เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่ 630 สมหวัง
บทที่ 630 สมหวัง
จี้จิ่งเชินถอนหายใจทีหนึ่ง พลิกตัวไปกอดเวินเที๋ยนเที๋ยนไว้ในอก
พอรู้สึกถึงการเคลื่อนไหวของเขา เวินเที๋ยนเที๋ยนลืมตาขึ้นมาทันที
“คุณทำอะไร……”
จี้จิ่งเชินยักคิ้วนิดๆ
“จุดไฟแล้วจะหนีเหรอ?”
พูดแล้ว สองมือสองแขนงอลงเล็กน้อย ขยับตัวเข้าไปแนบชิดกับตัวเวินเที๋ยนเที๋ยน
พอเขาขยับตัว เวินเที๋ยนเที๋ยนก็รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงบนตัวของเขา จากนั้นตื่นตัวจนลืมตาโต ไม่กล้าขยับ
“แต่ว่าคุณตกลงกับฉันเอง ว่าคืนนี้ คุณจะฟังฉันทุกอย่าง”
พูดไปด้วย เสียงของเวินเที๋ยนเที๋ยนยิ่งพูดยิ่งเบาลง สุดท้ายก็ออกเสียงอยู่ในลำคอนิดๆ
แววตาของจี้จิ่งเชินเหมือนเต็มไปด้วยประกายไฟ มองมาบนร่างกายของตนเอง แม้แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนก็รู้สึกได้ถึงความอุ่นบนตัวเขา
ในตาเต็มไปด้วยแสงแห่งความเสน่ห์หา แต่แสงไฟนั้นทำให้เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกอันตราย
ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปจริงๆ พรุ่งนี้ตนเองยังจะตื่นมาได้ตรงเวลาหรือ เดี๋ยวจะกลายเป็นปัญหาขึ้นมาจริงๆ
คิดเช่นนี้แล้ว เวินเที๋ยนเที๋ยนกลืนน้ำลาย ฝืนดึงสติตนเองกลับมา
“แต่……แต่ว่าฉันเหนื่อยแล้ว……”
ช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันมา เขารู้นิสัยของจี้จิ่งเชินอย่างชัดเจน
ในเวลานี้ ถ้าตนเองบอกว่าไม่เอา จะถูกจี้จิ่งเชินเล่นงานหนักกว่าเดิมอีก
แต่ถ้าตนเองใช้ร่างกายของตนเองเป็นข้ออ้างเพื่อหยุดชั่วคราวล่ะก็ จี้จิ่งเชินปกติจะไม่เคยปฏิเสธ
เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ เธอยังแกล้งหาวยาวๆหนึ่งครั้ง มองหน้าจี้จิ่งเชินและทำหน้าตาที่น่าสงสาร
วิธีนี้ใช้เมื่อไหร่ก็ได้ผลทุกครั้ง
เวินเที๋ยนเที๋ยนกำลังคิดอยู่ในใจ
แต่นึกไม่ถึงว่าจี้จิ่งเชินไม่ยอมหยุด แต่กลับยื่นมือของเขามาวางตรงท้องน้อยของเวินเที๋ยนเที๋ยน
นิ้วมือค่อยๆขยับ จากนั้นก็แกะกระโปรงสั้นบนเอวของเวินเที๋ยนเที๋ยนออกโดยง่ายๆ
“ไม่เป็นไร คุณนอน เรื่องข้างหลังเดียวผมมาทำเอง”
ได้ยินคำพูดนี้แล้ว เวินเที๋ยนเที๋ยนอยากจะร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา
ภายใต้การโจมตีเช่นนั้น เธอจะนอนหลับได้ยังไง?
เห็นทีที่ตนเองจุดไฟเมื่อกี้ มากเกินไปจริงๆ จี้จิ่งเชินต้องไม่ยอมปล่อยเธอง่ายๆแน่นอน
กระโปรงสั้นถูกดึงขึ้นมาอยู่บนเอวแล้ว จี้จิ่งเชินโน้มตัวลงอีกครั้ง กอดเวินเที๋ยนเที๋ยนไว้แน่นๆ แลบลิ้นออกมาจูบบนหน้าของเธอเบาๆ
“ในฐานะที่เป็นนักธุรกิจที่มีความยุติธรรม ให้ความสำคัญกับการให้และการตอบแทนบุญคุณ มีมารยาทต่อกัน แค่การเจรจาต่อรองสำเร็จ ก็ต้องมีค่าตอบแทนอย่างแน่นอน”
ในตาของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม แต่น้ำเสียงที่พูดจริงจังมาก
“ในเมื่อไม่อยากขยับ งั้นก็ให้ผมเป็นคนตอบแทนด้วยตนเองละกัน”
พูดแล้ว เขาดึงมือของเวินเที๋ยนเที๋ยนมาจูบเบาๆ
“ตอนนี้บอกผมดูซิ เที๋ยนเที๋ยน คุณอยากได้อะไรเป็นสิ่งตอบแทน?”
