ยน เธอก็มีท่าทีที่ตึงเครียด ราวกับกังวลว่าหล่อนจะได้ยินคำพูดที่พวกเขาเพิ่งพูดกัน
เวินเที๋ยนเที๋ยนดูออกถึงความกังวลของเธอ จึงยิ้มแล้วเดินเข้าไปหาพร้อมพูดว่า: “คุณหมอบอกว่าทางที่ดีช่วงสองสามวันนี้ให้ทานอาหารเหลวที่ย่อยง่ายถึงจะดีต่อร่างกาย ฉันเรียนทำอาหารจากแม่ครัวมา อยากจะลองทานสักหน่อยไหมคะ?”
ขณะที่พูดเธอก็ถือกล่องอาหารแล้วเดินไปที่ข้างเตียง
พอคุณนายหล่อนเห็นเธอก็ดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาไม่น้อยและมีความดีใจปรากฏในดวงตาเล็กน้อย
“เธอทำเองเหรอ? ต้องอยากชิมอยู่แล้ว”
พูดเสร็จ เธอก็อยากลุกขึ้น แต่กลับถูกเวินหงไห่ที่อยู่ข้างๆ รีบห้ามไว้เสียก่อน
“คุณหมอบอกว่าตอนนี้คุณยังลุกขึ้นมาไม่ได้ นอนลงก่อนเถอะ”
พอได้ยินแบบนี้ คุณนายหล่อนก็เหลือบมองเขาอย่างตำหนิแวบหนึ่ง
เวินเที๋ยนเที๋ยนยิ้มแล้วรีบเอ่ยว่า: “ไม่เป็นไร ให้ฉันป้อนคุณเถอะ”
พอคุณนายหล่อนได้ยินแบบนี้ก็ทั้งแปลกใจและดีใจ
“ฉันทำเองก็ได้”
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่ตอบและนั่งลงบนเตียง จากนั้นเปิดกล่องข้าว ไอร้อนลอยขึ้นมาปะทะเข้าที่ใบหน้า กลิ่นหอมอ่อนๆ กระจายฟุ้งไปทั่วภายในห้อง
เวินเที๋ยนเที๋ยนตั้งใจเป่าน้ำซุปใสร้อนๆ นี้ให้เย็น ก่อนจะป้อนให้คุณนายหล่อน
คุณนายหล่อนรู้สึกประหม่าเล็กน้อยขณะที่มองดูการกระทำของเธอ ราวกับคนที่เพิ่งจะได้รับการประเมิน
ใครจะคาดคิดล่ะว่า คุณนายหล่อนผู้มีชื่อเสียงเลื่องลือ เป็นบุคคลที่มีอำนาจในวงการการค้าและเป็นผู้นำบริษัทหล่อนซื่อกรุ้ป พออยู่ต่อหน้าลูกสาวของตัวเองแล้วจะเป็นแบบนี้ได้
แต่มีเพียงแค่ตัวเธอเองเท่านั้นที่รู้
ฉากที่เธอใช้เวลารอคอยมานานกว่ายี่สิบปีในที่สุดก็มาถึงแล้ว
คิดถึงตรงนี้ ขอบตาของคุณนายหล่อนก็เริ่มชื้น