เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่ 667 อยากให้คุณภูมิใจในตัวฉัน
บทที่ 667 อยากให้คุณภูมิใจในตัวฉัน
หล่อนเจี้ยนกั๋วพยักหน้า แต่กลับไม่ขยับ
“เมื่อกี้นายได้ยินอะไร”
เหลียงจี้อานทำหน้างุนงง “ผมเพิ่งมาถึงเมื่อกี้ กำลังจะเปิดประตูพ่อก็เปิดออกมาก่อน”
หล่อนเจี้ยนกั๋วมองเขาอย่างระมัดระวัง ท่าทางของเขาดูไม่เหมือนกำลังโกหก แต่ในใจของเขาก็ยังกังวล เขายกมือขึ้นและตบไหล่ของเหลียงจี้อาน
“เรื่องของบริษัทนายไม่ต้องกังวล อีกไม่นานนายจะได้กลับไปทำงานแล้ว”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เหลียงจี้อานก็ยิ้มอย่างดีใจทันที
“เรื่องพวกนี้น่ารำคาญอยู่บ้าง พ่อ พ่อวางใจเถอะ จากนี้ไปผมจะทำมันให้ดี”
หล่อนเจี้ยนกั๋วพยักหน้า ก่อนที่จะนำออกไป
เขาเดินจากไปโดยไม่ทันเห็นว่าเหลียงจี้อานที่อยู่ด้านหลังมีสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย
เมื่อกี้เขายืนอยู่ที่หน้าประตู สิ่งที่ หล่อนเจี้ยนกั๋วพูดนั้น เขาได้ยินมันอย่างชัดเจน
ไม่คาดคิดเลยว่าเพื่อชัยชนะ หล่อนเจี้ยนกั๋วจะสมรู้ร่วมคิดกับคณะกรรมการตัดสินหลายคน และคิดจะยกเลิกรางวัลของเวินเที๋ยนเที๋ยนในพิธีมอบรางวัล
เทศกาลภาพยนตร์ เทศกาลภาพยนตร์โบ๋หยู่ในครั้งนี้เป็นเทศกาลและรางวัลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชีย คณะกรรมการตัดสินทุกคนล้วนเป็นคนที่แฟนหนังคัดเลือกขึ้นมา และเป็นที่ได้รับการยกย่องและนับถืออย่างมาก
จะต้องยึดหลักความยุติธรรมและไม่เอนเอียงเห็นแก่ตัว
หากพบว่าพวกเขาสมรู้ร่วมคิดเพื่อเปลี่ยนตัวผู้ชนะ นั่นจะทำให้เกิดความปั่นป่วนอย่างแน่นอน
จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเขาเปิดเผยเรื่องนี้กับเวินเที๋ยนเที๋ยนและจี้จิ่งเชิน?
เมื่อนึกถึงมัน ดวงตาของเหลียงจี้อานก็เกิดประกายวาบผ่าน แต่ในที่สุดเขาก็ไม่ได้พูดอะไรและเดินตาม หล่อนเจี้ยนกั๋วลงไป
ในขณะที่อีกด้านหนึ่ง ทีมงานและนักแสดงของเรื่อง“แสงจางๆ”ก็ได้รับจดหมายเชิญจากเทศกาลภาพยนตร์โบ๋หยู่และมีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง
เทศกาลภาพยนตร์โบ๋หยู่เป็นงานประกาศรางวัลที่ยิ่งใหญ่และมีชื่อเสียงที่สุดในเอเชีย มันคล้ายกับเป็นสถานที่ในฝันของนักแสดงและผู้กำกับเกือบทั้งหมด
แขกที่เข้าร่วมงานได้นั้นมีอยู่สองประเภท หนึ่งคือโควตาที่ผู้สนับสนุนที่มาเพื่อโปรโมตผลิตภัณฑ์
อีกหนึ่งคือสมาชิกนักแสดงและทีมงานภาพยนตร์ที่ได้รับรางวัลหรือได้รับการเสนอชื่อในพิธีมอบรางวัล ก็สามารถเข้างานได้อย่างเชิดหน้าชูตา
สิ่งที่เวินเที๋ยนเที๋ยนได้รับคือคำเชิญประเภทที่สอง ซึ่งหมายความว่าในครั้งนี้พวกเขาจะต้องได้รับการเสนอชื่อหรือได้รับรางวัลในพิธีมอบรางวัลนี้แน่!
