เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่ 666 คลั่งไคล้มัน

บทที่ 666 คลั่งไคล้มัน

โรงภาพยนตร์เริ่มนำภาพยนตร์เรื่อง“แสงจางๆ”มาเป็นจุดขายเพื่อดึงดูดผู้ชมจำนวนมากให้มาเข้าชม ไม่นานก็ทำเงินได้จำนวนมาก

หากมีแค่คนเดียวที่หักหลังให้กับคำสัญญาต่อประธานหล่อน อย่างนั้นพวกเขาเองก็อาจจะเป็นกังวลว่าจะถูกแก้แค้น ตอนนี้เมื่อเห็นว่าทุกคนล้วนพร้อมใจกันทำผิดข้อตกลง อย่างนี้ก็คงทำอะไรพวกเขาไม่ได้แล้ว

มีคนจำนวนมากที่กำลังยืนอยู่ในจุดเดียวกันกับตนอีกทั้งยังไม่กลัวการตอบโต้อย่างกะทันหันของจากประธานหล่อน อย่างไรก็ตามเงินที่เพิ่มขึ้นต่างหากถึงจะเป็นสิ่งที่พวกเขาต้องการมากที่สุด

หลังจากการรอคอยมาอย่างเนิ่นนานของชาวเน็ต ในที่สุดโรงภาพยนตร์ก็ได้เปิดตัวหนังขึ้นอย่างเป็นทางการ ในใจของพวกเขามีความสุขอย่างยิ่ง และรีบร้อนพาเพื่อนพาคู่ดูหนังไปที่โรงภาพยนตร์เพื่อรับชมทันที

หลังจากได้ดูหนังแล้ว พวกเขาก็รู้สึกได้ทันทีว่าเวลาแห่งการรอคอยนานนับสัปดาห์นั้นคุ้มค่าอย่างยิ่ง!

หนังดีๆ แบบนี้หากทุกคนไม่ได้ชื่นชมมัน อย่างนั้นต่างหากที่น่าเสียดาย!

ทุกคนที่ได้ชมภาพยนตร์ต่างก็ไม่สามารถซ่อนความตื่นเต้นของพวกเขาเอาไว้ได้และรีบเผยแพร่ความรู้สึกและประสบการณ์ของพวกเขาบนอินเทอร์เน็ต อีกทั้งยังเชิญชวนให้ชาวเน็ตคนอื่นๆ ไปเข้าชมที่โรงภาพยนตร์

มีกลุ่มคนขี้ระแวงบางส่วนที่ยังคงลังเลเมื่อเห็นคนชมในตอนแรกๆ ก็ยังคนลังเล แต่เมื่อมีคนที่สองสามสี่ตามมา ถึงขนาดที่ว่าคนหลายร้อยหลายพันคนต่างก็เห็นพ้องต้องกันว่านี่คือภาพยนตร์ที่ดีที่สุดแห่งปี ต่อให้เป็นคนใจแข็งแค่ไหนก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาแล้ว

เมื่อเข้าไปในโรงภาพยนตร์ ไม่นานพวกเขาก็พบว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่เหมือนกับที่พวกเขาจินตนาการเอาไว้ก่อนหน้า ในตอนนี้เองพวกเขาถึงกับอุทานว่าที่แท้ก่อนหน้านี้พวกตนนั้นตื้นเขินขนาดไหน!

ก่อนหน้าที่จะได้ดูหนัง ก็ตั้งแง่กับมันไปแล้ว นี่แทบจะเป็นเรื่องที่พวกเขาสำนึกเสียใจที่สุด

ทุกคนที่ได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้ต่างก็กลับมากู้คืนคำวิจารณ์ที่เคยให้ไว้ และเริ่มชักชวนให้คนอื่นๆ ไปดูอย่างบ้าคลั่ง

จนกระทั่งเมื่อทีมงานเตรียมพร้อมที่จะฉายหนังทั้งหมดในโรงรวมถึงการโปรโมตภาพยนตร์ในเวลาเดียวกันเสร็จ พวกเขาก็เปิดเว็บไซต์และพบว่าชาวเน็ตและทหารน้ำ (มือรับจ้างโพสต์ข้อความ) ของหนังเรื่องนี้จำนวนมากกำลังช่วยพวกเขาโปรโมตหนังอยู่อย่างฟรีๆ

สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่พวกเขาไม่มีทางรู้มาก่อนอีกทั้งยังไม่มีทางคาดเดามาก่อนได้ด้วย

ผู้คนจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ เริ่มเข้าชมหนังในโรงภาพยนตร์ อีกทั้งยังมีผู้คนจำนวนมากขึ้นที่กลายมาเป็นกองทัพแฟนคลับของพวกเขา อีกทั้งยังคงเป็นไปอย่างนั้นเรื่อยๆ ราวกับก้อนหิมะที่ค่อยๆ กลิ้งทับถมกันเรื่อยๆ ในเวลาเดียวกันบ็อกซ์ออฟฟิศของหนังเรื่องนี้ก็พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

หากจะบอกว่าในตอนแรกที่หนังเรื่อง“แสงจางๆ”เข้าฉายมีรายได้เพียง 10 ล้านของบ็อกซ์ออฟฟิศในหนึ่งสัปดาห์เท่านั้น แต่พอมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการเพียงแค่วันเดียว ยอดขายตั๋วก็ทำรายได้ทะลุยอดสะสมในสัปดาห์ก่อนหน้าไปอย่างสมบูรณ์

แต่นี่เป็นแค่การเปิดตัวเท่านั้น ทุกอย่างยังไม่ใช่จุดจบ!

