เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่ 668 การเปิดตัวที่ไม่เหมือนใคร
บทที่ 668 การเปิดตัวที่ไม่เหมือนใคร
เมื่อตระหนักได้ว่าตนเองกำลังเหม่อลอยไป สีหน้าของเวินเที๋ยนเที๋ยนก็อดร้อนผ่าวขึ้นอีกครั้งเสียไม่ได้
“แต่ว่าคนอื่นๆ ไม่คิดอย่างนั้น ฉันยังคิดไปว่า ครั้งนี้คุณจะไปกับฉันได้ซะอีก” น้ำเสียงของเธอยังคงแฝงความผิดหวัง
จี้จิ่งเชินลูบที่แก้มของเธออย่างนุ่มนวล
“ไม่ต้องกังวล จะต้องมีวิธีแน่”
แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนกลับไม่ได้มองโลกในแง่ดีขนาดนั้น ก่อนหน้านี้ตอนเธอได้รับจดหมายเชิญเธอก็ถามไปแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ของเทศกาลภาพยนตร์กล่าวว่าแขกรับเชิญเหล่านี้ได้รับการยืนยันมานานแล้ว การที่จู่ๆ จะเอาชื่อของจี้จิ่งเชินเพิ่มเข้าไปคงไม่ได้หรอกมั้ง?
เมื่อคิดขึ้นมา ในใจของเวินเที๋ยนเที๋ยนก็รู้สึกผิดหวัง และก้มลงมองดูคำเชิญในมือของเธอ
เมื่อเห็นท่าทางที่น่าเศร้าของเธอ ดวงตาของจี้จิ่งเชินก็มีประกายเจ้าเล่ห์เล็กน้อย เขาอดไม่ได้และคิดจะเอ่ยปากขึ้น
แต่ทันทีที่จะเอ่ยปาก คิดไม่ถึงว่าจู่ๆ เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ได้สติกลับมา
“ช่างเถอะ ยังไงคุณดูอยู่ที่บ้านก็เหมือนกัน รอให้ฉันได้ถ้วยรางวัลแล้วเอากลับมาให้คุณดูก็ได้เหมือนกัน”
จี้จิ่งเชินที่เดิมกำลังเตรียมที่จะบอกเธอถึงข่าวที่เขาได้รับมาก่อนหน้านี้ แต่คาดไม่ถึงว่าจะถูกเวินเที๋ยนเที๋ยนตัดหน้าไปเสียก่อน ดังนั้นเขาจึงได้แต่เก็บคำพูดลง
เขาพยักหน้าเล็กน้อย
“แน่นอน”
ช่างเถอะ เซอร์ไพรส์นี้ รอในวันเทศกาลภาพยนตร์แล้วค่อยเปิดเผยดีกว่า?
ไม่กี่วันต่อ เทศกาลภาพยนตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชียก็ได้เปิดฉากขึ้นอย่างเป็นทางการโดยมีดารามากมายเข้าร่วมงาน
ตั้งแต่ดาราลงจากรถและเดินพรมแดง ไปจนจบพิธีมอบรางวัล ถือเป็นช่วงสำคัญที่สื่อทุกแขนงต้องรายงานอย่างใกล้ชิด
สื่อ มีดารามากมายที่ต้องหาวิธีทุกหนทางเพื่อให้ได้รับความสนใจจากสื่อ
มีคนไม่ร้อยที่ถึงขนาดต้องเตรียมชุดและเครื่องแต่งกายล่วงหน้าก่อนวันงานเกือบครึ่งเดือน
งานเทศกาลในช่วงค่ำเริ่มขึ้นตอนเวลาหนึ่งทุ่ม นับตั้งแต่ห้าโมงเย็นไปต้นไปจะเป็นเวลาที่ดาราเข้าสู่งาน
ในตอนนั้นเอง พรมแดงก็เต็มไปด้วยสื่อและนักข่าวมากมาย
ดาราชื่อดังหลายคนเดินลงมาจากรถ และคงภาพลักษณ์ที่สมบูรณ์แบบตลอดการเดินเข้าสู่งานอย่างช้าๆ และตอบคำถามจากนักข่าว