แม้ว่าสถานการณ์จะยังไม่ชัดเจน แต่เรื่องนี้ก็ยังคงทำให้ทีมงานทุกคนตื่นเต้นจนแทบคลั่ง
เนื่องจากผลงานในบ็อกซ์ออฟฟิศที่สูงมาก ดังนั้นทุกคนจึงมั่นใจว่าพวกเขาจะสามารถคว้ารางวัลในพิธีมอบรางวัลได้ และจะสามารถชนะการแข่งขันเดิมพันระหว่างเวินเที๋ยนเที๋ยนและประธานหล่อนได้อีกด้วย
แต่เมื่อเทียบกับความมั่นใจของคนอื่นๆ แล้ว เวินเที๋ยนเที๋ยนกลับรู้สึกกังวลเล็กน้อย และขอให้เก็บทุกรายละเอียดอย่างไม่ให้หลุดรอดไปได้
คนในทีมหลายคนเริ่มมองดูเธอเตรียมรายละเอียดในพิธีมอบรางวัล สีหน้าเคร่งเครียด ก็เอ่ยกล้อมเธอ
“คุณเวิน คุณวางใจเถอะ การแข่งขันในครั้งนี้คุณจะต้องชนะแน่ บ็อกซ์ออฟฟิศของหนังเราดีมากขนาดนี้ ถ้าเทศกาลหนังไม่ให้รางวัลพวกเราเลย แบบนั้นก็ออกจะดูไร้เหตุผลจนเกินไปแล้ว!”
“นั่นน่ะสิ?”
หลายๆ คนหัวเราะเสียงดังขึ้นมา เรื่อง“แสงจางๆ”เป็นภาพยนตร์ที่พวกเขาพึงพอใจที่สุดเท่าที่เคยสร้างมา อีกทั้งยังเป็นภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดอีกด้วย
บันทึกของบ็อกซ์ออฟฟิศมีการอัปเดตทุกวัน และชาวเน็ตต่างก็ชื่นชม นักวิจารณ์ภาพยนตร์มืออาชีพหลายคนก็พอใจเป็นอย่างมากเช่นกัน คะแนนบนเว็บไซต์ที่เป็นที่รู้จักกันว่ามีการวิจารณ์อย่างรุนแรงเองยังให้คะแนนไปถึง 9.8 ซึ่งกลายเป็นคะแนนที่สูงสุดในประวัติศาสตร์
จนถึงขณะนี้ ความนิยมของภาพยนตร์ก็ยังไม่ลดลง
ในสถานการณ์เช่นนี้ ทุกคนล้วนพึงพอใจอย่างยิ่ง
ในความคิดของพวกเขา การไปงานเทศกาลภาพยนตร์ครั้งนี้ไม่ได้เป็นแค่เพียงการไปเดินเล่นๆ แต่รางวัลมากมายในงานนี้จะต้องถูกพวกเขาคว้ามาแน่
แต่ในใจของเวินเที๋ยนเที๋ยนยังคงตึงเครียดอย่างอธิบายไม่ได้อยู่บ้าง บางทีอาจเป็นเพราะเป็นเวลานานกว่าหนึ่งเดือนแล้วที่หล่อนเจี้ยนกั๋วและหล่อนเจียนีไม่ได้ปรากฏตัวขึ้น?
พวกเขาไม่ใช่คนที่จะสามารถนั่งนิ่งๆ เพื่อดูความสำเร็จของภาพยนตร์ที่ค่อยๆ เพิ่มขึ้นแน่
หากเป็นนิสัยในอดีต ทุกครั้งที่สองคนนี้หายไป เมื่อพวกเขาปรากฏตัวอีกครั้งล้วนเกิดปัญหาใหญ่มากมายตามมาด้วย
แล้วคราวนี้จะเป็นยังไง?
เมื่อเวินเที๋ยนเที๋ยนคิดถึงตรงนี้ เธอก็ไม่กล้าที่จะผ่อนคลายลงอีก และเตรียมงานอย่างพิถีพิถัน
หลังจากได้รับคำเชิญ แต่เดิมเธอต้องการที่จะพาจี้จิ่งเชินไปกับเธอ
ในอดีตล้วนเป็นจี้จิ่งเชินที่พาเธอไปงานเลี้ยงและงานรับรางวัล ตอนนี้ตำแหน่งของทั้งสองคนสลับกัน เธอเองก็สามารถพาคนเข้าร่วมงานได้ และคนแรกที่เธอนึกถึงก็คือจี้จิ่งเชิน
อย่างไรก็ตามหลังจากสอบถาม เธอกลับพบว่าพิธีมอบรางวัลแตกต่างออกไปจากปกติ
มีเฉพาะผู้ที่ได้รับคำเชิญเท่านั้นที่สามารถเข้าร่วมได้ และไม่สามารถพาคนอื่นไปด้วยได้
นั่นเพราะแต่ละคนในจดหมายเชิญจะมีที่นั่งของตัวเอง หากพาคนอื่นไปด้วยจะเป็นการรบกวนตำแหน่งที่จัดเตรียมโดยผู้จัด
หลังจากรู้ข่าว เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ไม่สามารถซ่อนความผิดหวังของเธอไว้ได้
เธอได้รับจดหมายเชิญแค่เธอเท่านั้น ยังมีหมินอันเกอในฐานะนักแสดงนำ และผู้กำกับเฉินชุน
นั่นหมายความว่า ไม่มีที่ว่างสำหรับจี้จิ่งเชินเลย
“แต่เดิมฉันคิดว่าอยากให้คุณไปร่วมงานด้วยกันกับฉัน”
เวินเที๋ยนเที๋ยนกลิ้งไปบนเตียงอย่างผิดหวัง ในมือพลิกคำเชิญไปมา
แต่จี้จิ่งเชินกลับไม่ได้ใส่ใจอะไร เขาได้ยินก็หันศีรษะเล็กน้อยและมองไปที่เธอ
“หรือว่าเที๋ยนเที๋ยนกลัวการขึ้นเวที?”
