เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่ 627 ราคาของฉันแพงมากนะ
บทที่ 627 ราคาของฉันแพงมากนะ
เวินเที๋ยนเที๋ยนกลัวเขาแสดงอาการเช่นนี้มากที่สุด แต่ถ้าลองนึกดูดีๆ ตนเองก็ไม่ได้ผิดอะไรอยู่แล้ว ทำไมต้องรู้สึกผิดเวลาเห็นจี้จิ่งเชินด้วยล่ะ?
เธอกัดฟันแล้วพูดว่า: “ถึงแม้ว่าคุณจะไม่เห็นด้วย ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังไงก็ต้องถ่ายทำ ถึงตอนนั้นฉันต้องไปเจอคนพวกนี้อยู่ดี เพื่อพูดคุยรายละเอียดของภาพยนตร์เรื่องนี้”
พูดด้วยน้ำเสียงที่ดุดัน พูดทีเดียวติดๆกันจนจบ แต่ไม่ทันระวังเหล่ตาไปมองสีหน้าของจี้จิ่งเชินจากนั้นเสียงพูดก็หยุดชะงักกะทันหัน
ความดุดันเมื่อสักครู่นี้ก็หายไปในทันที แล้วมองดูสีหน้าของจี้จิ่งเชิน
เวินเที๋ยนเที๋ยนลองๆพูดขึ้นมา: “ที่จริงแล้ว ฉันก็อยากให้คุณไปกับฉันด้วยกัน แต่ว่าตอนนี้โปรเจคของบริษัทเอ็มไอกรุ๊ปเพิ่งจะเริ่มและกำลังดำเนินการอยู่ คุณคงไม่มีเวลาแน่ๆ…..”
“ผมไปกับคุณด้วย” ยังไม่ทันพูดจบ จี้จิ่งเชินก็พูดแทรกขึ้นมาขัดคำพูดของเธอ
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองดูจี้จิ่งเชินดีๆ อยากจะปฏิเสธอย่างอ้อมค้อม แต่ท่าทางเขาเหมือนจะเอาจริง จึงได้แต่ยอมประนีประนอม
“ก็ได้ แต่ถึงตอนนั้นคุณต้องใจเย็นๆ ห้ามโมโหนะ”
ตอนแรกเธอไม่อยากพาจี้จิ่งเชินไปด้วย ก็เพราะกลัวอารมณ์ร้อนของจี้จิ่งเชิน
ในวงการบันเทิงผู้กำกับที่เก่งมากฝีมือและบรรณาธิการนักเขียนบทละคร ส่วนมากอารมณ์ร้อน
ถ้าหากเจอหน้ากันแล้ว ต่างฝ่ายคุยด้วยน้ำเสียงที่ไม่ดี จี้จิ่งเชินอยู่ในสถานการณ์แล้ว เขาต้องไม่พอใจแน่นอน ถึงตอนนั้นความร่วมมือทั้งหมดอาจจะต้องเจรจาล้มเหลว
ตอนนี้จี้จิ่งเชินต้องไปให้ได้ จึงจำเป็นต้องคุยเงื่อนไขกันก่อน
นึกไม่ถึงว่าจี้จิ่งเชินแค่ยักคิ้วเล็กน้อย ไม่ได้ตอบตกลงอย่างจริงจัง เห็นได้ชัดเจนว่าอยากจะหลีกเลี่ยงปัญหานี้
แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่ยอมให้เขาหลีกหนีปัญหานี้ เขาจึงพูดว่า: “ไม่โกรธหรอก”
เวินเที๋ยนเที๋ยนยังรู้สึกไม่มั่นใจ จึงมองดูสีหน้าของจี้จิ่งเชินอย่างละเอียดแล้วถึงวางใจในที่สุด
“พรุ่งนี้เราออกเดินทางไปพร้อมกัน ไปหาผู้กำกับคนนี้กัน!”
เธอชี้คนที่อยู่ในเอกสารด้วยความกระตือรือร้น จี้จิ่งเชินพยักหน้าเล็กน้อย แต่ความโมโหในแววตาถูกกดดันไว้ข้างใจสุด
สิ่งที่เขาโกรธไม่ใช่เพราะเวินเที๋ยนเที๋ยนจะไปพบผู้กำกับเหล่านั้นในวันพรุ่งนี้ สิ่งที่เขาโกรธจริงๆ คือเวินเที๋ยนเที๋ยนเพิ่งจะทำงานได้ไม่ถึงอาทิตย์ ก็ถูกพวกคณะกรรมการรังแกได้
คนที่เก่งๆแค่มองก็รู้ การพนันในครั้งนี้ เห็นได้อย่างชัดเจนว่าพวกเขาต้องการจะเตะเวินเที๋ยนเที๋ยนออกจากบริษัท
หรือพวกเขาคิดว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนจะไม่มีคนปกป้องในตอนนี้หรือ?
ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ผ่านไปตามกาลเวลา ต้องมีคนบางคนที่ถูกคัดออก
ถ้าจะคัดเลือกสิ่งที่ดีที่สุด สิ่งที่แย่ๆทั้งหลายก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ต่อไปอีก
พวกสมาชิกคณะกรรมการของตระกูลหล่อนอยู่บริษัทตระกูลหล่อนมานานสิบกว่าปีแล้ว ก็ถึงเวลาที่ต้องเกษียณแล้ว
ในขณะที่คิดอยู่จี้จิ่งเชินหรี่ตาลงเล็กน้อย ในตามีแสงมืดวาบผ่านตา
แน่นอน แผนการเหล่านี้เขาไม่มีทางให้เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้อย่างเด็ดขาด จะดึงพวกคณะกรรมการลงมามีวิธีเยอะแยะมากมาย
สามารถขึ้นมาถึงตำแหน่งเหล่านี้ของพวกเขา มีใครที่มือสะอาดบ้าง?
เขาค่อยๆลดสายตาลง ขนตาที่ยาวๆปิดความดุร้ายในแววตาไว้
จนเขาเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง มุมปากก็ยิ้มด้วยความอ่อนโยน ดูไม่ออกถึงความเปลี่ยนแปลงเลยสักนิดเดียว
แค่ดึงตัวเวินเที๋ยนเที๋ยนไว้และพูดว่า: “ยังมีธุระที่ต้องเตรียมการหน่อย”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเก็บเอกสารให้เรียบร้อย ไม่เข้าใจที่เขาพูดจึงหันหน้าไปมองเขา
“เตรียมอะไร?”
พูดแล้ว ก็ถูกจี้จิ่งเชินดึงตัวเข้าไปข้างใน
จากนั้นก็ถูกถึงเข้าไปในห้องนอนโดยไม่รู้ตัว
เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกตัวและคอยระวัง
“เตรียมการอะไรต้องดันเนินการในห้องนอน?”
สองมือของจี้จิ่งเชินโอบไว้ที่เอวของเธอ นิ้วมือขยับและถูไปมาเล็กน้อย ทำให้รู้สึกขนลุกเป็นพักๆ รบกวนความคิดของเวินเที๋ยนเที๋ยนตลอดเวลา ความสนใจถูกรวบรวมไปที่มือของจี้จิ่งเชินโดยไม่ได้ถูกควบคุม
แม้แต่ความรวดเร็วของความคิดก็หมุนได้ช้าลง
ในห้องนอน จี้จิ่งเชินเข้าไปพิงเธออย่างแนบแน่น ก้มหน้าลงเล็กน้อย ริมฝีปากก็ใกล้จะแตะถึงติ่งหูของเวินเที๋ยนเที๋ยนแล้ว เขาพูดเสียงเบาๆขึ้นมา
“พรุ่งนี้อยากให้ผมไปพบผู้กำกับกับคุณไหม?”
ความคิดของเวินเที๋ยนเที๋ยนมีความเชื่องช้าเล็กน้อย
ถึงแม้นี่จะเป็นข้อเสนอที่จี้จิ่งเชินเรียกร้องเอง แต่เธอดูแล้ว ทั้งสองสถานการณ์ไม่ต่างอะไรเลย
ยิ่งกว่านั้นความคิดของตนเองในตอนนี้ ได้ถูกกิริยาอาการของจี้จิ่งเชินรบกวนจนมึนไปหมด หยุดชะงักอยู่อย่างนั้น เธอจึงได้แต่พยักหน้า ขี้เกียจคิดความหมายลึกๆที่อยู่ในนั้น
จี้จิ่งเชินหัวเราะเบาๆ ในลำคอเบ่งเสียงหัวเราะออกมาเบาๆ น้ำเสียงเต็มไปด้วยความยั่วยุ
มือของเขาค่อยๆขยับขึ้นไปด้านบนทีละนิด รั้งด้านหลังของตัวเวินเที๋ยนเที๋ยนไว้ น้ำเสียงยิ่งอยู่ยิ่งเบาลง เต็มไปด้วยความเสน่ห์หา
เหมือนไซเรนที่ดึงดูดคนกลางทะเล ใช้เสียงเพลงดึงดูดลูกเรือ เดินหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง ตกหลุมพรางที่เขาวางไว้