“ฉัน……”
เวินเที๋ยนเที๋ยนอยากปฏิเสธ แต่พอเอ่ยปาก เห็นแววตาและลมหายใจของจี้จิ่งเชินแล้ว ปฏิเสธไม่ลงอีกเลย
เธอจ้องจี้จิ่งเชินตรงๆ หนีไม่พ้นเลยสักนิด แต่ความเขินอายในใจ ทำให้เธอไม่กล้าเอ่ยปากพูดออกมา
จี้จิ่งเชินจูบติ่งหูและกำลังยั่วยวนเธอ
“อยากได้อะไร? บอกผม ขอแค่คุณพูด ผมจะให้คุณ”
ลมหายใจของเวินเที๋ยนเที๋ยนเริ่มร้อนรนขึ้นมา ความคิดทั้งหมดเหมือนกำลังตกหลุมเสน่ห์ของสายตาจี้จิ่งเชินเข้าแล้ว
เธอยกมือขึ้นด้วยความเมามัว หน้าตาแสดงอาการโง่ๆ อีกทั้งยังยื่นตัวเข้าใกล้หน้าอกของจี้จิ่งเชินยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆหูของเขา
“ฉันอยากจะเอาคุณ”
ร่างกายของจี้จิ่งเชินสะเทือนขึ้นมาทันที ในใจลึกๆเหมือนมีเมล็ดพันธุ์ที่งอกใบไม้ขึ้นมาทันที เติบโตขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
เสียงดัง ปั้ง! เติบโตจนกลายเป็นต้นไม้ใหญ่ ยืดจนเกือบทะลุหัวใจของเขา
มีอะไร ทะลุออกมาอย่างบ้าคลั่ง
ทันใดนั้น แววตาของจี้จิ่งเชินก็มืดมิดลง อีกทั้งยังเต็มไปด้วยความดุดัน
มือข้างหนึ่งของเขาโอบเอวของเวินเที๋ยนเที๋ยนไว้ ไม่ให้เธอมีโอกาสถอยหลังหนีไปไหน จากนั้นกัดฟันไว้แน่น
“ตามที่ใจคุณต้องการ”
พูดจบ จี้จิ่งเชินก็ก้มหัวลง จูบปากของเวินเที๋ยนเที๋ยนอย่างลึกซึ้ง
ทั้งคืน จี้จิ่งเชินได้ตอบแทนเวินเที๋ยนเที๋ยนด้วยแรงกาย ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ไม่หลับไม่นอนทั้งคืน
จนกว่าคนที่นอนอยู่ด้านล่างจะขอร้อง เขาถึงยอมหยุดในที่สุด
แต่ว่าในตอนนั้น ก็เป็นเวลาที่ฟ้าใกล้สว่างแล้ว
จนเวินเที๋ยนเที๋ยนตื่นมาจากความฝันในวันรุ่งขึ้น ก็เป็นเวลาเที่ยงวันแล้ว
เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกปวดเมื่อยไปทั้งตัว นึกถึงเมื่อคืนไม่ได้นอนทั้งคืนกับจี้จิ่งเชินที่ร้อนแรง ทำให้เธอหน้าแดงขึ้นมาทันที
ยังมาบอกว่าจะตอบแทน วันนี้ดูแล้ว คนที่ตอบแทนจริงๆควรจะเป็นเธอมากกว่า
กำลังคิดอยู่ เวินเที๋ยนเที่ยนก็นึกขึ้นได้ว่าวันนี้ได้นัดเจอผู้กำกับและบรรณาธิการไว้ ไม่รู้ว่าตอนนี้ยังทันหรือเปล่า
เธอรีบลุกขึ้นจากเตียง แล้ววิ่งลงไปชั้นล่าง
เพิ่งจะเดินไปถึงห้องรับแขก ก็เห็นจี้จิ่งเชินกำลังบริหารงานและประชุมออนไลน์กับพนักงาน
เห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนเข้ามา เงยหน้าขึ้นมายิ้มให้เธอนิดๆ
ในใจของเวินเที๋ยนเที๋ยนยังจำเรื่องที่ตนเองถูกรังแกเมื่อคืนได้ มองหน้าเขาด้วยความไม่พอใจ จากนั้นก็หันตัวเดินไปทางห้องครัว