“ไม่ใช่”
เวินเที๋ยนเที๋ยนส่ายหัวและมองไปที่เขา
จี้จิ่งเชินที่อยู่ตรงหน้ากำลังยืนพิงขอบหน้าต่างด้านของห้องหนังสือ สองมือของเขาล้วงกระเป๋า วันนี้เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีฟ้าและเสื้อกั๊กสีอ่อน
ในตอนนี้เป็นเวลาพลบค่ำ แสงของดวงอาทิตย์กำลังตกกระทบที่ร่างของเขาบางๆ จนเกิดเป็นรัศมีจางๆ รอบตัวเขา ใบหน้าของเขาประดับรอยยิ้ม
เมื่อเขาหันมาทางเวินเที๋ยนเที๋ยนเทียน ดวงตาของเขานั้นเต็มไปด้วยความรักใคร่อย่างเต็มเปี่ยม
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองดูจากนั้นจึงรู้สึกว่าหัวใจของตนกำลังเต้นระรัวขึ้นมา เธอรีบหันหน้าหนีเพื่อหลบสายตาของเขา
“ไม่ใช่ ก่อนหน้านั้นคุณเคยพาฉันไปงานเลี้ยงและงานประกาศรางวัลมานับไม่ถ้วน บางครั้งฉันก็อยากเป็นฝ่ายพาคุณไปสักครั้ง”
“จริงหรือ?”
จี้จิ่งเชินเอ่ยถาม เขาก้าวเท้าเข้ามาและหยุดลงข้างๆ ของเวินเที๋ยนเที๋ยน รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาค่อยๆ ลึกขึ้น
เขาค่อยๆ เอ่ยปากขึ้น “พูดแบบนี้ เทียบกับการแนะนำว่าเป็นผู้หญิงของจี้จิ่งเชิน เที๋ยนเที๋ยนอยากเป็นฝ่ายให้ฉันถูกเรียกว่าเป็นสามีของเวินเที๋ยนเที๋ยนมากกว่าใช่ไหม?”
ใบหน้าของเวินเที๋ยนเที๋ยนเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ ความคิดในใจของตนถูกจี้จิ่งเชินเดาออกอย่างปรุโปร่ง
ก่อนหน้านี้ เธอคิดเสมอว่าความคิดนี้เป็นเพียงเรื่องเพ้อฝันไร้สาระ
ความสำเร็จของจี้จิ่งเชินนั้นสูงมากจนตนไม่สามารถแข่งขันกับเขาได้เลย
อย่างไรก็ตาม หลังจากผ่านประสบการณ์มากมายจนภาพยนตร์ออกฉาย เธอค่อยพบว่า บางทีตัวเธอเองก็อาจมีความเป็นไปได้ที่จะทำให้จี้จิ่งเชินเป็นคนของเธอ
แม้ว่าการขึ้นชื่อเป็นผู้หญิงของจี้จิ่งเชินจะไม่ใช่เรื่องเสื่อมเสียอะไรแม้แต่น้อย แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ยังรู้สึกตื่นเต้น
เธอเอ่ยอย่างอดไม่อยู่ “ฉันเองก็อยากให้คุณภูมิใจในตัวฉัน”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ จี้จิ่งเชินก็ยกมือขึ้นเพื่อหันหน้าของเธอกลับมา
จากการกระทำของเขา ดวงตาของเวินเที๋ยนเที๋ยนก็ตกลงมาที่เขา
จี้จิ่งเชินจ้องมองเธอ
“ฉันภูมิใจในตัวเธอตลอดมาอยู่แล้ว”
เมื่อมองไปที่ดวงตาของเขา เวินเที๋ยนเที๋ยนก็คล้ายกำลังจมดิ่งลึกลงไปสู่ดวงตาเข้มคู่นั้น