แต่ถึงแม้ว่าจะเป็นเช่นนี้ เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ค่อยๆถูกดึงดูด ไม่มีโอกาสต่อต้าน
สายตาของเธอค่อยๆหลับลง ในตาลึกๆเต็มไปด้วยความหลงใหล
เสียงของจี้จิ่งเชินดังขึ้นข้างๆหู
“ผมเคยบอกแล้ว ราคาของผมแพงนะ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเอียงหัวนิดๆ ไม่เข้าใจความหมายของเขา
จี้จิ่งเชินไม่รีบร้อนเลย ค่อยๆอธิบายไป
“ถ้าคุณจะให้ผมออกไปพร้อมกันล่ะก็ มันต้องมีผลตอบแทนสักหน่อย”
“หึม?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนถึงตอนนี้ก็ยังคิดไม่ออก เอียงหัวมองหน้าจี้จิ่งเชิน
ท่าทางที่ซื่อๆตั้งตัวไม่ทันเช่นนี้ ทำให้หัวใจของจี้จิ่งเชินละลาย
ดวงตาของเขาหรี่ลงเล็กน้อย มือที่วางอยู่ตรงเอวของเวินเที๋ยนเที๋ยนก็จับแน่นขึ้นทันที ถือว่าอาการโต้ตอบของเวินเที๋ยนเที๋ยนคือความยินยอม ฝ่ามือก็ร้อนมากยิ่งขึ้น
น้ำเสียงที่ต่ำก็แหบกว่าเดิม
“ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นผมจะเริ่มแล้วนะ”
พูดแล้ว สองมือของจี้จิ่งเชินเลื่อนลงไปด้านล่าง ยกขาทั้งสองข้างของเธอขึ้น
ทั้งตัวของเวินเที๋ยนเที๋ยนถูกจี้จิ่งเชินอุ้มขึ้นมาและเดินเข้าไปทางเตียงใหญ่ที่สะดุดตาในห้องนอนนั้น
จนไปถึงที่เตียงแล้ว เวินเที๋ยนเที๋ยนถึงรู้สึกตัว ตื่นตาตื่นใจขึ้นมาทันที สองตาลืมขึ้นมาโตๆ
“จี้จิ่งเชินคุณขี้โกง!”
เห็นเธอตอนนี้เพิ่งจะรู้สึกตัว จี้จิ่งเชินมุมปากยิ้มขึ้นมากว้างๆ
“ผมขี้โกงตอนไหน? เรื่องทั้งหมดเมื่อกี้คุณเป็นคนรับปากผมเองไม่ใช่เหรอ?”
“แต่ว่า……”
เวินเที๋ยนเที๋ยนหน้าแดงเล็กน้อย อยากอธิบาย แต่ก็ไม่รู้ว่าควรเอ่ยปากพูดยังไง หงุดหงิดมาก
ตนมองหน้าจี้จิ่งเชินฟังเสียงของเขา กำลังเคลิ้มกับท่าทางของเขา ยังจะมีแรงที่ไหนไปคิดเกี่ยวกับคำพูดของจี้จิ่งเชินได้อีก?
เห็นได้อย่างชัดเจนว่าผู้ชายที่อยู่ตรงหน้า ตั้งใจวางแผนให้เธอตกหลุมพราง คิดหาวิธีเป็นร้อยเป็นพันเพื่อลวงให้เธอหลงกล
ทั้งๆที่ตนเองก็หลงกลแล้วตั้งหลายครั้ง แต่ก็ไม่จดจำ ปล่อยให้ตนเองหลงกลทุกครั้ง
นึกถึงเช่นนี้ เธอร้องเรียนขึ้นมาด้วยความไม่พอใจ
“คุณเป็นคนร้องขอจะไปพบผู้กำกับและบรรณาธิการพร้อมกับฉันเอง ค่าตอบแทนอะไร……ถึงแม้จะต้องจ่าย ก็ควรเป็นคุณ……”
เวินเที๋ยนเที๋ยนยิ่งคิดยิ่งไม่พอใจ คิดว่าจี้จิ่งเชินยังจะงี่เง่าไม่ยอมฟังเหตุผลต่อไปอีก แต่นึกไม่ถึงว่าเขาจะหยุดการเคลื่อนไหวจริงๆ
เหมือนเดาออกว่าตอนนี้ในใจของเธอกำลังคิดอะไรอยู่
“ถ้าอย่างนี้คือ ผมเป็นคนขอร้องให้คุณพาผมไปด้วย?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้าอย่างจริงจัง
จี้จิ่งเชินเห็นแล้ว ขมวดคิ้วเล็กน้อยและคิดอะไรในหัวอยู่
สักพัก ก็อุ้มตัวเวินเที๋ยนเที๋ยนขึ้นมาเดินไปทางเตียงอีกครั้ง
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นก็เปลี่ยนให้ผมเป็นคนตอบแทนคุณก็ได้