แม่ครัวกำลังยืนยิ้มรออยู่ตรงข้างๆโต๊ะอาหาร
“คุณผู้หญิงคะ คุณชายได้สั่งพวกเราไว้ ให้เลื่อนอาหารเช้าไปตอนเที่ยงแล้ว เดี๋ยวดิฉันไปยกมาให้เดี๋ยวนี้เลยค่ะ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินเช่นนั้นแล้ว หน้าแดงขึ้นมาทันที
เธอพยักหน้า แล้วนั่งลงบนเก้าอี้ห้องอาหาร
ผ่านไปสักพัก จี้จิ่งเชินประชุมเสร็จแล้วเดินมานั่งข้างๆเวินเที๋ยนเที๋ยน
“เวลานัดพบกับผู้กำกับและบรรณาธิการ ผมได้แจ้งพวกเขาให้ย้ายไปช่วงบ่ายแล้ว ทางอาหารเสร็จแล้วค่อยไป”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้า เห็นทีจี้จิ่งเชินยังรู้ตัวว่าตนเองผิดไปแล้ว ถึงได้โทรไปเปลี่ยนเวลานัด
ความไม่พอใจในใจของเวินเที๋ยนเที๋ยนจึงได้ปล่อยวางลง
ทานข้าวเสร็จแล้ว ทั้งสองคนไม่ชักช้า รีบเดินทางไปที่จุดนัดพบ
เพื่อแสดงความจริงใจ เวินเที๋ยนเที๋ยนนัดเจอกันที่บ้านของฝ่ายนั้น ไปเยี่ยมเยียนถึงบ้านเลยทีเดียว
เวินเที๋ยนเที๋ยนและจี้จิ่งเชินมาถึงบ้านพักของผู้กำกับท่านนั้นพร้อมกัน
โครงการนั้นมีระบบการรักษาความปลอดภัยระดับสูง ทั้งสองคนเขามาปุ๊บ ต้องรอให้รปภ.ตรวจบัตรประจำตัวประชาชนก่อน สุดท้ายถึงปล่อยให้เข้ามาได้
พออีกฝ่ายได้ยินว่าพวกเขามาพบผู้กำกับเฉิน จึงช่วยชี้ทางให้ทั้งสองด้วยความยินดี
“จากตรงนี้ตรงเข้าไปจนสุด ตึกสุดท้ายนั่นคือบ้านพักของผู้กำกับเฉินครับ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้า
“ขอบคุณค่ะ”
โครงการที่นี่พื้นที่กว้างใหญ่มาก การตกแต่งและสวนสาธารณะก็ดูใหญ่โตอลังการ
เดินไปด้วย เวินเที๋ยนเที๋ยนมีความแปลกใจอะไรบางอย่าง
ตามที่เธอรู้มา ผู้กำกับท่านนั้นไม่ได้มีชื่อเสียงมาก ภาพยนตร์ที่ถ่ายทำก็เป็นผลงานชิ้นเล็กๆ ถึงแม้จะมีความละเอียดมาก แต่ว่ากลับไม่ได้สร้างรายได้ไม่ดีนัก
ตั้งแต่เข้าวงการมาหลายปี แต่ก็ไม่เด่นไม่ดังมาตลอด
คิดดูแล้ว เขาไม่น่าจะมีเงินเยอะมากขนาดนั้นที่จะซื้อบ้านพักที่นี่ได้
เวินเที๋ยนเที๋ยนยืนอยู่ตรงหน้าประตู รู้สึกตื่นเต้นและจัดคอเสื้อของตนเองใหม่
ผู้กำกับที่มีความสามารถ ส่วนมากจะมีนิสัยที่แปลกประหลาด นี่เป็นเรื่องที่ทุกคนต่างก็รู้กันดี เวินเที๋ยนเที๋ยนได้เตรียมแผนการรับมือระยะยาวมาตั้งนานแล้ว
“ไม่ต้องกังวล” จี้จิ่งเชินเอ่ยปากพูดอยู่ข้างๆ
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้า จากนั้นค่อยกดกริ่งประตูบ้าน