ในวันแรกบ็อกซ์ออฟฟิศอยู่ที่ 10 ล้าน ในขณะที่วันที่สองกลับเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว!

อีกทั้งในวันที่สาม ก็มียอดทะลุไปถึง 50 ล้าน 60 ล้านและ 70 ล้าน!

บันทึกของบ็อกซ์ออฟฟิศในแต่ละวันล้วนเป็นการอัปเดตยอดของวันก่อนหน้า สถานการณ์นี้กินเวลานานถึงครึ่งเดือนก่อนจะค่อยๆ คลี่คลายลงเล็กน้อย ถึงเวลานี้บ็อกซ์ออฟฟิศของหนังเรื่อง“แสงจางๆ”ก็ได้เกินกว่า 1.5 พันล้านไปแล้ว

อย่างไรก็ตาม ถึงอย่างนั้น ในวันถัดๆ หนังยังคงทำรายได้อย่างน้อย 10 ล้านต่อวัน และดำเนินไปมากกว่าครึ่งเดือน อีกทั้งหนังก็ยังคงถูกจองเต็มทุกรอบ

ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ไม่มีโรงภาพยนตร์ไหนที่จะเอาหนังออก มีผู้คนเข้ามาชมมากขึ้นเรื่อยๆ โดยไม่ทันได้รู้ตัว ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็แซงหน้าสถิติการเปิดตัวภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ และยังคงดำเนินต่อไปอย่างเรื่อยๆ!

และสำหรับเรื่องนี้ คนที่กำลังเป็นกังวลที่สุดก็คือ หล่อนเจี้ยนกั๋วที่กำลังเตรียมที่จะยึดครองตระกูลหล่อน

เมื่อเห็นว่าบ็อกซ์ออฟฟิศของเวินเที๋ยนเที๋ยนยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งยังมีโรงภาพยนตร์ที่ค่อยๆ ทยอยนำหนังขึ้นมาฉาย ก็ทำให้เขาโมโหอย่างยิ่ง

ในตอนแรกเมื่อเขาเห็นภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกผู้จัดการนำมาออกฉายอย่างเป็นทางการ เขายังคงสามารถโทรไปสั่งให้ทำการเอาหนังลงมาได้อยู่บ้าง

อย่างไรก็ตาม เมื่อเห็นว่าโรงภาพยนตร์เริ่มทำลายข้อตกลงเดิมมากขึ้นเรื่อยๆ เขาก็ไม่อาจโทรหาได้ทุกที่อีกต่อไป ทำได้แค่มองดูบ็อกซ์ออฟฟิศของภาพยนตร์เรื่อง“แสงจางๆ”สูงขึ้นไปเรื่อย ๆ

เพียงไม่กี่วัน พวกเขาก็สามารถบรรลุโครงการที่ตกลงกันไว้ทั้งหมด อีกทั้งยังมีเพิ่มขึ้นอีกเป็นสองเท่า สามเท่าและมากขึ้นเรื่อย ๆ!

ตามกระแสในตอนนี้ ดูเหมือนรางวัลห้ารางวัลจะไม่หนีไปไหนแน่แล้ว

แพ้การแข่งขัน การกลับมาที่บริษัทของเวินเที๋ยนเที๋ยนต่างหากถึงเป็นจุดเริ่มต้นของหายนะที่แท้จริง

แต่ตอนนี้มีหลายๆ อย่างในบริษัทที่ถูกเขายักยอกไป และเขาเองก็ยังไม่สามารถเติมเต็มการขาดเงินทุนสาธารณะนั้นได้

หากเที๋ยนเที๋ยนกลับมา เธอจะต้องค้นพบแน่ จนถึงตอนนั้น เขาไม่เพียงแค่ต้องสูญเสียอำนาจในการบริหารบริษัทหล่อนซื่อแต่ยังอาจต้องติดคุกด้วย!

