เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่ 673 สามรางวัลสุดท้าย
บทที่ 673 สามรางวัลสุดท้าย
สำหรับนักแสดงและผู้กำกับทุกคนแล้ว สามารถเข้าร่วมเทศกาลภาพยนตร์โบ๋หยู่ได้ก็เท่ากับว่าเป็นการการันตีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับพวกเขาแล้ว
และสามรางวัลสำคัญที่สุดในเทศกาลภาพยนตร์: รางวัลนักแสดงนำชายและนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม รางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมแห่งปี ก็เป็นรางวัลที่ในใจของทุกคนใฝ่ฝันที่จะได้มาครอง
ตอนนี้พิธีมอบรางวัลทั้งหมดเหลือเพียงสามรางวัลสุดท้ายที่ยังไม่ได้ประกาศ เวินเที๋ยนเที๋ยนในมือของพวกเขาได้มาแค่สองรางวัล
ที่น่าเสียดายคือ ใน“แสงจางๆ”ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่มีนักแสดงนำหญิง ดังนั้นรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม แน่นอนว่าไม่ได้อยู่ในการพิจารณาของพวกเขา!
ถ้าคิดตามนี้ บวกกับได้สองรางวัลที่ได้มาก่อนหน้านี้ ทั้งงานพิธีมอบรางวัลพวกเขาคว้ามาได้แค่สี่รางวัลเท่านั้น
ข้อตกลงที่ตกลงไว้กับกรรมการหล่อนเจี้ยนกั๋ว ยังขาดไปอีกหนึ่งรางวัล
ถ้าหากทำไม่ได้ตามเงื่อนไข อย่างนั้นแล้วต่อให้ทำยอดขายอยู่ที่สองพันล้าน พวกเขาก็แพ้อยู่ดี!
ดังนั้นแม้ว่าสามรางวัลสำคัญสุดท้ายยังไม่ได้ประกาศออกมา ฉับพลันสีหน้าเวินเที๋ยนเที๋ยนก็ซีดลง หัวใจจมดิ่งหนักอึ้ง รู้สึกเหมือนมีเสียงดังครั่นครืนอยู่ในหัว ร่างกายเริ่มเย็นเยียบ แทบจะนั่งไม่มั่นคง
ในตอนนั้นเอง จี้จิ่งเชินยื่นมือมาทาบทับหลังมือเธอเบา ๆ
เขาจับมือเวินเที๋ยนเที๋ยนไว้
“อย่ากังวลไปเลย ยังมีโอกาส”
เสียงของจี้จิ่งเชินอ่อนโยนและนุ่มนวลมาก เต็มไปด้วยความแน่วแน่
ถ้าเป็นเมื่อก่อน เวินเที๋ยนเที๋ยนฟังแล้วสงบเยือกเย็นลงได้แน่ แต่ว่าตอนนี้กลับไม่เหมือนกัน
เหลืออีกเพียงแค่สามรางวัล และรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมไม่มีทางตกที่พวกเขาอยู่แล้ว ต่อให้พวกเขาแสดงให้เห็นเป็นที่ประจักษ์แล้ว คว้าเอาอีกสองรางวัลเข้ากระเป๋ามาได้ ก็ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่เดิมพันไว้กับประธานหล่อนอยู่ดี
พวกเขาจะแพ้แล้ว
ตอนนี้การแข่งขันยังไม่สิ้นสุด ก็รู้ผลแพ้ชนะแล้ว
นอกจากเวินเที๋ยนเที๋ยนแล้ว สีหน้าของหมินอันเกอและผู้กำกับเฉินชุนที่นั่งอยู่อีกฝั่งนั้นไม่น่าดูเล็กน้อย แต่กลับไม่ได้ผิดหวังเท่าเธอเช่นนี้ ยังคงให้ความสนใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นบนเวทีในตอนนี้
จี้จิ่งเชินนั่งอยู่ข้างเวินเที๋ยนเที๋ยน ตั้งแต่เมื่อกี้ยังจับมือเธอไว้แน่น
แต่ตอนนี้ในใจเวินเที๋ยนเที๋ยนเต็มไปด้วยความผิดหวังแล้ว พวกเขาแพ้แล้ว
ในขณะนั้น เธอรู้สึกว่าแสงสว่างรอบด้านราวกับมอดดับลงในชั่วพริบตา มองคนบนเวทีในเวลานี้ก็ยังดึงเอาความสนใจขึ้นมาไม่ได้