ไฟแฟลชสาดส่องอยู่ตลอดเวลา แม้ว่าจะเป็นช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วง และตอนเย็นอุณหภูมิก็ลดต่ำลงเล็กน้อย คนทั่วไปยังต้องสวมเสื้อนอกเพื่อป้องกันความหนาวเย็น แต่สำหรับดาราหลายคนแล้ว ความหนาวเย็นไม่เพียงพอที่จะดับหัวใจอันร้อนแรงที่คิดอยากจะตกเป็นเป้าสายตาของผู้คนได้
ดาราหญิงหลายคนสวมกระโปรงสั้น เปิดเผยเนื้อหนังส่วนใหญ่ออกมาเพียงเพื่อดึงดูดสายตาและความสนใจของผู้คน
ดาราชายหลายคนเองถึงแม้จะสวมสูท แต่พวกเขาก็ยังไม่อาจต้านทานความเย็นของอากาศปลายฤดูใบไม้ร่วงได้
การกระทำเหล่านี้สำหรับคนอื่นๆ อาจมองว่าแปลกประหลาด แต่สำหรับวงการบันเทิงแล้วกลับเป็นเรื่องปกติ
สำหรับงานเลี้ยงทั้งหมดที่จัดขึ้นในฤดูหนาว คงไม่มีใครออกมาพร้อมเสื้อแจ็คเก็ตบุนวมเพื่อให้อบอุ่นแน่
แต่ถึงอย่างนั้น เมื่อเห็นชุดราตรีและเกาะอกในแบบเดียวกันมากมาย ก็มีแต่จะทำให้ผู้คนรู้สึกเมื่อยล้าทางสายตา
เมื่อเห็นดาราหลายคนออกมาจากรถอย่างนวยนาด พวกนักข่าวก็ขี้เกียจจะหยิบกล้องในมือไปถ่าย อย่างไรก็ตามทุกคนก็ดูเหมือนกันไปหมดอีกทั้งเสื้อผ้าของพวกเขาก็คล้ายคลึงกัน
“ฉันมางานพรมแดงแบบนี้ทุกปี มองจนเบื่อแล้ว” นักข่าวคนหนึ่งบ่นพึมพำ
อีกคนพยักหน้า
“นั่นน่ะสิ? แต่ว่าครั้งนี้หัวหน้าบรรณาธิการของเรายังคงยืนกรานว่ายังไงเราก็ต้องได้ภาพกลับไป ไม่อย่างนั้นฉันคงไม่มาแน่ ไปทำรายงานข่าวเล็กๆ น้อยๆ ยังดีเสียกว่า”
“มันน่าเบื่อจริงๆ ”
หลายคนกระซิบกระซาบกัน สำหรับเหล่าดาราตรงหน้าที่กำลังกวาดสายตาอ้อยอิ่ง บิดเอวไปมา ไม่ได้ทำให้พวกเขารู้สึกดีแต่อย่างใด
“หรือว่าพวกเขาไม่หนาวบ้างเลยหรือไง?” นักข่าวที่อยู่มุมหนึ่งเอ่ยถาม
มีคนได้ยินเข้าก็หัวเราะ
“คุณไม่เข้าใจหรือ? ดาราทุกคนในวันนี้จะต้องใส่ชุดที่สวยที่สุด ความหนาว? มันไม่ได้อยู่ในพจนานุกรมของดาราหญิงเหล่านี้”
แต่คนคนนั้นก็ยังไม่เข้าใจและชี้ไปที่คนที่กำลังเดินลงจากรถลีมูซีนสีดำอย่างงงงวย
“ดูเธอสิแต่งตัวก็คล้ายพวกเรานี่? อีกทั้งยังหนามากด้วย”
คนคนนี้ดูเหมือนจะเป็นครั้งแรกที่มาสัมภาษณ์ในงานเทศกาล สีหน้าของเขามองไปยังคนที่อยู่ไม่ไกลด้วยความประหลาดใจ
คนอื่นๆ กลับไม่แม้แต่จะหันไปมอง และไม่เชื่อในสิ่งที่เขาพูดเลยแม้แต่น้อย
“คุณดูผิดหรือเปล่า?”
“ฉันมาที่นี่ตั้งนานหลายปีแล้ว ไม่เคยเห็นใครกล้าใส่เสื้อแจ็คเก็ตบุนวมกับชุดราตรีเลย”
“มันไม่ใช่แจ็คเก็ตบุนวม…”
เมื่อเห็นว่าสองคนนั้นไม่ฟังที่ตนเอ่ยอธิบาย อีกทั้งยังไม่เชื่อในสิ่งที่ตนเห็น คนคนนั้นจึงอธิบายอีกครั้ง
“ไม่ใช่แจ็คเก็ตบุนวม ก็เป็นชุดราตรีน่ะสิ? ” อีกคนหนึ่งขัดจังหวะเธอขึ้นมาอย่างไม่สบอารมณ์
พูดจบ ก็หันหน้าไปทางที่คนคนนั้นชี้ให้มอง
จากนั้น ก็ต้องตกตะลึงไป
เพราะคนที่กำลังเดินมาทางพวกเขา ราวกับกำลังสวมเสื้อโค้ทหนาๆ ดูอบอุ่นอย่างยิ่ง!