หล่อนเจี้ยนกั๋วกำลังจะบ้า ในตอนแรกมีการตกลงพนันกับเวินเที๋ยนเที๋ยนเอาไว้ ข้อแรกคือบ็อกซ์ออฟฟิศจะต้องเกิน 500 ล้านหยวน ในตอนนี้บ็อกซ์ออฟฟิศทั้งหมดของภาพยนตร์เรื่องนี้มีมูลค่าถึง 2 พันล้านหยวน ซึ่งมากกว่าการเดิมพันของพวกเขาไปไกลลิบ แม้ว่าพวกเขาจะปฏิเสธแต่ไม่สามารถทำได้แล้ว

เขาลงมืออะไรไม่ได้ ก็ได้แต่เริ่มขั้นตอนต่อไปเท่านั้น

“ขอแค่พวกเขาไม่สามารถได้รับรางวัลมากกว่า5รางวัล ต่อให้ได้บ็อกซ์ออฟฟิศมากกว่า 2.5 พันล้านแล้วยังไง? ก็แพ้เหมือนกันนั่นแหละ! ”

เมื่อนึกถึงตรงนี้ หล่อนเจี้ยนกั๋วก็รู้สึกโล่งใจเล็กน้อย

เขามีมิตรภาพบางอย่างกับผู้ตัดสินในเทศกาลภาพยนตร์นี้ ตราบใดที่เขารู้ออกแรงสักหน่อย อย่าว่าแต่รางวัลห้ารางวัลเลย แค่รางวัลเดียวเวินเที๋ยนเที๋ยนก็จะไม่ได้รับมัน!

ขณะที่คิด หล่อนเจี้ยนกั๋วก็รีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและติดต่อเพื่อนที่เป็นกรรมการตัดสินของเทศกาลภาพยนตร์เพื่อขอให้พวกเขาช่วยเหลือตน และไม่ให้เวินเที๋ยนเที๋ยนได้รับรางวัล

เมื่อได้ยินคำขอนี้ อีกฝ่ายกลับลังเล

พวกเขาเคยได้เรื่องการสร้างภาพยนตร์ของเวินเที๋ยนเที๋ยนเช่นกัน แต่ตอนนี้กระแสกำลังมาแรง อีกทั้งยังมีฐานแฟนคลับที่แข็งแกร่ง

หากพวกเขาไม่ได้รับรางวัลเลยสักรางวัล ชาวเน็ตจะต้องไม่พอใจอย่างแน่นอน

หล่อนเจี้ยนกั๋วเอ่ย “ไม่เป็นไร พวกคุณสามารถมอบรางวัลให้เขาได้หนึ่งหรือสองรางวัล ขอแค่มันน้อยกว่าห้ารางวัลก็พอ”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ อีกฝ่ายก็เข้าใจความคิดของ หล่อนเจี้ยนกั๋วทันที

ตอนนี้ทั้งวงการบันเทิง มีใครไม่รู้จักเรื่องการเดิมพันของ หล่อนเจี้ยนกั๋วและเวินเที๋ยนเที๋ยนบ้าง?

เมื่อเขาลังเล หล่อนเจี้ยนกั๋วก็กล่าวต่อ “ถ้าคุณสามารถให้ความช่วยเหลือเล็กๆ น้อยๆ นี้กับผมได้ ผมจะต้องตอบแทนคุณ อย่างเต็มร้อยอย่างแน่นอน ปีหน้าคุณจะมีหนังอีกหลายเรื่องต้องขึ้นฉายใช่ไหม? พวกคุณยังขาดเงินทุนอยู่บ้างไม่ใช่หรือ? ตระกูลหล่อนสามารถออกหน้าและรับผิดชอบได้อย่างเต็มที่ ”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ คณะกรรมการก็ใจเต้นทันที

“ไม่มีปัญหา คุณแค่รอข่าวจากพวกเราเถอะ”

หลังจากได้ยินคำรับประกัน หล่อนเจี้ยนกั๋วจึงค่อยวางสายไปอย่างวางใจ

มองไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ และดูบันทึกบ็อกซ์ออฟฟิศของเรื่อง“แสงจางๆ”ด้วยรอยยิ้มเหี้ยม

“เธอคอยดูเถอะ เวินเที๋ยนเที๋ยน!”

“เธอคิดว่าจะชนะได้ง่ายขนาดนั้นเลยหรือไง? ยังคงใสซื่อเกินไป”

พูดจบ เขาก็ลุกขึ้นยืน และเตรียมที่จะไปยังตระกูลหล่อน

ทันทีที่ฉันไปถึงประตู พอเปิดประตูออก เขากลับเห็นเหลียงจี้อานกำลังยืนอยู่ข้างนอก

ในใจของ หล่อนเจี้ยนกั๋วกระตุกขึ้น คิ้วของเขาขมวดขึ้นมา สีหน้าเปลี่ยนเป็นตึงเครียด

ผู้ชายคนนี้ยืนรออยู่ที่นี่มานานแค่ไหนแล้ว?

เมื่อกี้เขาได้ยินที่ตนคุยกับคณะกรรมการตัดสินหรือเปล่า?

เขาคิดขณะมองไปยังเหลียงจี้อานที่อยู่ตรงหน้า

เหลียงจี้อานทำท่าทางอ่อนน้อมถ่อมตน อีกทั้งยังก้มตัวลงเล็กน้อย สีหน้าของเขาแสดงความเยินยอและมีรอยยิ้มประจบประแจง

“พ่อ อาหารพร้อมแล้ว พ่อลงไปทานข้าวได้แล้ว”