บนเวที กำลังประกาศรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม
แขกผู้เชิญรางวัลถือสคริปต์รายชื่อผู้เข้าชิง ตอนที่ทุกคนกำลังจ้องมองไปที่ท่าทางของเธออย่างจดจ่อ ราวกับต้องการจะคาดเดาจากสีหน้านั้น
แต่ดูเหมือนว่าแขกผู้เชิญรางวัลจะรู้ถึงความคิดของผู้ชม ใบหน้าไม่ปรากฏสีหน้าใด ๆ มองไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย
เธอเดินมาถึงหน้าเวที ยิ้มบางให้กับผู้ชมด้านล่าง
“ดูเหมือนว่าทุกคนล้วนอยากทราบแล้วว่าใครจะเป็นผู้คว้ารางวัลนักแสดงชายยอดเยี่ยมแห่งปีอันทรงเกียรตินี้ แต่พูดตามตรง ดิฉันเองก็ยังไม่ทราบ เพราะก่อนที่ดิฉันจะขึ้นเวทีก็ยังไม่ได้เปิดดูสคริปต์เล่มนี้”
เธอพูดพลางยกมือขึ้น เปิดซองสคริปต์ในมือไปทางที่ไฟส่องแล้วมอง ราวกับต้องการอาศัยท่าทางนี้แอบดูก่อนว่าด้านในได้เขียนชื่อของใครไว้
ในตอนนั้นผู้ชมเองก็มีความคิดเดียวกัน หรี่ตาตามการกระทำของเธอ
แต่ไม่ว่าพวกเขาจะมองอย่างไร ก็มองไม่เห็นข้อความในซองจดหมายเลย ทำได้เพียงแค่ถอนลมหายใจด้วยความผิดหวัง
ตอนนั้นเองแขกผู้เชิญรางวัลก็ยิ้มขึ้นมาอีกครั้ง เอ่ยสั้น ๆ ให้บรรยากาศตึงเครียดให้มีชีวิตชีวาขึ้น
ไม่กี่นาทีต่อมา ในที่สุดถึงอ่านชื่อของนักแสดงที่ถูกเสนอชื่ออยู่ในมือออกมา
หลังจากเสียงพูดของเธอ จอขนาดใหญ่ด้านหลังปรากฏภาพการแสดงอันน่าตื่นตาในภาพยนตร์ของนักแสดงหลายคน
ผู้ที่ได้รับเลือกเข้าชิง ล้วนเป็นนักแสดงที่แสดงได้ยอดเยี่ยมในปีนี้ ในฐานะที่ได้รับความนิยมและคำชมเชยเยอะที่สุดของปีนี้อย่างภาพยนตร์ “แสงจางๆ”หมินอันเกอที่เป็นนักแสดงนำชายก็มีรายชื่อเข้าชิง
เนื่องจากสามรางวัลนี้นั้นพิเศษโดดเด่น จึงได้รับความคาดหวังของสาธารณชนและเหล่านักแสดง หลังจากสำรวจหลายปีที่ผ่านมา เกณฑ์การคัดเลือกได้มีการค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนเกณฑ์
การพิจารณาคัดเลือกแบ่งเป็นสองส่วน ซึ่งแปลงจากผลโหวตจากกรรมการและผลโหวตจากชาวเน็ตผู้ที่มีคะแนนสูงสุดสามารถจะเป็นนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจริง ๆ ได้
แต่เนื่องจากผลโหวตของชาวเน็ตนั้นมีเปอร์เซ็นต์น้อยเกินไป เมื่อประกาศใช้เกณฑ์นี้ ก็เป็นเวลาหลายปีแล้ว ผลโหวตจากชาวเน็ตนั้นยากที่จะเขย่าตัวเลือกของกรรมการ
แทบจะต้องเป็นคนที่ได้รับเลือกจากเหล่ากรรมการเท่านั้น ถึงจะสามารถเป็นผู้ได้รับรางวัลอย่างแท้จริง
คราวนี้ แขกผู้เชิญรางวัลที่ยืนอยู่บนเวทีได้กล่าวต่อว่า: “ตอนนี้พวกเรามาประกาศผลโหวตของผู้เข้าชิงห้าคนสุดท้าย”
พูดจบ จอขนาดใหญ่ก็ปรากฏนักแสดงที่ถูกโหวตจากกรรมการ
เทศกาลภาพยนตร์มีกรรมการผู้ตัดสินทั้งหมดสิบคน ห้าคนในนั้นเลือกนักแสดงคนเดียวกันไปแล้ว และตัวละครของหมินอันเกอได้รับผลโหวตแค่สี่คน ขาดแค่คะแนนเดียวเท่านั้น!