เมื่อเห็นการแต่งตัวแบบนี้ ตอนแรกพวกเขาก็คิดไปว่าคนคนนั้นหรือจะเป็นคณะกรรมการตัดสินของเทศกาลภาพยนตร์ ผ่านร้อนผ่านหนาวจนไม่คิดสนใจต่อภาพลักษณ์แล้ว
แต่เมื่อมองใกล้ๆ กลับพบว่าอีกฝ่ายยังคงเด็กอย่างยิ่ง และดูราวกับคนวัยเพียงยี่สิบต้น ๆ
แม้จะสวมเสื้อโค้ตให้ความอบอุ่น แต่ใบหน้าที่เผยออกมาก็ดูอ่อนโยนและให้ความรู้สึกอ่อนเยาว์
“เกิดอะไรขึ้น?”
ตามหลักแล้วงานเลี้ยงกลางคืนแบบนี้ ทุกคนล้วนมักจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้ตัวเองสวยดูดีและน่าดึงดูดที่สุด
ดาราสาวหลายคนถึงกับแทบจะอยากฉีกผ้าชิ้นสุดท้ายออกจากร่างของตนแล้วเข้างานอย่างเปลือยเปล่าเสียด้วยซ้ำ คิดไม่ถึงว่า วันนี้จะมีบางคนที่ทำสิ่งตรงกันข้าม
พวกเขาเข้าร่วมในพิธีมอบรางวัลมามากกว่าสิบรายการ นี่เป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน!
ในขณะที่กำลังงงงวย ก็กลับพบว่าไม่ใช่แค่พวกเขาเท่านั้น บรรดานักข่าวและสื่อต่างพากันจับตามองดูการแต่งตัวของเธอด้วยความประหลาดใจและถึงกับอุทาน
ไม่นาน ก็มีคนจำขึ้นได้ว่าคนตรงหน้าไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นคนตระกูลหล่อนที่เพิ่งเรืองอำนาจ เวินเที๋ยนเที๋ยน
ในขณะเดียวกัน ยังเป็นผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์เรื่อง“แสงจางๆ”
แม้ว่าเธอจะถูกห่อด้วยเสื้อโค้ตหนาๆ แต่พฤติกรรมท่าทางของเธอก็ดูสง่างามอย่างยิ่ง อีกทั้งยังดูไม่เทอะทะ
ใบหน้าแดงก่ำ ไม่ได้ขาวซีดเหมือนดาราคนอื่นๆ ร่างระหงกำลังเดินลงจากรถด้วยท่าทางสบายๆ แต่มีสง่าราศี
ทำเอาบรรดาดาราคนอื่นๆ ดูเหมือนจะถูกกวาดล้างออกไป
ด้านข้างของเธอยังมี ผู้กำกับเฉินชุนและนักแสดงนำของหนังเรื่อง“แสงจางๆ”อย่างหมินอันเกอ
อีกสองที่เหลือไม่ได้สวมเสื้อโค้ตเอาไว้ และใส่แค่ชุดสูทสีดำ เมื่อเทียบกับดาราชายคนอื่นๆ ที่เข้ามาร่วมงานแล้ว พวกเขาดูถ่อมตนเป็นอย่างยิ่ง
ทั้งสามคนเดินเข้าไปด้วยกัน มองดูสามัคคีอย่างยิ่ง
เมื่อเห็นพวกเขา ทุกคนก็จำการเดิมพันระหว่างเวินเที๋ยนเที๋ยนและหล่อนเจี้ยนกั๋วได้ทันที
การปรากฏตัวของพวกเขา หมายความว่าหนังเรื่อง“แสงจางๆ”เองก็มีส่วนร่วมในการแข่งขันด้วย
ในฐานะภาพยนตร์ที่ร้อนแรงที่สุดเรื่องหนึ่งของปีนี้ นี่คือผลลัพธ์ที่คนรอคอย
เพียงแต่นับตั้งแต่ที่เวินเที๋ยนเที๋ยนลงมาจากรถใบหน้าของเธอก็แดงเล็กน้อย ราวกับกำลังเขินอาย สายตาของเธอตกลงแค่ตรงหน้าและรีบเดินอย่างยิ่ง
อย่างน้อยคนอื่นๆ ก็มักจะต้องอ้อยอิ่งอยู่บนพรมแดงนานกว่าครึ่งชั่วโมง แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนกลับยังคงเคลื่อนไหวอย่างไม่หยุดและเดินไปข้างหน้าอย่างสบายๆ
หากไม่คว้าโอกาสนี้เอาไว้ เกรงว่าวันนี้คงจะไม่ได้รูปแน่