เมื่อเห็นผลลัพธ์นี้ ในใจทุกคนล้วนเสียดายเล็กน้อย
คนส่วนมากล้วนเคยดูภาพยนตร์“แสงจางๆ”เรื่องนี้ ถูกฝีมือการแสดงของหมินอันเกอสั่นสะเทือนใจเหมือนกัน
คาดว่าครั้งนี้เขาต้องคว้ารางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมได้แน่ แต่คาดไม่ถึงว่าเขาจะแพ้ให้กับนักแสดงอีกคนเพียงแค่คะแนนเดียว
เมื่อเห็นผลลัพธ์นี้แล้ว ทุกคนไม่ได้คำนึงถึงตัวเลือกของชาวเน็ตเลย
เพราะหลาย ๆ การแข่งขันที่ผ่านมา ผลโหวตของกรรมการก็เท่ากับตัวแทนของผลลัพธ์สุดท้ายแล้ว
แม้ว่าในพิธีมอบรางวัลดังกล่าว ฝั่งผู้จัดงานจะประกาศย้ำถึงความเป็นธรรมและยุติธรรมเสมอ อนุญาตให้ชาวเน็ตโหวต แต่ทุกคนล้วนรู้ดี ผลโหวตของชาวเน็ตนั้นไม่ได้มีความหมายอะไรตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
“ถ้าอย่างนั้น ครั้งนี้สุดท้ายแล้วใครจะเป็นนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมนะ?”
แม้ว่าในใจของพิธีกรชายที่ยืนอยู่บนเวทีจะคิดเหมือนกับทุกคน แต่ก็ยังคงทำตามขั้นตอนเพื่อดำเนินงานต่อไป
แต่ในขณะที่พูด ยังอดไม่ได้ที่จะมองไปที่นักแสดงที่รับห้าโหวตคนนั้น สายตาแสดงถึงความชื่นชม เห็นได้ชัดว่ายืนยันว่าสุดแล้วเขาคือผู้ชนะ
เมื่อเธอพูดจบ จอด้านหลังก็ปรากฏผลโหวตของชาวเน็ต
หลังจากเห็นตัวเลขอ้างอิงบนจอแล้ว ผู้คนล้วนส่งเสียงกันดังอื้ออึง!
พิธีกรที่ไม่ได้หันกลับไปมองเลย แค่ก้มลงมองบัตรในมือตนเอง กำลังเตรียมตามประกาศตามผลลัพธ์เมื่อสักครู่ เมื่อประกาศรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม อยู่ ๆ กลับได้ยินเสียงดังมาจากด้านล่างเวที
เขาอดไม่ไหวที่จะหันกลับไปอย่างแปลกใจ ทันทีที่เห็นผลโหวตบนจอขนาดใหญ่ ก็อดไม่ได้ที่จะเบิกตากว้าง แล้วมองอย่างตกตะลึง
ตอนนี้บนจอ ด้านล่างชื่อของนักแสดงทุกคนคะแนนโหวตได้แบ่งเป็นสองส่วน หนึ่งคือผลโหวตจากทางกรรมการของงาน สองคือผลโหวตของชาวเน็ตจากเว็บไซต์ออฟฟิเชียล
แม้ว่าก่อนหน้านี้กรรมการห้าคนเลือกนักแสดงอีกตนหนึ่ง แต่เมื่อรวมกับผลโหวตออนไลน์แล้ว สุดท้ายผลลัพธ์ก็เปลี่ยนไปแล้ว
ชื่อที่ปรากฏบนจอขนาดใหญ่ คาดไม่ถึงว่าจะเป็นหมินอันเกอ!
ทำไมถึงเป็นหมินอันเกอไปได้?
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
หรือว่าการโหวตออนไลน์ประสบความสำเร็จแล้ว?
คิดไปพลาง ทุกคนจึงรีบหันไปมองผลโหวตออนไลน์อีกด้านหนึ่ง
เมื่อเห็นแล้วถึงพบว่า คะแนนโหวตที่เห็นว่าหมินอันเกอเป็นนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม คาดไม่ถึงว่าเป็นที่น่าทึ่งถึงหนึ่งแสนโหวต!